ตอนที่ 8
“อื้อ...” ทำไมในท้องมันถึงปั่นป่วนแบบนี้
“ลองแบบนี้นะครับคุณหนู” ภีมะนำสองทรวงอกมาแนบชิด พลางส่งลิ้นสากร้อนตวัดไล้ปลายยอดถี่รัวเร็ว หากเพียงชั่วประเดี๋ยวเขาก็ขบกัดดึงจะงอยถัน พร้อมบดเบียดกายแกร่งให้แนบชิดกับความอ่อนนุ่ม
“อือ...ฉัน...” โรสรินทร์เริ่มพูดไม่ออก สองมือที่ไม่รู้ว่าถูกปล่อยตั้งแต่เมื่อไหร่ลากไปบนบ่ากว้าง พลางหยัดยกแผ่นหลังให้ภีมะได้สัมผัสกับเต้ากลมกลึงอย่างแนบชิดมากขึ้นไปอีก
นิ้วยาวซอกซอนเข้าไปในเส้นผมหนานุ่ม สองขาเรียวก็เริ่มแยกออกกว้างเพื่อให้มือร้อนๆ ได้สัมผัสกับร่างกายอันอ่อนนุ่มและอ่อนไหวอย่างเต็มที่
ภีมะฟอนเฟ้นกุหลาบนุ่มแผ่วเบา ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าไปหาความชุ่มฉ่ำและร้อนผ่าว แต่อบอุ่นที่รอคอยการเติมเต็มจากเขา
“นาย...ภีมะ...”
หญิงสาวร้องเรียก การอยรชรบิดส่ายไปมาเพราะความเสียวซ่านรัญจวนใจ ที่ทำให้อาการขัดขืนฝืนต้านเริ่มหดหายไป เมื่อชายหนุ่มเร่งเร้า เธอก็รู้สึกคอแห้ง หิวกระหายในบางสิ่งขึ้นมาในฉับพลัน
ยังหรอก...เขาต้องเติมสัมผัสเสน่หาลงไปอีก โรสรินทร์จะได้ยอมพ่ายแพ้ความต้องการของตัวเอง ยอมเป็นขนมหวานให้เขาได้ลิ้มลองจนถึงที่สุด
ชายหนุ่มเคลื่อนใบหน้าลงไปสมทบกับมือ แต่ก่อนที่จะถึงจุดหมายที่ต้องการ เขาแวะเม้มจุมพิตบนหน้าท้องแบนราบเรียบ จนผิวเนื้อขาวเนียนแดงระเรื่อเหมือนกับใครเอาสีมาป้ายไว้
เขาจับขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบนบ่ากว้าง เพียงเพื่อให้ตัวเองได้เห็นการบานเบ่งของบุหงาอ่อนเยาว์ นิ้วยาวกรีดไล้ร่องกุหลาบนุ่มจนหญิงสาวถึงกับสั่นสะท้านไหวโอนไปตามสัมผัสที่นุ่มนวลและอ่อนโยน
“คุณหนูทำให้ผมรู้สึกดีสุดๆ จนไม่รู้จะพูดยังไงดี”
รอยยิ้มเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจแต้มบนใบหน้าเข้ม เมื่อได้เห็นความงดงามประดุจประติมากรรมที่สวรรค์ปั้นแต่งมา โรสรินทร์สวยไปหมดทั้งรูปร่างอันกลมกลึงและเนียนนุ่ม ส่วนบอบบางของเธอชวนให้หลงใหล หวานหอมและยั่วยวนใจ ทำให้เขาลุ่มหลงจนยากที่จะถอนตัวถอนใจ
“ขอผมนะหนูโรส” ถึงจะต้องการหญิงสาวมาเพียงใด แต่ส่วนหนึ่งในใจเขากลับต้องการให้เธอยินยอมพร้อมใจ ไม่ใช่เพราะถูกบังคับด้วยชั้นเชิงและประสบการณ์ที่เหนือนกว่าล่อลวงไป
“แต่...มันไม่ดี”
“คุณหนูไม่สงสารผมสักนิดเลยหรือครับ ไม่อยากสัมผัสความรู้สึกเวลาที่เราสองคนแนบชิด มีผมเป็นส่วนหนึ่งของคุณหนูหรือครับ”
“แต่ว่า...”
จุมพิตร้อนแนบลงบนเนินบุหงาอ่อนเยาว์ ลิ้นสากร้อนตวัดเกสรนุ่มเข้าปาก พร้อมนิ้วมือที่เริ่มเดินทางเข้าหาความอบอุ่นจากโพรงเนื้ออุ่นนุ่ม สองแรงช่วยกันส่งความสุขให้หญิงสาวระลอกแล้วระลอกเล่า
“หยุด...เถอะนะ” คลื่นอารมณ์ที่ซาดซัดมา ทำเอาเธอหายใจไม่ทัน ไม่รู้จะรับมือยังไงด้วย “ฉันไม่ไหวแล้ว” ร่างกายมันพลิ้วไหวไปตามแรงขยับของภีมะ ไม่ว่าเขาขยับไปทางใด ก็จะมีเธอตามติดไปด้วยไม่ห่าง
ศีรษะทุยส่ายไปมาบนหมอนระบายความเสียวซ่านรัญจวนใจ จากที่เคยมองภีมะเหมือนต้องการจะแล่เนื้อเอาเกลือทา กลับเปล่งประกายอ่อนหวานระยิบระยับ ด้วยหลงไปในเพลิงพิศวาสอันแสนจะเร่าร้อนที่โหมเร้าลามเลียไปทั่วกาย
แสงสีทองที่อาบไล้อยู่เบื้องหน้าเรียกร้องให้โรสรินทร์เร่งเดินทางไปหา สะโพกกลมกลึงส่ายไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวของลิ้นและมือภีมะ ก่อนเธอกระตุกไหว
“ภี...มะ...”
สายธารปรารถนาปรี่ไหลถูกภีมะตวัดเข้าปากอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังส่งลิ้นสากร้อนร่วมผสมโรงกับมือยาวที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้หญิงสาววิ่งไปสู่หนทางแห่งความสุขอีกครั้ง
ชายหนุ่มเคลื่อนกายขึ้นมาแนบชิดร่างโปร่ง พร้อมกดจุมพิตแนบผิวเนื้อนวลเนียนนุ่มไม่ห่าง ในขณะที่มือก็ฟอนเฟ้นทรวงอกคู่งาม ส่วนด้านล่างก็ส่งเจ้าหนูน้อยมาทักทายกุหลาบดอกสวย
เพลิงสวาทเกือบถึงที่สุด โรสรินทร์แยกขาเรียวออกจนกว้าง เพื่อให้ภีมะได้สัมผัสเธออย่างแนบชิดกว่าที่เป็นอยู่ เธอลากไล้ไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งบ้าง พลางจิกลงไปบ่ากว้าง เพราะเสียวซ่านรัญจวนใจ
“หนูโรสครับ” ภีมะลากเสียงหวาน
“ขอผมนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยปากขอเมื่อทนกับความปวดร้าวที่กำเนิดขึ้นกึ่งกลางร่างกายเพราะความร่วมมือของสาวเจ้าไม่ไหว เธอทำให้เขาร้อนราวกับอยู่กลางกองไฟ มีเพียงแค่สาวน้อยแสนดื้อและปากร้ายในอ้อมแขนเท่านั้น ที่จะเป็นคนดับไฟพิศวาสครั้งนี้ได้
โรสรินทร์ไม่รู้ว่าถูกขอสิ่งใด รู้เพียงความต้องการของตัวเอง คือได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากความทรมานที่เป็นอยู่
“ภีมะ...ช่วยหนูโรสด้วย....”
หญิงสาวเว้าวอนเสียงหวาน โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เธอใช้สรรพนามแบบเก่าที่เคยใช้แทนตัวเองกับภีมะเมื่อตอนเป็นเด็ก กายนุ่มแอ่นขึ้นสูงเพื่อให้ทรวงสล้างได้สัมผัสกับมือที่ฟอนเฟ้นอย่างย่ามใจ
“ให้ผมช่วยอะไรครับคุณหนู”
ชายหนุ่มทอดเสียงอุ่นหวานออดอ้อน พร้อมปากหนาเคลื่อนลงไปทาบทับและกลืนกินเม็ดบัวราวกับเด็กทารกกำลังดื่มกินน้ำนมมารดา เขายิ่งสร้างความร้อนรุ่มให้กับโรสรินทร์ด้วยการเคลื่อนมือลงไปจัดขาเรียว เพื่อรองรับสัมผัสกับกายแกร่งอย่างแนบชิด มือก็ลูบไล้ฟอนเฟ้นเกสรกุหลาบนุ่ม
“ว่าไงครับหนูโรส ให้พี่ภีมช่วยอะไรครับ”
“ไม่รู้...หนูโรสไม่รู้...” หญิงสาวส่ายศีรษะไปมาบนหมอน กายนุ่มขยับตามแรงเคลื่อนไหวที่ส่งมาอย่างหนักหน่วง สองมือเรียวจิกและลากแรงๆ ไปบนแผ่นหลังกว้าง พร้อมเสียงครางหลุดออกมาเป็นระยะ
“งั้นถ้าพี่ภีมขอเป็นเจ้าของหนูโรส หนูโรสจะให้หรือเปล่าจ๊ะ”
“ค่ะ” โรสรินทร์ตอบรับคำขอแสนหวานนุ่มอย่างลืมตัว
ภมรตัวน้อยเคลื่อนเข้าหาความอบอุ่นอย่างเชื่องช้า ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดก็ยอม เพียงขอให้โรสรินทร์เจ็บปวดน้อยที่สุดและมีความสุขที่สุดเท่านั้นเอง
“โอ้ย!! เจ็บ...นายภีมะ...หนูโรสเจ็บ...”
หญิงสาวถึงกายหนีความร้อนผ่าวที่เคลื่อนเข้าหาตัว พร้อมมือทั้งผลักและดันกายแกร่งให้ถอยห่างไป ความปวดร้าวเริ่มแผ่ขยายเพิ่มมากขึ้น เมื่อชายหนุ่มยังไม่ยอมทำตามความต้องการของเธอ
“อดทนอีกนิดนะหนูโรส เดี๋ยวมันก็จะไม่เจ็บแล้วนะครับคนดี”
ชายหนุ่มกดจุมพิตพร้อมสอดลิ้นล่วงล้ำเข้ากวาดไล้ทั่วโพรงปากนุ่ม เกี่ยวกระหวัดกับเรียวลิ้นเล็ก ขณะที่อีกมือหนึ่งก็ฟอนเฟ้นปลายยอดถัน พร้อมอีกมือก็ส่งไปเคล้าคลึงเกสรนุ่มสลับบีบนวดฟอนเฟ้นสะโพกเต่งตึง เพื่อช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวดของหญิงสาว ก่อนกายแกร่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อให้หญิงสาวได้เจ็บเพียงครั้งเดียว
“ไอ้บ้าภีมะ...ถอยออกไปนะ” หญิงสาวทุบตีร่างหนาระบายความเจ็บปวด ใบหน้าก็ส่ายหนีปากหนาร้อนที่บดเบียดเคล้าคลึงลงมา
“อดทนนิดนะครับหนูโรสที่รัก เชื่อพี่ภีมนะคนดี”
ชายหนุ่มปลอบโยนน้ำเสียงหวานนุ่ม ไม่แพ้ทุกส่วนของเรือนกายที่ช่วยปลอบประโลมให้หญิงสาวคลายความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา จวบจนเธอรู้สึกดีขึ้นและเริ่มขยับเรือนกายตอบมา เท่านั้นแหละภีมะก็ร้อนผ่าวเหมือนกำลังอยู่ในกองเพลิง
สะโพกสอบขยับขับเคลื่อนอย่างเชื่องช้า พร้อมใบหน้าคมคร้ามก้มลงไปหาสองดอกบัวตูมและทำการกลืนกินเม็ดบัวอีกครั้ง มือเขาก็ไม่ได้เว้นว่างไว้ทำการเคล้าคลึงนวดเฟ้นเกสรนุ่ม ลูบไล้ต้นขาด้านใน พลางไพล่ไปบีบนวดสะโพกหนันแน่น
“ภีมะ...” โรสรินทร์ร้องเรียกเสียงสั่นพร่า ร่างกายไหวโอนเอนไปกับสัมผัสแสนหวานที่ถูกปลุกเร้าขึ้น ที่ตอนแรกมีทั้งความเจ็บปวดระคนเสียวซ่านในคราวเดียวกัน แต่พอมาถึงตอนนี้เธอมีเพียงแค่อารมณ์เดียวเท่านั้น คือความทรมานอันแสนหวานที่ชายหนุ่มมอบให้
“นายทำอะไรกับฉัน” ความใกล้ชิดที่มีมันยังไม่เพียงพอ เธอยังอยากให้เขาแนบชิดมากกว่านี้ โรสรินทร์ยกแขนไปโอบกายแกร่ง ปลายเล็บยาวและแหลมคมลากไปบนแผ่นหลังกว้างจนชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง ทำให้เขาต้องกดสะโพกสอบเข้าหาความอบอุ่นอย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น