แอบมอง 2/2

3433 คำ
สามเดือนต่อมา วันนี้เป็นวันปัจฉิมของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่หก น้องๆ มอสี่และมอห้าได้เตรียมจัดงานให้แก่รุ่นพี่มอหกที่จบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นซุ้มต่างๆ เพื่อให้รุ่นพี่ที่เรียนจบได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และยังมีสิ่งของมอบให้แทนใจและคำพูดว่ามิตรภาพนี้ไม่มีวันจางหาย หลังจากเสร็จพิธีรับประกาศนียบัตรของนักเรียนชั้นมอหกแล้ว ผมกับสหายทั้งสามก็พากันมาถ่ายรูปที่หน้าซุ้มต่างๆ ตามแรงจู่จากสาวๆ ทั้งหลายที่ต่างก็มารอถ่ายรูปกับพวกผม “ไอ้ไบค์ มึงไปเรียกสองคนสาวมาถ่ายรูปดิ” ผมหันไปกระซิบบอกบิ๊กไบค์ บิ๊กไบค์ไม่รอช้า มันเดินเข้าไปหาต้าหนิงกับแก้มใสอย่างรู้งาน “น้องต้าหนิงน้องแก้มใสครับ มาถ่ายรูปกับพวกพี่หน่อยดิ อีกหน่อยก็ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ แล้วนะ” แล้วสองสาวก็เดินตามบิ๊กไบค์มาอย่างว่าง่าย ต้าหนิงกับแก้มใสเดินมายืนตรงกลางผมรีบเดินไปยืนที่ด้านหลังของต้าหนิงส่วนบิ๊กไบค์ก็เดินไปยืนด้านหลังแก้มใส ผมกับบิ๊กไบค์มองตากันอย่างเข้าใจ ไอ้โต้งยืนอยู่ข้างผม เลโอยืนอยู่ข้างบิ๊กไบค์ ผมแกล้งเดินเข้าไปให้อกแกร่งชิดที่หลังของต้าหนิงทำให้เธอหันหน้ามาทำตาดุใส่ ผมยืนอมยิ้มอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ทำให้แก้มเนียนๆ ของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมา ไม่รู้ว่าที่แก้มแดงขึ้นเพราะโกรธที่โดนผมแกล้งหรือเพราะกำลังเขินอยู่กันแน่ พอถ่ายรูปเสร็จพวกผมก็เดินมากินข้าวกันที่โรงอาหารของเรียน พวกผมทั้งสี่คนได้ที่เรียนกันหมดแล้ว และก็เป็นมหาลัยเดียวกันแถมคณะเดียวกันอีก เห็นแบบนี้พวกผมก็สอบติดนะครับไม่ได้ใช้เงินเข้าอย่างที่ลูกคนรวยๆ เขาทำกัน ถึงพวกผมจะดูเหมือนไร้สาระไปวันๆ แต่การเรียนของพวกเรานี่ติดท็อปอันดับต้นๆ ของโรงเรียนตลอด “กูจะไปซื้อน้ำ พวกมึงเอาไรไหม” โต้งยืนขึ้นแล้วหันมาถามพวกผม “กูเอาโคล่า” ผมตอบ “กูด้วย” บิ๊กไบค์ตอบ “เดี๋ยวกูไปด้วย” เลโอยืนขึ้นแล้วเดินตามโต้งไปยังร้านขายน้ำ “พี่ๆ คะ รีบไปช่วยต้าเร็ว!” แก้มใสวิ่งตาตั้งมาหาพวกผมอย่างตกใจ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ ช่วยต้าหนิงเหรอ พอได้ยินชื่อเท่านั้นแหละ ผมรุกพลวดออกจากเก้าอี้ทันที รีบวิ่งตามแก้มใสไปยังห้องน้ำหญิงพร้อมกับบิ๊กไบค์ เมื่อมาถึงก็เห็นผู้หญิงยืนมุงกันเต็มทางเข้าห้องน้ำ “มันเกิดอะไรขึ้น แล้วต้าหนิงอยู่ไหน” ผมวิ่งมายังไม่เห็นต้าหนิงเลยไม่รู้ว่าเธออยู่ไหน “ต้าอยู่ในห้องน้ำกับพวกเพื่อนของพี่ฝ้ายค่ะ” แก้มใสบอก ฝ้ายงั้นเหรอ ยัยนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ “หลบไป!” ผมตะคอกพวกผู้หญิงที่ยืนมุงอยู่ประตูทางเข้าให้พ้นทาง ผมเอื้อมมือไปเปิดแต่ประตูกลับเปิดไม่ออกเพราะถูกล็อกจากด้านใน ผมถอยหลังมาสองก้าวจากนั้นก็วิ่งเข้าไปพร้อมยกเท้าขึ้นกระโดดถีบประตูทำให้กลอนประตูพังและเปิดออกได้สำเร็จ สิ่งแรกที่ผมเห็นทำให้บันดาลโทสะของผมแทบระเบิดเมื่อต้าหนิงถูกเพื่อนของฝ้ายล็อกแขนไว้ข้างล่ะคน ใบหน้าของต้าหนิงมีรอยแดงนิดๆ ผมเลื่อนสายตาลงต่ำเห็นเลือดไหลออกมาจากหัวเข่าของต้าหนิง นี่ถึงขั้นเลือดตกยางออกกันเลยเหรอ มันจะมากไปแล้วนะ! ผมเดินเข้าไปกระชากตัวฝ้ายออกอย่างแรงทำให้ร่างของเธอปะทะกับกำแพงเสียงดัง อึก! เพราะเธอตั้งท่าจะตบต้าหนิงอีกรอบผมจึงออมแรง “หยุดนะ! ห้ามใครแตะต้องต้าหนิงอีก ไม่งั้นมีเรื่องกับกูแน่!” ตอนนี้ผมโมโหสุดๆ ไม่สนด้วยซ้ำว่าพวกนี้เป็นผู้หญิง เพราะการกระทำของพวกเธอมันไม่ควรที่ผมจะพูดดีด้วย ผมเดินเข้าไปช้อนตัวต้าหนิงขึ้นมาแนบกับอกแกร่ง “พี่เรซ...” ผมยิ้มให้ต้าหนิงอย่างอ่อนโยน คงจะจะเจ็บมากสินะสาวน้อย ครอบครัวเลี้ยงเธอมาอย่างดีแต่คนพวกนี้กล้าดียังไงมาทำให้ผิวสวย ๆ เป็นแผลแบบนี้ “พี่ขอโทษนะ ที่เป็นต้นเหตุทำให้ต้าต้องเจ็บตัว” ผมรู้สาเหตุที่ฝ้ายทำไป เพราะหึงผม เธอจะทำร้ายใครผมไม่ว่า แต่ต้องไม่ใช่ต้าหนิง “ทำไมเรซ! ทำไมต้องปกป้องมันด้วย เมื่อก่อนไม่เห็นเรซจะสนใจเลย... แล้วทำไม!” ฝ้ายตะคอกถามเสียงดังลั่น “เธอจะทำร้ายใครฉันไม่ว่า แต่ต้องไม่ใช่ต้าหนิง” ผมพูดกับเธอด้วยเสียงราบเรียบพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้โมโหฝ้ายไปมากกว่านี้ “ฝ้ายเป็นแฟนเรซนะ เรซควรจะสนใจฝ้ายไม่ใช่มัน!” ฝ้ายเดินเข้ามาหวังจะดึงตัวต้าหนิงออกจากอ้อมแขนของผม แต่ก็ช้ากว่าบิ๊กไบค์เพราะมันเดินเข้ามาขว้างก่อน “เราเลิกกัน” ผมอุ้มต้าหนิงเพียงแขนเดียวเพราะเธอตัวเล็กเลยทำให้ผมอุ้มเธอได้สบายๆ ผมใช้มืออีกข้างควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงนักเรียนแล้วหยิบออกมากดเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์ระหว่างผมกับฝ้าย เปลี่ยนของตัวเองให้กลับไปเป็นโสดเหมือนเดิม ฝ้ายรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพร้อมกับทำสีหน้าตกใจ “ไม่นะเรซ ฝ้ายขอโทษ ฝ้ายจะไม่ทำอีกแล้ว อย่าเลิกกับฝ้ายเลยนะ” เธอเริ่มอ้อนวอน แต่ผมไม่แม้แต่จะสนใจไยดีเธอ ผมอุ้มต้าหนิงเดินออกมาจากห้องน้ำเดินตรงไปยังห้องพยาบาลของโรงเรียนเพื่อให้พยาบาลประจำห้องทำแผลให้กับต้าหนิง “ไปโดนอะไรมาคะ” เสียงพยาบาลประจำห้องถามขึ้น “ลื่นล้มนะคะ” ต้าหนิงตอบพร้อมกับส่ายหน้าให้ผมเพื่อไม่ให้ผมพูดเรื่องที่เธอโดนทำร้าย แม้จะไม่เห็นด้วยกับต้าหนิงแต่ถ้าเธอตัดสินใจไม่เอาเรื่องคนพวกนั้นผมก็คงต้องตามใจเธอ ผมจึงเดินออกมารออยู่นอกห้องพยาบาลพร้อมกับบิ๊กไบค์ คงไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ มีแก้มใสอยู่เป็นเพื่อนเดี๋ยวก็ดีขึ้น “ราเรซ... ฝ้ายขอคุยด้วยหน่อย” “ว่ามา” “ขอคุยส่วนตัว” พูดจบฝ้ายก็เดินนำผมไปยังชั้นบนอาคารเรียน ตอนนี้อยู่ในช่วงพักกลางวันบนอาคารเรียนก็เลยค่อนข้างเงียบ ฝ้ายเดินเข้าไปยังห้องเรียนห้องหนึ่ง “มีอะไรก็รีบพูดมา” ผมเดินไปนั่งบนโต๊ะเรียนตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้อง “ราเรซชอบต้าหนิงเหรอ” ฝ้ายถาม “ถามทำไม” “ฝ้ายรู้นะ ที่ราเรซไม่กล้าพูดตามตรงเพราะกลัวจะผิดใจกับโต้งใช่ไหม เพราะโต้งห้ามเพื่อนในกลุ่มจีบน้องสาวของเขา” ฝ้ายเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม เธอจ้องมองผมอย่างยั่วยวน ยั่วไปก็แค่นั่นแหละ มันไม่มีผลอะไรกับผมหรอก “หึ! อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย” ผมจ้องมองฝ้ายอย่างเซ็งๆ “ในเมื่อมันไม่มีทางเป็นไปได้ ก็ตัดใจซะเถอะ ฝ้ายยังอยู่ตรงนี้...หันกลับมาหาฝ้ายเหมือนเดิม” นี่คงเป็นวิธีง้อที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วสินะ “ไม่” “น่าผิดหวังจัง งั้นฝ้ายขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม ถือเป็นของขวัญสำหรับการจากลาที่ดี” ฝ้ายเดินเข้ามาชิดตัวผม เธอปลดกระดุ้มเสื้อนักเรียนของตัวเองออกสามเม็ดเผยให้เห็นบราสีดำและเนินอกขาวเนียน “ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ” ผมมองหน้าฝ้ายอย่างไร้อารมณ์ ต่อให้เธอแก้ผ้าต่อหน้าผม มันก็ไม่สามารถทำให้ผมมีอารมณ์กับเธอได้หรอก เพราะเธอทำให้ต้าหนิงเจ็บตัว “ไม่ลองก็ไม่รู้ ฝ้ายนะ เด็ดกว่ายัยเด็กนั่นอีกนะ” เธอยิ้มอย่างเชิญชวนพร้อมกับลากไล่มือบางไปตามร่างกายของผมแล้วก็มาหยุดอยู่ที่กระดุ้มเม็ดบนสุดของเสื้อนักเรียนที่ผมใส่อยู่ เธอปลดมันออกไปสามเม็ด แล้วเธอก็ลากไล่มือบางเข้ามายังด้านในเสื้อลูบไล้อกแกร่งผมเล่น เธอจะรู้ตัวไหมว่าทำให้ผมรำคาญเต็มทน ตอนแรกผมคิดว่าเธออาจจะดีกว่าคนอื่นๆ ซะอีก แต่ตอนนี้เธอไม่ต่างจากคนอื่นเลย ผมเอื้อมมือข้างหนึ่งไปล็อกที่ท้ายทอยของฝ้ายไว้ จากนั้นผมก็โฉบริมฝีปากของตัวเองบดขยี่ริมฝีปากเธอแรงๆ ผมแค่ถูไปมาแค่นั้น ไม่ได้แทรกลิ้นเข้าไป “จืดชืด... ฉันให้เธอได้แค่นี้แหละ ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับเรื่องที่ผ่านมาก็แล้วกันนะ” ผมลงจากโต๊ะเรียนแล้วเดินออกมา ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเธออีก ต้าหนิง หลังจากวันนั้นที่ฉันไปดูหนังกับพี่ไผ่ ความสัมพันธ์ของเราก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้น อันที่จริงพี่ไผ่เขาก็ขอคบกับฉันแล้วล่ะ แต่ฉันยังไม่ตอบตกลงอะไร ขอเวลามาคิดดูอีกสักหน่อย ซึ่งพี่ไผ่ก็เข้าใจไม่ได้เร่งรัดอะไรฉัน เฮียโต้งก็ชั่งรักษาคำพูดดีจริง เพราะเฮียไม่เคยเข้ามาขัดขว้างหรือวุ่นวายเลย แต่เวลาฉันจะออกไปไหน เฮียมักจะระแวงแล้วก็พูดว่า “ไปกับไอ้หน้าตี๋ใช่ไหม” ทั้งที่ฉันเดินไปแค่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ บ้านนี่เอง วันนี้เป็นวันปัจฉิมของพี่มอหก ซึ่งมอสี่อย่างพวกฉันก็ต้องมาดูคอยศึกษางานและช่วยจัดงานให้กับพวกพี่ๆ เพราะปีหน้าพอฉันขึ้นมอห้า พวกฉันก็ต้องมาจัดงานให้กับพวกพี่ๆ มอหกรุ่นต่อไป “น้องต้าหนิงน้องแก้มใสครับ มาถ่ายรูปกับพวกพี่หน่อยดิ อีกหน่อยก็ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ แล้วนะ” พี่บิ๊กไบค์เดินมาเรียกฉันกับแก้มให้ไปถ่ายรูปกับพวกพี่ๆ เขา ฉันกับแก้มใสเดินตามพี่บิ๊กไบค์ไปยังซุ่มถ่ายรูป ที่ยอมมาง่ายๆ ก็เพราะฉันเห็นว่าพี่ชายฉันก็อยู่ด้วยหรอกนะ ฉันเดินไปยืนตรงกลางระหว่างพวกเขาเพื่อถ่ายรูป และฉันก็รู้สึกว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังฉันนั้นพยายามเข้าใกล้ฉันเหลือเกิน จนฉันต้องหันหน้าเงยขึ้นไปส่งสายดุๆ ให้เขา แต่เขากลับยืนยิ้มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จะแกล้งกันไปถึงไหนนะ พอถ่ายรูปกับพวกพี่ๆ เสร็จแล้วฉันก็เดินมาเข้าห้องน้ำกับแก้มใสสองคน ไม่รู้ว่าแพรวกับน้ำหายไปไหนสงสัยไปรออยู่ที่โรงอาหารแล้วแน่ๆ เพื่อนฉันสองคนนั้นนะ ขาดของกินได้ซะที่ไหน “แก้มไปรอด้านนอกนะต้า จะมัดผมใหม่สักหน่อยมันเริ่มหลุดแล้ว” แก้มใสตะโกนบอก "จ้า" ก๊อกๆ ๆ ๆ ๆ “แป๊บนึ่งค่ะ” ฉันตะโกนออกไป เมื่อมีคนมาเคาะประตู ก๊อกๆ ๆ ๆ ๆ เอ๊ะ ห้องอื่นไม่มีว่างเลยเหรอถึงได้มาเคาะแต่ห้องฉันเนี่ย “เสร็จแล้วค่ะ” พอฉันเปิดประตูออกมาก็เจอกับพี่ฝ้ายและเพื่อนๆ ของพี่เขาอีกสองคน “พี่ฝ้าย” “ไง ยังจำพี่ได้นิ แล้วทำไมถึงไม่จำบ้างว่าไม่ควรยุ่งกับแฟนของพี่” พี่ฝ้ายยืนเท้าสะเอวถาม เพื่อนของพี่ฝ้ายคนหนึ่งเดินไปล็อกประตูทางเข้าห้องน้ำ “ต้าก็ไม่ได้ยุ่งอะไรนิคะ” ฉันก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับเขานิ “แล้วเมื่อเช้าหมาตัวไหนมันไปถ่ายรูปกับราเรซล่ะย่ะ” เพื่อนพี่ฝ้ายพูดขึ้น “เอ้า ใครๆ เขาก็ถ่ายกับรุ่นพี่กันทั้งนั้นป่ะ และอีกอย่างนะ เฮียโต้งของต้าก็อยู่ด้วยแล้วทำไมต้องคิดว่าถ่ายกับพี่ราเรซคนเดียวล่ะ ไม่คิดว่าต้าก็อยากถ่ายรูปกับพี่ชายของตัวเองบ้างเหรอ” ฉันเถียงกลับอย่างเหลืออดกับความหึงเรียราดของพี่ฝ้าย ถ้าฉันไปถ่ายรูปสองต่อสองกับพี่ราเรซก็ว่าไปอย่าง “อย่าคิดว่าเป็นน้องสาวของโต้งแล้วฉันจะไม่กล้านะ” พี่ฝ้ายจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง “ต้าก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองมีอภิสิทธิ์เหนือใครหรอกนะ แต่นี่พวกพี่มาหาเรื่องต้าโดยที่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย” เพี๊ยะ! รู้ชาวาบที่แก้มซ้ายเมื่อพี่ฝ้ายเดินเข้าตบหน้าโดยไม่ทันระวังตัว เพี๊ยะ! ฉันตบหน้าพี่ฝ้ายกลับไปเหมือนกัน ฉันไม่ยอมถูกตบอยู่ฝ่ายเดียวหรอกเพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด “มึงกล้าตบกูเหรออีต้า!” พี่ฝ้ายพุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อนักเรียนของฉัน “ก็มึงตบกูก่อนนิ” ฉันไม่จำเป็นต้องพูดดีกับคนประเภทนี้อีกแล้ว เปลืองน้ำลายเปล่าๆ “อีต้า!” “อะไรล่ะ อีฝ้าย!” ตุบ! ฉึก! ฉันถูกพลักลงกับพื้นอย่างแรงทำให้หัวเข่าขูดไปกับพื้นกระเบื้องรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ฉันก้มลงมองดูที่หัวเข่าของตัวเองที่ตอนนี้เริ่มมีเลือดไหลซิบออกมา เจ็บจัง... “ไปจับมันขึ้นมา!” พี่ฝ้ายสั่งเพื่อน แล้วเพื่อนของพี่ฝ้ายก็เข้ามาล็อกแขนฉันคนล่ะข้าง พลึก! ปัง! เสียงประตูทางเข้าห้องน้ำเปิดออกอย่างแรง ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง พี่ราเรซ เขามาได้ไง พี่ฝ้ายตั้งท่าจะเข้ามาตบฉันอีกครั้ง แต่ก็ถูกพี่ราเรซกระชากตัวออกไปอย่างแรง ทำให้ร่างของพี่ฝ้ายกระแทกกับกำแพงเสียงดัง “หยุด! ห้ามใครแตะต้องต้าหนิงอีก ไม่งั้นมีเรื่องกับกูแน่” พี่ราเรซในตอนนี้เขาดูน่ากลัวมาก เขาไม่แม้แต่จะพูดดีๆ กับพี่ฝ้ายเลยด้วยซ้ำ “พี่เรซ...” พี่ราเรซเดินเข้ามาอุ้มร่างของฉันขึ้นไปแนบกับอกแกร่งของเขา อบอุ่นจัง... “พี่ขอโทษนะ ที่เป็นต้นเหตุ ทำให้ต้าต้องเจ็บตัว” คำพูดขอโทษออกมาจากริมฝีปากหนาที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาก็มีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย สายตาของเขาดูห่วงใยฉันอย่างไม่ปิดบัง เขาเป็นห่วงฉันงั้นเหรอ... นี่ฉันไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม “ทำไมเรซ! ทำไมต้องปกป้องมันด้วย เมื่อก่อนไม่เห็นเรซจะสนใจเลย... แล้วทำไม!” พี่ฝ้ายตะคอกถามเสียงดังลั่น “เธอจะทำร้ายใครฉันไม่ว่า แต่ต้องไม่ใช่ต้าหนิง” คำพูดของพี่ราเรซทำให้ฉันหันไปจ้องหน้าเขาอย่างตกใจ นี่เขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ “ฝ้ายเป็นแฟนเรซนะ เรซควรจะสนใจฝ้ายไม่ใช่มัน!” พี่ฝ้ายเดินเข้ามาทำท่าจะดึงตัวฉันออก แต่พี่บิ๊กไบค์เข้ามาขว้างไว้ก่อน “เราเลิกกัน” พี่ราเรซอุ้มฉันด้วยแขนเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงควานหาอะไรสักอย่าง แล้วก็หยิบออก โทรศัพท์ ไม่รู้ว่าเขาเอามาทำอะไร ฉันชะเง้อมองดูหน้าจอโทรศัพท์ก็เห็นพี่ราเรซกดเข้าแอพพิเคชั่นเฟซบุ๊คแล้วก็กดเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์ระหว่างพี่ราเรซกับพี่ฝ้าย เขาตั้งสถานะของตัวเองว่า โสด... ฉันเห็นพี่ฝ้ายรีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดูพร้อมกับทำสีหน้าตกใจ “ไม่นะเรซ ฝ้ายขอโทษ ฝ้ายจะไม่ทำอีกแล้ว อย่าเลิกกับฝ้ายเลยนะ” พี่ราเรซกลับไม่สนใจพี่ฝ้ายเลยสักนิด เขาอุ้มฉันเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงไปยังห้องพยาบาลของโรงเรียน ห้องพยาบาล “ไปโดนอะไรมาคะ” เสียงพยาบาลประจำห้องถามขึ้น “ลื่นล้มนะคะ” ฉันตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปให้พี่ราเรซ ไม่ให้เขาบอกอะไรกับพี่พยาบาล พอแก้มใสเดินเข้ามาพี่ราเรซก็เดินออกไปนอกห้องพร้อมกับพี่บิ๊กไบค์ ฉันเผลอมองตามแผ่นหลังกว้างจนหลับสายตาเมื่อประตูห้องถูกปิดลง “เดินยังไงคะ ถึงได้ล้มกระแทกแรงขนาดนี้” พี่พยาบาลถาม พลางทำแผลให้ฉันไปด้วย “ต้าซุ้มซ้ามน่ะค่ะ ไม่ทันระวัง” ฉันยิ้มแห้งๆ ไปให้พี่พยาบาล “เรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้ารู้สึกปวดก็ทานยาแก้ปวดได้เลยนะ” ฉันยิ้มให้กับพี่พยาบาล ฉันเดินออกมาจากห้องพยาบาลโดยมีแก้มใสเป็นคนคอยพยุงให้ฉันเดินได้ถนัด พอเดินออกมาฉันกลับไม่เห็นพี่ราเรซ เห็นเพียงพี่บิ๊กไบค์ยืนอยู่คนเดียว “พี่บิ๊กไบค์คะ พี่ราเรซล่ะ” ฉันอดถามหาไม่ได้ กะว่าจะมาขอบคุณสักหน่อยไม่รู้ไปไหนแล้ว “อยู่บนอาคารนะ” พี่บิ๊กไบค์บอกพร้อมกับชี้นิ้วไปยังบนอาคารเรียน แล้วพี่ราเรซจะขึ้นไปทำไม นี่มันไม่ใช่ตึกของพี่มอหกสักหน่อย นี่มันตึกของน้องมอสามต่างหาก “แก้มใส พี่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย” พี่บิ๊กไบค์บอกกับเพื่อนฉัน “มีอะไรคะ” แก้มใสถาม “ไปคุยตรงโน้น” พี่บิ๊กไบค์เดินนำไปยังต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากที่ฉันยืนสักเท่าไหร่ คงจะอยากคุยกันสอง แต่เพื่อนฉันกลับไม่ยอมเดินตามไปซะงั้น “ไปสิแก้ม” ฉันก็เลยออกปากไล่ซะเลย แก้มใสทำท่าหึกฮักนิดหน่อยแต่ก็ยอมเดินตามไป พอไม่มีใครอยู่ด้วยแล้ว ฉันก็เลยแอบเดินขึ้นไปยังบนอาคารเรียนของน้องมอสาม สงสัยจัง... ว่าพี่ราเรซขึ้นไปทำอะไร หรือว่าแอบไปงีบแบบนี้ต้องตามไปดู ฉันเดินขึ้นบันไดมาค่อนข้างลำบากนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้นักหนาอะไร ฉันเดินมองเข้าไปในห้องเรียกแรกก็ถึงกับชะงักเท้าที่จะเก้าเดินต่อทันที นั้นพี่ราเรซกับพี่ฝ้ายกำลัง... จูบกัน ฉันรีบหันหลังเดินลงบันไดอย่างรวดเร็วจนลืมไปว่าตัวเองนั้นมีแผลอยู่ที่หัวเข่า ลืมเจ็บไปชั่วขณะ อะไรของเขานะ ก่อนหน้านี้ก็เห็นทำเหมือนห่วงใยฉัน ปกป้องฉัน แต่ตอนนี้กลับไปจูบกับแฟนของตัวเองซะงั้น ทั้งที่บอกเลิกกันไปแล้ว ตึกๆ ๆ ๆ ตึกๆ ๆ ๆ นี่เธอกำลังหวังอะไรอยู่... ต้าหนิง เธอหวังว่าเขาจะชอบเธองั้นเหรอ เธอคิดว่าเขารู้สึกดีกับเธองั้นเหรอ เธอหลอกตัวเองทั้งนั้น ...ต้าหนิง แค่เขาทำดีด้วยไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบเธอสักหน่อย ที่เขาทำไปก็เพราะว่าเธอคือน้องสาวของเพื่อนสนิทของเขาเท่านั้น อย่าแม้แต่จะคิดอะไรเกินไปกว่านี้เลย ฉันหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดโทรออกหาพี่ไผ่ หวังว่าเขาจะว่างรับสายฉันนะ “ครับ ต้าหนิง” เสียงพี่ไผ่รับสาย “พี่ไผ่ค่ะ เรื่องที่พี่ไผ่ขอคบกับต้า ...ต้าตกลงค่ะ” ฉันพยายามพูดให้น้ำเสียงฟังดูปกติที่สุด “จริงเหรอ พี่ดีใจที่สุดเลย ขอบคุณนะต้าหนิง” เสียงพี่ไผ่พูดอย่างดีใจ “วันเสาร์นี้ไปดูหนังกันนะ” ฉันชวนพี่ไผ่ “โอเคครับ เดี๋ยวพี่ไปรับนะ” พี่ไผ่บอก “ค่ะ แค่นี้ก่อนนะ บ๊าย...” ฉันตอบตกลงไปแล้ว ฉันควรจะดีใจสิ ไม่ใช่มาเศร้าแบบนี้ จะมัวมารอความหวังลมๆ แล้งๆ ไม่ได้ เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นกับฉัน “คบกันแล้วเหรอ” ฉันสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยและก็จำได้แม่น พี่ราเรซ “ค่ะ” ฉันหันไปตอบพี่เขาโดยไม่สบสายตา “งั้นก็... ยินดีด้วยนะ” พูดจบเขาก็เดินจากฉันไปทันที ฉันมัวแต่ก้มหน้าเลยไม่รู้ว่าตอนที่เขาพูดเมื่อกี้มีสีหน้ายังไง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างเดินจากไปไกลแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม