เมื่อคืนกว่าจะกลับมาถึงที่ห้อง แล้วสำเร็จโทษคนสวยแล้วเวลาก็ล่วงเลย อีกอย่างพศินธ์ทำงานแทบไม่มีวันหยุดเลย ทำให้เขานอนทิ้งตัวไปเลยในค่ำคืนที่ผ่านมา
นับเดือนน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอเสียตัวให้ใครก็ไม่รู้ แล้วก็ยังนอนในห้องของเขาที่ไหนก็ไม่รู้อีกเช่นกัน แล้วเธอจะทำหน้าอย่างไร สาวน้อยก็คิดไม่ออก ตอนนี้ใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
ได้ยินเสียงเขาปิดประตูก็ใจหายแวบ แทบกลั้นหายใจ ได้แต่นอนนิ่ง ๆ ไม่ไหวติง
ชายหนุ่มมาหยุดยืนอยู่ที่ข้าง ๆ เตียง เอื้อมมือหนาไปดึงผ้าห่มที่เธอคลุมใบหน้าเอาไว้ ก่อนจะทรุดนั่งลงข้าง ๆ
ใบหน้าที่อาบน้ำตาปรากฏมาให้เขาเห็น เธอยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาป้อย ๆ มองเขาแบบหวาดกลัว ก่อนจะขยับตัวใช้ฝ่ามือกระชับผ้าห่มเอาไว้แน่น
พศินธ์แค่เห็นหน้านับเดือนในเวลานี้จัง ๆ ยิ่งเห็นหยาดน้ำตาที่รินไหล ก็ใจอ่อนลงยวบ
“อาบน้ำแต่งตัว เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวอีกผืนที่ยังไม่ได้ใช้มาให้ นับเดือนลุกขึ้นนั่ง เธอรับมันมาไว้ด้วยมือที่สั่นเทา
“นับไม่กลับไปที่นั่นแล้ว” เธอเอ่ยตามหลังเขาไปเบา ๆ พศินธ์หยุดยืนนิ่ง แล้วหันหน้ามาหาเธอแบบช้า ๆ
“นับไม่รู้ว่าที่นั่นเขาทำงานแบบนี้ นับไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว” เธอก้มหน้าร้องไห้กับฝ่ามือที่วางไว้บนหัวเข่าสะอึกสะอื้น
พศินธ์รู้สึกตกใจ เริ่มทำตัวไม่ถูกเขาเดินกลับมาหาเธอ แล้วนั่งลงข้าง ๆ ฝ่ามือที่แตะลงบนศีรษะเธอทำให้เธอสะดุ้ง ก่อนจะขยับร่างกายหนีห่างออกจากเขา นับเดือนได้ยินเสียงถอนหายใจของเขาออกมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะเดินไปหยิบมือถือ แล้วเดินไปคุยงานตรงใกล้ ๆ ประตู และโต๊ะทำงานที่วางอยู่ชิดติดผนัง
“ช่างแก่ ผมขอโทษด้วยนะครับ พอดีวันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขอเลื่อนไปเป็นพรุ่งนี้บ่าย ๆ แล้วกันนะครับ”
เขาบอกไปกับปลายสาย ก่อนที่ทางนั้นจะตกลงรับปาก แล้ววางสายไป
พศินธ์หันหน้ากลับมามอง ไม่เห็นเธอที่นั่งอยู่บนเตียงนั้นแล้ว เสียงน้ำในห้องน้ำดังซู่ ๆ เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ มีเพียงผ้าม่านบาง ๆ ขวางกั้น เขาสอดมือยื่นแปรงสีฟันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาและยังไม่ได้ใช้ โยนเข้าไปไว้ในซิงก์ล้างหน้า ก่อนจะหมุนตัวมาหาตู้เสื้อผ้าเพื่อหาอะไรให้เธอใส่ เพราะชุดที่เธอนุ่งมาเมื่อคืน คงไม่เหมาะที่จะใส่แล้วเดินได้ในไซต์งานนี้
เขาได้ยินเธอแปรงฟัน ก่อนเสียงจะเงียบไป
“ออกมาสิ” เขาร้องบอกเธอ หญิงสาวใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เดินออกมาอย่างเหนียมอาย หน้าตาที่ไร้เครื่องสำอางน่าดูน่าชมกว่าเมื่อคืนนี้เสียอีก
“ใส่เสื้อของพี่ไปก่อนนะ” เขายื่นเสื้อเชิ้ตตัวยาวให้เธอ นับเดือนรับมันมาถือเอาไว้แนบอก พศินธ์เลี่ยงตัวเดินเข้าห้องน้ำไป เขาทำธุระอยู่ในนั้นค่อนข้างนานเหมือนกัน
นับเดือนใส่เสื้อผ้าแล้ว ก็นั่งลงที่ปลายเตียง ก้มหน้ามองแต่เท้าของตัวเอง ตอนนี้น้ำตาเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง
“พ่อจ๋า แม่จ๋า ช่วยนับด้วย” เธอรู้สึกเหมือนโลกจะถล่มลงมาตรงหน้า ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างจับหัวใจ
เสียงกระแอมเบา ๆ ทำให้เธอค่อยยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนจะหันหน้ามามองเขาด้วยนัยน์ตาที่เศร้าสร้อย
พศินธ์ถอนหายใจออกมาดัง ๆ อีกครั้ง
‘แม่งไอ้นัส มึงหาเรื่องให้กูแท้ ๆ’ เขากล่าวโทษเพื่อนสนิท ทั้ง ๆ ที่หากเขาไม่สานต่อให้จบ เรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้
“แล้วนับจะเอายังไง” เขาถามเธอขึ้นมา
“ไม่รู้ นับไม่มีที่ไป นับจะมาตามหาแม่” เธอพูดได้แค่นั้น ก่อนจะกลืนน้ำเสียงลงไปในลำคอเหมือนเดิม นึกถึงหนทางข้างหน้ายังมืดมน
“แล้วนับไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง” เขาถามต่อ
“นับนึกว่าเป็นร้านอาหารธรรมดา ไม่คิดว่า...” เธอพูดได้แค่นี้ น้ำตาก็เริ่มเอ่อ
พศินธ์ขยับตัวเข้าไปใกล้ เธอก็ขยับหนีห่าง
“นับ มานั่งนี่” เขาขึ้นเสียงทันทีเมื่อเห็นเธอทำท่าทีรังเกียจและกลัวเขา
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอ แต่ก็ยอมขยับตัวเข้ามานั่งใกล้ แล้วน้ำตาก็รินไหล นับเดือนร้องไห้ตัวโยน เขากระชับร่างเธอเข้ามาในอ้อมแขน ก่อนจะวางคางลงตรงผมของเธอ นับเดือนไม่รู้ว่าทำไม เธอไม่รู้สึกกลัวเขาอีกแล้ว ความอบอุ่นซ่านขึ้นมาในหัวใจ
พศินธ์เชยคางเธอขึ้น ก่อนจะพรมจูบซับน้ำตาให้ นับเดือนมองหน้าเขาตรง ๆ ตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันที่ปล่อยให้เขาทำแบบนั้น
ชายหนุ่มประกบปากลงมาแทบทันที ก่อนจะสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากของเธอ
นับเดือนตัวสั่นไหวยังสะอื้นไห้นิด ๆ แต่ก็ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ
เขาผละริมฝีปากออกมา แต่ยังกอดรัดร่างเธอเอาไว้แน่น นับเดือนถอนหายใจออกมาเบา ๆ ตอนนี้ได้แต่หลับตานิ่ง
“อยู่ที่นี่ไปก่อน คิดได้เมื่อไหร่ จะไปไหน บอกพี่ พี่จะไปส่ง” เขาพูดออกมาแค่นี้ เธอถึงกับเจ็บแปลบเข้ามาในหัวใจ
‘เขาได้ตัวเธอไปแล้ว เขาพูดได้แค่นี้ใช่ไหม ใช่สิ เขาซื้อเธอมาด้วยเงินนี่’
คำตัดพ้อเกิดขึ้นในใจ ร่างบางค่อย ๆ ยันตัวออกห่างจากเขา เธอได้แต่กล่าวขอบคุณเขาออกมาเบา ๆ ตอนนี้หัวสมองหนักอึ้งไปหมด
‘จะทำยังไงต่อไปดีละนับ จะกลับไปหาลุงกับป้าสงสัยเขาไล่ตะเพิดออกมาแน่ ๆ อีกอย่างเอกสารของเธอที่อยู่ในร้านนั้นอีกล่ะ’ เธอสับสนไปเสียหมด
พศินธ์ลุกไปใส่เสื้อผ้า ก่อนจะหันมาพูดกับเธอ
“อยู่แต่ในนี้นะ อย่าออกไป เดี๋ยวพี่ซื้ออะไรมาให้กิน” เขาสั่งเธอเรียบร้อยแล้วก็ออกไป
นับเดือนนั่งฟังเสียงคนงานตอกเสาเข็มสะเทือนไปทั้งคอนเทนเนอร์ เธอนั่งฟังและนับจังหวะตามอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
‘เงินสักบาทก็ไม่มี เอกสารติดตัวก็ไม่มี นับเอ๊ย...’
‘อยู่กับป้ากับลุง ถึงจะโดนโขกโดนสับ ก็ดีกว่ามาอยู่แบบนี้ไหม’
‘ถ้าแกกลับไปสภาพนี้ คงถูกซ้ำเติมแน่ ๆ ’
เธอนั่งคุดคู้ ก้มหน้าลงแนบหัวเข่าน้ำตารื้นนับเดือนคิดไปร้อยแปด ใจหนึ่งก็บอกกับตัวเองก่อนจะถอดถอนหายใจออกมาไม่หยุด