บริษัท KC แลนด์
“กรี๊ดด!!..อีเก๋ลูกชายคุณอคิวราท่านประธานกลับมาแล้วจ้า คุณเคนโซ่วันนี้จะมาทำงานในตำแหน่งรองประธานวันแรก”
“คุณเคนโซ่ว่าที่ผัวของชั้น คิ!คิ!”
“งื้อ! ต่อให้มึงได้กับเค้าแต่คุณโซ่ก็ไม่เอามึงทำเมียหรอก เลขาต๊อกต๋อยอย่างแกนะ คุณพิมพ์มาดาต่างหากตัวจริง ชิ!”
“นี่อีปูถ้าคุณเคนโซ่ได้ลองนอนกับกูสักครั้งรับรองพิมพ์มาดานางเอกละครก็เหอะ ของแบบนี้มันอยู่ที่ลีลาและจริตมารยาจ๊ะ”
“เฮ้อ! ใฝ่สูงระวังจะตกลงมาเจ็บนะมึงก็รู้ๆว่าคุณโซ่เสือผู้หญิงจะตาย ที่เค้าโสดทุกวันนี้ก็เพราะหวงชีวิตส่วนตัว กับพิมพ์มาดานั่นคบกันมานานแต่ไม่ใช่แฟน แต่ท่าทางก็ไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาแน่นอน”
“ชิ! ยิ่งร้ายยิ่งเจ้าชู้ยิ่งมีเสน่ห์คุณโซ่ต้องเป็นของชั้น”
“เออ! กูเตือนมึงละนะ”
วันนี้เป็นวันที่เคนโซ่ หรือ อคิรา ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทายาทคนเดียวของบริษัท KC แลนด์ บริษัทรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศ เขาจะมาทำงานในฐานะรองประธานบริษัทตามที่พ่อและแม่สั่ง เขาเรียนจบปริญญาโทจากประเทศญี่ปุ่นคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาครอง เขาคือความภูมิใจของครอบครัว
“สวัสดีค่ะท่านประธาน”
“สวัสดีทุกคนนี่เคนโซ่หรือ อคิรา ลูกชายคนเดียวของผม เขาจะมาทำงานที่นี่ในตำแหน่งรองประธานบริษัท ผมฝากทุกคนช่วยแนะนำเขาด้วยนะครับ”
“ผมเคนโซ่ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
“แปะ! แปะ! แปะ!” เสียงปรบมือดังกระหึ่มในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่รวมพนักงานทุกคน และเป็นงานเลี้ยงเปิดตัวท่านรองประธานคนใหม่ไฟแรง
เคนโซ่อยู่ในชุดสูทสีกรมท่าเขาแต่งตัวเนี้ยบหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ขายาวเหมือนนายแบบรูปร่างสูงหุ่นล่ำสมชายชาตรี ใบหน้าหล่อเหลาดวงตาขี้เล่นหยาดเยิ้มเป็นประกาย จมูกโด่งเป็นสันรับกับรูปหน้าเรียว ผิวพรรณขาวสะอาด ทรงผมที่ถูกเซทมาอย่างดีเขาหล่อจนพนักงานสาวๆต้องเขินอาย โดยเฉพาะเวลาเขายิ้มที่เห็นฟันเรียงตัวสวยสะอาดทุกซี่ลักยิ้มที่มุมปาก มันสามารถพิฆาตนารีให้ต้องยินยอมพร้อมใจตกเป็นของเขาได้ไม่อยาก
“กรี๊ดด! อีเก๋ๆ คุณโซ่ๆหล่อมาก ตอนที่เรียนวิศวะปีสี่มาฝึกงานที่นี่ยังไม่หล่อเท่านี้เลยแก”
“ฉันเพิ่งจะเคยเจอตัวจริงก็วันนี้แหล่ะหล่อลากดินไม่ให้ฉันอยากจะเป็นเมียได้ยังไง”
“บุญของมึงแล้วนะเก๋ที่มึงได้เป็นเลขาท่านรองประธานสุดหล่อ”
“สวรรค์เมตตากูแล้วงานนี้ฉันต้องจับเขาให้ได้”
ห้องทำงานรองประธาน
“ก๊อก! ก๊อก!”
“เชิญครับ”
“กาแฟค่ะท่านรอง”
“ขอบคุณครับคุณคือเลขาหน้าห้องผมใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะคุณโซ่”
“ผมอยากได้เลขาผู้ชายอีกคน เพราะผู้หญิงเวลาไปไซด์งานออกต่างจังหวัดมันไม่ค่อยสะดวก”
“เก๋ไปได้นะคะคุณโซ่ต่อให้ตากแดดต่างจังหวัดขึ้นเขาลงห้วยเก๋ไปได้สบายๆเลยค่ะ คุณโซ่อย่าไล่เก๋ออกเลยนะคะ ฮือๆๆ” เลขาสาวสวยหุ่นเซี๊ยะร้องไห้สะอื้นที่เขาอยากจะเปลี่ยนเลขาใหม่ จึงรีบเดินเข้าไปอ้อนเอามือไปจับแขนแกร่งของเขาไว้
“เดี๋ยวๆใจเย็นๆคุณเลขาผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมแค่ต้องการเลขาเพิ่ม ขอเป็นผู้ชายเพราะต้องขับรถให้ผมตามไปทุกที่”
“แล้วเก๋ล่ะคะเก๋จะไปอยู่ที่ไหน?”
“คุณเลขาก็อยู่ที่ออฟฟิศอยู่หน้าห้องผมเหมือนเดิมนี่แหล่ะ”
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณคุณโซ่ที่เมตตาเก๋นะคะ” มือบางของเลขาสาวจากที่จับที่แขนของรองประธานหนุ่มเธอคว้าแขนล่ำเข้ามากอดแนบอกอวบๆ เคนโซ่รับรู้ได้ทันทีในความเจนจัดและทันคนเขาผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วน
“คุณเลขาปล่อยผมได้แล้ว”
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะเก๋ดีใจเกินไปหน่อย”
เลขาสาวจริตจะก้านไม่ธรรมดาสายตาแพรวพราว เธอลุกขึ้นยืนโชว์หุ่นอวบโค้งเว้าในชุดสาวออฟฟิศสุดเซ็กซี่ เคนโซ่เองก็มองเธอไม่วางตา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วเชิญคุณเลขาไปทำงานต่อนะครับถ้าผมต้องการอะไรจะโทรเรียกเอง”
“ได้ค่ะ”
“เหอะ! ให้ท่าขนาดนี้เบื่อแล้วผู้หญิงที่เข้าหาแล้วหวังร่วมเตียงหลับนอนและเงิน” ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มเขาเริ่มเบื่อและไม่ได้สนใจ แม้ว่าจะชอบมีผู้หญิงสาวๆสวยๆไว้ข้างกายเพื่อสนองความใคร่ แต่ยิ่งเขาผ่านผู้หญิงมามากเท่าไหร่เขากลับยิ่งเย็นชาไร้หัวใจมากขึ้น
สองวันต่อมา
“สวัสดีครับท่านรองประทาน”
“นายชื่ออะไร?”
“ผมชื่อกวินครับ หรือจะเรียกวินเฉยๆก็ได้ครับท่าน”
“เอ้อ! ฝ่ายบุคคลส่งนายมาสินะคงจะคัดมาแล้ว”
“ท่านรองจะให้ผมเริ่มงานได้เมื่อไหร่สั่งผมมาได้เลยนะครับ”
“เอ็งมีลูกมีเมียรึยัง เพราะงานของกูต้องออกพื้นที่ไปตามต่างจังหวัดหน้าที่หลักๆคือขับรถและรายงานกู”
“ผมมีแค่แฟนครับยังไม่ได้แต่งงานผมไปได้ทุกที่และผมจบบริหาร”
“เออหน่วยก้านดีใช้ได้ไม่ต้องตกใจถ้าคนสนิทจะรู้ว่ากูพูดไม่เพราะ แต่อย่าตัดสินแค่คำพูดนิสัยกูก็แบบนี้ห่ามๆถ้ามึงทนกูไม่ไหวก็ลาออกได้เลยจะให้เงินทำขวัญล่วงหน้า”
“ผมพร้อมครับท่าน”
“ดีงั้นพรุ่งนี้ไปที่กรมเพราะกูจะไปดูการร่วมประมูลงานรับเหมาสะพานมิตรภาพไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน”
“ได้ครับท่าน”
เช้าวันต่อมา
“ท่านรองเก่งมากเลยครับที่ประมูลงานได้ท่านประธานคงจะภูมิใจมากๆเลย”
“เหอะ! ไอ้วินมึงนี่ละอ่อนวงการนี้ถ้ามึงเงินไม่ถึงไม่จ่ายใต้โต๊ะมึงไม่มีวันจะได้หรอก รู้ไหมกูเสียไปเท่าไหร่?”
“ขอโทษครับ”
“เดี๋ยวอยู่ๆไปมึงก็จะรู้เองรีบๆขับไปกูหิวข้าว”
“เอ่อ! ท่านรองจะทานร้านไหนหรืออยากจะกินอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?”
“อาหารไทยไม่ต้องร้านหรูๆนะขอแค่สะอาดรสชาติอร่อย กูอยู่ญี่ปุ่นมาตั้งสองปีคิดถึงอาหารไทย”
“มีอยู่ร้านหนึ่งครับติดกับสำนักพิมพ์อยู่ใกล้ๆ”
“เออ”
@ร้านอาหารไทย
“ไอ้วินจะไปไหน?”
“ไปนั่งโต๊ะนู้นครับ”
“ไอ้ห่า มานั่งกะกูนี่เดี๋ยวกูเลี้ยงเองไม่ต้องไป” กวินตกใจที่เจ้านายของเขาเป็นคนเรียบง่ายแม้จะรวยระดับมหาเศรษฐี แต่เขากลับเข้าถึงง่ายและติดดินเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
“ท่านรอง..”
“ว่า”
“สั่งมาเยอะขนาดนี้กินสองคนจะหมดเหรอครับ?”
“ก็กูคิดถึงอาหารไทยและสั่งเผื่อมึง ด้วยถ้ากินไม่หมดมึงก็เอากลับไปกินที่บ้าน”
“ขอบคุณครับ”
หลังจากที่ทั้งคู่กินข้าวไปสักพักโต๊ะข้างๆที่มีคนจองก็เริ่มมีอาหารมาเสิร์ฟ และก็มีคนเดินเข้ามาในร้านเคนโซ่ที่กำลังจะตักอาหารเข้าปากต้องหยุดเพราะเขาเจอกับใครบางคนที่อยากจะเจอมาแสนนาน
“ท่านรองเป็นอะไรครับทำไมไม่กินต่อ?”
“เปล่า”
“นี่คุณนักเขียนนี่นาโหสวยอย่างกับดาราไม่ได้ๆ ผมต้องไปขอลายเซ็นท่านรองผมขออนุญาตนะครับ”
“เดี๋ยวไอ้วินเธอดังขนาดนั้นเลยเหรอ กูไม่ได้อยู่ที่ไทยมาสองปีไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเธอเลย”
“อ๋อ! คุณเฟื่องนิมมานเธอเป็นนักเขียนชื่อดัง นิยายของเธอได้ทำเป็นซีรี่ย์และละครโด่งดัง เธอเพิ่งจะมาเปิดเผยตัวเองไม่กี่เดือนนี่เองครับ”
“แล้ว…เธอมีแฟนรึยังอะ?”
“เธอโสดครับผมติดตามเธออยู่ แต่เธอชอบเที่ยวกลางคืนชอบไปบาร์โฮสมากเลยเธอเป็นไอดอลของสาวยุคใหม่ที่สวยรวยเก่งไม่ง้อผู้ชาย ผู้หญิงหลายๆคนชื่นชมและเอาเธอเป็นแบบอย่างรวมถึงแฟนผมด้วย”
“อื้ม! น่าสนใจ” ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มเขาสนใจอดีตแฟนสาวที่ตอนนี้สวยสะพรั่งเซ็กซี่เพอร์เฟกต์ไปหมด เธองดงามไร้ที่ติ
“อีแพมอีเฟื่องวันนี้กูจะกินต้มยำกุ้งแม่น้ำจ๊ะ” นุ๊กตักอาหารใส่ชามให้เพื่อนสาวของเธออย่างใส่ใจ
“อีเฟื่องคืนนี้มึงจะไปร้านเดิมปะ?”
“ไปดิตอนนี้สมองตันคิดพล็อตเรื่องใหม่ยังไม่ออก ต้องไปผ่อนคลายซะบ้าง”
“โอ๊ย! เมื่อก่อนด่ากูเช้าเย็นว่าเอาเงินไปเปย์ผู้แต่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่รวยกรีดเลือดมึงออกมามีแต่คำว่าเด็กโฮสล่ะอีเฟื่อง” นุ๊กเสียดสีเฟื่องเพราะเธอเที่ยวบ่อยกว่าสาวสองอย่างเขาเสียอีก
“ค่า! บ่นเป็นแม่เลยนะอีนุ๊กมึงก็ไปกะกูอีแพมก็ไปกะกูทุกครั้งบ่นอยู่ได้”
“นี่อีเฟื่องใจคอมึงจะไม่คิดหาผัวดีดีกับเค้าบ้างรึไง เงินก็มีธุรกิจก็ดีงานก็ปังสวยก็สวยมดลูกมันมีวันหมดอายุนะมึง” แพมเอือมกับการเที่ยวเปย์ผู้ชายในบาร์โฮสของเฟื่องเธอถือว่าเป็นสมาชิก VVIP ของร้านไปแล้ว
“โธ่! อีแพมมึงมีผัวแล้วก็พูดได้สิ รู้ๆกันอยู่กูเกลียดการมีความรักมันทำให้กูอ่อนแอ ดูสภาพกูตอนนั้นสิอย่างกับลูกหมาตกน้ำสะบักสะบอม”
“เหอะ! มันตั้งสามปีแล้วมึงจะพูดทำไมอีเฟื่อง มึงเอาอดีตมาเป็นกำแพงสูงปิดกั้นตัวเองเพื่อ?”
“ใครว่า…กูแค่ยังไม่เจอคนที่เข้ากับกูได้ก็แค่นั้น”
กวินและเคนโซ่ที่ได้ยินสาวๆโต๊ะข้างๆคุยกัน เขาก็ยิ้มและหัวเราะเบาๆคิดไม่ถึงว่าเฟื่องยังจดจำเรื่องราวในอดีตได้และไม่เคยลืม ที่ผ่านมาเธอไม่ได้คบใครจริงจังเพราะเธอมีกำแพงสูงนั่นเอง
“ท่านรองก่อนกลับผมขออนุญาตนะครับผมจะเอาลายเซ็นคุณเฟื่องไปให้แฟนผม”
“เออ! เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อนรับรองจะได้มากกว่าลายเซ็น”
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จเคนโซ่ก็แอบจ่ายค่าอาหารให้กับโต๊ะของเฟื่องและเพื่อนๆ เขาแอบมองเฟื่องอยู่ตลอดเวลาภาพในหัวที่ตอนมีช่วงเวลาดีดีกับเธอก็พุดขึ้นมาเต็มไปหมด เขาเผลอยิ้มไปมองไปจนกวินสงสัยและคิดว่าเจ้านายอาจจะตกหลุมรักนักเขียนอีกคน เขารอจนกว่าสาวๆจะทานเสร็จจึงให้ลูกน้องไปขอลายเซ็นและถ่ายรูปเธอ
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“ผมชื่อกวินนะครับผมและแฟนเป็นแฟนนิยายตัวยงของพี่เฟื่องผมอยากจะขอลายเซ็นพี่เอาไว้เป็นที่ระลึกจะได้ไหมครับ?” กวินยื่นกระดาษกับปากกาให้เฟื่องนิมมานเขามีความหวังและตื่นเต้นมาก
“ได้ค่ะขอบคุณที่ชื่นชอบผลงานของพี่นะคะ”
“พี่เฟื่องผมขอถ่ายรูปพี่ไปอวดแฟนได้ไหมครับ?”
“ได้สิมาถ่ายด้วยกันก็ได้นะ เอ้าอีแพมถ่ายรูปกูกับน้องเค้าหน่อย”
“ผมขอรูปเดี่ยวพี่ด้วยนะครับเจ้านายผมขอมา”
“เจ้านาย…ได้จ๊ะ”
หลังจากถ่ายรูปเสร็จกวินก็ขอบคุณและขอตัวลานุ๊กจึงเรียกให้เด็กในร้านมาคิดเงิน แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพนักงานบอกว่ามีคนจ่ายให้แล้ว จึงถามไปว่าใครพนักงานจึงชี้ไปที่โต๊ะด้านข้าง นุ๊กจึงเดินไปหาชายหนุ่มแต่งตัวดีมองจากด้านหลังก็รู้ว่าเขาบุคลิกดีต้องหล่อมากแน่ๆ
“โซ่!”
“อื้ม! เราเอง”
“นายมาทานข้าวแถวนี้เหรอไหนว่านายกับเพื่อนๆอยู่ต่างประเทศ?”
ร่างสูงจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเสียงของนุ๊กและเคนโซ่ที่คุยกันนั้นทำให้แพมและเฟื่องต้องมองตามเสียง ขายาวๆค่อยๆสาวเท้าเข้ามาเขาเดินผ่านนุ๊กไป และตรงมาที่โต๊ะของเฟื่องและแพมใบหน้านั้นเรียบนิ่งแต่ดูหล่อละมุนมาก
ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงหัวใจของเฟื่องนิมมานและเคนโซ่ ต่างเต้นรัวราวกับกลองชุดที่ตอนนี้ได้เจอกันจริงจังสักที