8

1548 คำ
“ลุงมาหาใครครับ” ประโยคของเด็กน้อยทำให้เวทิตาต้องเงยหน้ามองผู้มาใหม่ ตอนแรกคิดว่าเป็นลูกค้า แต่พอเห็นว่าเป็นสิบทิศ เธอก็สะบัดหน้าใส่เขาในทันที “เข้าบ้านมาจ้ะต้น อย่าไปยุ่งกับคนแปลกหน้า” “พี่ไม่ใช่คนแปลกหน้า เรารู้จักกันดีนี่ครับ” “กลับไปเสียเถอะค่ะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก” “หรือเวจะให้พี่บอกว่าเด็กคนนี้ลูกใคร” “แล้วลูกใครล่ะคะ” “ให้บอกลูกตอนนี้เลยใช่ไหม” “ต้นครับ หนูไปเล่นหลังบ้านก่อนนะ เดี๋ยวแม่ตามเข้าไป” “ครับ” ต้นกล้าไม่เคยดื้อกับมารดา แม้จะสงสัยว่าผู้ชายแปลกหน้าคนนี้เป็นใคร แต่ถ้ามารดายังไม่ปริปากบอก เด็กน้อยก็จะค่อย ๆ ถามในภายหลังเอง จะไม่รบเร้าทำตัวให้มารดาต้องหนักใจ “ลูกของเราไม่ดื้อ น่ารักจังเลยนะครับ” สิบทิศเอ่ยชม “ต้นกล้าเป็นลูกของฉันไม่ใช่ลูกของคุณ” “เวไม่มีใครนอกจากพี่ แล้วเวจะไปท้องกับใคร” “ฉันมีผู้ชายมาชอบตั้งหลายคน ฉันหลายใจเจ้าชู้ คุณลืมไปแล้วเหรอไง” เธอประชดเขา เมื่อหลายปีก่อนเขาหาว่าเธอคบผู้ชายหลายคน เลยทะเลาะกันยกใหญ่ เธอเครียดเรื่องยายป่วย เขาก็ไม่เคยถาม มีแต่หึงหวง เธอคิดว่าเขากับเธอคงไปกันไม่รอด และมันก็ไม่รอดจริง ๆ เขาทิ้งเธอไปในขณะที่เธอท้อง และยายก็เสียชีวิตลงในเวลาอันรวดเร็ว งานศพของยายเขาไม่มาเลยสักครั้ง เพราะหนีไปอยู่ที่กรุงเทพฯ เธอรู้แค่นี้จริง ๆ เกี่ยวกับผู้ชายที่เป็นพ่อของลูก “พี่ขอโทษ ตอนนั้นพี่หึงหวงเวมาก เวก็รู้ว่าพี่รักเว” “ตลกจังค่ะ มันผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว จู่ ๆ ทำไมคุณถึงมาบอกฉันว่ารักฉันล่ะคะ” “ตอนนั้นเรายังเด็กกันอยู่มาก พี่ยอมรับว่าหึงเว หวงเว แต่ตอนนี้เราโตแล้ว มีลูกด้วยกันแล้ว เราควรคุยกันให้เคลียร์ ๆ” “ฉันไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเสวนากับคนเช่นคุณ คุณมันเป็นคนไม่มีเหตุผล ไม่เคยฟังเหตุผลคนอื่น เอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่” “ตอนนั้นพ่อกับแม่ของพี่เสียชีวิต พี่เสียใจมาก แล้วยายของพี่ป่วย พี่ก็ต้องไปดูแลยายที่กรุงเทพฯ” “คุณอ้างหรือเปล่า ไม่ใช่คิดจะฟันแล้วทิ้งหรอกหรือคะ” เธอขมวดคิ้วเข้าหากัน ยอมรับว่าไม่เคยรู้เรื่องราวอะไรของเขาเลย อาจเพราะเธอไม่อยากรับรู้ ปิดกั้นไม่ยอมตามสืบหาความจริงใด ๆ ทิฐิที่ทำให้เธอไม่สนใจเรื่องของเขา เธอคิดว่าหากเขาทิ้งเธอไป แล้วเธอจะไปสนใจเรื่องของเขาทำไม รู้แล้วจะมีประโยชน์อะไร รู้แล้วก็มีแต่จะทำให้เสียใจเปล่า ๆ ยิ่งถ้ารู้ว่าเขามีคนอื่น หรือแค่หลอกเธออยากได้พรหมจรรย์เฉยๆ จะยิ่งเจ็บปวดใจ เธอจึงหนีจากความจริงทุกอย่างที่ควรจะรู้ “พี่ไม่ได้อ้าง พี่ไปดูแลคุณยายที่ป่วยหนักจริง ๆ พี่อยากดูแลท่านให้ดีที่สุดในวาระสุดท้าย” สีหน้าแววตาและน้ำเสียงเศร้าของเขาทำให้เธอเองนึกถึงยายของตัวเอง ที่เธอก็อยากดูแลท่านให้ดีในวาระสุดท้ายของชีวิตเช่นกัน “แล้วไงคะ” เวทิตาใจแข็งเหมือนเดิม เธอเอ่ยถามเขาอย่างเย็นชา “พี่ไม่รู้ว่าเวท้อง” “คุณไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับฉันเลยต่างหากล่ะคะ” “ตอนนั้นเวไม่มีโทรศัพท์ แล้วพี่ก็เสียใจเรื่องพ่อแม่ ยายก็ป่วย พี่ฝากเพชรมาบอกแล้วว่าให้เวมาหาพี่ พี่จะไปกรุงเทพฯ แต่เวไม่ไป” “เพชรไม่เห็นบอก” “เวไม่มาหาพี่ พี่ก็ฝากที่อยู่ที่กรุงเทพฯ ไว้กับเพชร เพราะติดต่อเวไม่ได้ เวไม่มีโทรศัพท์ พี่ไปกรุงเทพฯ ก็โทร. มาถามเพชร แต่เพชรบอกว่าเวไม่อยากรับรู้เรื่องของพี่ ยายของพี่ป่วยหนักมาก ท่านต้องการคนดูแล ต้องการกำลังใจ พี่เป็นหลานคนเดียว เลยต้องทุ่มเทกับการดูแลท่าน” ประโยคของเขาทำให้เวทิตาขมวดคิ้วเข้าหากัน ในเมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้ว เธอเองก็ควรที่จะพูดสิ่งที่ค้างคาในอดีตกับเขาให้รู้เรื่อง จะได้จบ ๆ กันไปเสียที “ฉันบอกเฮียรันต์เพื่อนของคุณให้ไปบอกคุณว่ายายป่วยหนัก ให้คุณมาดูใจยายหน่อย ยายอยากเจอคุณ แต่คุณก็ใจดำไม่มาหายายเลยสักครั้ง” “รันต์ไม่เคยบอกพี่เลย” “เพราะเขาบอกคุณไม่ทันไงล่ะ คุณหนีเข้ากรุงเทพฯ ไปเสียก่อน เพื่อไม่ต้องรับผิดชอบฉัน” “ก่อนไปกรุงเทพฯ เมื่อหลายปีก่อนพี่ได้เจอกับรันต์นะ รันต์จะมาไม่ทันได้ยังไง แต่เรื่องนี้ไม่เห็นรันต์บอกอะไรพี่เลย” คนพูดงงเป็นไก่ตาแตก “แสดงว่าต้องมีคนใดคนหนึ่งโกหก ต้องถามให้รู้เรื่อง” “เวไปถามเพชรสิว่าเรื่องราวจริง ๆ มันเป็นยังไง พี่ไม่เคยคิดจะทิ้งเว ถึงแม้ว่าเราจะมีปัญหาไม่เข้าใจกันในตอนนั้น พี่ก็อยากเคลียร์ อยากปรับความเข้าใจกับเวนะ แค่พี่อยากขอเวลาดูแลยายก่อน และยอมรับว่ายังไม่คิดเรื่องการมีครอบครัวเพราะยังเด็กอยู่ แต่พี่ก็รักเวจริง ๆ นะ” “คนรักกันคงไม่ทิ้งกันไปนานหลายปีแบบนี้หรอกค่ะ คุณดูแลยายป่วยหนัก แล้วเวลาที่เหลือล่ะคะ คุณก็มีความสุขอยู่ในเมืองกรุงฯ” “ไม่ใช่เลยครับ ยายของพี่ป่วยหนัก แต่เพราะได้กำลังใจที่ดีจากพี่ โรคร้ายที่เป็นจึงทุเลาะลง คุณหมอบอกว่าคุณยายของพี่จะอยู่อีกไม่กี่เดือน กลายเป็นว่าคุณยายอยู่กับพี่ไปอีกหลายปีเลยครับ” “ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าคุณได้ทำหน้าที่หลานได้ดีที่สุดแล้วค่ะ” เธอเองก็ดีใจกับเขาด้วยที่เขาได้อยู่กับยายของเขาจนวาระสุดท้ายและได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนานหลายปีแบบนี้ ก่อนตายท่านคงดีใจที่มีหลานชายอยู่ใกล้ ๆ ไม่เหมือนกับเธอที่ดูแลยายอยู่ไม่กี่วันท่านก็สิ้นใจตาย เพราะเธอเป็นหลานที่ไม่เอาไหน ไม่มีเงิน ไม่มีปัญญาที่จะรักษาท่านให้ดี เวทิตาแอบปาดน้ำตาเบา ๆ “พี่ดูแลยายอย่างดี ทำหน้าที่หลานจนวาระสุดท้ายของท่านแล้ว ต่อไปพี่ก็อยากดูแลเวกับลูกให้ดี ที่พี่กลับมาที่นี่เพราะเว พี่อยากกลับมาเคลียร์ใจกับเวเรื่องวันนั้น ก่อนกลับมาพี่ก็ไม่รู้หรอกว่าเวมีคนรักใหม่แล้วหรือยัง หรือแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วหรือยัง แต่พี่แค่อยากกลับมาหาผู้หญิงที่พี่รักมากที่สุดอีกคนหนึ่งนอกจากแม่กับยายของพี่” “คุณกลับไปเสียเถอะค่ะ เอาเป็นว่าเราเคลียร์กันแล้ว อันไหนฉันสงสัยจะไปหาคำตอบเอง” “พี่จะไม่บังคับหรือกดดันอะไรเว แต่พี่จะมาใหม่เมื่อเวไปหาคำตอบได้เรียบร้อยแล้ว” สิบทิศถอยก่อน เขาเห็นสายตาของเธอที่มองเขาเหมือนต้องการเวลา และเธอก็ไม่ใช่เวทิตาเด็กสาวใสซื่อไร้เดียงสาคนเดิมอีกแล้ว เธอเป็นผู้ใหญ่ มีความเข้มแข็ง เด็ดขาดและยืนหยัด เวลาทำให้คนเราแกร่งขึ้น และมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เขาจึงต้องปล่อยให้เธอหาคำตอบในสิ่งที่อยากรู้ การันต์ที่แอบฟังอยู่ข้างบ้านของเวทิตากำหมัดแน่น ถ้าเวทิตาไปถามพลอยเพชร ความต้องแตกและเวทิตาก็ต้องรู้ความจริงทุกอย่างแน่ ๆ เขาจะไม่มีวันยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่นอน สิบทิศกลับไปแล้ว การันต์จึงเข้าไปหาเวทิตา วันนี้เขาจะต้องได้เธอ รวบหัวรวบหางทำให้เธอตกเป็นของเขาให้ได้ “เวครับ” “อ้าว... เฮียรันต์ มีอะไรคะ มาเสียเย็นเลย” “เฮียเอาพะโล้หมูมาฝากครับ” เขาเป็นเจ้าของเขียงหมู จึงมักจะมีเมนูหมู ๆ มาฝากเธอบ่อย ๆ บางทีก็ข้าวหมูแดง บางทีก็หมูพะโล้ บางทีก็หมูฮ้อง ซึ่งเธอก็ค่อนข้างเกรงใจเขา เพราะรู้ดีว่าพ่อแม่ของเขาไม่ชอบเธอ เรียกว่ารังเกียจเธอจะดีกว่า “เกรงใจเฮียจังเลยค่ะ ไม่น่าต้องลำบากเลย” “ไม่ลำบากหรอกครับ เฮียเต็มใจ เจ้าตัวน้อยอยู่ไหนครับ เรียกให้มากินขาหมูสิครับ เฮียทำขาหมูมาให้ด้วย” “อยู่นี่ครับ” เด็กชายต้นกล้ารีบวิ่งมาหาการันต์ เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขา “วันนี้ลุงเอาขาหมูพะโล้มาให้เราด้วยนะ เห็นว่าเราชอบกิน” การันต์พูดอย่างเอาใจเด็กน้อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม