ตอนที่ 2 จากขวัญใจร้านเหล้า สู่ สาวชาวไร่

1200 คำ
ฝูงนกเบลเบิร์ดที่ถูกปล่อยออกจากกรงในโรงพัก ย้ายกลุ่มกันมาส่งเสียงดังกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางแทน สาวน้อยสาวใหญ่ในชุดสายเดี่ยวนุ่งน้อยห่มน้อยต่างก้มหน้าก้มตาโซ้ยก๋วยเตี๋ยวกันอย่างหิวโหย “ว่าแต่ คนที่ให้เรายืมตังค์เค้ามีกำหนดจ่ายมั้ยวะนังโมรี” พี่นวล พี่สาวคนสนิทที่สุดของเธอเอ่ยถามขึ้น “ผู้หมวดใช่มั้ย?” ประโยคท้ายเธอขยับเข้ามากระซิบข้างหูโมรี “อื้ม” เธอพยักหน้า “เค้าฝากให้ฉันเป็นคนดูแลเรื่องนี้ให้แทน ไม่มีดอกเบี้ย แต่ก็ต้องทยอยจ่าย” “โห เงินตั้งสี่หมื่นเกือบห้าหมื่น ขายหอยเท่าไหร่เนี่ยถึงจะคืนผู้หมวดเค้าได้” เขียว สาววัยเบญจเพสผู้มีใบหน้ากลม ผมยาว ผิวสีน้ำผึ้ง ชอบพูดจาโผงผางบ่นโอดโอยขึ้น “เอ้า นังเขียว เอ็งรู้ได้ไงว่าเป็นผู้หมวด” ช่อ สาวใหญ่วัย50ต้นๆ แย้งขึ้นถาม “หยุด” โมรียกมือขึ้นห้ามทุกคน “ชู่วว.. เบาๆหน่อย รู้แล้วช่วยเงียบไว้เหอะ เจ้าหนี้มีกฎเหล็ก นั่นคือ ลูกหนี้ห้ามกลับไปทำงานแบบเดิมๆ” “อุบ๊ะ” เขียวสำรอกลูกชิ้นออกมา “ได้ไงวะ แล้วเนี่ยกูจะไปซุกหัวนอนไหนก็ยังไม่รู้เลย” “ก็ช่วยๆกันหางานปกติทำกันก่อน แค่อย่าไปทำงานในร้านอาหารแบบเดิมๆก็พอ.. เค้าขอแค่นี้ ..นี่ ถ้าอยากแอบหารายได้เสริมไม่มีใครว่าหรอก นั่นมันจิ๋มพี่ แค่แอบๆแล้วกัน เพราะมันสุ่มเสี่ยงที่ผู้หมวดจะโดนเอี่ยวว่ามีส่วนช่วยพวกเรา เดี๋ยวถูกหาว่าเป็นพวกเดียวกันอีก” เธออธิบายเสียงเบาให้ได้ยินแค่ภายในกลุ่ม “กลัวพวกกูกับแม่มึงไปทำงานแบบเดิม เพราะยังไงมึงก็ต้องตามแม่ไปต้อยๆอยู่ดีน่ะสิใช่มะ แหม กำลังจะชุบมึงให้กลายเป็นคุณนายตำรวจสิท่า” “โอ๊ย ไม่เอาหรอกเขยตำรวจ กูไม่ถูกโฉลกกับพวกมีสี” “โธ่ พี่ก็ว่าไป เค้ามาช่วยเราก็ดีแค่ไหนแล้ว อีกอย่างอย่าเพิ่งทึกทักไปเลย เค้าแค่ดูๆอยู่ ไม่แน่ ที่โบราณเค้าว่าดูช้างดูหางดูนางดูแม่ ไม่นานก็กลัวนังโมรีเป็นแบบพี่ เดี๋ยวมันก็เผ่นไปเองแหละ” ช่อ สาวใหญ่วัยไล่เลี่ยกันกับโสภีผู้อยู่กับ ริมทางคาราโอเกะ มาตั้งแต่ยุคบุกเบิกเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “โถ อิช่อ กูนี่ต้องกลัว กลัวเกิดปัญหามีบ้านเล็กบ้านน้อยอีก ขนาดแก่ๆลงพุงยังมีเมียเป็นสิบเลย นับประสาอะไรกับตำรวจหนุ่มหล่อแถมโคตรรวยอีก” โสภี แม่ของเธอแย้งขึ้น ดวงตาของผู้แม่ปรายมองลูกสาวอย่างหมั่นใส้ แต่ในใจเธอเป็นห่วง กลัวว่าผู้หมวดจะไม่ได้มีแค่โมรี ถ้ามันทำให้ลูกสาวเธอช้ำใจ เธอไม่ยอมแน่ “แก่ๆลงพุงที่พี่ว่าน่ะ ใช่ไอ้คนที่โดนรวบแล้วปล่อยพวกเราลอยแพอยู่เนี่ย ใช่มะ?” ช่อ ผู้รู้ดีว่าโสภี นั้นก็เป็นหนึ่งในสิบคนของตาแก่ลงพุงที่พูดถึง แต่ก็อย่างว่า พออายุมากขึ้น เริ่มโรยราก็ไม่ใช่คนโปรดในสายตาเจ้าของร้านไปแล้ว เงินที่เคยให้ใช้จ่ายอย่างสบาย ก็ร่อยหลอลงตามสภาพวัย “แหม อีช่อ ช่วยกินอย่างเดียวเหอะ ไม่ต้องสาระแนพูด กูกับลูกกูอยู่ด้วยกันก็จริง แต่กูไม่เคยสอนให้ลูกกูขายตัวโว้ย ถ้ามันรับไม่ได้ที่มีแม่ยายอย่างกูก็รีบๆไปเลย กูจะจัดการเก็บหนี้พวกมึงให้เอง” “เลิกเถียงกันแล้วพูดถึงตอนนี้ก่อนเถอะ เราจะไปนอนที่ไหน? สามคนนั้นเค้าก็ไปอยู่กับเพื่อน อยู่กับผัว อยู่เป็นเมียลับๆแล้ว เหลือแค่เราเนี่ย จะเอาไงดี” นวลเอ่ยขึ้นเสียงเย็นยะเยียบ แม่จะโทนเบา แต่ก็ฟังรื่นหูกว่าทุกคน ทั้ง 6 คนฟังแล้วเงียบกริบ ต่างมองหน้ากันไปมา “ก็หาโรงแรมนอนค้างสักคืน พรุ่งนี้เช้าเราไปสมัครงานที่ไร่ภูผากัน เห็นไร่เค้าขึ้นป้ายประกาศรับคนงานจำนวนมาก ข้าวฟรี ที่พักก็มีให้ด้วย” พอแม่เธอพูดจบ “แค่ก แค่ก!” โมรีสำลักน้ำขึ้นทันควัน หลังจากเอาแต่ก้มหน้าทานเงียบๆ “เป็นไงมั่ง?” ดาว สาวผู้เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างถูกกฎหมายเพราะเคยแต่งงานและมีลูกกับสามีชาวไทย ชีวิตพลิกผันโดนครอบครัวสามีขับไล่ ทำให้เธอระเห็จระเหิน เลือกเดินเข้ามาทำงานที่นี่ได้สามปีแล้ว “ขอบใจนะพี่ดาว อื้ม ใครจะไปก็ไปเลยนะแม่ แต่ ฉันไม่ไป!” “กระแดะ ไม่มีจะแดกแล้วเลือกงาน นี่อย่าบอกนะว่าคิดถึงลูกชายเจ้าของไร่เค้าน่ะ โอ๊ยเค้าไปอยู่ไหนแล้ว ต่อให้กลับมาเยี่ยมไร่ก็จำแกไม่ได้หรอก” สิ่งที่แม่เธอพูด ทำให้เธอจุกอกจนเถียงไม่ออก นั่นสินะ “เออ รู้น่า แต่ฉันหมายถึงเรื่องงานต่างหาก มันหนักไป ฉันจะไปสมัครที่อื่นไว้ ให้ที่ไร่นั่นเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วกัน!” “เพราะยังไง ฉันก็ไม่มีทางไปทำงานที่ไร่นั่น” “ไม่ไปเด็ดขาด!” . . สุดท้าย ร่างบางก็ยืนหน้าจ๋อย ไหล่ห่อ ต่อแถวแม่และพี่ๆ เพื่อรอกรอกใบสมัครที่หน้าไร่ภูผา ซึ่งตอนนี้เห็นคนงานผู้ชายกำลังช่วยกันปลดป้ายชื่อไร่ขนาดใหญ่ลงเพื่อบูรณะหรืออาจจะเปลี่ยนชื่อใหม่ “อะไรว้า ร่อนไปสมัครทุกที่ แต่ไม่มีใครโทรมาเลย มันกริบเกินไปไหมอ่า? งานร้านทอง คลินิกทำฟัน คลินิกทำหน้า ร้านขายมอเตอร์ไซค์ บลาๆๆ” เธอบ่นกรอกหูพี่นวลผู้ยืนต่อแถวด้านหลังเธอ “โห ทุกงานนี่ต้องอยู่แต่ในห้องแอร์ ว่างั้น?” “อื้ม” เธอพยักหน้ารับ “ทำใจนะน้อง บางทีเค้าคงอคติกับงานเก่าของเรามั้ง เผื่อว่าพ่อบ้านเคยเข้าร้านเรางี้” พี่นวลพยายามเอ่ยปลอบใจ แต่ต้นเรื่องที่แท้จริง คือโสภี แม่ของเธอ ที่ยืนอยู่ด้านหลังลูกสาวกำลังยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย งานพวกนั้นน่ะเหรอเธอแอบสะกดรอยตามลูกสาว พอคล้อยหลังลูกสาวแล้ว เธอจะรีบเข้าไปขอกระดาษสมัครงานพวกนั้นออกมาขยำทิ้ง . . และผู้บงการโสภีอีกทอด ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวบงการสูงสุด ก็คือเขา ! เจคอป ชายร่างใหญ่กำยำผู้กำลังนั่งเท้าไขว่ห้างบนโต๊ะทำงาน ดวงตาคมเข้มทอดมองเธอผ่านกระจกดำทึบ “โอ๊ะโอ สวยสะพรั่งขึ้นเป็นกองแฮะ” เขาพึมพำขณะเพ่งพินิจมองสรีระหญิงสาวใบหน้าเรียว เครื่องหน้าจิ้มลิ้มหวานหยด ตัวเธอสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ทว่า สัดส่วนรูปร่างนั้นแตกต่างกว่าแต่ก่อนขึ้นมาก โดยเฉพาะสะโพกสมส่วนกลมกลึง และหน้าอกอวบใหญ่ สังเกตเวลาหล่อนเคลื่อนไหวร่างกายแล้วสองเต้าเด้งกระเพื่อมจนลอบกลืนน้ำลายเพียงลำพัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม