ขนตางอนยาวที่โอบล้อมตากลมสวยตวัดไปมาตามจังหวะของการกลอกกลิ้งตามองตามร่างสูงโปร่งที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในห้อง
เพลงลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อคนตัวสูงกลับออกมาพร้อมกะละมังและผ้าผืนเล็กสะอาด หัวใจเต้นโครมครามเมื่อประสานสายตากับความหล่อเหลาของคนที่ก้าวขาขึ้นมาบนเตียงเดียวกัน
ทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้แต่เธอก็ยังรู้สึกโหยหา อยากอยู่กับเขาตลอดเวลา
“ดะ เดี๋ยว พี่ภีมจะทำอะไรเพลงคะ”
“ถอดเสื้อผ้าออก พี่จะเช็ดตัวให้”
“เพลงทำเองได้”
“อยู่เฉยๆ เพลงไม่ต้องดื้อกับพี่” คนตัวโตบอกเสียงดุก่อนจะยื่นมือมาแตะที่กระดุมชุดนอนตัวบาง นิ้วยาวเหยียดไล่ปลด จังหวะที่นิ้วยาวสัมผัสกับความอวบอิ่มขาวผ่องของเนินเนื้อหัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นโครมคราม
ผ้าเปียกหมาดๆ วางหมับลงบนผิว ต่อให้จะหนาวเหน็บทว่าไม่สู้การอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าชีวิต
เพลงกวาดสายตาไปตามโครงหน้าหล่อเหลา ความอ่อนโยนของเขาทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ลมหายใจที่รดลงมาบนตัวของกัน เขาใจร้ายมากที่ย้ำทุกวันว่าเธอไม่ควรปล่อยใจให้คิดอะไรกับเขา วันแรกไม่มีสิทธิ์ยังไงวันนี้ก็ยังไม่มีสิทธิ์แบบนั้น ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
“ยังไม่กินข้าวกินยาใช่ไหม” คนถูกถามพยักหน้ารับ ในจังหวะที่คนตัวโตพยายามถอดเสื้อทั้งหมดทำให้คนที่กำลังโป๊แทบกลั้นลมหายใจ
“พี่ภีมพอแล้ว”
“ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย”
“เพลงเปลี่ยนเองได้”
“พี่เห็นตัวเธอมากี่รอบ มากกว่ามองพี่ยังทำมาแล้วเลย”
“เพลงไม่มีสิทธิ์หวงตัวเหรอ ทั้งที่พี่สอนเองว่าเพลงควรรักตัวเอง” คนตัวโตตวัดสายตามอง และสิ่งที่เห็นก็มีเพียงแววตาตัดพ้อ น้อยอกน้อยใจ
เธอทำเหมือนน้อยใจที่เขาไม่รัก ทั้งที่เคยบอกแล้วว่าเขาไม่มีวันรัก!
หลังมือหนาสัมผัสกับความขาวของเนื้อตัวของคนป่วย บ่อยครั้งที่ใจสั่นเวลาที่มองความอวบอิ่มของก้อนเนื้อทั้งสองข้าง ไม่ปฏิเสธว่าเพลงสวยไปทั้งตัว ความสาวความสดที่เขาเคยช่วงชิมมันยังติดอยู่ที่ความทรงจำ เพราะอะไรคนเราถึงต้องกินซ้ำๆ เขาซัดความสดความสาวของเธอแทบทุกค่ำคืน ไม่เคยเบื่อ แต่หวังว่าสักวันก็คงเบื่อไปเอง
“พะ พี่ภีม” เพลงกุมมือหนาที่วางหมับลงมาบนก้อนเนื้ออวบอิ่ม แรงบีบเคล้นนั่นไม่รู้เลยว่าเขาตั้งใจหรืออารมณ์มันพาไปเอง
“พอไหวไหม”
“กำลังขอเพลงอยู่งั้นเหรอคะ”
“พี่ไม่อยากฝืนความรู้สึกของใคร แต่พี่ก็ไม่ปฏิเสธว่าพี่กำลังต้องการเพลง” ภีมพลคว้ามือเรียวไปวางหมับบนแก่นกายร้อน
แม้จะมีกางเกงยีนส์อย่างดีขวางกั้นทว่ายังสัมผัสได้ถึงความแข็งจัดที่ไม่รู้เลยว่าเขาเริ่มอยากตั้งแต่ตอนไหน
เขากินเธอมาตลอด กินมาแล้วทั้งตัว กลัวเหลือเกินว่าเขาจะแอบไปกินเงียบๆ กับคนอื่นมาแล้วเหมือนกัน
“ไหนๆ เราก็ต้องเลิกกัน…”
“แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เลิก เพลงยังเป็นเมียพี่” มาพูดแบบนี้แล้วจะทำใจแข็งยังไงไหว บางครั้งก็บอกว่าห้ามรัก ย้ำบ่อยด้วยซ้ำว่าเธอรักเขาไม่ได้ แล้วการที่บอกว่าเธอยังเป็นเมียเขาในตอนนี้คงแค่ให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
“พี่ขอนะ พี่ต้องการเพลง” ร่างสูงโน้มตัวขึ้นมาคร่อมทับ เข่าแข็งแรงแทรกเข้าแยกเรียวขาขาวให้แยกจากกัน อาภรณ์ที่ขวางกั้นไม่ใส่เรื่องที่เป็นอุปสรรค เปลือยเปล่าไปด้วยกันอีกคนก็ไม่ได้ลังเลที่จะตอกซ้ำๆ แรงกระทั้นกระแทกไม่ได้ปราณีคนที่ป่วยเลยสักนิด ภีมพลร้อนแรงแบบไหนก็ยังคงร้อนแรงอยู่แบบนั้น กินเก่งแบบไหนก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยเช่นกัน
ถึงเขาจะทำก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ได้รัก สุดท้ายการคาดหวังให้เขารักมันจะเป็นจริงหรือไม่ แต่หน้าที่ของเมียอุปถัมภ์ก็คือการครางอยู่ใต้อาณัติของเจ้าชีวิตจนกว่าเขาจะพอใจ
คำสั่งจากคนด้านบนสั่งให้เด็กในบ้านนำมื้อค่ำไปเสิร์ฟบนห้องนอน ภีมพลแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเป็นคนเดินออกมารับอาหาร ส่วนคนที่โดนกอบโกยสามครั้งติดได้แต่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง
อาหารพร้อม แต่เหมือนภีมพลยังคิดว่ามีบางอย่างที่ขาด แว๊บหนึ่งที่ตาคมตวัดมองคนบนเตียง แม้จะมีเพียงใบหน้าที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาแต่ก็เห็นถึงความสวยจับใจ
โทรศัพท์เครื่องหรูกดโทรหาลูกน้องคนสนิท เพียงอึดใจเดียวทิศเหนือก็รับสายอย่างรวดเร็ว
(ครับคุณภีม)
“ฉันอยากได้ยาคุมฉุกเฉิน เอามาให้ที่บ้านเดี๋ยวนี้เลย”
(ครับนาย)
ในเมื่อเขากลัวคนเป็นเมียที่ท้ายที่สุดต้องเลิกกันภายในหนึ่งปีทำให้เรื่องราวมันยากขึ้นด้วยการปล่อยตัวให้ท้อง เขาควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
พึ่งยาคุมฉุกเฉินทุกครั้งที่ร่วมรัก ถึงวันที่ต้องจากเขาจะได้มั่นใจว่าเธอไม่ได้เอาเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดท้องเธอไป
“อื้อ~ พี่ภีมเพลงง่วง”
“ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาให้เรียบร้อยก่อน”
“ค่อยกินได้ไหมคะ เพลง…”
“ถ้าเพลงดื้อพี่จะป้อน”
“พี่ภีม…”
“และถ้ายังงอแงพี่จะไม่ใช้ช้อน แต่พี่จะใช้ปากป้อนเพลงแทน” คนถูกขู่ลืมตาจากความเหนื่อยล้า เรามักเข้าใจกันและเหมือนจะเข้าใจกันได้ดี ทุกครั้งที่เขาเข้าใจว่าเธอรู้จุดยืนของตัวเองดี!