ลิขิตรัก พันธนาการชีค EP.09 ไร้ตัวตนในสายตา...เธอ (5)

1469 คำ
สองชั่วโมงต่อมา... รถสปอร์ตคันหรูของขัตติยะก็ขับเข้ามาจอดหน้าบ้านพักหลังเล็กของปานไพลิน ชายหนุ่มเปิดประตูรถลงมา บิดกายไปมาเพื่อคลายความเมื่อยล้า สายตามองเข้าไปในตัวบ้านก็เห็นสองสาวกำลังสนทนาอะไรกันสักอย่างที่หน้าประตู ชายหนุ่มรีบปิดประตูรถแล้วเดินตรงเข้าไปหาทั้งสองสาวด้วยรอยยิ้มอบอุ่น แม้จะไม่ชอบปานไพลิน แต่เขาก็ไม่ได้เกลียด ถึงตอนนี้หญิงสาวจะกลายมาเป็นหลานสาวของบิดาก็เถอะ ยังดีกว่าที่บิดาของเขารับหล่อนมาเป็นลูกบุญธรรม ปานไพลินเห็นขัตติยะเดินเข้ามาก็หันไปยิ้มให้กับการะเกดบางๆ ก่อนจะสนทนากันอีกไม่กี่คำ การะเกดก็ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ ส่วนเธอก็เดินมาเปิดประตูบ้านให้กับขัตติยะ “ขอโทษนะคะที่ฉันมาเปิดประตูช้า” “แล้วคุณเกดไปไหนเสียล่ะ” ขัตติยะถามทันทีที่ปานไพลินเปิดประตูให้เขา ชายหนุ่มเดินเข้ามายืนในบ้าน สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้องรับแขกมองหาหญิงสาวที่เขาหลงรักตั้งแต่แรกเห็น “เกดขึ้นไปอาบน้ำน่ะค่ะคุณยะ” ปานไพลินตอบเสียงราบเรียบ ดวงตาคู่งามก้มลงต่ำ เจ็บแปลบกับคำถามของขัตติยะ หากไม่เพราะต้องการเจอการะเกด เขาคงไม่มาเหยียบที่บ้านหลังนี้หรอก นับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อสามปีก่อน บิดาของเขาก็ซื้อบ้านหลังนี้ให้เธออยู่เพื่อตัดปัญหา คุณอมรเทพไม่อยากให้เธอกับขัตติยะต้องทะเลาะกัน แม้จะไม่ได้เป็นคนเริ่มต้น แต่สุดท้ายเธอก็ยอมรับผิดเสียเอง เพราะไม่อยากให้ขัตติยะเกลียดเธอไปมากกว่านี้ หลายปีที่อยู่บ้านวิโรจนวิศิษฐ์ ไม่มีสักวันที่มีความสุข ขัตติยะคอยหาเรื่องกระแหนะกระแหนตลอด ว่าเธอมาเกาะบิดาเขากิน บางทีก็ว่าเธออยากเป็นแม่เลี้ยงของเขาบ้าง จนสุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว เลยขอคุณอมรเทพออกมาอยู่ข้างนอก เพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง ที่สำคัญเธอไม่อยากให้คุณอมรเทพต้องเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง พอเรียนจบคุณอมรเทพก็รับเธอเข้ามาทำงานที่มหาวิทยาลัย แม้ตอนนี้จะเป็นแค่ผู้ช่วยอาจารย์ แต่อีกสองปีข้างหน้าเธอต้องเป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ให้ได้ ขัตติยะมองปานไพลินด้วยความงุนงงเล็กน้อย อาจเพราะรู้สึกว่าวันนี้ปานไพลินดูแปลกไป ไม่ดีใจเหมือนทุกครั้งที่เจอเขา อีกทั้งรอยยิ้มที่เขาเคยได้รับมันกลับหายไป แต่มาคิดอีกทีมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่ผู้หญิงคนนี้เลิกวุ่นวายกับเขา “แล้วคุณภัทรมาหรือยัง” “อีกเดี๋ยวก็คงจะมาค่ะ คุณยะนั่งก่อนสิคะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาน้ำกับขนมมาให้” “ขอบใจ” ปานไพลินปิดประตูกระจก จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมน้ำกับขนมให้ขัตติยะ สองมือสั่นน้อยๆ ยามเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำใบสวยออกมารินน้ำใส่แก้ว หัวใจเจ็บปวดเจียนขาดใจ เมื่อไรหนอที่เธอจะหยุดรักผู้ชายใจร้ายคนนี้ได้เสียที หญิงสาวเดินกลับออกมาจากห้องครัวพร้อมกับน้ำกับขนม สายตาคู่งามมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างเจ็บแปลบ แม้จะสัญญากับการะเกดเอาไว้ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะรักขัตติยะ แม้สมองจะบอกให้เลิกรัก แต่ทำไมหัวใจถึงหวั่นไหวทุกครั้งที่เจอ “นี่ค่ะน้ำกับขนม” “อืม...” ขัตติยะเอ่ยขอบคุณ มือหนารับแก้วน้ำจากมือบางขึ้นดื่มเล็กน้อย สายตาก็จับจ้องใบหน้าคมสวยอย่างชั่งใจ อยากถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่กล้า เดี๋ยวจะหาว่าเขาเข้าไปวุ่นวายอีก ทางที่ดีอยู่เฉยๆ ดีกว่า อย่างน้อยปานไพลินจะได้ตัดใจจากเขาเสียที ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าปานไพลินคิดยังไงกับเขา แต่จะให้รักผู้หญิงที่บิดารับอุปการะย่อมที่จะเป็นไปไม่ได้ ผู้หญิงที่เขารักต้องสวย ดูดีกว่าปานไพลิน ผู้หญิงอย่างปานไพลินไม่เหมาะกับเขา หากจะว่าไปภัทรน่าจะเหมาะกับผู้หญิงนิ่งๆ เชยๆ แบบปานไพลินมากกว่า ชายหนุ่มมองใบหน้าคมสวยที่ไร้ซึ่งเครื่องสำอางอย่างเบื่อหน่าย อีกทั้งเสื้อผ้าที่หล่อนสวมใส่ก็ยังดูเชยแสนเชย แว่นตาหนาเตอะที่อยู่บนใบหน้านั่นอีก ช่างไร้ซึ่งความงาม “ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณยะ ฉันจะไปเปิดประตูให้คุณภัทรก่อน” ปานไพลินพูดขึ้น แล้วก็ลุกออกมาจากห้องรับแขกโดยไม่สนใจอาการแปลกใจของขัตติยะแม้แต่น้อย ในเมื่อเธอคิดจะตัดใจก็คือตัดใจ จากนี้ในหัวใจของเธอต้องไม่มีผู้ชายที่ชื่อขัตติยะ วิโรจนวิศิษฐ์อีกต่อไป ขัตติยะมองร่างบอบบางจากไปด้วยความอึ้งเล็กน้อย วันนี้ปานไพลินดูแปลกไปจริงๆ ไม่เหมือนทุกครั้งที่เจอเขา ทั้งสีหน้าและแววตามันดูเยือกเย็น จนจับความรู้สึกที่แท้จริงของหญิงสาวไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้ ‘หรือว่าปานไพลินจะไม่สบาย’ คำถามหนึ่งผุดขึ้นในสมอง ชายหนุ่มก้มมองขนมปังสีสวยในจานก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองร่างบอบบางที่กำลังยืนสนทนากับภัทรอยู่นอกบ้านอย่างประหลาดใจ เสียงหวานใสหัวเราะออกมาจนดังเข้ามาถึงในบ้าน หัวใจก็พลันหงุดหงิดอย่างไม่รู้ตัว กับความสนิทสนมระหว่างภัทรกับปานไพลิน //////////// ภัทรเดินตามปานไพลินเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้มระบายเต็มใบหน้า กว่าจะหาโอกาสมาบ้านของสาวน้อยที่เขาหลงรักได้ก็แทบแย่ ชายหนุ่มมองร่างบอบบางอย่างแสนรัก แม้จะรู้ดีว่าในหัวใจของหญิงสาวไม่มีเขา แต่คนอย่างดอกเตอร์ภัทร จิตติพัฒน์ไม่มีวันถอดใจเด็ดขาด ในเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าสาวน้อยที่เขาหลงรักยังไม่มีชายใดได้ครอบครองหัวใจ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะรักและทำให้ปานไพลินหันมารับรักและยอมแต่งงานกับเขา “พรุ่งนี้คุณปานว่างหรือเปล่าครับ” “ยังไม่แน่ใจค่ะคุณภัทร” ปานไพลินตอบ สองเท้าก็ก้าวเข้ามาหยุดอยู่ในห้องรับแขก ดวงตาคู่งามที่บดบังด้วยแว่นอันโตหันมามองดอกเตอร์ภัทรด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ปานต้องถามลูกเกดก่อนว่าจะไปไหนหรือเปล่า” “ถ้าพรุ่งนี้คุณปานว่าง ผมมารับคุณปานไปดูหนังได้ไหมครับ” ภัทรรีบรุกทันที ชายหนุ่มมองใบหน้าคมสวยอย่างเอ็นดู ไม่รุกตอนนี้แล้วจะให้เขารุกตอนไหน โอกาสที่จะเข้าใกล้ปานไพลินมีน้อยเหลือเกิน “เอาไว้ปานจะโทร. ไปบอกคุณภัทรก็แล้วกันนะคะ” “ก็ได้ครับ” ขัตติยะนั่งฟังการสนทนาระหว่างภัทรกับปานไพลินด้วยท่าทางหงุดหงิด บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเขาหงุดหงิดทำไม จากคำพูดของภัทรทำให้เขาไม่พอใจ สายตาคู่คมมองหนุ่มสาวทั้งสองสลับกันไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ ยิ่งเห็นสายตาคู่นั้นที่แสดงความรักต่อปานไพลินอย่างเปิดเผย ก็ยิ่งหัวเสีย แต่เขาเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดความรู้สึกนี้ ภัทรเอียงหน้าไปมองขัตติยะเล็กน้อย ชายหนุ่มส่งยิ้มให้อีกหนึ่งหนุ่มที่นั่งหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่ด้านหลังของเจ้าของบ้านสาว ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าอาจารย์หนุ่มผู้นี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสาวน้อยที่เขาหลงรักแบบไหน แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือขัตติยะมาทำไมที่บ้านหลังนี้ “สวัสดีครับคุณยะ” “สวัสดีครับคุณภัทร” ขัตติยะเอ่ยทักทายอย่างไม่พอใจนัก ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แค่เห็นรอยยิ้มที่ภัทรส่งให้ปานไพลิน อารมณ์ที่เคยดีก็เปลี่ยนเป็นฉุนเฉียว สายตาคู่คมเหลือบมองร่างบอบบางตรงหน้าอย่างเย็นชาจนตัวเขาเองก็ยังแปลกใจกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนในหัวใจตัวเอง “คุณยะมานานแล้วหรือครับ” “ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกันครับคุณภัทร” “คุณภัทรกับคุณยะคุยกันไปก่อนนะคะ” ปานไพลินก็เดินกลับเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง เพื่อรินน้ำมาเสิร์ฟให้ภัทร จากนั้นก็เดินกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อไปดูว่าการะเกดอาบน้ำแต่งตัวเสร็จหรือยัง ให้เธอนั่งอยู่ในห้องรับแขกกับอีกสองหนุ่ม เธอคงทำไม่ได้ เพราะบรรยากาศมันชวนให้อึดอัดกับท่าทีของหนุ่มๆ ///////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม