บทที่ 8 งานคืนสู่เหย้า

1966 คำ
สัปดาห์ต่อมา “พวกแกปีนี้งานเลี้ยงรุ่นที่มหาลัยจะไปกันรึเปล่า?” แพมนำบัตรเข้างานคืนสู่เหย้าที่จะมาถึงในอีก สามวันข้างหน้าให้นุ๊กและเฟื่องเพราะแพมเป็นประธานรุ่นของคณะ “อ่ะนี่บัตรเข้างานได้มาสามใบพอดี ฉันได้โซน VIP เพราะเป็นประธานรุ่น” “ไปสิจ๊ะ ปีที่แล้วสนุกมากคิดถึงเพื่อนๆและอาจารย์จะแย่” นุ๊กรีบหยิบบัตรเชิญมาดูทั้งสามเพื่อนซี้จะไปด้วยกันเสมอซึ่งปีนี้นับว่าเป็นปีที่สองของพวกเธอ “เค้ามีธีมให้ใส่ชุดสีอะไรปะ?” “ไม่นะอีเฟื่องเอาชุดที่คิดว่ามึงสวยที่สุดในงานแหล่ะปีที่แล้วมึงก็สร้างตำนานเริสสแมนแตน” นุ๊กเบ้ปากยืนกรอกตาใส่เฟื่องเพราะปีที่แล้วเธอเป็นคนแบกร่างของเฟื่องกลับคอนโดเพราะเพื่อนสาวเมาจนร่วง “ปีนี้มึงก็แบกกูกลับอีกนะอีนุ๊ก ฮ่าๆๆ” “โอ๊ย! ไม่ๆๆๆถ้ามึงจะเมาเละขนาดนั้นกูจะทิ้งมึงเลยค่า” “แพมอีนุ๊กมันจะทิ้งเรา” “เบาได้เบานะเฟื่อง” แพมอีกคนที่เตือนให้เพื่อนสาวกินแต่พอดี เพราะกว่าจะพากันกลับคอนโดได้มันไม่ง่ายเลย “เหอะ! ปีนี้ฉันไม่เมาหรอกเชื่อปะ?” ร่างบางหยักไหล่พร้อมกับประกาศไปว่าจะไม่เมาเหมือนปีที่แล้ว “ชิ! คออ่อนแต่เสือกอยากดื่ม” “โหย! อีแพมอย่าบูลี่” งานเลี้ยงรุ่นที่มหาวิทยาลัย บรรยากาศภายในงานรื่นเริงเหล่าบรรดาศิษย์เก่าต่างตบเท้าเข้ามาร่วมโต๊ะตามโซนและบัตร เสียงดนตรีและการแสดงบนเวทีเริ่มขึ้น วันนี้เป็นวันแห่งการคืนสู่เหย้าร่างบางที่วันนี้แต่งตัวในชุดเดรทเว้าหลังเปลือยถึงเอวรัดรูปสีขาวสะอาด เธอสวยและสง่าใบหน้านั้นถูกเติมแต่งแต่ทว่าไม่ได้หนักแต่ละมุนสวยฉ่ำเข้ากับผมสีน้ำตาลอ่อนลอนสวย เสื้อผ้าหน้าผมนั้นถูกเพื่อนสาวสองอย่างนุ๊กนั้นเป็นคนเนรมิตจัดหาและแต่งให้ และแพมเองก็สวยไม่แพ้กันเธอมากับแฟนหนุ่มที่เป็นรุ่นเดียวกันคณะบริหาร “สวัสดีเลือดสีฟ้าขาวศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยBAทุกท่าน วันนี้จะมีโชว์พิเศษจากศิษย์เก่าหนุ่มๆคณะวิศวกรรมศาสตร์ รับรองว่าจะทำให้สาวๆเซอร์ไพรส์ไปกับพวกเค้า” พิธีกรหนุ่มหล่อบนเวทีได้กล่าวเปิดงานและเตรียมการแสดงไฮไลต์เอาไว้ “แปะ! แปะ! โฮ่วๆๆๆ…กรี๊ดดด!!” เสียงปรมมือและเสียงโฮ่ร้องกรี๊ดสนั่นเมื่อผ้าม่านที่ปิดกั้นฉากบนเวทีเลื่อนออก ปรากฏภาพนักร้องหนุ่มหล่อในชุดสูทสุภาพและวงของเขาหน้าตาดีกันทุกคน “กรี๊ดๆๆๆ!…พี่เคนโซ่พี่ปกป้องพี่ภูริพี่ดรีมวิศวะโยธา” “อร๊ายยย!!!…ผัวกลับมาแล้ว” เหล่าบรรดาสาวๆต่างเซอร์ไพรส์กันทั้งหอประชุม เพราะแก็งค์วิศวะของเคนโซ่และเพื่อนๆร้องเพลงโชว์บนเวที โดยคนที่เป็นนักร้องนำเสียงเพราะนุ่มทุ้มก็คือเคนโซ่ส่วนมือกลองคือภูริและมือเบสคือปกป้อง ทั้งสามหนุ่มร้องและเล่นดนตรีสด ในอดีตสมัยเรียนทั้งสามคนคือนักร้องของมหาลัย เนื่องจากต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศถึงสองปีจึงห่างหายไป แต่ทว่าปีนี้พวกเขาได้กลับมารวมตัวกันและมาร่วมงานคืนสู่เย้าในปีนี้ สายตาคมใบหน้าหล่อทรงผมที่เซทมาอย่างดีของนักร้องนำมองตรงมาที่ร่างบางที่นั่งอยู่ เฟื่องนิมมานเผลอสบตาคมคู่นั้นในใจคิดว่าทำไมเขาถึงเลือกร้องเพลงนี้เพราะเป็นเพลงที่เธอนั้นชอบ จึงพยายามหลบสายตาและเลือกที่จะชนแก้วและสนใจเพื่อนๆแทน ~ ฮู้! ฮู้! ~ ~ เธอคือหัวใจ เธอคือแสงไฟ เธอคือสายลมที่พัดพา ~ ~ ฉันเพิ่งรู้ใจตัวเองว่า….ฉันรักเธอและฉันรักเพียงแค่เธอ ~ ~ โปรดกลับมาได้มั๊ย…กลับมาหาฉันคนโง่งมงาย ชีวิตที่ไม่มีเธอมันเหมือนคนที่ใกล้จะตาย วิญญาณแหลกสลายหายไปกับสายลม~ เมื่อเพลงแรกจบลงเคนโซ่และทุกคนจึงทักทายกล่าวคำขอบคุณเหล่าอาจารย์และศิษย์เก่าทุกคน วันนี้เป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้ก้าวออกมารั้วมหาลัยพวกเขาได้คืนสู่เย้าอย่างแท้จริง “กรี๊ดดด! เพราะมากๆพี่เคนโซ่ พี่ดรีม พี่ป้อง พี่ภู เอาอีกๆ” “วันนี้พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากครับที่ได้กลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง และผมกับวงก็คิดถึงบรรยากาศและอาจารย์เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน พวกเรากลับมาแล้วครับ” “อร๊ายยย! ผัวฉันๆกลับมาแล้าค่า” “ขอบคุณๆครับสำหรับเสียงเชียร์และต้อนรับอย่างอบอุ่น มีอ**บทเพลงหนึ่งที่มีคนๆหนึ่งซึ่งเธอจะชอบขอให้ผมร้องให้ฟัง ผมอยากจะบอกเธอนะครับว่าความหมายของเพลงนี้มันคือเพลงของเรา” “พี่โซ่หมายถึงใคร แฟนเขาพี่พิมพ์มาดารึเปล่าเธอก็มาด้วยนะ น่าอิจฉาที่สุดโรแมนติกมาก” “ผมขอมอบเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกับเพื่อนๆในวงซ้อมแล้วเจอกับเธอในวันนั้น เพลงนี้มีชื่อว่า…เธอคือดาวในฝัน” “อร๊ายยย! กรี๊ดด! ฉันรักพวกเค้า!” “ว๊าย! แก็งค์วิศวะโยธาอีเฟื่องสามคนนี้โผล่มาได้ไง?” “หึ! ฉันชักจะไม่สนุกแล้วอะแก” “คนตั้งเยอะไอ้สามตัวนั้นมันไม่เห็นพวกเราหรอกมาๆชนแก้วๆ วู้!!” แพมเลือกที่จะชนแก้วเธอนั้นเริ่มกรึ่มๆ เพราะวันนี้มากับแฟนหนุ่มและเธอเองเป็นประธานรุ่นของคณะจึงสนุกเพราะได้เจอเพื่อนๆและรุ่นพี่ “เออๆ ช่างแมร่งไม่เกี่ยวอะไรกันสักหน่อยอย่าไปสนอะหมดแก้ว” เฟื่องยกแก้วเหล้าขึ้นมาและชนไม่ยั้งเธอเลือกที่จะไม่สนใจวงของนักร้องหน้าหล่ออดีตคนรักบนเวที เพราะกลัวใจตัวเองว่าจะหวั่นไหวไปกับเขาอีกครั้งเนื่องจากเคนโซ่นั้นหล่อเท่ห์และร้องเพลงเก่ง เขาดูดียิ่งกว่าตอนสมัยเรียนขึ้นมาก “เอ้า! วันนี้ไม่เมาไม่กลับฉันคิดถึงพวกแกมากขอบคุณนะที่มาเฟื่อง นุ๊ก แพม” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มกอดคอและยกแก้วชนเพราะความคิดถึงและดีใจ หลังจากเรียนจบก็ไม่เคยมีโอกาสได้พบกันงานคือสู่เหย้าจึงเป็นงานที่ได้เจอเพื่อนๆ “อื้อ! ฉันก็ดีใจ” “อีเฟื่องมึงหน้าแดงแล้ว ฮ่าๆๆๆ” “อย่าได้แคร์เดี๋ยวงานเลิกไปต่อกูเลี้ยงพวกมึงเองวู้!!” ร่างบางที่กำลังกรึ่มๆเอ่ยปากชวนกลุ่มเพื่อนเก่าที่ร่วมโต๊ะVIP ไปดื่มต่อเพราะติดลม “อีแพมบอกผัวมึงอย่าเมานะคืนนี้ ต้องพากูกับอีนุ๊กกลับคอนโดด้วย” ร่างบางพูดเสียงยานเพราะเริ่มเมา “ตามสบายเลยเฟื่องเราจะไปส่งทุกคนเอง” แฟนหนุ่มของแพมเขาเป็นสุภาพบุรุษอาสาไปส่งทุกคน เขานั้นจะตามแพมกับเพื่อนของเธอไปเที่ยวบ่อยๆจึงชิน “เฟื่อง” “อ้าว! ปกป้อง” “เราขอชนแก้วหน่อยดิพอดีกลับมาจากญี่ปุ่นแล้วอยากจะมาทักทาย” ปกป้องหลังจากลงจากเวทีเขาก็มุ่งตรงมาหาร่างบาง เพราะเวลาอยู่บนเวทีโต๊ะของเฟื่องและเพื่อนๆนั้นมองเห็นชัดเจนวันนี้เฟื่องสวยเซ็กซี่และสง่าออร่ามากที่สุด “ยินดีนะปกป้องที่เรียนจบ นายต้องได้เกียรตินิยมแน่เลย” “ไม่พลาดฉันกับไอ้โซ่ได้อยู่แล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้มปกป้องนั้นชื่นชอบในตัวของเฟื่องมานานแล้ว และเขาก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปทักทาย “อื้ม! ป้องเก่งอยู่แล้วเฟื่องไม่แปลกใจ” มือบางยกแก้วขึ้นมาและจิบบางๆยืนคุยอย่างออกรสกับเพื่อนของอดีตคนรัก “โซ่ เคนโซ่ร้องเพลงเพราะจังเลยพิมพ์ไม่ได้ยินโซ่ร้องเพลงมานานมาก” ดาราสาวสวยพิมพ์มาดาก็มางานเลี้ยงรุ่นในวันนี้กว่าเธอจะฝ่าวงจากเพื่อนๆออกมาได้ก็ยาก เธอทั้งโดนขอถ่ายรูปและขอลายเซ็น “อื้ม! ฉันไม่ได้ร้องมานานไม่ได้ซ้อมด้วยเพิ่งจะมาเตรียมเมื่อเช้านี่เอง” ใบหน้าหล่อทำหน้านิ่งแต่ทว่าสายตาก็แอบมองโต๊ะของเฟื่องที่ยืนคุยสนิทสนมกับปกป้อง เพื่อนสนิทที่ชอบและมีรสนิยมเหมือนกันกับเขา “ปกป้องล่ะภูริหายไปไหนเมื่อกี้ยังเล่นเบสอยู่บนเวทีอยู่เลยเท่ห์เอาเรื่อง” มือบางยกนิ้วให้กับภูริเพราะวันนี้วงของพวกเขาร้องดีและเท่ห์มากจริงๆ “นู้น ไปหลีหญิงคณะอักษรโซนVIP” นิ้วเรียวของภูริชี้ไปที่เพื่อนเพราะเขาตัวสูงเด่นและแต่งตัวภูมิฐานยืนอยู่กับเฟื่อง “นั่น! กลุ่มของเฟื่องนิมมานนี่นาตอนนี้ดังแล้วนะพิมพ์กำลังจะเล่นซีรี่ย์ที่เป็นบทประพันธ์ของเธอ” “ไม่น่าเชื่อเฟื่องมีอะไรที่น่าเซอร์ไพรส์เสมอ” ภูริยกยิ้มขึ้นมุมปากสายตาเขาก็มองไปที่ใบหน้าของเคนโซ่ที่มันดูครุ่นคิดและดูไม่สบอารมณ์ เพราะปกป้องนั้นเข้าไปหาคนที่เขานั้นหวงมากตั้งแต่ไหนแต่ไร “โซ่ ไม่สนุกเหรอคะเราไปหาป้องไหม?” “ดีเหมือนกัน” ร่างสูงก้าวเท้าเดินตรงไปที่โต๊ะVIPคณะอักษรศาสตร์เขาเดินลิ่วนำหน้าพิมพ์มาดาไม่สนใจเธอ ร่างบางในชุดเดรทสายเดี่ยวรัดรูปโชว์สัดส่วนรีบเดินตามทันที เมื่อมาที่โต๊ะทุกคนต่างมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบนิ่งไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ “เฮ้ย! ไอ้โซ่มากับพิมพ์เหรอ?” “อ้าว ปกป้องหวัดดี” “หวัดดีพิมพ์เดี๋ยวตามไปที่โต๊ะนะไอ้โซ่มึงมาตามกูทำไมวะ?” “กูจะไปต่อที่ร้านข้างนอกในนี้คนเยอะอึดอัด” ใบหน้าหล่อมองไปที่ร่างบางสายตาคมกริบจ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ เขาไม่ชอบชุดที่ร่างบางสวมใส่มันดูดีแต่มันโชว์เนื้อหนังมากเกินไป ดูแล้วจิตใจเขานั้นไม่สบายว้าวุ้นและขัดสายตาไปหมด “กูขอไม่ไปกับมึงนะวันนี้เพราะกูจะไปกับกลุ่มของอักษรศาสตร์โต๊ะนี้” ปกป้องปฏิเสธเสียงแข็งเขานั้นอยากจะไปกับสาวสวยแซ่บมากความสามารถอย่างเฟื่องนิมมาน “ร้านไหน?” “Memo CIub” “กูก็จะไปร้านนี้กับไอ้ภูพอดี” “เหอะ! ร้านมีตั้งเยอะมึงทำไมต้องไปร้านเดียวกับพวกกูปกติมึงไม่ชอบร้านแนวนี้นี่?” “กูก็อยากเจอเพื่อนเก่าๆแบบมึงไงไอ้ป้อง” พูดเสร็จร่างสูงก็หันหลังเดินกลับไปก่อนเขาจะไปก็มองไปที่เฟื่องตั้งแต่หัวจรดเท้าสลับกับเพื่อนของเขา เฟื่องแพมและนุ๊กเลือกที่จะเงียบไม่ทักทายหรือพูดคุยกับเขาเพราะไม่อยากมีเรื่อง “ชิ! ไอ้โรคจิตอย่าเมาแล้วแรดเอากับผู้หญิงแล้วโทรมาหาฉันอีกนะ” เฟื่องได้แต่ด่าเขาในใจเพราะวันนี้เธอดูสีหน้าท่าทางของเคนโซ่เขาดูน่ากลัวและดูดุ ทั้งสีหน้าแววตาและคำพูดมันฟังดูไม่เป็นมิตร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม