รอยแค้นซ่อนรอยรัก EP. 04 อดีตที่หวนกลับมา (2)

1553 คำ
กรธิดานั่งมองหน้ารุ่นน้องด้วยความสงสัย แต่ไม่ถามอะไรออกมา และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวว่าโดนจ้องจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับรุ่นพี่ ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย “พี่ผึ้งจ้องหน้าริสาทำไมคะ มีอะไรหรือเปล่า” “ถ้าตาพี่ไม่ได้ฝาด พี่เห็นคุณอัครพลเดินมาโน่นแล้ว” กรธิดาชี้ไปทางชายหนุ่มที่ตนเอ่ยถึง ซึ่งกำลังเดินมายังโต๊ะที่เธอกับรุ่นน้องนั่งอยู่ รวิสาหันไปมองก่อนจะตกใจระคนแปลกใจที่เจอเพื่อนรักของพี่ชายที่นี่ อัครพลเห็นสองสาวนั่งอยู่ในร้านขายอาหารที่เขาไม่คุ้นเคย เนื่องจากเขาไม่เคยย่างกรายเข้ามาในร้านอาหารริมทางแบบนี้ และที่สำคัญ เขานึกแปลกใจและสงสัยเหลือเกินว่าน้องสาวของเพื่อนรักทำตัวติดดินได้ขนาดนี้เชียวหรือ ก่อนจะละสายตาจากน้องสาวของเพื่อนแล้วหันไปมองหญิงสาวอีกคน ผู้หญิงคนนี้ก็แปลก ทั้งที่เพื่อนรักของเขาไม่ชอบให้มาใกล้ชิดสนิทกับคนเป็นน้อง แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ถึงอย่างนั้นจะโทษหญิงสาวก็คงไม่ได้ เพราะต้นเหตุก็คือสาวน้อยข้างๆ เธอมากกว่า “สวัสดีครับคุณผึ้ง” อัครพลทักทาย ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามสองสาว “เอ่อ...สวัสดีค่ะคุณอัครพล ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่” กรธิดาตอบ ก่อนจะหันมาสนใจอาหารตรงหน้า “แล้วเรามาอยู่นี่ได้ยังไงกันริสา” ชายหนุ่มหันไปถามน้องสาวของเพื่อนรัก “มากินข้าว ไม่เห็นหรือไง” น้ำเสียงที่เคยหวานกลับกระด้างจนน่าแปลกใจ บ่งบอกชัดถึงความเอาแต่ใจตนเอง “พี่พูดดีๆ กับเรานะริสา” ชายหนุ่มพยายามควบคุมอารมณ์ เมื่อต้องมานั่งคุยกับสาวน้อยคนนี้ อัครพลปรามด้วยความหงุดหงิด พลางระงับอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างเต็มที่ “ริสา...พี่ว่าเราพูดดีๆ กับคุณอัครพลเขาดีกว่าไหม” กรธิดานั่งมองทั้งสองคนคุยกันแล้วขำ “แล้วทำไมริสาต้องพูดดีกับตาแก่นี่ด้วยล่ะคะพี่ผึ้ง” “ตาแก่เหรอ พูดแบบนี้หมายความว่าไงริสา” อัครพลชักฉุนขึ้นมาทันที “แล้วทำไมต้องขึ้นเสียงด้วย” รวิสาโวยขึ้นบ้างด้วยความเอาแต่ใจตัวเอง เนื่องจากไม่ค่อยมีใครขึ้นเสียงกับเธอแบบนี้ “เอ่อ...ผึ้งว่าคุณอัครพลพูดกับริสาเขาดีๆ ดีกว่าค่ะ” “พี่ผึ้งคะ ริสาขอตัวดีกว่าค่ะ อยู่ตรงนี้แล้วอารมณ์เสีย” หญิงสาวบอก ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ แล้วเดินกระแทกส้นออกไปจากร้าน อัครพลมองตามหลังคนที่เดินจากไปด้วยความโกรธ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนนิสัยเสียและไม่มีมารยาทเท่าน้องสาวของเพื่อนรักเลย ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวอีกคนที่ทำหน้าลำบากใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ก่อนจะหันไปมองน้องสาวของเพื่อนรักที่เดินออกไปจากร้าน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเดินตามรวิสาไปอีกคน ////////////// “จะไปไหนริสา” น้ำเสียงที่เอ่ยถามมาจากด้านหลัง ทำรวิสาถึงกับสะดุ้ง เพราะไม่คิดว่าเพื่อนรักของพี่ชายจะมายืนอยู่ด้านหลังเธอแบบนี้ แถมยังจับแขนเธอเอาไว้เสียด้วย เจ้าของเสียงแหลมตวาดใส่อีกฝ่ายอย่างโมโห “ปล่อยนะ จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไป...ปล่อย!” รวิสาโวยวายด้วยความโกรธ เธอเกลียดผู้ชายคนนี้ เกลียดมากที่สุดเท่าที่เคยเกลียด หญิงสาวพยายามแกะมืออีกฝ่ายให้หลุด แต่ดูเหมือนอัครพลจะรู้ เขาจึงบีบข้อมืออีกฝ่ายแรงๆ “โอ๊ย! เจ็บ ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้น...” “ไม่งั้นอะไร” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกึ่งหยอกล้อ “กรี๊ดดดด! ช่วยด้วยยยยย.... มีคนลวนลามหนู” หญิงสาวกรีดร้องดังลั่น ทำให้หลายคนหันมามองด้วยความสนใจ บางคนอยากรู้ แต่บางคนก็ไม่สนใจคิดว่าแฟนทะเลาะกัน และก่อนที่รวิสาจะร้องออกมาอีกครั้ง อัครพลก็เอามืออีกข้างปิดปากหญิงสาวไว้ทันที แล้วจึงหันไปบอกคนที่มองพวกเขาด้วยความเขิน “ผมกับแฟนทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ ขอโทษนะครับ” กรธิดาเห็นคนมุงกันจึงเดินเข้ามาดู เธอเห็นรุ่นน้องกับชายหนุ่มยืนกอดกันอยู่ข้างมุมตึก หญิงสาวจึงรีบแหวกฝูงชนเดินเข้าไปหาคนทั้งสอง ก่อนจะตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังลากรุ่นน้องของเธอขึ้นรถ และขับออกไปโดยที่เธอตามไปไม่ทัน ////////////////// กว่ากรธิดาจะถึงหอพักก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง เนื่องจากสภาพรถติดในกรุงเทพฯ สำหรับหญิงสาวแล้ว เมืองใหญ่แบบนี้ไม่น่าอยู่เลย รถก็เยอะ อากาศก็เสีย ค่าครองชีพก็สูง กว่าจะมาถึงหอพักก็เหนื่อยแทบแย่ หญิงสาวจ่ายเงินแล้วลงจากรถด้วยความเหน็ดเหนื่อย ก่อนที่จะเห็นชายหนุ่มที่เพิ่งลงมาจากรถเบนซ์รุ่นล่าสุด ที่เธอเห็นโฆษณาในทีวีเมื่อหลายวันก่อน ‘ทำไมแกถึงซวยแบบนี้วะยัยผึ้ง เจอคนที่ไม่อยากเจอตั้งแต่เช้า’ หญิงสาวจ้องมองรถคันหรู พร้อมกับพึมพำออกมาด้วยความหงุดหงิด แล้วหันหลังเตรียมวิ่งไปอีกทาง แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่เป็นใจเอาเสียเลย เมื่อกฤษดาหันมาเห็นเสียก่อน “หยุดเดี๋ยวนี้นะ กรธิดา” หญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ยอมให้ผู้ชายบ้าอำนาจ เห็นแก่ตัวคนนี้จับเธอได้หรอก ชายหนุ่มไม่รู้หรือยังไงกันว่าเธอน่ะวิ่งเร็วขนาดไหน “คนอย่างกรธิดาน่ะเหรอ จะยอมให้ใครจับได้ง่ายๆ” ถึงเธอจะเรียบร้อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอวิ่งไม่เร็วนี่นา แชมป์นักวิ่งระยะสั้นอย่างเธอไม่มีทางที่กฤษดาจะไล่ทันหรอก กรธิดาคิดอย่างมีความสุข แม้เธอจะไม่ได้เรียบร้อยแบบกุลสตรี แต่ก็ไม่ได้ห้าวจนเกินหญิง เจ้าของร่างบางวิ่งเลี้ยวไปหลบบริเวณโคนต้นไม้ใหญ่ด้วยความเหนื่อย กฤษดายืนหอบอยู่ใกล้ๆ ที่กรธิดาหลบอยู่ ชายหนุ่มเองก็เหนื่อยไม่แพ้กัน...อีกคนวิ่งหนี แล้วอีกคนวิ่งตาม เขาไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้ เขาจะต้องวิ่งไล่ตามผู้หญิงที่เขาเคยตั้งปณิธานเอาไว้ว่าชาตินี้จะไม่ชายตาแล ถึงแม้ว่าทั้งโลกจะเหลือแค่ผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว คนอย่างเขาก็จะไม่สนใจ...แต่นี่มันอะไรกัน ทำไมวันนี้เขากลับต้องมาวิ่งไล่ตามยัยบ้านี่ กรธิดาเองก็มีความคิดไม่ต่างจากชายหนุ่มเท่าไหร่นัก เพียงแต่ความคิดเห็นไม่เหมือนกันเท่านั้น ที่ไหนมีกฤษดาที่นั่นต้องไม่มีกรธิดา แล้วนี่ทำไมเธอต้องมาวิ่งหนีคนไม่มีหัวคิดด้วยก็ไม่รู้ เป็นเพราะรุ่นน้องตัวดีของเธอคนเดียวที่ทำให้เธอตกที่นั่งลำบากแบบนี้ “ไปหรือยังนะ คนบ้า วิ่งตามมาได้ เหนื่อยแทบแย่" เจ้าของเสียงหวานบ่นไปหอบไป นึกเกลียดกฤษดาไม่น้อยและขำตัวเองเหลือเกิน ทำไมเธอจะต้องวิ่งหนีผู้ชายคนนี้ด้วย เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย หญิงสาวถามตัวเอง โดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่เธอเอ่ยถึงยืนอยู่ข้างหลัง พอหันกลับมา ก็พบกับแววตาน่ากลัวของคนที่เธอไม่อยากเจอหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย “คุณกฤษดา” “ฉันจะเรียก มีอะไรไหม” “จ้องหน้าฉันแบบนี้หมายความว่าไง” กฤษดาตะคอกด้วยความโกรธ “เปล่า” หญิงสาวตอบกวนๆ กฤษดาจ้องมองหญิงสาวด้วยความหงุดหงิด คิดได้ดังนั้นเขาก็คงไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ก็มีอยู่ทางเดียว...ต้องให้ผู้หญิงคนนี้โทรหาน้องสาวตัวดีของเขา “ริสาไปไหน” “ยัยริสาหายไปแล้ว ถ้าอยากได้น้องสาวคืนก็หาเอาเองสิ มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน” หญิงสาวร่างบางสะบัดมือของชายหนุ่มออก แล้ววิ่งหน้ากลับอพาร์ตเม้นต์ทันที กฤษดาเห็นดังนั้นก็วิ่งตามหญิงสาวมาติดๆ “อย่าให้ฉันจับได้นะ กรธิดา ฉันเอาเธอตายแน่รอบนี้” ชายหนุ่มตะโกนพร้อมกับวิ่งตาม กว่าจะถึงห้อง กรธิดาก็รู้สึกเหมือนจะตายให้ได้ เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจะต้องวิ่งหนีผู้ชายคนนี้ รู้แต่ว่าไม่อยากเข้าใกล้ แต่ยิ่งหนีเท่าไรก็ยิ่งหนีไม่พ้น /////////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม