6
“นี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่ยัยสโนว์แมนนั่นกลับมา แต่ยัยนั่นก็ยังไม่สามารถจับไม้เบสบอลได้เลยใช่มั้ย?”
บีโอเอ่ยถามบีไอที่นั่งหน้าเครียดอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ ตอนนี้พวกเขาทั้งห้าคน ชิงเกอเบล (แฟนของบีเอ็ม) และมู่หลาน (แฟนของบีวาย) มารวมกันอยู่ที่ห้องสภานักเรียน หลังจากที่อาทิตย์ที่แล้วพวกเขาทั้งห้าคนตามไปเคลียร์เรื่องราวความรักวุ่นๆ ของบีวายกับเจ้าหญิงมู่หลานถึงประเทศของเธอ คราวนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องมาช่วยกันสะสางเรื่องราวความรักของบีไอกันบ้างแล้ว
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงจะสะเทือนใจสโนว์มาก จนเธอไม่กล้าที่จะจับไม้หวดลูกอีกครั้ง...”
บีไอพูดเสียงเครียด เขาที่เอาแต่ยิ้มตลอดมานั่งหน้าเครียดแบบนี้เลยทำให้คนอื่นๆ พลอยกังวลไปด้วย เพราะคนอย่างบีไอไม่เคยมีเรื่องไหนทำให้เขาเลิกยิ้มได้เลย เขายังคงยึดมั่นในคำพูดของสโนว์ไวท์ที่บอกว่ารอยยิ้มของเขาจะสามารถรักษาบาดแผลในใจของทุกคนได้ แต่ตอนนี้เขากลับหุบยิ้มและนั่งหน้าเครียด นั่นแสดงว่าจะต้องเป็นเรื่องที่เขากังวลมากจริงๆ และสำคัญต่อเขายิ่งกว่าชีวิต
“ทำไมไม่ลองพูดกับรุ่นพี่สโนว์ไวท์ตรงๆ ดูล่ะคะ บางทีเราอาจจะช่วยกันแก้ไขได้นะคะ”
มู่หลานเสนอความคิดเห็น เธอพูดจาไพเราะอ่อนหวานสมกับที่เคยเป็นเจ้าหญิงมาก่อน และถึงแม้ตอนนี้เธอจะถูกปลดออกจากการเป็นเจ้าหญิงและเลือกมาอยู่กับบีวายที่ประเทศไทย แต่เบื้องลึกจิตใจของเธอแล้ว มู่หลานก็ยังคงมีความเป็นเจ้าหญิงแสนซื่อที่บีวายรักและหวงสุดๆ อยู่ดี
“พี่รู้นิสัยสโนว์ดีค่ะ เธอจะยิ่งปิดกั้นตัวเองถ้ารู้ว่ามีใครไปรู้ความทุกข์ของเธอเข้า สโนว์น่ะ...ถึงภายนอกจะดูแข็งกระด้าง แต่ภายในของเธออ่อนโยนมากกว่าที่เห็น เธอไม่ชอบที่จะให้คนอื่นมาเป็นกังวลกับเรื่องของเธอ” บีไอบอก
มู่หลานพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะนิ่งคิดเพื่อช่วยหาทางแก้ไขต่อไป
“เป็นผู้หญิงที่แสนดีจริงๆ เลยน้า คนรักของนายเนี่ย”
ชิงเกอเบลจิ้มไปที่แก้มของบีไออย่างหยอกล้อ บีเอ็มที่นั่งถักผ้าเช็ดหน้าเป็นลายสตรอเบอรี่เพื่อมอบให้กับสโนว์ไวท์รีบถลาเข้ามาแทรกกลาง
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะที่รัก สโนว์ของเค้าน่ะแสนดีที่สุดในโลกเล้ย”
“ปัญหาตอนนี้คือ สโนว์จมปลักอยู่กับความคิดที่ว่าเธอเป็นคนผิด และเหตุการณ์ร้ายๆ นั่นเกิดขึ้นเพราะเธอ“ บีเอที่คุยโทรศัพท์กับราพันเซลอยู่หันมาเข้าร่วมวงสนทนาด้วย ราพันเซลที่ยังอยู่ในสายเองก็พลอยคิดไม่ตกไปด้วยเหมือนกัน
“แกให้คนของแกที่ญี่ปุ่นไปจัดการหาหมอที่เก่งที่สุดที่นั่นให้ได้เลยนะ ถ้าหมอที่นั่นยังไม่สามารถทำอะไรได้ ฉันจะให้คุณพ่อช่วยหาทีมแพทย์ฝีมือดีจากอเมริกาส่งไปที่นั่นเอง” บีวายเสนอความคิด
บีเอพยักหน้ารับ ก่อนจะขอวางสายจากราพันเซลและจัดการติดต่อกับคนของตัวเองที่ญี่ปุ่น
“ถ้าเราทำให้คนที่ชื่อคาเอโกะนั่นฟื้นขึ้นมาได้ มันอาจจะช่วยทำให้อะไรๆ ดีขึ้นบ้าง” บีโอบอก
ถึงบีโอจะชอบหาเรื่องกวนประสามสโนว์ไวท์อยู่ตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วเขาก็กังวลอยู่ไม่น้อย และรู้สึกไม่ดีที่เห็นเธอเก็บความทุกข์เอาไว้คนเดียวแบบนั้น เพราะสำหรับเขา...ลูกโฮมรันของเธอเป็นภาพที่สวยงามมากที่สุด...
“นี่สรุปแกเปิดใจให้ไอ้ห้าคนนั้นอีกครั้งสินะ”
ซีคอนถามเสียงเขียวหลังจากเห็นว่าหลายวันที่ผ่านมาชีวิตประจำวันของฉันเริ่มมีพวกเขาทั้งห้าคนเข้ามาป้วนเปี้ยน แถมพักหลังๆ ยังมีชิงเกอเบลแฟนของบีเอ็ม กับมู่หลานแฟนของบีวายเข้ามาพูดคุยกับฉันบ่อยๆ นอกจากนั้นก็ยังมีราพันเซลแฟนของบีเอที่แวะมาทักทายฉันทุกเย็นที่ชมรม (ฉันตกใจแทบหงายหลังที่รู้ว่าทั้งสามคนมีแฟนกันหมดแล้ว แถมพวกเขายังรักพวกเธอมากซะด้วย -_-)
“ก็ไม่เชิง ฉันก็แค่...ไม่รู้จะหาทางไล่พวกเขาไปยังไงดีน่ะ”
ฉันตอบแบบขอไปที ซีคอนน่ะเกลียดห้าคนนั้นเข้าไส้ ถ้าขืนฉันบอกไปว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพวกเขาเริ่มจะดีขึ้นแล้ว เขาต้องไม่พอใจแน่ๆ ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่
“ถ้าแกไม่รู้จะจัดการยังไง งั้นไอ้ซีคอนคนนี้จะจัดการให้เอง ฉันกับเพื่อนๆ ของฉันจะอัดมันให้เละ เพื่อไม่ให้มันมายุ่งกับแกอีก ดีมั้ยล่ะ!”
ซีคอนทำท่าปล่อยหมัดพุ่งไปข้างหน้า ก่อนจะหันมายักคิ้วให้ฉัน
“ไม่ต้องเลย แกกำลังจะทำให้มันวุ่นวายมากกว่าเดิมน่ะสิ ปล่อยไว้แบบนี้ล่ะ เดี๋ยวพอพวกนั้นเบื่อก็คงเลิกกันไปเอง”
พูดไปงั้นแหละ คนอย่างห้าคนนั้นไม่มีวันเลิกราง่ายๆ แน่ ถ้าลองได้ตัดสินใจเรื่องอะไรไปแล้วน่ะ แต่เพื่อกันไม่ให้ซีคอนก่อความวุ่นวาย ฉันจำเป็นต้องพูดแบบนี้ =__=
“แกแปลกๆ ไปนะ แรกๆ แกไม่เป็นแบบนี้สักหน่อย แกจะต้องโวยวายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและพยายามจะทำทุกหนทางเพื่อหลีกเลี่ยงไอ้ห้าคนนั่น ไม่มีทางที่แกจะอยู่เฉยๆ แล้วรอให้พวกมันเลิกราไปเองแน่ๆ”
เอาแล้วไง ฉันรู้จักห้าคนนั้นดียังไง ซีคอนก็รู้จักฉันดีอย่างนั้นเลย ก็อย่างที่บอก...ฉันกับมันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิด -_- แค่อ้าปากก็เห็นไปถึงความคิด แค่มองตาก็รู้ไปถึงสิ่งที่ต้องการ
“ฉันก็แค่เหนื่อยที่จะเผชิญหน้าตรงๆ หรือแม้กระทั่งหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว ตอนนี้ฉันก็แค่อยากจะอยู่กับที่เพื่อหยุดพัก หยุดอยู่นิ่งๆ โดยไม่ต้องปะทะซึ่งๆ หน้าหรือวิ่งหนีไปไกลๆ ก็แค่นั้นเอง”
ซีคอนหรี่ตามองฉันอย่างจับผิด หมอนี่เองก็เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก จนฉันรู้สึกเหมือนมันเป็นใครอีกคนที่ฉันไม่รู้จัก ซีคอนอยู่กลุ่มเดียวกับพวกแข่งรถตอนกลางคืน ถึงพวกเขาจะไม่ได้ดูเลวร้ายเหมือนพวกกุ๊ยที่เห็นอยู่เกลื่อน แต่พวกเขาก็ดูอันตรายไม่น้อยไปกว่าห้าคนนั้นหรอก หน้าตาเองก็เข้าขั้นหล่ออันตรายด้วยเหมือนกัน -_-// ฉันเคยเห็นจังๆ ครั้งหนึ่ง พวกเขามีกันอยู่สี่คนรวมซีคอนด้วย แต่ละคนนี่หล่อกินกันไม่ลงจริงๆ
~เมื่อไม่มีเธอแล้ว...แต่ละวันมันเหงาเกินไป เมื่อไม่มีเธอมันเหมือนจะตาย...~
“ฮัลโหล”
ซีคอนหยิบโทรศัพท์ที่มีเสียงเรียกเข้าขึ้นมา ก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงลงไปอย่างเบื่อหน่าย แต่พอปลายสายพูดบางอย่างมา จากสีหน้าและน้ำเสียงเบื่อหน่ายก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกทันที
“ว่าไงนะ! นี่ยัยบ้านั่นคิดจะลองดีกับฉันจริงๆ ใช่มั้ย แกรับคำท้าไปเลยไอ้สยาม บอกดีลเลอร์เรื่องเงินพนันไปเลย งานนี้ฉันทุ่มหมดตัว!”
ฉันได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ซีคอนพูด ฉันคงลืมบอกไปอีกอย่างว่า ชื่อของเพื่อนๆ หมอนี่แต่ละคนก็ไม่ได้ไปไหนไกลกันเลย ทั้งซีคอน...สยาม (สแควร์ -_-)...แพลตตินั่ม และ...เมเจอร์ (รัชโยธิน -_-)!!!
“สโนว์ วันนี้ฉันคงอยู่ตามประกบแกไม่ได้แล้ว เพราะมีภารกิจสำคัญต้องไปจัดการ ขอโทษด้วยนะเพื่อนเลิฟ T/T”
หลังจากวางสายแล้วซีคอนก็หันมายกมือไหว้ขอโทษขอโพยฉันราวกับมันเป็นเรื่องใหญ่มาก ฉันรีบโบกมือไปมาเพื่อบอกปัดว่าไม่เป็นไร
“แกไปเหอะ ท่าทางจะเป็นเรื่องซีเรียส”
“ซีเรียสสิ! บังอาจมาเหยียบจมูกท่านซีคอนเจ้าของรถพยัคฆ์เพลิงถึงถิ่น งานนี้ต้องลุยกันให้รู้ดำรู้แดง!”
ซีคอนกำหมัดอย่างเคียดแค้น ดูท่าทางมันจะจริงจังกับการแข่งรถน่าดู ไอ้รถเฟอรารี่สีแดงสดของมันก็ถูกตั้งชื่อว่า ‘พยัคฆ์เพลิง’ ฉันว่าหมอนี่ก็ติงต๊องพอๆ กับบีเอ็มเลย สงสัยคงเพราะนิสัยคล้ายกันล่ะมั้ง สองคนนี้ก็เลยไม่ถูกกันไปโดยปริยาย
“งั้นแกไปเถอะ ฉันรู้สึกเริ่มจะซีเรียสแทนแกแล้ว -_-“
นี่ฉันมีเพื่อนเพี้ยนๆ กี่คนกันเนี่ย
“งั้นฉันไปก่อนนะ แกก็ระวังตัวจากไอ้ห้าคนนั้นดีๆ ล่ะ! ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลโทรเรียกฉันทันทีเลยนะ ไม่ก็โทรไปที่ไอ้สยาม ไอ้แพลตหรือไอ้เมเจอร์ก็ได้!”
ซีคอนรีบจดเบอร์เพื่อนอีกสามคนของเขาลงในแผ่นกระดาษแล้วยัดใส่มือฉันทันที เป็นเอามากนะหมอนี่ ห้าคนนั้นไม่ใช่พวกแก๊งโจรข้ามชาติสักหน่อย -*-
“แล้วฉันจะโทรหานะสโนว์!”
ซีคอนพูดทิ้งท้ายก่อนจะผลุนผลันออกไป นี่ท่าทางมันจะอาลัยอาวรณ์ฉันเหลือเกิน =___=;;
ระหว่างคาบเรียน ฉันก็ขออนุญาตอาจารย์ออกมาเพื่อล้างหน้าล้างตา ทำไมถึงสอนแต่เรื่องที่ชวนให้สัปหงกนะ! แบบนี้จะโทษว่านักเรียนไม่มีความตั้งใจไม่ได้หรอก เพราะอาจารย์สอนเรื่องที่มันไม่น่าสนใจเองต่างหาก มีแต่บรรยายเนื้อหาที่อยู่ใน Power Point ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าอาจารย์จะบรรยายไปเพื่ออะไร ในเมื่อที่พูดมาส่วนมากก็มีเด่นหราอยู่ใน Power Point แล้วทั้งนั้น ฉันอ่านทำความเข้าใจเองก็ยังได้ -_-
เฟี้ยว~ หมับ!
แปะๆๆ!
“สมแล้วที่อยู่ชมรมเบสบอลและเป็นถึงอดีตแบตเตอร์ฝีมือดี ความรู้สึกไวไม่เปลี่ยน”
ฉันหันไปมองต้นเสียงที่โผล่มาจากกำแพงด้านข้าง ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนท่าเป็นยืนหันหลังพิงกับอ่างล้างหน้าแทน เพื่อหันไปเผชิญหน้ากับบีโอตรงๆ
“มีอะไร“
“นี่เธอต้อนรับเพื่อนเก่าด้วยสีหน้าและน้ำเสียงแบบนี้เหรอ หา! ยัยสโนว์แมน!!!”
อย่างกับนายพูดดีกับฉันนักนี่ -_-*
“ฉันไม่ได้หูหนวก ไม่จำเป็นต้องตะโกนขนาดนั้นก็ได้” ฉันบอกเสียงเรียบพลางก้มดูสตรอเบอรี่ลูกสีแดงสดที่บรรจุมาในกล่องพลาสติกอย่างดี น่ากินจังเลย >__3O<”
บีเอ็มแว้ดๆ และพยายามจะพุ่งเข้าไปต่อยบีเอที่ยืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ตรงหน้าเขา แต่เพราะโดนบีวายดึงคอเสื้อจากด้านหลัง บีเอ็มก็เลยได้แต่ต่อยอากาศที่ไม่มีทางเจ็บปวดเพราะหมัดของเขา และดิ้นเร่าๆ เหมือนปลาโดนน้ำร้อนลวก -O-;;