บทที่ 6 เจอกันสักที

1933 คำ
“สวัสดีเฟื่อง” “หึ!” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มให้กับเฟื่องสาวสวยมากความสามารถอดีตแฟนเก่าสมัยเรียนอยู่รั้วมหาวิทยาลัยที่คบหากันได้ไม่กี่เดือน ทางด้านคนที่ถูกทักทายกับทำสีหน้าไม่พอใจและเมินเขา “ไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงฉันไหมหืม?” “เชอะ! ทำไมฉันต้องคิดถึงนายด้วยหลงตัวเอง” “เหรอแต่ฉันได้ยินว่าคนบางคนยังไม่ลืมเรื่องราวเก่าๆนะ ถึงขั้นตรอมใจไม่ยอมคบใครอีกเลย” ร่างสูงมองใบหน้าสวยพร้อมกับทำสายตาเจ้าชู้ใส่ “เมื่อไหร่นายจะหายไปจากชีวิตฉันสักทีเคนโซ่?” “จุ๊ๆ มื้อนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอมื้อหน้าเธอต้องเลี้ยงฉันคืนแล้วล่ะเธอติดค่าข้าวฉันหนึ่งมื้อ” เคนโซ่เจ้าเล่ห์อยากหาเรื่องเจอเธออีกโดยเอาเรื่องอาหารมาอ้าง “ค่าอาหารเท่าไหร่ฉันจะจ่ายคืนนายสองเท่าฉันไม่เป็นหนี้บุญคุณนาย” “ขอโทษนะฉันไม่รับเป็นเงินสด เธอติดค่าข้าวฉัน” “ยี๋! ฉันเอียนรู้ไหมฉันเห็นหน้านายแล้วกินข้าวไม่ลง นายอย่ามายุ่งกับฉันเอาเงินนี่ไป” “พรึบ!” มือบางหยิบเงินในกระเป๋าแบงค์สีเทานับสิบใบปาใส่หน้าหล่อของเคนโซ่ ทุกคนที่มองดูต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เหอะ! เธอนิสัยเสียแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เฟื่อง?” นอกจากเขาจะไม่โกรธที่ถูกเธอปาเงินใส่หน้า กลับยิ้มออกมาอย่างครึ้มอกครึ้มใจ “ท่านรองอย่ามีเรื่องกันเลยครับ คุณเฟื่องเธอโกรธมากเลยเรากลับกันเถอะครับ” กวินรีบมาสะกิดเจ้านายที่ดูท่าทางเขาเองยังสนุกและไม่ยอมจะถอย “ไอ้วินมึงอยู่เฉยๆ” “โซ่ขอบคุณนะสำหรับอาหารมื้อนี้แต่พวกเราคงไม่ไปเลี้ยงข้าวนายคืนหรอกนะ” แพมเธอพยายามจะเคลียร์ให้ทุกคนสงบและเย็นลง โดยเฉพาะเฟื่องที่โกรธเคนโซ่จนหูแดงไปหมด “เหอะ! ทำไมรึว่าเพื่อนเธอกลัวผัวเก่าอย่างฉันแค่กินข้าวด้วยสักมื้อจะตายรึไง หรือว่ากลัวจะหวั่นไหวอยากได้ฉันอีกรอบ?” “กรี๊ดดด! ไอ้โซ่นายอย่ามาปากพร่อยแถวนี้นะใครผัวเก่า” “ก็ฉันผัวเก่าเธอไงเฟื่อง…จะให้เป็นผัวปัจจุบันก็ได้นะฉันไม่ถือ” ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ตาสบตาประชันหน้า เขายั่วอารมณ์ของเธอให้เดือดขึ้นไปอีก “เฟื่องๆ ใจเย็นพูดเบาๆโต๊ะข้างๆมองพวกแกสองคนอยู่นะ” นุ๊กสะกิดเพื่อนสาวให้ใจเย็นและเก็บอาการ เพราะเฟื่องถือเป็นคนสาธารณะไปแล้ว “นี่! ได้กับนายแค่ สามเดือนเขาไม่เรียกว่าผัวหรอก จะบอกไว้ให้เอาบุญนะถ้าอย่างนายเรียกว่าผัว งั้นฉันก็คงมีผัวครึ่งพระนครแล้วย่ะ” ร่างบางเมินหน้าเชิดใส่เขาและพูดจาแดกดันจนเคนโซ่เองก็รู้สึกปวดใจ “เอามือถือเธอมานี่” มือหนาคว้าโทรศัพท์ของเธอและบังคับให้เธอบอกรหัส “เอาคืนมานะโซ่” “ไม่คืนถ้าเธอไม่บอกรหัสฉันมาก่อน ก็ตามไปเอาที่คอนโดฉันนะ” เพราะความสูงเขาจึงยืดแขนขึ้นสุดทำให้ร่างบางที่เตี้ยกว่าเอื้อมไม่ถึง เธอพยายามกระโดดยืดตัวแต่ก็ไม่สามารถคว้ามือถือได้ คนที่ตัวสูงใหญ่กว่าเขาสนุกทุกครั้งที่ได้แกล้งเธอให้โกรธ เมื่อร่างบางขยับเข้ามาใกล้เขาได้กลิ่นกายสาวหอมหวานที่เขานั้นจดจำมันได้ดี กลิ่นนี้เป็นกลิ่นตัวของเฟื่องที่เขานั้นชอบมาก “ไม่เอาของฉันคืนมานะโซ่” “งั้นบอกรหัสมาสิ” “ก็ได้” “14042020” “หึ! ไหนบอกว่าลืมผัวเก่าอย่างฉันนี่มันวันครบรอบที่ฉันเป็นแฟนกับเธอ” ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มเขาจำได้ดีวันนี้ เป็นวันที่เขาจีบและขอเธอเป็นแฟน เมื่อใส่รหัสเขาก็กดเข้าไปในมือถือของเธอและพิมพ์อะไรบางอย่างยุกยิ๊ก “พูดมาก” ใบหน้าสวยถึงกับกัดปากเธอรู้สึกเสียหน้า ไม่คิดว่าเขาจะจดจำวันสำคัญนี้ได้เช่นกัน “เอาของเธอคืนไปแล้วเจอกันนะครับ” เคนโซ่ยื่นมือถือคืนให้กับเฟื่องและยิ้มเจ้าเล่ห์เดินนำหน้ากวินออกไป ฮัมเพลงไปด้วยแบบอารมณ์ดี ทิ้งให้เฟื่องยืนทำตาปริบๆอารมณ์เสียอยู่แบบนั้น @ในรถ “ท่านรองครับผมนี่ใจหายหมด สรุปคุณเฟื่องคือแฟนเก่าของท่านรองจริงๆเหรอครับ?” “อื้อ!” “ว๊าว! เสียดายที่เลิกกัน” “ไอ้วินมึงหุบปาก” “แฮร่ๆๆ แล้วเราจะไปไหนกันต่อครับ?” “ไปร้านหนังสือ” “ได้ครับผม” หลังจากที่กวินขับรถพาเจ้านายหนุ่มมาส่งที่ร้านหนังสือที่ใกล้ที่สุด ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เขาเองก็เดินตามและไปเลือกซื้อหนังสือเช่นกัน “ไอ้วินมึงเอาเล่มไหนจะเอากี่เล่มตามสบายนะวันนี้กูจ่ายเพราะมึงทำดีมากวันนี้ รูปของเฟื่องในมือถือส่งมาให้กูด้วยส่งเสร็จมึงก็ลบด้วยนะอย่าให้เห็นว่าเก็บเอาไว้” “อ้าว! ผมก็ปลื้มพี่เฟื่องนะท่านรอง” “กูไม่อนุญาต” เคนโซ่หันมาทำตาเขียวใส่กวินเขาหวงแม้แต่รูปถ่ายของอดีตแฟนที่เขาบอกว่าไม่ได้รัก “เหอะ! มีแบบนี้ด้วยเหรอวะ?” “มึงบ่นอะไร?” “ปะ..เปล่าครับ” หลังจากเลือกหนังสือเคนโซ่หยิบหนังสือที่เป็นของเฟื่องทุกเล่ม เขาอยากจะเห็นและสัมผัสถึงผลงานลีลาการเขียนของเธอจึงเหมาหมดทุกเล่ม “โห! ท่านรองจะอ่านหมดเหรอครับนี่มันของ นิมมาน ทุกเล่มนี่นาท่านรองอ่านนิยายด้วยเหรอเนี่ย?” “หึ! เห็นว่าเก่งนักอยากจะรู้ว่าจะเจ๋งจริงรึเปล่า?” “ไม่เจ๋งไม่ขายนิยายได้เป็นล้านๆหรอกครับระวังติดงอมแงมเหมือนแฟนผมนะ” “แล้วเรื่องไหนที่เธอบอกว่าแต่งมาจากเค้าโครงชีวิตจริงล่ะ?” “เรื่องนี้ครับเป็นเรื่องแรกตอนนี้กำลังจะเป็นซีรี่ย์แล้วกำลังคัดตัวนักแสดงอยู่” “อื้ม! น่าสน” วันต่อมาที่บริษัท KC แลนด์ “กาแฟค่ะท่านรอง” “ขอบคุณครับ” “อุ๊ย! ท่านรองอ่านนิยายของ นิมมาน ด้วยเหรอคะเก๋เองก็ชอบมาก” เลขาสาวเห็นหนังสือนิยายของเฟื่องวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเจ้านายและมีที่คั่นหนังสือคั่นไว้ “ก็ลองอ่านดูว่าง” “เรื่องนี้ดังมากค่ะเป็นเรื่องแรกเก๋อ่านจบกำลังจะรอดูซีรี่ย์ เห็นว่านางเอกเป็นคุณพิมพ์มาดาด้วยค่ะ” “หืม! พิมพ์เป็นนางเอก?” “ค่า! คุณเฟื่องนิมมานนักเขียนเธอกับผู้กำกับเป็นคนคัดเลือกตัวนักแสดง” “เหอะ! แสบๆมากๆเฟื่องคิดจะให้พิมพ์มาเล่นเป็นตัวเองร้ายไม่เบา” ใบหน้าหล่อหัวเราะออกมาจนเลขาสาวสงสัยว่าเขาขำอะไร “คุณโซ่ตลกอะไรหรือว่าหน้าเก๋มีอะไรติดคะ?” “เปล่าๆไม่มีอะไรผมแค่นึกอะไรบางอย่างออก” หลังจากที่เลขาสาวจอมยั่วเดินจากไปเขาก็หยิบหนังสือนิยายของเฟื่องขึ้นมาอ่าน ในนิยายของเธอนั้นบรรยายถึงเขาว่าเป็นผู้ชายที่เธอนั้นรักมาก เธอเสียใจและผิดหวังในตัวเขามากมาย ที่หลอกให้เธอรักและให้เธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงอีกคนที่สวยกว่าและเด่นกว่าเธอ เคนโซ่เองอ่านไปก็รู้สึกผิดไป เขาคิดไม่ถึงว่าเฟื่องนั้นจะเจ็บปวดมากมายขนาดนี้ เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงค่ำทุกคนกลับบ้านหมดแต่เขายังนั่งอ่านนิยายของเฟื่องจนจบ บทสรุปนั้นไม่เป็นไปอย่างที่เขาคิด เพราะนางเอกไม่ได้เลือกพระเอกเธอเลือกพระรองที่ทั้งหล่อรวยนิสัยดีรักเดียวใจเดียว จากเริ่มแรกเขาคือพระเอกสุดท้ายหักมุมเขากลับกลายเป็นตัวร้ายในบทที่แสนจะร้าย มันทำให้เขาโกรธมากและหัวเสียที่สุดจึงกดมือถือโทรหาใครบางคนเพื่อจะระบายอารมณ์ เคนโซ่ : ไอ้ภูริมึงว่างรึเปล่าคืนนี้? ภูริ : ว่าง เคนโซ่ : อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่คลับแถวคอนโดกูอย่าลืมชวนไอ้ป้องมาด้วย ภูริ : เออ กูนัดสาวไว้จะพาไปด้วย เคนโซ่ : รีบๆนะกูจะไปรอพวกมึง หลังจากวางสายเคนโซ่ก็รีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดหรูและขับรถไปคลับใกล้คอนโดของตัวเอง วันนี้เขาอยากจะมีเพื่อนนั่งดื่มเพราะรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากอ่านนิยายแล้วอินและไม่พอใจที่ตัวเอกอย่างเขากลายเป็นตัวร้ายในเรื่อง @คลับหรู “ไงไอ้เสือมาก่อนแต่นั่งแดกเหล้าอย่างกับคนอกหัก?” “ไอ้เชี่ยป้องปากปีจอ มึงมาคนเดียวไอ้ภูล่ะ?” “มากับสาวนั่นไงมานู้นแล้ว” “ไม่เบื่อกันบ้างรึไงผู้หญิง?” “เดี๋ยวๆนี่กูหูแว่วไปรึเปล่าอย่างมึงนี่นะบอกว่าเบื่อผู้หญิง?” ปกป้องที่เคนโซ่พูดจาอะไรแปลกๆ เพราะทั้งสามคนเพื่อนซี้นั้นชอบสาวสวยและควงสาวไม่ซ้ำหน้าเหมือนกัน “ขอโทษทีวะพอดีน้องน้ำตาลอยากทานชาบูกูก็เลยพาน้องไปทานมาก่อน” ภูริที่ควงสาวสวยหน้าอกอึ๋มเธอเป็นพริตตี้สาวที่ภูรินั้นชอบ “ชิ! มาสายเพราะผู้หญิงทั้งปีล่ะมึง” “แล้วไอ้โซ่มึงเป็นอะไรหน้าตาบอกบุญไม่รับ” “กูบังเอิญเจอเฟื่องที่ร้านอาหาร” “จริงดิ! ถ้าให้กูเดานะเฟื่องต้องด่านายจนกลับบ้านไม่ถูกหรือไม่ก็ควงผัวใหม่มาเย้ยแน่ๆฮ่าๆๆ” ภูริพออกพอใจที่เห็นเคนโซ่ทำหน้าหงอย “หึ! ไม่มีทางกูได้เบอร์ยัยเฟื่องมาแล้วโว้ย!” “อ้าว! ทำไมมึงได้เบอร์มาง่ายจังวะกูต้องไม่แพ้พนันสิเดิมพันไว้ตั้งสองล้าน” “บอกแล้วไงว่ายัยนั่นยังรักกูอยู่ ขนาดรหัสมือถือยังเป็นวันครบรอบของกูกับเธอเลย” “เฮ้ย! บังเอิญเปล่า?” “ไม่มีทางกูยังมีลุ้น” “แล้วทำไมมึงถึงอารมณ์ไม่ดี มาชวนพวกกูมานั่งแดกเหล้าเป็นเพื่อน?” “ก็กูอ่านนิยายของเฟื่องในเรื่องตอนแรกกูเป็นพระเอกสุดท้ายเฟื่องไปเลือกพระรอง แล้วให้กูเป็นตัวร้ายในเรื่องแทนเซ็งฉิบหาย” เคนโซ่เล่าไปยกเหล้าไปเขาหงุดหงิด จนเพื่อนๆต่างหัวเราะออกมา เพียงแค่เหตุผลแค่นี้ก็ทำเขาหัวร้อนได้ “ฮ่าๆๆๆ ไอ้โซ่มึงคลั่งเมียเก่าขนาดไปอ่านนิยายของเธอ พอรู้ว่าเรื่องที่แต่งมาจากเรื่องของตัวเอง แล้วมึงไม่ใช่พระเอกตอนจบไม่ได้นางเอกนี่หัวร้อน?” “ก็มันหน้าโมโหไหมล่ะ?” “แต่ชีวิตจริงมึงก็ทำแบบนั้นนะโซ่ มึงไม่ได้เลือกเฟื่องมึงไม่ได้รักเธอมันก็สมเหตุผลแล้วไหมวะ?” ภูริพูดตามความจริงที่เขานั้นมองเห็น “ก็ตอนนั้นกูยังไม่รู้ไงว่ากูรู้สึกยังไงกันแน่พวกมึงก็รู้ว่ากูไม่เคยมีแฟน สำหรับเฟื่องกูก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายจิตใจเธอแบบนั้น” “เหอะ! เสียดาย?” “หุบปากไปเลยไอ้ป้อง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม