“เตรียมน้ำอุ่นเรียบร้อยหรือยัง” ร่างสูงก้าวเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะทิ้งสายตาจับจ้องที่คนตัวเล็กที่อาบน้ำและเปลี่ยนใส่ชุดนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ” คนที่ร้องไห้จนตาช้ำไม่กล้ามองสบตาอีกคนด้วยซ้ำ บอกเสร็จก็ตั้งท่าจะเดินผ่านแต่ฝ่ามือหนากลับรั้งที่แขนเรียวเอาไว้ก่อนจะดึงให้กลับไปเผชิญหน้ากัน
“พี่ภีมปล่อย”
“เป็นอะไร”
“เพลงเปล่า”
“ร้องไห้?” คนถูกถามไม่กล้าแม้จะสบตาและยังพยายามเบือนหน้าหนี
“พี่จะเพิ่มเงินให้เธออีกหนึ่งล้าน รวมกับก้อนเดิมสี่ล้านเป็นห้าล้านถ้วน พอใจไหม” คนถูกเอาเงินฟาดหัวเงยหน้ามองสบตากับคนใจร้าย ความหล่อของเขาไม่ได้ทำให้เธอในตอนนี้รู้สึกดีเลย
“ในสายตาของพี่ เพลงเห็นแก่เงินมากเลยเหรอคะ”
“ก็ถ้าไม่ต้องการเงินแล้วอยู่ด้วยกันเพื่ออะไร”
“เพลงอยู่เพราะเพลง…”
“อย่าใช้คำว่ารัก เพราะพี่เตือนเธอแล้วว่าไม่ต้องมารัก คนสองคนอยู่ด้วยกันเพราะเหตุผล นอนด้วยกันบ้าง มีเซ็กซ์กันบ้าง มันไม่จำเป็นต้องเป็นเพราะรักเสมอไป”
“พี่ภีมไม่เคยรัก…”
“ไม่เคยคิดจะรัก! ในเมื่อเรารู้เหตุผลของกันและกันอยู่แล้วเพลงต้องการเงินแต่พี่ต้องการเมียปลอมๆ มาตบตาแม่ ในเมื่อเราเข้าใจเหตุผลกันดีตั้งแต่แรกแล้วทำไมตอนนี้ต้องมาทำให้มันเป็นปัญหา”
“เพลงผิดเองค่ะ”
“พี่ต้องถอยไหม ต้องรักษาระยะห่างหรือเปล่าทุกอย่างมันถึงจะไม่เป็นปัญหา จำไว้นะว่าถ้าทุกอย่างพัง แต่แม่ยังยัดเยียดให้พี่มีเมียที่พี่ไม่อยากได้เพราะเพลงทำทุกอย่างพัง เพลงก็จะไม่ได้อะไรเลยเหมือนกัน”
“…”
“คืนนี้พี่จะไปนอนที่คอนโด”
“ไม่” เพลงส่ายหน้าเบาๆ น้ำตาพานคลอเบ้า
“ถ้าอยู่ใกล้กันแล้วหวั่นไหวพี่ว่าเราต้องเว้นระยะห่าง”
“…”
“พี่จะกลับมานอนที่บ้านถ้าวันนั้นพี่ต้องการตัวเพลง คือเพลงเข้าใจใช่ไหมว่าผู้ชายมีความต้องการ ในเมื่อพี่ต้องจ่ายเงินพี่ก็ควรได้อะไรกลับคืนมาบ้าง ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย” ภีมพลผละมือออกจากต้นแขนเนียนแล้วหมุนตัวกลับออกไปจากห้อง
ชุดที่ต้องใช้ผู้ติดตามของเขาสามารถหาให้เขาได้
ภีมพลยังยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น เงินเป็นล้านที่ต้องจ่ายแลกกับอิสรภาพของเธอแค่หนึ่งปีเธอเป็นฝ่ายได้กำไรเห็นๆ คนอยู่ด้วยกันทุกวันหากมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องมันก็คงไม่แปลก เขานอนกับเธอทุกวัน มีอะไรกันนับครั้งไม่ถ้วน เรื่องที่เธอไม่เคยผ่านมือใครและเขาได้เป็นคนแรกของเธอมันไม่เกี่ยว ถ้าไม่รักก็คือไม่รัก สัญญาแค่หนึ่งปี มันก็ต้องจบลงภายในหนึ่งปี ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลง!
สามวันเต็มๆ ที่ภีมพลไปค้างที่คอนโดมิเนียมโดยไม่กลับบ้าน อีกคนจะเป็นยังไงเขาไม่รู้ แต่เธอคงสุขสบายเพราะที่บ้านมีคนคอยอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง การอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ไม่ต่างจากการที่เพลงอยู่บนสวรรค์
ถ้าให้เทียบระหว่างสิ่งที่เธอสูญเสียและสิ่งที่เธอได้รับมันก็ยังคุ้มอยู่ดี!
“วันนี้ฉันมีนัดต่อหรือเปล่า” ภีมพลละสายตาจากแฟ้มเอกสารแล้วเหลือบตามองลูกน้องคนสนิทเพียงนิด
“ไม่มีครับ”
“คนของเราได้แวะเข้าไปดูที่บ้านหรือเปล่า”
“คุณเพลงอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ”
“ทั้งสามวัน?”
“ครับ” ทิศเหนือรายงานเสียงเรียบ ผู้เป็นนายบอกตลอดว่าไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น แต่ก็ยังดีที่ยอมถามไถ่ เมียที่เจ้านายเลือกไม่ใช่คนที่น่ารังเกียจ ออกจะน่าสงสารเพราะเธอไม่เคยทำตัวไม่ดีเลย
“ไม่สบายหรือเปล่า”
“คุณภีมแค่สั่งให้ดูอยู่ห่างๆ เรื่องนั้นไม่รู้เลยครับ” คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ลืมไปว่าเขาสั่งไว้แบบนั้นจริงๆ
“ให้ผมสั่งคนของเราเข้าไปถามป้าบัวไหมครับ”
“ไม่ต้อง วันนี้ฉันต้องกลับไปเอาของอยู่แล้วเดี๋ยวฉันเข้าไปดูเอง”
“ครับ” ทิศเหนือกดใบหน้าลงเล็กน้อยและเปิดทางให้ผู้เป็นนายก้าวขาออกไปจากห้องทำงาน
@คฤหาสน์ประภากร
“อื้อ~” เสียงครางท้วงเบาๆ ดังขึ้นเมื่อยามที่แก้มเนียนถูกแตะด้วยหลังมือที่เย็นเฉียบ
“ตัวร้อนฉิบ” เสียงสบถอย่างหงุดหงิดส่งผลให้คนที่หลับบนเตียงเพราะพิษไข้ลืมตามองช้า
เพราะร้องไห้จนคราบน้ำตาเปื้อนไปทั้งขอบตาถึงขั้นกระพริบตาถี่ขึ้นเพราะอยากแน่ใจว่าคนตรงหน้าจะใช่เขาจริงๆ
“พี่ภีม”
“ป่วยขนาดนี้ทำไมไม่โทรหาพี่”
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ป่วยตั้งแต่วันไหน”
“เพลง…ปวดหัวตั้งแต่วันที่พี่ภีมออกไปจากบ้าน”
“ป่วยตั้งแต่วันนั้นแล้วทนนอนอยู่แบบนี้นี่นะ เธอนี่มัน!” เสียงบ่นอุบส่งผลให้คนตัวเล็กก้มหน้างุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโดนฝ่ามือใหญ่ประคองแก้มขึ้นจนต้องสบตากัน
“พี่ถามว่าทำไมถึงไม่โทรหา”
“ก็เพลงไม่มีสิทธิ์โทร”
“…”
“จำไม่ได้เหรอคะว่าพี่ภีมเคยห้าม”
“…”
“เพลงไม่เคยลืมและไม่กล้าลืมเลยด้วย”
“ก็ปกติเธอชอบโทรในเรื่องที่มันไร้สาระ”
“ต่อไปนี้เพลงจะปล่อยผ่านทั้งหมดเลยค่ะ ต่อให้พี่ภีมจะไปไหนกับใคร ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเพลงก็จะไม่แคร์”
“ทำให้ได้แบบที่พูดก็แล้วกัน” คนฟังพยักหน้ารับ สามวันที่เขาไม่อยู่เธอพยายามทบทวนแล้ว คิดจนถีถ้วนว่าในวันที่ต้องจากกันเธอจะมีชีวิตต่อไปยังไง