ความลับในเงามืด

แพะรับบาป

เช้าวันสดใสชาวบ้านร้านตลาด พนักงานราชการพนักงานออฟฟิช พนักงานเอกชน หรือแม้แต่คนมั่งมีเศรษฐี ผู้บริหาร ต่างพากันออกมาทำงานตั้งเช้า นั้นเป็นสาเหตุของรถติดในแต่ละวัน

วิทยุกระจายเสียงตามตลาด หรือวิทยุที่ติดตามรถ ต่างรายงายข่าวเด็นข่าวดังอยู่เป็นประจำ ให้ข้อมูลต่างๆ และฟังฆ่าเวลาในช่วงเช้าที่รถแสนจะติดขัดทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน ข่าวของชนิกานต์ที่ถูกรอบทำรายอย่างอุกอาจในช่วงโค้งรองสุดท้ายของการเลือก ถูกนำมาเสนออีกครั้ง เนื่องจากชาวเน็ตต่างสงสัย ว่าทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงเงียบหายไปทั้งที่จับตัวคนร้ายยังไม่ได้

จึงทำให้ชาวเน็ตมาร่วมกันวิเคราะห์และหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทางทวิตเตอร์จนตอนนี้ยอดแฮชแท็กพุ่งขึ้นเทรนทวิตเตอร์เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งในหลายๆความเห็นต่างโยงไปถึงทรงพลที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองกันอยู่ตอนนี้ ทำให้ข่าวนี้แพร่กระจายไปถึงทรงพลอย่างรวดเร็ว

"นี่มันอะไรกันวะ"ทรงพลที่เปิดดูทวิตเตอร์ก็ปาแท็บแล็ทลงบนพื้นด้วยความโมโห "มึงไปตามสืบมาว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ แล้วก็ให้คนของเราไปตามหาหลักฐานมาให้ได้ ถ้าไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนแน่นหนา คงไม่มีใครเขาเชื่อแน่ว่ากูไม่ได้ทำ"ทรงพลพูดด้วยท่าทีที่โมโหอย่างถึงที่สุด

ในขณะเดียวกันข่าวนี้ก็ไปถึงหูของคนที่อยู่เบื้องหลังการรอบทำร้ายอีกเช่นกัน "ปัดโธ่เว้ย!!! มันจะมาสงสัยเ-หี้ยอะไรกันตอนนี้วะ" กำปั้นหนาทุบลงบนโต๊ะอย่างแรง "ไปหามาว่าใครเป็นคนของไอ้ทรงพลบ้าง หาอะไรปิดปากคนของมันให้เป็นคนของเราซะ " คนบงการเร่งสั่งงานลูกน้องก่อนที่ทรงพลจะสืบมาถึงตัวเขา

"ถ้าจะให้ทำแบบนั้นทั้งหมดคงยากครับท่าน คงจะซื้อได้แค่พวกที่หิวเงิน ถ้าเราดันไปซื้อโดนไอ้พวกที่ซื้อสัตย์มันจะรู้ทันทีว่าเป็นเรา"ลูกน้องคนสนิทพูดความคิดในอีกแง่หนึ่ง "งั้นมึงก็ไปหาลูกแกะลูกแพะมาซักตัวให้ไปรับบาปแทนแล้วกัน บอกคนของเราสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาให้หมด ยังไงซะคนของเราก็มีอยู่ทุกหน่วยงาน ไปจับเอาไอ้พวกพรรคเล็กนั้นมาแล้วกัน จะได้เบี่ยงประเด็นไปทางการเมืองให้หมด" คนบงการเเมื่อสั่งงานลูกน้องเสร็จก็นั่งดูความเคลื่อนไหวในทสิตเตอร์ต่ออย่างไม่คลาดสายตา

ทางด้านทรงพลเองก็นั่งไล่ดูทวิตเตอร์อย่างไม่คลาดสายตาเช่นกันยิ่งนานขึ้น ยอดแฮชแท็กก็ยิ่งสูงจึ้น และคนที่สงสัยเขาก็สูงมากขึ้นเช่นกัน "คุณทรงพลครับ คนที่จ้างคนปั่นข่าวคือคนของคุณชนิกานต์ครับ"ทรงพลที่กุมดูแท็บแล็ตอยู่เงยหน้าขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม "พวกมันตะใข้วิธีเพื่อลดคะแนนเสียงลดความนิยมของฉันสินะ หึๆๆ นังนี่มันเจ้าเลห์ดีจริงๆ" ทรงพลยืนขึ้นอย่างเต็มความสูงแล้วเดินมายืนอิงกับโต๊ะทำงานอย่างเคร่งเครียด "ให้คนของเราเร่งหาหลักฐานมาให้ได้ ถ้าเราหาหลักฐานว่าใครเป็นคนทำได้ วิกฤตครั้งนี้มันจะเป็นโอกาสครั้งใหญ่ของเรา"

ด้านชนิกานต์เองก็ให้ความสนใจกับทวิตเตอร์อยู่ไม่น้อย หลายๆความเห็นที่แตกต่างทำให้ชนิกานต์ได้มองในอีกหลายๆด้าน ก๊อก ก๊อก ก๊อก ประตูเปิดออกพร้อมกลับเลขาของเธอที่เข้ามา "สายของเราที่แฝงตัวอยู่ในนั้นส่งข่าวมาบอกว่า มีการจับกุมคนร้ายที่ทำร้ายคุณได้แล้วค่ะ เป็นนักการเมืองพรรคเล็กพรรคหนึ่ง" ชนิกานต์ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมานอกโต๊ะทำงาน

"เฮ้อออ แพะสินะ ในที่สุดฉันก็ทำพลาดจนได้ ฉันลืมคิดไปเลยว่าทำแบบนี้คนที่บงการจะต้องไหวตัวทันแน่ ฉันนี่สับเพร่าจริงๆเลย สิ่งที่ฉันทำมันเปล่าประโยชน์ทั้งหมด" ชนิกานต์เอามือค่ำยันไว้กับโต๊ะทำงานเธอก้มหัวลงอย่างกลัดกลุ้ม "อย่าคิดมากสิคะ มันไม่ใช่ไม่ได้อะไรซะหน่อย เราก็ได้ลดคะแนนเสียงของคุณทรงพลลงไปไงคะ ที่จริงเราแทบไม่ต้องทำอะไรแล้วนะคะ รอแค่คนคนนั้น"ลัดดาเอื้อมมือไปตบไหล่ชนิกานต์ทั้งสองข้างเชิงปลอบและให้กำลังใจ

"เรารอเขาอย่างเดียวไม่ได้หรอก เขามีก็แค่คำพูด ไร้ซึ่งหลักฐานพูดไปใครเขาจะเชื่อ ถ้าหลักฐานไม่แน่นพอเดี๋ยวก็ได้แพะรับบาปมาแบบนี้อีก" ชนิกานต์เงยหน้าขึ้นมาอย่างกลัดกลุ้ม

เพียงไม่กี่วันต่อมา ข่าวการจับตัวคนร้ายในคดีรอบทำร้ายชนิกานต์ได้ ก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศแต่ด้วยทางการเป็นคนจับตัวได้ อีกทั้งยังเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กอีก ทำให้หลายคนยังคงคิดว่า ทรงพลคือคนที่อยู่เบื้องหลังแน่ๆ ทำให้คนส่วยใหญ่เริ่มจะไม่ไว้วางใจเขา

นักการเมืองพรรคเล็กที่ซื่อสัตย์มุ่งหวังเพื่อร่วมพัฒนาประเทศ ด้วยความมุ่งมั้น ตั้งใจ เพื่อประเทศชาติและชีวิตประชาชนที่ดีขึ้น เขาทุ่มเททุกสิ่งอย่างให้กับพรรคเล็กๆนี่จนหมดตัว เพื่อให้ได้ร่วมในฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลไม่ว่าฝ่าใดจะได้คะแนนเสียงที่เยอะกว่า ไม่ว่าจะเป็นทรงพล หรือศรุต เขาก็พร้อมที่จะเข้าร่วมด้วย เพียงเพราะหวังว่าเขาจะได้พัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนในเขตที่เขาได้ดูแลเพียงเท่านั้น

แต่ฝันของเขาก็ต้องมาดับสลายเพราะคนที่มีอำนาจมากกว่า เลือกให้เขาเข้าคุกในข้อหาที่เขาไม่ได้กระทำ โชคชะตาที่ใช้เงินลิขิต มันช่างน่ารังเกียจขยะแขยงซะไม่มี บ้านเมืองต้องสูญเสียคนดีๆไป เพราะโชคชะตาที่เงินเป็นตัวลิขิตเพียงตัวเดียว