ตรอกใจกลางที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินผ่านกันไปมาแทบทั้งวันและทุกวัน ยกเว้นวันนี้ที่ดูจะมีความึรึกครื้นมากกว่าปกติ เพราะผู้สมัครนายกรัฐมนตรี2พรรคการเมืองใหญ่ ดันลงพื้นที่ตรงนี้วันเดียวกันซะนี้
ศรุตและชนิกานต์คู่รักรักหวานชื่นควงคู่กันเดินหาเสียงอย่างขยันขันแข็งผู้คนมากมายให้การตอบรับกับการหาเสียงของเขาทั้งสองเป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับทางด้านของทรงพล
ทั้งสองพรรคลงพื้นที่หาเสียงกันคนละฝั่ง ต่างฝ่ายต่างเดินหน้ากันอย่างขันแข็งจนตะวันบ่ายคล้อย สองพรรคการเมืองใหญ่ก็ประจันหน้ากันที่จุดกึ่งกลางของตรอก สองฝ่ายยิ้มแย้มให้กันอย่างเป็นมิตร ภายใต้รอยยิ้มที่แสนดีการจับมือที่ดูทักทายกันอย่างคุ้นเคย กลับซ้อนความเคียดแค้นความเกลียดชัง การชิงดีชิงเด่นกัน หรือการแย่งชิงกัน ถูกรอยยิ้มปกปิกไว้จนหมด แต่กลับแสดงออกทางสายตาอย่างเต็มเปรี่ยม
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับคุณศรุต คุณชนิกานต์ " ทรงพลเป็นฝ่ายกล่าวคำทักทายขึ้นมาก่อน "นั้นน่ะสิครับ คุณทรงพลนี่คงจะลงพื้นเยอะเกินไปน่ะสิครับเลยได้เจอกันเลย"ศรุตกล่าวตอบกลับด้วยการแฝงคำเหน็บแนมพ้วงไปด้วย "เห็นทีคงจะจริงอย่างที่คุณศรุตว่าแหละครับ ไอ้ผมมันตัวคนเดียว ไม่ได้มีภรรยาทั้งสวยและเก่งแบบคุณชนิกานต์คอยหนุนหลังเหมือนคุณหนิครับ" ทรงพลเองก็เหน็บแนมกลับมาเช่นกัน
"เอ่อคุณชนิกานต์ครับ" ทรงพลเบนความสนใจไปทางภรรยายสาวของศรุต "เรียกกานต์เฉยๆก็ได้ค่ะ เราคนกันเองเรียกชนิกานต์มันทางการไป " ชนิกานต์ยิ้มหวานให้กับทรงพลด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง "เด็กๆไปเอาของที่เตรียมไว้มาหน่อยไป"ทรงพลให้ไปสั่งงานลูกน้องก่อนจะหันมาหาชนิกานต์อีกครั้ง
"เห็นในข่าวคุณกานต์โดนรอบทำร้าย ต้องรักษาตัวอยู่เป็นเดือนเลย ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้แวะเข้าไปเยี่ยมคุณกานต์เลย วันนี้พอรู้ว่าคุณกานต์กับคุณศรุตจะมาแทบนี้เหมือนกัน ผมเลยเตรียมของมาฝากด้วยครับ" ทรงผลยื่นกระเช้ารังนกยี่ห้อดังให้กับชนิกานต์
"ขอบคุณมากๆนะคะ ที่จริงไม่เห็นต้องลำบากเลยค่ะ" ชนิกานต์รับกระเช้าจากมือทรงพลยื่นให้กับเลขาของเธอนำไปเก็บ "แล้วก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่เป็นห่วงกานต์ คุณทรงพลเองก็ดูท่าจะงานรัดตัวเอามากๆ จะให้มาเยี่ยมกานต์ได้ไงล่ะคะ ถ้าคุณทรงพลทิ้งงานมานี่กานต์รู้สึกผิดแย่เลยค่ะ" รอยยิ้มหวานถูกส่งออกไปยังคนตรงหน้า
"คุณทรงพลนี้เป็นคนดีจังเลยนะคะ มีน้ำใจเป็นห่วงคู่แข่งด้วย , ใช่คุณทรงพลนี่น่ารักมากๆเลยนะคะ" ผู้คนบริเวณนั้นต่างเอ่ยชมทรงพลกันอย่างมาก หมากวันนี้ดูดท่าทรงพลเองทำการบ้านและเตรียมการมาอย่างดี นอกจากวันนี้แล้ว วันก่อนๆเองทรงพลก็เร่งลงพื้นที่อย่างมากเช่นกัน จึงได้กลับมานำหน้าศรุตอีกครั้งในวันนี้ที่เค้าเป็นห่วงเป็นใยอีกฝ่าย
"ผมไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกครับ ถึงจะเป็นคู่แข่งกันในสนามเลือกตั้ง แต่นอกสนามเราสองคนก็สนิทกันมากๆเลยนะครับ สนิทจนเรียกว่าพี่น้องกันได้เลยล่ะครับ" ทรงพลตรงเข้าไปกอดศรุตอย่างแนบแน่น "จริงครับ เดี๋ยวลงพื้นที่เสร็จนี่ก็ว่าจะไปทานข้าวด้วยกันอยู่เลยครับ" ศรุตเองก็โอบไหล่ทรงพลและตบเบาๆ
"ได้ซะที่ไหนล่ะคะคุณ"ชนิกานต์พูดปนขำเล็กน้อยมือบางตบแขนอีกข้างของสามีเบาๆ "แหมๆน้องชายคุณภรรยาไม่อนุมัตินะนั้น" ทรงพลเอ่ยแซวศรุตกับชนิกานต์ สร้างเสียงหัวเราะขบขันกันทั้งว่าที่ส.ส.และชาวบ้านที่ยืนดูทั้งสองพรรคคุยกันอย่างสนิทสนม
"ไม่ใช่หรอกครับ กานต์เค้าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยน่ะครับ "ศรุตเอ่ยขึ้นแบบเขิลอาย "ก็ห่วงความปลอดภัยของเขาแหละค่ะ กานต์เองก็โดนรอบทำร้ายช่วงจะเลือกตั้งพอดี ก็เลยห่วงน่ะค่ะกลัวครั้งต่อไปอาจเป็นเขาก็ได้ เพราะยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ "ชนิกานต์พูดด้วยโทนเสียงที่ดังขึ้นจากเดิมเล็กน้อย โดยเน้นหนักที่คำว่าโดนทำร้ายช่วงเลิกตั้ง เพื่อทำให้ผู้คนได้ฉุกคิดว่าคงเป็นทรงพลเพราะศรุตดูเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับเขามากที่
ทรงพลเมื่อได้ยินชนิกานต์พูดแบบนั้นก็เกิดอาการหน้าเสียเล็กน้อยเพราะเขารู้ดีว่าคนส่วนใหญ่คงตกหลุมพรางของชนิกานต์แน่ๆ "แหมอันตรายน้าดูเลยนะครับเนี้ย ผมขักกลัวจะโดนกับตัวเองบ้างซะแล้ว" ทรงพลเอ่ยขึ้นเพื่อเป็นการแก้ขัด
"ถ้าคนระดับคุณทรงพลโดนนี่ผมคงได้ขึ้นเตาก่อนแน่เลยครับ555"ศรุตพูดไปขำไปเชิงหยอกล้อ ทรงพลเองได้แต่หัวเราะแห้งตามน้ำไป "งั้นเดี๋ยวพวกผมขอตัวไปต่อก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมืดค่ำซะก่อน ไว้วันไหนว่างๆเรานัดทานข้าวกันนะครับ "ศรุตตัดบทก่อนที่ทรงพลจะคิดอุบายดึงความคิดของทุกคนขึ้นจากหลุมพรางของชนิกานต์ได้ แต่คงจะยากหน่อยเพราะหลุมของชนิกานต์ช่างเป็นหัวข้อสนทนาชั้นดีของขาเมาท์ซะนี่