กันตาเม้มปาก เธอไม่เคยเชื่อคำพูดของชายตรงหน้า เขาขึ้นชื่อว่าโกหกเก่งเป็นที่หนึ่ง มีสักครั้งไหมที่เขารับปากเธอแล้วจะทำตาม เหมือนเรื่องสมัยก่อน ตอนที่เธอรวบรวมความกล้าสารภาพรักกับเขา คีรีสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ เขาจะไม่พูดเรื่องนี้ให้บุคคลที่สามฟัง ที่ไหนได้ เช้าวันรุ่งขึ้น เรื่องของเธอกับเขาก็เผยแพร่ ทุกคนในโรงเรียนรู้กันหมด เธอฝืนแบกความอายไว้ในใจแทบตาย
แต่...เขากลับทำตัวเหมือนไม่แยแสอะไรเลย
ในเมื่อเขาอยากให้เธอเป็นเพื่อนไปตลอด กันตาเลยตั้งใจฝังกลบความรู้สึกพิเศษนั่นไว้ในใจชั่วชีวิต
ข่าวเรื่องเขาไปศึกษาต่อต่างประเทศ กันตาหายใจทั่วท้องเป็นครั้งแรก หลังจากต้องแบกรับความอึดอัดไว้ตั้งนาน เธอไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสย้อนกลับมาเจอกันได้
คีรีเป็นคนมีฐานะ ครอบครัวค่อนข้างมีอันจะกิน เขาคงไม่วนเวียนอยู่ในวงจรของเธอ ที่ไหนได้ เธอกับเขาเหมือนจะหนีกันไม่พ้น
เขาผู้ซึ่งเพิ่งกลับมายังไม่ทันถึงสองอาทิตย์ดี
กลับมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
ทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยแท้ๆ
ความลำบากใจแบบนั้น กันตาไม่อยากเจออีกแล้ว เธอไม่มีอะไรจะเสีย หากเป็นความต้องการของเขา เอาสิ เธอจะลอง...
“ถึงตาจะไม่อยากเชื่อความปากพล่อยของเคนท์สักเท่าไหร่นะ แต่ตาก็ต้องลองเสี่ยง ‘สัญญามาก่อนว่าจะไม่พูดให้คนอื่นฟัง’ สัญญามาสิเคนท์”
คีรีขมวดคิ้ว เขาเป็นคนปากพล่อยตอนไหน ทำไมกันตาถึงพูดแบบนั้น เขาอยากจะถาม แต่ความน่าสนใจเรื่องอื่นมีมากกว่า คีรีมองกลีบปากสีระเรื่อตามันวับ
“ได้สิ สัญญา” เขารับปากไปส่งๆ ถึงยังไงเขาก็ไม่เคยคิดจะพูดเรื่องส่วนตัวให้คนนอกฟังอยู่แล้ว
กันตาชั่งใจอยู่ชั่วครู่ เธอเอื้อมมือที่สั่นระริกไปตรงหน้า แล้วก็รีบชักมือกลับเพราะคีรีกระดกบั้นเอว รั้งเอวกางเกงของตัวเองลงต่ำ แววตาเขาวาววับจนน่าตกใจยิ่งกว่า
“เริ่มสักทีสิ” เสียงแหบเครือของเขาเร่งเร้า
กันตาคิดอะไรไม่ออก เธอโน้มตัวไปใกล้ หลุบเปลือกตาลง ตอนที่อ้าปากสวมครอบความอลังการที่ดีดตัวออกมานอกชั้นใน กลิ่นสาบของผู้ชายโชยเข้าจมูก เธอรีบดูดกลืนแก่นกายของเขาเข้าไปในอุ้งปาก
คีรีใจเต้นไม่เป็นส่ำ แต่ทว่ากันตาเงอะงะ ไม่ทันใจ เขาเลยกระดกบั้นเอวเสือกเสยแก่นกายรัวๆ เหมือนกระตุ้นให้กันตาทำตาม
“ฉันต้องการมากกว่าแค่อมไว้เฉยๆ นะตา” คีรีเปรยเสียงกระเส่า สายตาร้อนรุ่มไล่มองใบหน้าของเธอด้วยความหลงใหล
“คือ...” กันตากระอึกกระอัก เธอไม่รู้ว่าจากนี้ควรทำอย่างไรต่อ หากนับว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอก็ไม่ผิดนัก
“ถ้าเธอทำไม่เป็น เอาไว้คราวหน้าก็ได้” คีรีตัดสินใจแทน เขารั้งความอลังการออกมาจากช่องปาก และกดหัวไหล่กันตาจนเธอต้องจำใจนอนเอนราบลงไปบนที่นอน
“ไม่นะเคนท์” กันตาพยายามห้าม
“ไม่มีประโยชน์น่าตา เธอก็รู้นี่ว่าไม่ได้ผล!” คีรีตวาดออกมาเสียงดัง
“อย่า”
“ไม่ต้องรีบหรอกน่า คืนนี้ฉันอยากนอนกับเธอ”
เสียงพึมพำดังอยู่ข้างใบหู ปลายจมูกของเขาก็ซุกไซ้อยู่ใกล้ๆ จุดนั้น
“โกหก”
“ทำไมคิดแบบนั้นละตา”
“คุณอยากนอนกับใครสักคน แต่ไม่น่าใช่ตาแน่ๆ”
“ทำไมดูถูกตัวเอง บางทีฉันอาจติดใจเธอ จนอยากซ้ำก็ได้นะ”
“เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่หรือเปล่าเคนท์?”
“ทำไมถามแบบนั้น ฉันก็ต้องเป็นเพื่อนเธอสิตา”
“เคนท์ ไม่มีเพื่อนคนไหนทำกันแบบนี้หรอกนะ”
“ทำอะไร ‘เอา’ เธอน่ะเหรอ อย่าคิดมาก เพื่อนกันเอากันไม่แปลกหรอก”
กันตาผงะ ความคิดของคีรีน่ากลัวเกินไปแล้ว สถานะแบบเธอ คีรีไม่ควรทำแบบนั้น มันทำให้ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนคลอนแคลนและอาจถึงจุดสิ้นสุด
“เราแค่สนุกๆ กันน่า”
เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ระเหยออกมาจากกันตาที่ยังพยายามหาเหตุพลมาคัดค้าน คีรีพยายามไม่สนใจ ความต้องการของเขาพุ่งสูง ยากที่จะทำให้สงบเหมือนเก่า เขาจำเป็นต้องปลดปล่อย ไม่อย่างนั้นคงทรมานทั้งตัวและใจ ความดื้อดึงของกันตากลับดึงดูดเขาได้เป็นอย่างดี และความต้องการที่มีอยู่ก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก จนเขาแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
คีรีกดปลายจมูกลงข้างแก้ม “หอมจัง “และเขาเผลอพึมพำออกมา จากนั้นไล่สายตามองไปยังผิวนวลเนียนบริเวณไหล่กลมกลึงของกันตาอย่างลืมตัว
“ไม่นะเคนท์” กันตาพยายามปราม
“ไม่ทันใจสิ เดี๋ยวจัดให้”
คีรีไม่ได้รอให้กันตาตอบกลับ เขารวบมือนุ่มนิ่มแล้วกดไว้เหนือศีรษะ
“ไม่ต้องรีบร้อนนะตา คืนนี้ฉันมีเวลาทั้งคืน”
ตอนที่ 5.ไม่มีคำจำกัดความกับความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างคลุมเครือ
กันตาหลุบเปลือกตาลง ความสัมพันธ์ฉาบฉวยที่เกิดขึ้นเหยียบย่ำให้เธอรู้สึกต้อยต่ำมากขึ้นไปอีก ในสายตาของคีรี เธอคงมีดีแค่นี้สินะ...เธอเป็นที่ระบายอารมณ์ของเขา มีแต่ความใคร่ ไร้เยื่อใยและความผูกพัน
“คิดดีแล้วใช่มั้ยเคนท์” กันตาถามด้วยเสียงตะกุกตะกัก ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้าตาไม่กะพริบ
กันตาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หลังที่คีรีแตะต้อง เธอก็เริ่มปั่นป่วน ร่างกายของเธอดูเหมือนว่าจะยอมคล้อยตามการนำของเขาไปง่ายๆ
“ฉันไม่ได้คิดอะไรเลย ฉันแค่อยากนอนกับเธอนะกันตา” ด้วยประสบการณ์ที่มีมาอย่างโชกโชน คีรีเลยประเมินถูก กันตาไม่สามารถทนฤทธิ์เดชของเพลิงปรารถนาได้อย่างแน่นอน
กันตาส่ายหน้า ตอนนี้เธอไม่เข้าใจอะไรเลย มีแต่ความปั่นป่วนภายในร่างกาย เธอรู้สึกทรมานเหมือนต้องการอะไรบางอย่าง ที่เธอเองก็พอจะเดาออก เธอไม่ได้ไร้เดียงสาแล้วนี่ คีรีนั่นแหละเป็นคนสอนเธอเรื่องนี้
“ชอบใช่มั้ยล่ะ หืม?” คีรีถามพร้อมกับลูบไล้ที่ชายโครงจนถึงแผ่นหลังของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาค่อยๆ โน้มเข้าใกล้ จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน
กันตาเบี่ยงหน้าหนี พร้อมกับพยายามเอาตัวเองออกจากพันธนาการของคนตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าคีรีจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ
กันตาพยายามรวบรวมสติ แต่ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าของเขาที่อยู่ใกล้จนแทบจะแนบชิดกันนั้น กลับทำให้เธอรู้สึกราวกับความพ่ายแพ้พุ่งใส่ตัวเอง เสน่ห์ของคีรียังมีผลกับเธอ ความหลงใหลในสมัยวัยรุ่นย้ำเตือนว่าเธอไม่มีทางชนะ เขาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ปาก กับจมูกของเขาที่เธอชอบแอบมองอยู่ตรงหน้านี่เอง
คีรีซุกปลายจมูกที่ซอกคอเพื่อนเก่า แล้วใช้ริมฝีปากขบเม้มไปที่ติ่งหูเธอเบาๆ อย่างย่ามใจ กันตารู้สึกขนลุกซู่อย่างห้ามไม่ได้ คีรียิ้มบางๆ ที่มุมปาก เมื่อเห็นอาการคล้อยเคลิ้มของเธอ เขาก็ยิ่งชอบใจจึงไม่ยอมเสียเวลาอีก เขาเลื่อนมือไปรั้งท้ายทอย แล้วประกบริมฝีปากลงไปพร้อมกับแทรกปลายลิ้นร้อนผะผ่าวมอบสัมผัสร้อนแรงและแสนวาบหวามให้แก่เธอ
กันตาตัวอ่อนระทวย เรี่ยวแรงที่จะต้านหดหายไปดื้อๆ ร่างกายของเธอรู้สึกทรมานจวนเจียนจะคลั่ง
เธอตวัดมือเกาะหัวไหล่ แอ่นตัวขึ้นสูงและสนองรับรสจูบนั้นอย่างยินดี
คีรีถอนปาก ก้มมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงระเรื่อแววตาวาวหวาน จากนั้นก็จู่โจมเธอด้วยรสจูบซ้ำอีกครั้ง ซึ่งเป็นสัมผัสที่ต่างจากครั้งแรก และครั้งนี้กันตาสนองตอบอย่างดี เธอจูบตอบเขาแม้จะเงอะงะ แต่ก็สร้างความเร้ารัญจวนได้เป็นอย่างดี
“อืม หวาน!” เขาถอดถอนริมฝีปากออกจากเรียวปากเล็กแล้วกระตุกยิ้มด้วยความพึงพอใจ
กันตาไม่สามารถควบคุมความรู้สึกผิดของตัวเองได้อีกแล้ว เธอยอมเดินตามการชักจูงของคีรี แม้รู้ดีว่าอนาคตของเธอ จะเต็มไปด้วยความหม่นหมอง
กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ระเหยออกมาจากผิวกายเนียนละเอียด ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ดิบเถื่อนในกายของเขาให้พลุ่งพล่านเพิ่มขึ้น
คีรีซุกไซ้ไปยังซอกคอและเส้นผม พร้อมกับสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ เข้าปอดอย่างแรงด้วยความหื่นกระหาย มือของเขาเร่งปลดชุดสวมสบายที่กันตาสวมไว้บนร่างกายอย่างเร่งรีบ เขาอยากสัมผัสเธอทั้งตัว อยากขึ้นสวรรค์กับกันตาอีกครั้ง