ตอนที่ 1
เพลิงพ่ายรัก เป็นเรื่องราวความแค้นของ ราม วิเศษฐ์ธาดา ที่ต้องการเอาคืนจากผู้หญิงคนนั้น ลักษมี เศรษฐกร เพราะเธอทำให้น้องชายของเขาเสียคนจนคิดฆ่าตัวตายเพลิงพยาบาทนั้นเกือบผลาญเผาทุกอย่างจนมอดไหม้หากแต่สุดท้ายต้องพ่ายแก่หัวใจรักอันบริสุทธิ์ของหญิงสาว มาเป็นกำลังใจให้เขาและเธอฝ่าฟันอุปสรรคอันเกิดจากความไม่เข้าใจไปด้วยกันนะคะ
ขอบคุณสำหรับนักอ่านที่ให้การสนับสนุนนิยายของ อักษรามณี ตลอดมา แล้วคอยพบกับนิยายเรื่องต่อไปของอักษรามณี ที่จะออกสู่สายตาอีกหลายเรื่องเร็วๆ นี้ค่ะ
ติดต่อพูดคุยกับอักษรามณี
e-mail :: aksaramanee@gmail.com
fb:: www.facebook.com/อักษรามณี นิยายรัก
รามวิเศษณ์ธาดาบุตรชายคนโตของคุณหญิงปารมีเจ้าของรีสอร์ทหรูในจังหวัดภูเก็ตเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่และพบว่าน้องชายคนเดียวคือราช กินยานอนหลับเกินขนาดซึ่งต้นเหตุมาจากผู้หญิงที่ชื่อ ลักษมี เศรษฐกรชายหนุ่มตั้งปณิธานไว้ว่าเขาต้องแก้แค้นคนที่ทำให้น้องชายของเขาต้องตกอยู่ในสภาพของคนที่มีแต่ร่างกายทว่าไร้วิญญาณ แผนแห่งความพยาบาทถูกวางไว้อย่างแยบยลแต่สุดท้ายคนที่ต้องตกอยู่ในวังวนของกับดักแห่งการแก้แค้นกลับเป็นเขาที่เพลี่ยงพล้ำมอบหัวใจให้ผู้หญิงที่น้องชายของเขาเคยรักมากที่สุดเสียเอง
ท่ามกลางความแออัดจอแจของการจราจรและผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา หญิงสาวในชุดแซกยาวกรอมเท้าผ้าป่านมัสลินสีน้ำเงินเข้มพาร่างแบบบางเดินไปตามทางเท้าอย่างเชื่องช้า ผมยาวดำขลับถูกรวบเป็นหางม้าอวดใบหน้าเนียนทว่าซีดราวกระดาษ ดวงตากลมโตคู่นั้นแลไปเบื้องหน้าแต่เหมือนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของเส้นทาง ริมฝีปากมีร่องรอยของลิปสติกสีอ่อนทอประกายเจือจาง นิ้วเรียวกุมสายสะพายกระเป๋าไว้แน่น
“มีมี่.....คุณพูดอะไรออกมา....เรา...เราเป็นแฟนกันนะ”
เสียงทุ้มต่ำนั้นดังขึ้นในความคิด ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานชัดเจนอยู่ในภวังค์ของลักษมียิ่งนัก
“แล้วมันจะสำคัญตรงไหนราช มีมี่จะบอกอะไรให้ จริงๆ แล้วมีมี่ไม่ได้ปลื้มผู้ชายช่างฝันอย่างคุณ เราไม่มีอะไรเหมาะสมกันสักนิด”
“คุณไม่เคยเป็นแบบนี้นะมีมี่ เกิดอะไรขึ้น คุณกำลังจะบอกอะไรผม”
“ฉันแค่อยากจะบอกว่า ฉันเบื่อคุณ ฉันไม่ได้รักคุณอีกแล้ว ฟังนะราช ฉันแค่อยากลองคบกับคุณ แล้วฉันก็พบคำตอบว่าคุณไม่ใช่....แบบที่ฉันคาดหวัง”
“แล้วคุณต้องเจอใครอีกสักกี่คนถึงจะเจออย่างที่คุณต้องการ”
“ราช การที่เราต้องคบกับคนๆ เดียวนานๆ มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย มีมี่แค่อยากพบอะไรใหม่ๆ ในชีวิต และอยากบอกคุณสั้นๆ นะว่า...... เราเลิกกันเถอะ”ประโยคสุดท้ายที่ทำให้คนฟังหน้าซีดเผือดในขณะที่คนพูดรู้สึกราวหัวใจตัวเองถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ หญิงสาวหยุดกึกพร้อมๆ กับภาพที่อยู่ในหัวสลายไปกลับได้ยินเสียงแตรรถดังลั่นมาแทนที่ สติสัมปชัญญะถูกกระชากคืนมาเมื่อรู้สึกตัวว่าตนเองยืนจังงังอยู่กลางถนน
“นี่คุณ!.........เดินแบบนี้โดนรถชนตายจะว่าไง”เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมๆ กับที่ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงสแล็คเสื้อเชิ้ตสีขาวก้าวลงจากรถเก๋งด้านคนขับอย่างหัวเสีย ทว่าเมื่อร่างบางระหงที่เกือบถูกชนเมื่อครู่หันมาทำให้ชายหนุ่มผงะงันไปชั่วครู่ ใบหน้างดงามแต่ซูบซีดราวกระดาษ ดวงตาคู่นั้นมีน้ำรื้นและดูหม่นหมองยิ่ง
“ขอโทษค่ะ....ฉันขอโทษ”
“เดี๋ยวคุณ!!.......”
ลักษมีวิ่งข้ามไปอีกฝั่งของถนนก่อนจะเดินลับหายไป
“อะไรกันยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย” ชายหนุ่มงงงันแต่ก็ต้องรีบก้าวฉับๆ กลับมาที่รถเก๋งคันใหญ่สีดำเป็นมันปลาบก่อนจะรีบสตาร์ทเครื่องอย่างว่องไว
“แกขับรถเร็วหรือแม่สาวสวยคนนั้นเดินช้าวะ ราม”เสียงคนที่นั่งข้างๆ ถามอย่างขำๆ
“ภูเก็ตนี่น้า....ไม่ใช่เชียงใหม่ ไอ้พี”รามส่ายหน้าดิกก่อนใช้มือบังคับเกียร์แล้วเหยียบคันเร่ง แม้รถเก๋งคันหรูจะเคลื่อนตัวออกจากที่นั่นนานแล้วแต่ในใจของชายหนุ่มยังคงกระหวัดคิดถึงใบหน้าหมดจดที่ดูหม่นหมองนั้น
“คุณหญิงปารมีคงดีใจมากที่ลูกชายคนโตของท่าน นายราม วิเศษณ์ธาดา กลับมาช่วยดูแลรีสอร์ทหรูของท่านเสียที” พีรพลเอ่ยขึ้นมากลบความเงียบภายในรถ
“ฉันกลับมาดูหน้าเจ้าน้องชายของฉันต่างหาก”
“นายราชน่ะเรอะ จะมาดูมันทำไม นี่ที่แกหายหัวไปอยู่เชียงใหม่หลายปีแล้วเพิ่งกลับมาเพราะคิดถึงน้องชายคนเดียวของแกเนี่ยนะ”
“ถ้ามันสบายดีฉันคงไม่ห่วง” หยุดพูดสีหน้าครุ่นคิด “คุณแม่โทรไปหาฉันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว บอกว่ามันกินเหล้าทุกวันไม่เป็นอันทำงานทำการอะไร วันๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้อง”
พีรพลชักสีหน้าสงสัย “ฉันอยู่ที่นี่แต่ไม่ได้เจอน้องแกนานแล้ว มันมีปัญหาอะไรนักหนา เงินทองรึก็มีใช้สบาย แม่แกรึก็เป็นคนกว้างขวางของที่นี่”
“เรื่องผู้หญิง” รามถอนหายใจยาวก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“มันถูกผู้หญิงบอกเลิก ผู้หญิงอะไรกันร้ายกาจ ใจดำเป็นที่สุด ทำให้ผู้ชายหัวหมุน ถ้าฉันเป็นเจ้าราชฉันต้องเอาคืนจากผู้หญิงคนนั้น”
“พอดีว่าแกไม่ใช่เจ้าราช มันเลยมานั่งตีอกชกตัวจะเป็นจะตาย เดี๋ยวไปถึงบ้านแกพี่พีคนนี้จะบอกเองว่าน้องราชจะเศร้าโศกาไปใย ผู้หญิงนั้นไซร้ มีมากกว่าฝูงลิง”
“แกต้องได้บอกแน่....นี่ไง...ถึงแล้ว” รามพูดก่อนจะหักพวงมาลัยพารถเข้าไปจอดหน้าประตูรั้วที่กั้นกลางระหว่างถนนภายนอกและตัวบ้านหลังใหญ่ที่สร้างขึ้นในรูปแบบบาหลี ชายหนุ่มต้องประหลาดใจที่บีบแตรหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เห็นเงาใครสักคน