สองเดือนผ่านมา...
เจ้าชายคามิลยังคงตามหาการะเกดไปทุกๆ แห่งที่พระองค์คิดว่าสาวคนรักไป แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว จนสุดท้ายพระองค์ก็ต้องหยุดการตามหา เพราะต้องรีบกลับซาร์มาเนียด่วน เนื่องจากชีคชายาซาร์เนียผู้เป็นพระมารดาทรงพระประชวร
ชีคจามิลสังเกตอาการของพระอนุชาอย่างเป็นกังวล ใช่ว่าจะไม่ทรงรู้ว่าตอนนี้เจ้าชายคามิลทรงมีปัญหาอะไรที่เมืองไทย หากแต่พระองค์ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ เท่านั้น
“ไม่สบายหรือเปล่าคามิล พี่เห็นเจ้าถอนหายใจหลายครั้งแล้วตั้งแต่ออกมาจากห้องของเสด็จแม่”
“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าพี่ น้องก็แค่เหนื่อยใจแล้วก็ท้อเท่านั้นเอง”
“พี่ให้เจ้าไปดูแลซาร์เนียริ่ง จิวเวลลี่สาขาที่ประเทศไทยแค่นี้ เจ้าถึงกับเหนื่อยใจแล้วก็ท้อเชียวหรือ”
ชีคจามิลทอดพระเนตรมองพระอนุชาด้วยท่าทางครุ่นคิด ดูท่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองไทยคงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ชีคหนุ่มหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาตรวจ หากแต่สายพระเนตรยังคงเหลือบมองสังเกตพระพักตร์คมเข้มอย่างหนักพระทัยไม่น้อย
“มีปัญหาอะไรอยากระบายก็ระบายมาเถอะคามิล อย่าลืมสิว่าเราเป็นพี่ชายของเจ้า”
“เจ้าพี่ คือว่า...”
แล้วจะให้พระองค์กล่าวไปว่าอย่างไรดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในเมื่อตั้งแต่ต้นจนจบเป็นพระองค์คนเดียวที่ผิด ตอนนี้มาตาวีก็ท้องได้เกือบสี่เดือนแล้ว ส่วนการะเกดผู้หญิงที่พระองค์รักมากที่สุดก็หนีหายจากไป ตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอ ไม่รู้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน หญิงสาวจะรู้บ้างไหมว่าพระองค์คิดถึงและทรมานเพียงใดกับการหายตัวไปของเธอในครั้งนี้
เจ้าชายคามิลรู้สึกเหมือนดวงพระทัยกำลังจะขาดรอนๆ เมื่อนึกถึงหญิงผู้เป็นที่รัก
“พี่ว่าเจ้าอาการหนักแล้วคามิล”
“หากเจ้าพี่เผลอทำร้ายผู้หญิงที่เจ้าพี่รักมากที่สุด เจ้าพี่จะทำอย่างไร แล้วจะมีวิธีไหนที่จะสามารถเรียกความรักและความเชื่อใจจากเธอกลับมาได้”
“เรื่องนี้พี่คงตอบเจ้าไม่ได้หรอกคามิล เพราะพี่ยังไม่เคยทำร้ายผู้หญิงคนไหนเลย”
“เห็นทีน้องคงต้องเสียเธอไปแล้วแน่นอนเจ้าพี่”
พระองค์เจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึง อยากจะอ้อนวอนขอโทษกับสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดไป อยากจะขอโอกาสจากหญิงผู้เป็นที่รักอีกสักครั้ง แต่จะมีโอกาสนั่นไหม โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่กับความรักครั้งเก่าและหัวใจดวงเก่า ที่พระองค์เฝ้ารัก เฝ้าถนอมมาตลอดสามปี
ชีคจามิลถอนพระอัสสาสะ สายพระเนตรจับจ้องพระพักตร์คมเข้มอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าพระอนุชาจะรักสตรีชาวไทยได้มากเพียงนี้ อยากเห็นเหลือเกินว่าเธอจะงดงาม สวยหยาดฟ้า สมกับที่เจ้าชายคามิลแห่งซาร์มาเนียหลงรักหรือไม่
“แล้วความผิดที่เจ้าก่อมันร้ายแรงแค่ไหน หากไม่รุนแรงจนเกินไป พี่คิดว่าเธอจะรักจนยอมให้อภัยและกลับมาคืนดีกับเจ้าอย่างแน่นอน หรือว่ามันรุนแรงจนอภัยให้ไม่ได้”
พระองค์รับสั่งออกไปก็สังเกตพฤติกรรมของผู้เป็นพระอนุชาเช่นกัน ดูท่าเรื่องที่เกิดขึ้นคงจะร้ายแรงมิใช่น้อย ว่าแต่พระอนุชาของพระองค์ไปก่อเรื่องร้ายแรงอะไรกับหญิงสาวชาวไทยผู้นั้น
“มันรุนแรงเหลือเกินเจ้าพี่กับสิ่งที่น้องทำกับเธอ”
แอบมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทของหญิงที่รัก จะไม่รุนแรงได้อย่างไร เจ้าชายคามิลท้อเหลือเกิน เมื่อนึกถึงความผิดที่พระองค์ทรงกระทำผิดต่อหญิงผู้เป็นที่รัก
“แล้วตอนนี้เจ้าหาเธอเจอหรือยัง”
“ยังเลยเจ้าพี่ เธอหนีจากน้องไปเกือบสามเดือนแล้ว ให้นักสืบตามสืบหาร่องรอยของเธอทุกจังหวัดที่คิดว่าเธอจะไป แต่ก็ไร้วี่แวว”
“พี่ว่าเจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ เห็นอาการของเจ้าแล้วพี่เป็นห่วง”
“ขอบพระทัยเจ้าพี่ที่ทรงเป็นห่วงน้อง เจ้าพี่ก็ทรงพักผ่อนบ้างนะพ่ะย่ะค่ะ ถ้าจะให้ดีทรงแต่งตั้งชายาได้แล้ว”
“พี่ยังไม่เห็นใครเหมาะที่จะเป็นพระชายาเลยสักคน”
“อ้าว!”
เจ้าชายคามิลถึงกับร้องเสียงหลง หันพระพักตร์มาจ้องมองพระเชษฐาอย่างประหลาดพระทัยเล็กน้อย นี่ถ้าเจ้าหญิงฮาฟีเซาะร์ เจ้าหญิงซานียาห์และเจ้าหญิงอาร์เลียมาได้ยินประโยคนี้เข้าจะทรงรู้สึกเช่นไร
“ทำไมต้องตกใจด้วยคามิล พี่พูดอะไรผิดไปหรือ”
“เปล่าพ่ะย่ะค่ะ น้องก็แค่สงสัยว่าเหตุใดเจ้าพี่ถึงตรัสออกมาเช่นนั้น หากเจ้าหญิงทั้งสามมาได้ยินเข้าล่ะก็ เจ้าพี่ทรงลำบากแน่”
“พี่ไม่ใส่ใจหรอก ว่าพวกเธอจะคิดยังไง เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาพี่ก็ทำหน้าที่ของพี่เท่านั้น การแต่งตั้งชีคชายามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่คิดจะตั้งใครก็ตั้งได้”
ชีคหนุ่มตรัสเสียงนุ่ม ก่อนจะนึกไปถึงพระพักตร์ทั้งสามของพระชายาที่อยู่ข้างกายพระองค์ เจ้าหญิงทั้งสามพระองค์ต่างก็ชิงดีชิงเด่นกันตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ความทะเยอทะยานของทั้งสามทำให้พระองค์รู้สึกขยาด จนกระทั่งเดี๋ยวนี้พระองค์ก็ไม่เคยคิดที่จะแต่งตั้งพวกเธอขึ้นเป็นชีคชายา
“หรือพวกเธอไม่เหมาะกับตำแหน่งชีคชายา”
“ก็อย่างที่เจ้าเห็นคามิล พวกเธอทะเยอทะยาน แก่งแย่งชิงดีกันอยู่เสมอ จนเสด็จแม่ยังเป็นห่วงว่าถ้าพี่แต่งตั้งพวกเธอคนใดคนหนึ่งเป็นชีคชายา ภายในวังคงจะเกิดเรื่องวุ่นๆ เป็นแน่”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แย่สิเจ้าพี่”
“เฮ้อ...เจ้าอย่าสนใจเรื่องของพี่เลย ไปพักผ่อนเถอะ”
ชีคจามิลตัดบท เมื่อเห็นเจ้าหญิงซานียาห์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของพระองค์ สายพระเนตรจับจ้องร่างระหงอย่างเฉยชา ทำไมพระองค์จะไม่รู้ว่าการมาแต่ละครั้งของพวกเธอมักจะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งชีคชายา
แต่ไม่มีวันเสียล่ะที่พระองค์จะยอมแต่งตั้งพวกเธอขึ้นมาอยู่เคียงข้างพระวรกายของพระองค์ หญิงที่จะเป็นเจ้าของพระองค์จะต้องเป็นคนน่ารัก อ่อนหวาน โอบอ้อมอารี ใจกว้างและเป็นคนมีเหตุมีผล ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
เจ้าชายคามิลหันไปมองเจ้าหญิงซานียาห์ที่กำลังเดินเข้ามาภายในห้องทำงานด้วยท่าทางเย้ายวน ส่งสายพระเนตรหวานเยิ้มไปหากษัตริย์แห่งซาร์มาเนีย เพียงแค่เห็นท่าทางเหล่านั้น พระองค์ก็รู้สึกอึดอัดและเข้าพระทัยในความคิดของพระเชษฐาอย่างแจ่มแจ้ง
พระวรกายสูงสง่าตัดสินใจก้าวเดินออกมาจากห้องทรงงาน ในสมองก็กำลังทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นกับพระองค์ เห็นทีพระองค์จะต้องจัดการเรื่องวุ่นๆ ให้จบเสียที และสิ่งแรกที่จะทำก็คือจัดการกับมาตาวีและทายาทที่จะเกิดจากหญิงสาวผู้นี้
จากนั้นก็ออกตามหาหญิงผู้เป็นที่รักของพระองค์ ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร แผนการแบบไหน พระองค์ต้องทำให้การะเกดกลับมาให้ได้ พระองค์ขอสัญญา
//////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...