พ่อพรายนะ ไม่ใช่พ่อพระ

2614 คำ
ในความเงียบที่หนักอึ้งนั้น พ่อพรายรพีขยับร่างที่เต็มไปด้วยอำนาจ เขาใช้มือหนาใหญ่คว้าข้อมือของมีนา ร่างบางระหงของเธอเหมือนจะปลิวไปตามแรงกระชากอันน้อยนิดของเขา ข้อมือของเธอถูกบีบแน่น แต่เขากลับทำราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่มีนาต้องถูลู่ถูกังไปตามแรงลาก ใบหน้าของพ่อพรายรพียังคงนิ่งเฉย ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเงียบงัน เส้นกรามของเขาแน่นตึง สายตาที่มองตรงไปข้างหน้าเหมือนกับพายุที่คุกรุ่นอยู่ภายใน แม้จะไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆ แต่การกระทำของเขาก็ชัดเจนในความดุดัน หน้าตาถมึงทึง บ่งบอกถึงความไม่พอใจและความเดือดดาลที่ปะทุอยู่ลึกๆ เขาลากมีนากลับไปยังที่ที่พวกเขาจากมา กระท่อมที่ซ่อนอยู่ในป่าเขา ทุกก้าวเดินของเขานั้นหนักแน่นและแน่วแน่ มีนาที่ถูกกระชากไปไม่กล้าขัดขืน สัมผัสได้ถึงความเถื่อนและอำนาจที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ร่างกายของเธอสั่นไหวไปกับความกลัวและความรู้สึกที่แปลกประหลาดที่คละคลุ้งอยู่ในใจ มีนา: (เสียงสั่นเครือ ขณะพยายามบิดข้อมือ) "ฉะ... ฉันเจ็บค่ะ... ปล่อยฉันเถอะ" พรายรพี: (ลดแรงลงเล็กน้อย แต่ยังคงเสียงแข็ง) "ขอโทษ... แต่บางทีเธอควรรู้ไว้ว่า ฉันไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องของของฉัน" มีนา: (บ่นอุบเสียงแผ่ว) "ฉันไม่ใช่ของของใครนะ..." พรายรพี: (พูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงและแฝงนัยยะ) "ได้เป็นแน่ๆ ไม่ต้องห่วง... เธอจะรู้เองว่าไม่มีใครหนีพ้นฉันได้" เสียงหนักเข้ม เมื่อมาถึงกระท่อม บรรยากาศก็กลับเข้าสู่ความเงียบงันที่อึดอัด ทั้งสองต่างไม่พูดจากันอีก ราวกับว่าคำพูดใดๆ จะเป็นการจุดไฟที่ยังไม่มอดดับ มีนาก้มหน้าอย่างเงียบๆ ไม่กล้ามองสบตา เธอเริ่มจัดแจงทำอาหารอย่างเชื่องช้า ราวกับว่าทุกการกระทำของเธอกำลังถูกจับจ้อง พ่อพรายรพีทิ้งตัวลงนั่งอย่างเงียบเชียบ เสียงลมหายใจของเขาดังเบาๆ แต่กลับให้ความรู้สึกหนักอึ้ง มีนารู้สึกถึงสายตาของเขาที่จับจ้องอยู่ แม้จะไม่ได้มองตรงๆ แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากเขา เมื่ออาหารเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองนั่งกินกันอย่างเงียบเชียบ ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของทั้งคู่ เสียงช้อนที่กระทบกับจานเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำลายความเงียบ แต่กลับทำให้บรรยากาศดูอึดอัดยิ่งขึ้น ในใจของมีนาสับสนและเต็มไปด้วยความกลัว แต่เธอก็ยังคงทำหน้าที่ของตนต่อไป ขณะที่พ่อพรายรพีนั่งกินอย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เหมือนกับว่าความเงียบนี้เป็นเพียงอีกวันหนึ่งในชีวิตของเขา แต่ในความเงียบนี้เองที่ทำให้มีนารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดและความไม่แน่นอนที่แผ่ซ่านอยู่ในอากาศ มีนากลับเข้ามาในกระท่อมหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของพ่อพรายรพีที่กำลังนอนหลับตาอยู่บนที่นอนที่ปูเรียบร้อย มีนายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้ หัวใจเธอสั่นไหวแต่ก็พยายามควบคุมตัวเอง เธอปิดตะเกียงเจ้าพายุอย่างเงียบๆ ให้แสงไฟอ่อนๆ ดับลง ทำให้ภายในกระท่อมเหลือเพียงความมืดและเสียงลมหายใจของทั้งสอง เธอค่อยๆ ล้มตัวลงนอนข้างๆ ร่างสูงใหญ่ของพ่อพรายรพี ในเสี้ยววินาทีนั้น มีนารู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนเมื่อพรายรพีที่เธอคิดว่าหลับอยู่ กลับตวัดร่างของเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ร่างงามของเธอแทบปลิวเข้าไปแนบชิดกับอกกำยำของเขา ลมหายใจของเธอสะดุดเมื่อเขากระหน่ำจูบลงมาอย่างรุนแรง ริมฝีปากของเขาเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความเรียกร้องที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน จูบของพรายรพีเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเอาแต่ใจ ราวกับว่าเขาต้องการครอบครองทุกอย่างที่เป็นเธอ มีนารู้สึกถึงแรงปรารถนาที่พุ่งพล่านในทุกสัมผัส ริมฝีปากของเขาบดเบียดลงมาอย่างหนักหน่วงจนเธอแทบไม่สามารถต่อต้านได้ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ร่างกายของเธอสั่นสะท้านในอ้อมกอดของเขา ความร้อนแรงและความดุดันที่เขาปลดปล่อยออกมาทำให้เธอแทบละลายไปกับจูบนั้น รู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนเข้าไปในกระแสความรู้สึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด พรายรพีถอนริมฝีปากออกด้วยความเร่าร้อนที่ยังคงเหลือไว้ในอากาศ เขาสบตากับมีนา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและโกรธเคือง พรายรพี: (เงยหน้าเล็กน้อยจากจูบแล้วกระซิบข้างหูมีนา เสียงดุดันและเอาแต่ใจ) "ทั้งตัวของเธอ... เป็นของฉันทั้งหมด จำไว้ให้ดี" เขารู้สึกว่าความปรารถนาที่พุ่งพล่านในใจนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น แต่กลับหยุดไม่ได้ มือหนาและร่างใหญ่ของเขากอดรัดเธอแน่นขึ้น ราวกับอยากจะกลืนเธอเข้าไปให้หมด เขาโมโหทั้งเธอและตัวเองที่ต้องการครอบครองเธอมากขึ้นทุกที ความเถื่อนในใจของเขาถูกปลดปล่อยออกมาในความต้องการที่รุนแรง เขาต้องการจะครอบครองเธอทุกอย่าง ทั้งกายและใจจนไม่เหลืออะไรให้ใครอื่นได้สัมผัส. มีนาดิ้นรนพยายามหลุดออกจากอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของพรายรพี แต่ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น ความพยายามของเธอกลับยิ่งทำให้เขาเพิ่มแรงกดดันลงบนร่างบาง เธอหอบหายใจอย่างแรง พยายามฝืนต่อสู้กับความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถต่อกรได้ เขาจับเธอไว้แน่น พรายรพี: (ขู่เสียงเข้ม ขณะจ้องมองมีนา) "ถ้าไม่นอนนิ่งๆ ฉันจะทำมากกว่าจูบ... มีนา: (จำยอมหยุดดิ้น ร่างกายเกร็งเล็กน้อย ขณะสบตาพรายรพีอย่างหวาดหวั่น) พรายรพี: (ขณะที่กอดร่างบางของมีนาแนบแน่น ส่งความอบอุ่นให้กันในคืนหนาว) คิดในใจ "จะตบะแตกวันไหนกันนะ... ยิ่งใกล้เธอมากเท่าไหร่ ยิ่งยากที่จะห้ามใจ" หลายวันต่อมาในตลาด จ้อยมองตามเจ้านายของตน พ่อพรายรพี เสือใหญ่แห่งขุนเขาแถบนี้ ผู้ที่ใครๆ ต่างยำเกรงและขนานนามว่าเป็นนักรบผู้ดุดัน วันนี้กลับถือตระกร้าในมือข้างหนึ่งและถือดาบในมืออีกข้าง เดินตามสาวน้อยอย่างมีนาต้อยๆ คอยถือของให้เธอ จ้อยอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าระอาใจ ท่าทางที่แสดงออกนั้นช่างขัดกับภาพลักษณ์อันน่าเกรงขามของเจ้านายยิ่งนัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชายที่แข็งแกร่งและน่าเกรงขามถึงได้ยอมลดตัวลงมาเดินตามและช่วยถือของให้สาวน้อยเช่นนี้ จ้อย: (ส่ายหน้าอย่างระอาใจ ขณะมองภาพที่เห็น) "หมดกัน หมดกัน... พ่อเสือใหญ่นายกู" ขณะนั้นพรายรพีหันมาเจอจ้อยที่มุมหนึ่งที่กำลังทำท่าทางส่ายหน้า พรายรพี: (ส่งสายตาที่มองไปหาจ้อย หน้านิ่งเย็นชาและดุดัน) จ้อย: (รู้สึกเสียวสันหลัง ขณะสบตาพรายรพี รีบกระโดดหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว) อื๋ยยย ทีกับลูกน้องล่ะน่ากลัวยิ่งกว่าอะไร จ้อยนึกในใจ บริเวณกระท่อมของพรายรพีนั้นเงียบสงบและห่างไกลจากผู้คน ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าใกล้ เพราะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและความลึกลับของเสือใหญ่แห่งขุนเขา เมื่ออยู่ด้วยกันสองคนที่กระท่อม พรายรพีมักจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาชอบที่จะวนเวียนอยู่ใกล้ๆ และบางครั้งก็ดึงมีนาเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแอบกอดแอบหอมแก้มอย่างหน้าตาเฉยแล้วเดินหนีไป "อ๊ะ!" มีนาร้องเสียงหลงเมื่อร่างหนาใหญ่ของพรายรพีกระชากเธอเข้ามากอดจากด้านหลัง ร่างบางของเธอสั่นสะท้านขณะที่เขาก้มลงจูบที่ต้นคออย่างแรง สัมผัสของริมฝีปากที่ร้อนผ่าวกับผิวเนียนนุ่มทำให้มีนาตัวเกร็ง และหัวใจเต้นแรง เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและน้ำหนักของร่างกายเขาที่ชิดแนบไปกับเธอ ความรู้สึกระคนระหว่างความตกใจและความปรารถนาที่ถูกกระตุ้นขึ้นทำให้เธอแทบหายใจไม่ออก แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงที่ดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาได้ การดึงอีกฝ่ายมาจูบตามอำเภอใจ นั่นช่างเอาแต่ใจอย่างเห็นได้ชัด เขาชอบดึงมีนาเข้าสู่อ้อมแขนของเขา และมักจะจูบเธออย่างอุกอาจและเต็มไปด้วยความร้อนแรง และบางครั้งพรายรพีจะยั่วยวนมีนาอย่างนุ่มนวลด้วยจูบที่อ่อนหวานเรียกร้อง มีนา: (ตวาดลั่น หลังโดนขโมยจูบดูดดื่ม) "คุณทำไมชอบทำแบบนี้นะ!" พรายรพี: (ตอบกลับเสียงดุดัน ขณะสบตาเธอ) "เธอเป็นของของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ" (ก้มลงกระซิบข้างใบหูของมีนา เสียงต่ำและดุดัน) "แต่ถ้าเธอยอมเป็นของฉันแต่โดยดี... ฉันอาจจะพิจารณาส่งเธอกลับบ้าน...ดีไหม?" มีนา: (เงยหน้าขึ้นมองพรายรพี สายตาไหวระริก รู้สึกสับสนและหวั่นไหวกับคำพูดที่ได้ยิน) (และละล่ำละลักถามด้วยเสียงสั่น) "คะ...คะ คุณจะไม่ทำอะไรฉันถ้าฉันไม่ยอมใช่ไหม?" พรายรพี: (ตอบเสียงตึงและดุ) "ฉันไม่เคยฝืนใจผู้หญิงคนไหน" หึ “ไม่ฝืนใจใครหรอก” มีนาคิดในใจ หน้าตาเง้างอด ปากบอกไม่ แต่การกระทำของเขาน่ะสิกลับตรงกันข้าม เมื่อเขาชอบเข้ามาใกล้มากอดจูบลูบคลำเธอตามอำเภอใจเสมอ มีนาพยายามเก็บอาการและกอดอกข่มความรู้สึกขุ่นมัวในใจ เธอรู้สึกเง้างอด แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความอบอุ่นและความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ เธอจึงได้แต่ปล่อยให้ความคิดนั้นวนเวียนในหัว ขณะที่ร่างกายถูกเขาโอบกอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ดึกคืนนั้น เมื่อมีนาอาบน้ำเสร็จและกลับเข้ามาในกระท่อมที่เงียบสงบ เธอพบว่าที่นอนปูไว้อย่างเรียบร้อย ร่างบางล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็วเพราะอากาศคืนนี้หนาวผิดปกติกว่าทุกคืนที่ผ่านมา ความเย็นแผ่ซ่านทำให้เธอรีบห่มผ้าหนาแน่นขึ้น หวังให้ความอบอุ่นช่วยขับไล่ความหนาวเย็นที่แทรกเข้ามาในกระท่อมแต่ในที่สุด ความเหนื่อยล้าจากวันที่ยาวนานก็เข้ามาครอบงำ มีนาเผลอหลับไปท่ามกลางความหนาวเย็นที่โอบกอดร่างบางของเธอไว้ เสียงลมพัดผ่านหน้าต่างที่ปิดไม่สนิทกลายเป็นดั่งเสียงขับกล่อม และก่อนที่เธอจะรู้ตัว ความอุ่นจากผ้าห่มก็พาเธอเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างลึกซึ้งนห้วงความคิดแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นของมีนา กลิ่นหอมจากสบู่ที่มีความกลมกล่อมของเปลือกสนผสมกับกลิ่นของส้มเริ่มลอยเข้ามาในโสตประสาท กลิ่นที่เย้ายวนและน่าสนใจนี้ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่น คล้ายกับการถูกปกคลุมด้วยผ้าห่มอันนุ่มนวลที่มีกลิ่นหอมละมุน เสียงหวานของลมพัดผ่านหน้าต่างและกลิ่นหอมที่แทรกซึมเข้ามาช่วยให้เธอหลับสนิทยิ่งขึ้น ในห้วงความฝันนั้น เธอรู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบด้วยความอบอุ่นและความรู้สึกของการถูกดูแลอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและลึกลับ. มีนาค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เมื่อความฝันของเธอถูกปลุกเร้าด้วยความร้อนและรัญจวนที่แปลกประหลาด ความรู้สึกนั้นเข้ามาคลุมเธอเหมือนกับลมหายใจร้อนที่คอยกระทบผิวกาย กลิ่นหอมจากสบู่ที่เธอเคยรับรู้ก่อนหน้านี้เริ่มเจือจางลง และแทนที่ด้วยความรู้สึกที่ร้อนแรงและคุ้นเคยมากขึ้น เมื่อเธอลืมตาขึ้น มีนาเห็นเงามืดที่ล้อมรอบเธอ ในการพร่ามัวของความมืดที่เย็นและยามค่ำคืน ความร้อนที่เธอรู้สึกนั้นทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวาย ร่างหนาที่ทาบทับอยู่ใกล้ชิดทำให้เธอรู้สึกถึงความร้อนและการสัมผัสที่หนักหน่วง ความรู้สึกนี้เปลี่ยนจากความนุ่มนวลเป็นความร้อนแรงที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง เมื่อมีนามองไปยังต้นตอของความร้อน เธอพบว่าพรายรพีกำลังนอนข้างๆ เธอ ร่างสูงใหญ่ที่กดทับอยู่ใกล้ๆ กับเธอ กลิ่นสบู่และความรู้สึกของความร้อนที่เขาแผ่ซ่านออกมา ทำให้เธอรู้สึกทั้งตกใจและหวั่นไหว ความรู้สึกนี้มีทั้งความดุเดือดและความอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน. พรายรพีเห็นสาวน้อยในอ้อมกอดลืมตาตื่น อารมณ์ที่ค้างคากลับกระตุ้นให้เขาโน้มหน้าเข้าใกล้ ร่างสูงใหญ่ของเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความร้อนแรง มือของเขายังไม่ห่างจากตัวมีนา เขาดึงเธอเข้ามาใกล้แล้วจูบเธอด้วยความร้อนแรงและอารมณ์ที่ยังค้างอยู่ จูบของพรายรพีเต็มไปด้วยความดุดันและดูดดื่ม เขาใช้ริมฝีปากและลิ้นของเขาในการสำรวจและสอนสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ที่สูงสุด ขณะที่เขาโอบกอดและเคลื่อนย้ายตัวมีนาอย่างเต็มที่ ความรู้สึกของความร้อนและความเร่าร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ มีนาไม่สามารถต้านทานได้ถูกทำให้ตกอยู่ในโลกของความรู้สึกที่คุกรุ่นและแสนจะดื่มด่ำ เธอรู้สึกถึงความรุนแรงของจูบแต่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักที่มาพร้อมกับมัน จนกระทั่งความรู้สึกทั้งหมดกลายเป็นการหลอมรวมที่น่าสับสนแต่ก็เต็มไปด้วยความต้องการ มีนา: (กลั้นใจส่งเสียงออกมาละล่ำละลัก หอบ) "ยะ... อย่าค่ะ! ไหนว่าจะไม่ฝืนใจไงคะ?" พ่อพรายรพีที่เต็มไปด้วยอารมณ์และแรงดึงดูดชั่วขณะหนึ่งหยุดชะงัก ร่างสูงใหญ่ของเขาลดความรุนแรงลง และมองดูมีนาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน และหลังจากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ มีนา มือของเขายังคงกอดเธอไว้แน่น แต่ครั้งนี้ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปเป็นความอ่อนโยน ความเงียบเข้ามาครอบงำบรรยากาศ เขายังคงดึงสาวน้อยไว้ในอ้อมแขน มีนานอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ความรู้สึกของการถูกกอดแน่นทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกัน ความเงียบสงบที่เกิดขึ้นหลังจากความร้อนแรงยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ ความรู้สึกนี้ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสับสนและความอ่อนไหว ที่พ่อพรายรพีพยายามจะค่อยๆ เรียบเรียงในใจของเขา ทั้งคู่ยังคงนอนอยู่ในความเงียบสงบ ร่างใหญ่ของพรายรพีและร่างบางของมีนาเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น ในขณะที่พ่อพรายรพีพยายามหาคำตอบให้กับสิ่งที่เขารู้สึกและสื่อสารกับตัวเองถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเขา พรายรพีที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกอันรุนแรงในช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ พยายามข่มใจตัวเองให้หลับ เขาคิดในใจด้วยความอึดอัดและสับสน: “นี่กูจะทนได้สักกี่วันวะ? นี่กูไม่ใช่พระนะเว้ย... กูก็ไม่เคยต้องโดนยั่วขนาดนี้มาก่อน” คำพูดในใจของเขาแสดงถึงความรู้สึกของการต่อสู้ภายในที่รุนแรง ระหว่างความต้องการที่ดุเดือดและความรู้สึกที่ท้าทายที่มีนาได้กระตุ้นขึ้น ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกถึงความขัดแย้งภายในตัวเอง ที่เต็มไปด้วยความอยากและความอึดอัดที่เขาต้องเผชิญในช่วงเวลานี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม