บทที่ 12 ฉันคืออคิรา

1769 คำ
เอี๊ดดด!… เสียงเบรครถสปร์อตหรูคันงามดังขึ้นหน้าสำนักพิมพ์ ร่างบางของเฟื่องนิมมานรีบวิ่งลงจากรถด้วยความตื่นตระหนัก ใบหน้าสวยที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเธอมุ่งหน้ามาที่ห้องฝ่ายบัญชีทันที “เฟื่องมาแล้ว” “มันเกิดขึ้นได้ยังไง พี่นกเฟื่องคิดไม่ถึงว่าพี่จะหักหลังพวกเรา” “พี่ไม่ได้โกงนะน้องแพมใส่ร้ายพี่ค่ะ น้องแพมนั่นแหล่ะเป็นคนเอาเงินนั่นไป” “เฮ้ย! อีพี่นกฉันเป็นคนจับโป๊ะพี่ได้ ยังจะมาหน้าด้านใส่ความฉันอีก” “นุ๊กพี่พัตเตอร์แพมสรุปคือยังไงทำไมพี่นกถึงพูดแบบนี้?” “เฟื่องกูไม่ได้ทำนะกูต่างหากที่เป็นคนจับได้มึงเชื่อใจกูได้” แพมน้ำตาคลอทุกคนอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด “มีอะไรให้ฉันช่วยไหมเฟื่องนิมมาน?” ร่างสูงของชายหนุ่มผู้ที่ทุกคนต่างตกใจคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา เคนโซ่เดินตามเฟื่องเข้ามาที่ห้องฝ่ายบัญชี “เคนโซ่นี่นายมาได้ยังไง?” นุ๊กและแพมต่างตะลึงที่เห็นเขาเข้ามาที่สำนักพิมพ์ “ฉันมาส่งเฟื่องเองเรื่องมันยาวน่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องช่วยง้างปากโจรปากแข็งสักทีอย่าให้ต้องถึงมือฉัน” “โซ่เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายกลับคอนโดไปเถอะขอบคุณมากนะสำหรับวันนี้” เฟื่องเธอไม่อยากให้เขาต้องมารับรู้เกี่ยวกับปัญหาของเธอในสำนักพิมพ์ “เหอะ! แต่เท่าที่ดูเธอจัดการไม่ได้นะเฟื่อง” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มที่มุมปากเบาๆ เขามองดูทุกคนที่ต่างจัดการปัญหาและคนโกงไม่ได้ “น้องแพมค่ะน้องแพมเป็นคนเอาเงินไปทั้งหมดนกไม่เกี่ยว” หัวหน้าฝ่ายบัญชีปฏิเสธเสียงแข็ง เธอยืนยันว่าคนที่ยักยอกเงินคือแพม “อีพี่นกทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ” “ใจเย็นๆแพม” พัตเตอร์รุ่นพี่ที่ดูแลระบบไอทีและแอปพิเคชั่นของสำนักพิมพ์ ปลอบใจรุ่นน้องและห้ามไม่ให้แพมเข้าไปทำร้ายหัวหน้าฝ่ายบัญชี “ทุกคนออกไปก่อน ขอผมคุยอะไรกับพี่บัญชีสักสิบนาทีเดี๋ยวก็คงได้คำตอบ” เคนโซ่ขอให้ทุกคนออกไปจากห้องเขามีท่าทางจริงจัง และหนักแน่นสายตาเขาดูดุและน่าเกรงขามมาก “ได้เคนโซ่พวกเราจะรอที่หน้าห้อง” จากนั้นทุกคนจึงออกไปนอกห้องบัญชีเหลือเพียงหัวหน้าฝ่ายบัญชีและเขา ร่างสูงของเคนโซ่จึงเดินเข้ามาใกล้เธออย่างช้าๆและนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าหัวหน้าบัญชีที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ มือหนาจึงเชิดคางเธอขึ้นพร้อมกับถามคำถาม “คุณช่วยพูดความจริงให้ผมฟังหน่อย” “ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันไม่ได้ทำคน ที่ทำคือน้องแพม” “งั้นเหรอ? ผมจะให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย ถ้ายังไม่ยอมรับผมจะใส่กระสุนที่ปืนหนึ่งนัด ถ้าคุณโกหกหนึ่งครั้งผมจะยิงหนึ่งครั้ง” ร่างสูงจึงลุกขึ้นยืนแล้วหยิบปืนลูกโม่ขนาดพกพาขึ้นมา เขาเลือกปืนชนิดนี้เพราะต้องการจะข่มขู่ ถ้าหากเขาต้องการจะยิงจริงๆคงจะไม่เลือกกระบอกนี้มา “คะ…คุณเป็นใครเกี่ยวอะไรด้วย?” หัวหน้าบัญชีพูดติดๆขัดๆเสียงสั่นเหงื่อแตก เธอมองดูชายหนุ่มรูปหล่อแต่เขาดูน่ากลัวอำมหิตดวงตาไร้แววปราณี “หึ! ฉันคือ อคิรา ส่วนเฟื่องนิมมานคือผู้หญิงของฉัน เธอรนหาที่ตายเองนะ” ปากหยักแสยะยิ้มสายตาเยือกเย็นโทนเสียงทุ้มกดต่ำ มือหนาก็ค่อยๆยื่นกระบอกปืนเล็งไปที่หัวของหัวหน้าบัญชีกำลังจะเหนี่ยวไก “กรี๊ดดด! กลัวแล้วๆๆฉันยอมแล้ว ฮือๆๆๆ อย่ายิงฉันเลย” หัวหน้าฝ่ายบัญชีร้องลั่นตัวสั่นเหมือนลูกนก เธอกลัวจนฉี่ราดเพราะเคนโซ่นั้นดูน่ากลัวมาก “บอกกูมาว่าใครเป็นคนเอาเงินเฟื่องไป?” “ฮือๆๆๆ ฉันเองฉันเป็นคนเอาเงินนั่นไป” “เหอะ! เลวกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา” “เอาปืนออกไปก่อน ฮือๆๆๆ” “จะให้ฉันโทรแจ้งตำรวจเลยไหม ถ้าเธอไม่เอาเงินที่เอาไปมาคืน” “อย่านะคุณอคิราดิฉันขอร้อง เงินทุกบาททุกสตางค์ฉันจะหาคมคืนคุณเฟื่องเอง อย่าแจ้งตำรวจเลยนะฮือๆๆๆ” หัวหน้าบัญชีร้องไห้เธอกลัวเขามากจึงนั่งลงไปกับพื้นกอดขาของเคนโซ่ เพื่อขอความเห็นใจไม่ให้แจ้งความเอาผิด “เธอรู้ตัวไหมนอกจากเธอทำผิดยังไม่ยอมรับแล้วยังโยนความผิดให้กับแพมเพื่อนของเฟื่องอีก เธอเป็นคนที่เลวสมบูรณ์แบบจริงๆ” “อึก! ฮือๆๆ ขอร้องฉันไหว้คุณแล้วก็ได้ อย่าแจ้งความนะฉันมีครอบครัวต้องดูแล” หัวหน้าบัญชียกมือไหว้เขาและสะอื้นไห้ ทางด้านหน้าประตูที่มีพัตเตอร์เฟื่องนุ๊กและแพมแอบฟังอยู่ ทุกคนได้ยินทุกคำพูดของเคนโซ่และหัวหน้าฝ่ายบัญชี และต่างต้องตกใจล้มกลิ้งเสียหลักเพราะเคนโซ่ดึงประตูเพื่อเปิดให้ทุกคนเข้ามา “แกร่ก” “ว๊ายย!…ตาเถร! “แอบฟังฉันคุยกับขโมยอยู่ละสิ ชิ!” “ไม่ต้องแอบเสียงดังลั่นห้องขนาดนั้นฉันได้ยินหมดแล้ว” เฟื่องนิมมานที่ได้ยินทุกอย่างที่เคนโซ่พูด โดยเฉพาะประโยคที่เขาบอกหัวหน้าฝ่ายบัญชีไปว่า “หึ! ฉันคือ อคิรา ส่วนเฟื่องนิมมานคือผู้หญิงของฉัน เธอรนหาที่ตายเองนะ” ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเธอรู้สึกตื่นเต้นหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง “หมดหน้าที่ฉันแล้วนะเฟื่อง ส่วนเรื่องเงินหรือคดีความเธอให้ฝ่ายนิติจัดการหรือจะจ้างทนายก็ได้” “ไม่ค่ะคุณเฟื่องพี่นกจะค*****นที่ยักยอกไปทุกบาททุกสตางค์เองค่ะ พี่ไม่ได้ใช้เงินนั่นเลยสักบาทและพี่ก็ขอโทษน้องแพมด้วยที่ใส่ร้าย ขอโทษทุกๆคนจากใจค่ะที่ทำอะไรแย่ๆลงไป” “ดีค่ะพี่นกแพมถือว่าเป็นบทเรียนนะคะ พี่อย่าทำแบบนี้กับใครอีก” “พี่นกเฟื่องคงต้องไล่พี่ออก และจะไม่ให้เงินเดือนพี่ลาออกสามเดือนแบบคนอื่น” “ขอบคุณน้องเฟื่องแค่นี้พี่นกก็ดีใจมากแล้วค่ะ นี่คือสมุดบัญชีเงินฝากของพี่เงินทั้งหมดอยู่ในนี้ค่ะ” หัวหน้าบัญชียื่นสมุดบัญชีเงินฝากให้ และเฟื่องนิมมานจึงรับเอาไว้เธอเปิดดูก็พบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีสิบล้านบาทจริงๆ “งั้นเราไปที่ธนาคารกันค่ะพี่นกไปกับเฟื่องและเคนโซ่เพราะเขามีปืน ถ้าพี่ตุกติกคิดจะหนีหรือไม่คืนเฟื่องคงต้องพึ่งเขา” ใบหน้าสวยหันไปสบตาร่างสูงที่ยืนกอดอกอยู่ เขาพยักหน้าตอบรับพร้อมที่จะไปกับเธอ “ให้พี่ไปด้วยไหมน้องเฟื่อง?” พัตเตอร์หนุ่มหล่อเนิร์ดถามรุ่นน้องเจ้าของสำนักพิมพ์ด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไรค่ะพี่พัตเตอร์ แค่โซ่คนเดียวเขาไหวถึกอย่างก่ะวัว” “นี่! เฟื่องเธอหลอกด่าฉันเหรอ?” เคนโซ่ถลึงตาใส่เฟื่องทันที “คิคิ!..” ทุกคนต่างหัวเราะที่ได้ยินทั้งสองคนทะเลาะกัน “เฮ้ออ! หมดทุกข์หมดโศกสักทีนะ สงสัยคงต้องได้ทำบุญใหญ่สำนักพิมพ์กันแล้วพวกเรา” “อีนุ๊กมึงรู้จักพระสงฆ์องค์เจ้ากะเค้าด้วยเหรอ?” “อ้าว อีนี่เดี๋ยวเถอะ” หลังจากนั้นเคนโซ่จึงอาสาขับรถพาเฟื่องและหัวหน้าฝ่ายบัญชีไปธนาคารที่ใกล้ที่สุด เขานั้นขับรถไปด้วยความระมัดระวังไม่เหมือนตอนขามาที่เร็วเหมือนพายุ เมื่อเสร็จธุระเงินถูกถอดแล้วนำมาฝากเข้าบัญชีสำนักพิมพ์ทั้งหมด เคนโซ่จึงพาเธอกลับสำนักพิมพ์ @สำนักพิมพ์นิมมาน “พวกเราทุกคนต้องขอบคุณเคนโซ่จากใจจริงนะ” นุ๊กที่นั่งอยู่ในห้องทำงานของเฟื่อง และทุกคนก็มารวมตัวที่ห้องนี้ “ไม่เป็นไรฉันไม่ได้ลำบาก” “เฟื่องแล้วรถแกละ?” “อยู่ที่กองถ่ายพรุ่งนี้ค่อยไปเอา” “แกเชื่อใจฉันใช่ไหมเฟื่องตอนที่พี่นกกล่าวหาว่าฉันเป็นคนเอาเงินไป?” “อื้ม! ฉันไว้ใจแกฉันไม่เชื่อพี่นกนั่นหรอก” “ขอบคุณนะเฟื่องฉันรักแก” เพื่อนรักทั้งสามนุ๊กเฟื่องและแพมยืนกอดกันด้วยความตื้นตันใจ เพราะทุกคนรักสำนักพิมพ์นี้มากและรักเพื่อนมากเช่นกัน มิตรภาพของพวกเธอนั้นสำคัญมากกว่าเงินทอง “ผัวโซ่ขาาา…คืนนี้เมียนุ๊กจะพาผัวไปฉลองนะคะ ถือว่าเป็นการขอบคุณ” นุ๊กเดินมานั่งเบียดเคนโซ่ที่โซฟารับแขก เอาหัวมาซบไหล่หนาของเขาอย่างออดอ้อน “มีใครไปบ้าง?” “ก็มีพวกเราทุกคนนี่แหล่ะ” “นุ๊กฉันไม่ไปได้ไหมแก รู้สึกครั้นเนื้อครั้นตัวเหมือนจะไข้” เฟื่องนิมมานที่เธอนั้นไม่อยากไป เพราะเคนโซ่ไปด้วยเธอเลือกที่จะปฏิเสธ “อีเฟื่องมึงนั่นแหละยิ่งต้องไป เคนโซ่มันอุตส่าห์ขับรถมาส่งเป็นธุระให้ทุกอย่าง” “เออๆ…ไปก็ไปแต่กูขอไปโฮสนะ” “ชิ! ทั้งปีแหล่ะมึงอีเฟื่องติดน้องริวกิละซิ” “เปล่าน้องเค้าติดกูต่างหากอีนุ๊ก” “งั้นเจอกันที่ร้านสีาทุ่มนะทุกคน วันนี้แยกย้ายกันแค่นี้ฉันขอตัวกลับคอนโดก่อน” เฟื่องบอกลาทุกคนและเดินสพายกระเป๋าออกจากห้อง แล้วไปยืนรอรถที่หน้าสำนักพิมพ์ “เธอทำไมถึงไม่ให้ฉันไปส่ง” รถสปอร์ตหรูสีเทาของเคนโซ่จอดอยู่ตรงหน้า เขาถามเธออย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ฉันเรียกรถสะดวกกว่านายกลับไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะขอบคุณมากนะโซ่” “ถ้าเธอไม่อยากติดหนี้บุญคุณฉันอีกเรื่องก็ขึ้นรถมาฉันจะไปส่งเอง” “ไม่ง่ะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเหล้านายเองที่บาร์” “เฟื่องนิมมานอย่าทำให้ฉันโกรธ ถ้าฉันลงไปฉันเอาเธอในรถแน่” สายตาคมและน้ำเสียงดุดันของเคนโซ่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาไม่พอใจ จึงขยับตัวกำลังจะเปิดประตูรถเพื่อลงไปลากตัวคนดื้อให้ขึ้นรถไปกับเขา เฟื่องรู้จักนิสัยเขาดีว่าเขาเป็นคนพูดจริงทำจริง จึงรีบเปิดประตูรถแล้วเข้านั่งอย่างว่าง่าย “ไอ้บ้า นายมันโรคจิต” “เหอะ! เร็วๆฉันร้อน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม