@คอนโดคามิล
ติ้ง!
เสียงลิฟต์คอนโดราคาแพงกลางใจเมืองถูกเปิดออกเข้าที่ชั้นบนสุดของคอนโดที่ทั้งชั้นนั้นเป็นของร่างสูงที่กำลังเดินออกจากลิฟต์แต่เพียงผู้เดียว ไม่สิ...ทั้งคอนโดนี้เลยต่างหาก ที่เป็นของเขา เพียงแต่คามิลไม่ได้ประกาศบอกใครจึงไม่ค่อยมีใครที่จะรู้เรื่องนี้สักเท่าไร นอกจากเขา มาร์ แล้วก็ธนา ลูกน้องคนสนิทของเขา
ตึกตึก
สองเท้าหนักเดินตรงเข้าไปยังโซฟากลางห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่งมือขวาจัดการดึงเนกไทที่สวมใส่อยู่ออกจากคอหนาพร้อมกับกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใส่อยู่ออกอย่างแรงจนเผยให้เห็นรอยสักมากมายตามลำตัวของคนตัวสูง ร่างหนาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาราคาแพงด้วยสีหน้าเรียบนิ่งใบหน้ายังคงแสดงออกมาถึงความเย็นชาไร้ความรู้สึก ผิดกับนัยน์ตาสีเทาที่เต็มไปด้วยความดุดัน
"คามิล โอเคหรือเปล่า" มาร์ที่นั่งอยู่เอ่ยถามร่างสูงที่นั่งเงียบอยู่ขึ้น
"..." เจ้าของใบหน้าเย็นชาก็นิ่งไม่ตอบ
"คามิล..."
"ฉันอยาก"
"ห หื้อ..."
"อยากตอนนี้" สิ้นเสียงทุ้มเอ่ย มือหนาก็จัดการเลื่อนเข้าไปกระชากร่างสวยหุ่นดีเข้าหาตัวอย่างแรงพร้อมกับก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอขาว
"คะ คามิล..." มาร์พยายามร้องเรียกห้ามอีกคน เนื่องจากเธอยังไม่พร้อมสักเท่าไร ทว่าคามิลก็ไม่คิดสนใจ ปากหนาก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอสวยไม่หยุด
"คามิล อย่าทำรอยนะ ห้ามทำรอย เดี๋ยวพรุ่งนี้มาร์มีถ่ายแบบ"
"อืม" ปากหนาขานตอบรับอย่างเข้าใจก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มบรรเลงบทรักกันไปเหมือนอย่างเคย อย่างที่มันเป็นมาตลอด...
ตกดึก
"อ อ๊ะ..." เสียงเล็กของมาร์เอ่ยร้องออกมาหลังจากที่หญิงสาวเพิ่งผ่านการร่วมรักที่แสนดุเดือดจากร่างสูงอีกคนที่นอนหลับอยู่ เนื้อตัวท่อนบนของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยสักที่ไม่เคยมีใครได้เห็น ทุกคนจะได้เห็นคามิลแค่ในลุคนักศึกษาแพทย์มหา’ลัยเอกชนชื่อดังเท่านั้น โดยไม่มีใครรู้เลยว่า ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั้น ซ่อนอะไรไว้มากมายที่ใครไม่อาจรู้ มีเพียงแค่มาร์เท่านั้นที่รู้จักคามิลเป็นอย่างดี
"..." ดวงตากลมสวยจ้องมองไปยังใบหน้าหล่อของคนที่หลับอยู่ด้วยความรู้สึกมากมายที่อัดอั้นอยู่ภายในใจ ซึ่งหนึ่งในความรู้สึกนั้นก็คือ ความรู้สึกสงสารและเข้าใจว่าทำไมคามิลต้องดูเป็นคนไร้หัวใจได้ขนาดนี้ เพราะสิ่งที่คนตัวสูงต้องพบเจอมาตั้งแต่เด็ก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คน ๆ หนึ่งจะสามารถรับไว้ได้...
คามิลไม่ใช่ลูกของสาธิต เขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของสาธิต เขาเป็นเพียงลูกติดของเปมิกา พ่อแท้ ๆ ของเขาเป็นนักธุรกิจชาวเยอรมัน แต่ทว่าหลังจากที่คามิลอายุได้ไม่กี่ขวบ พ่อของเขาก็เสียชีวิตลง ทำให้สาธิตที่เป็นเพื่อนของพ่อเขาเอาเขากับแม่ของเขาไปดูแลแทน โดยที่ตอนแรกคามิลไม่รู้เรื่องอะไรเลยตามประสาเด็กแต่หลังจากที่ไปอยู่กับสาธิตได้ไม่นาน แม่ของเขาก็ท้อง และคลอดลูกออกมา นั่นก็คือ เจได ทำให้สาธิตกับเจไดมักจะทำท่าทีเกลียดชังใส่คามิลอยู่ตลอด ชีวิตวัยเด็กของคามิลนั้นไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน เพราะต้องถูกสองพ่อลูกพูดจาไม่ดีใส่บนโต๊ะอาหารอยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อเริ่มโตขึ้นจนเรียนจบม.ปลาย ในตอนนั้นคามิลเริ่มที่จะแข็งข้อขึ้นทำให้สาธิตจัดการส่งเขาไปอยู่ที่โรงเรียนประจำที่ต่างประเทศ สาธิตให้ข้อมูลไปว่าคามิลเป็นเด็กมีปัญหาใช้อารมณ์รุนแรงทำให้เขาต้องติดอยู่ที่โรงเรียนประจำเป็นเวลาเกือบปีจนทำให้ได้รู้จักกับมาร์ หนึ่งในเด็กที่ถูกพ่อแม่นำมาทิ้งไว้ที่โรงเรียนประจำเช่นกันเพราะไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูลูกได้อีกต่อไป เนื่องจากบ้านของมาร์นั้นกำลังจะล้มละลาย หลังจากวันนั้นพ่อแม่ของมาร์ก็หนีหายตัวไป ทั้งสองได้รู้จักกันจากการทักทายของมาร์ ในตอนแรกนั้นคามิลไม่เอาใครเลย เขาเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ลำพังคนเดียว แต่แล้วในที่สุดมาร์ก็ใช้นิสัยใจเย็นใจดีของตัวเองสามารถเข้าไปสนิทสนมกับคามิลจนได้ แม้ว่าเธอจะต้องใช้เวลานานพอสมควรเลยก็ตาม คามิลไม่ใช่คนที่จะสามารถเข้าไปอยู่ในโลกของเขาได้ โลกของเขาที่เหมือนเต็มไปด้วยความมืดมิด...
หลังจากที่ถูกส่งตัวไปอยู่โรงเรียนประจำได้เกือบหนึ่งปี คามิลก็ต้องถูกถวิลพ่อของสาธิตเรียกตัวกลับไปอยู่ที่ประเทศไทย เนื่องจากถวิลนั้นรู้สึกเอ็นดูคามิลราวกับหลานแท้ ๆ ผิดกับลูกชายของเขา ชายสูงวัยต้องการให้คามิลเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจของทางบ้าน ธุรกิจการทำประกันชีวิต โดยธุรกิจของบริษัทถวิลนั้นเป็นประกันชีวิตบริษัทใหญ่ที่มีมูลค่าสูงในตลาดหลักทรัพย์ แน่นอนว่าสาธิตไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมากกับเรื่องนี้ เขาพยายามกันทุกอย่างรวมถึงบังคับให้คามิลเรียนหมอ เพื่อที่จะไม่ได้มามีแนวทางมายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจที่บ้านของเขาได้อีก คามิลที่ตอนนั้นยังเด็กเกินไปก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธหรืออะไรได้ เขาได้พามาร์กลับมาด้วยในฐานะเพื่อนของเขา และเริ่มที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจการใช้อำนาจด้านมืดตั้งแต่อายุสิบเก้า เขาสะสมประสบการณ์ต่าง ๆ รวมถึงได้รู้จักกับธนาคนที่พ่อเป็นอดีตมือขวาของสาธิต แต่ถูกสาธิตไล่ออกพร้อมยัดข้อกล่าวหาให้เป็นแพะรับบาปแทนในการนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ ทั้งสองได้รู้จักกันและค่อย ๆ ลงมือบางอย่างกันอยู่เงียบ ๆ ซึ่งในตอนนี้คามิลเองก็เริ่มที่จะกว้างขวางขึ้นในระดับหนึ่ง แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะสามารถชำระทุกอย่างกับสาธิตได้ เขาจึงทำได้แค่เล่นงานอีกคนอยู่เงียบ ๆ และทำตัวเหมือนคนไม่มีพิษสงอะไรต้องยอมอีกคนต่อไปอยู่ก่อนแบบนี้...
"มาร์เชื่อว่าสักวันจะเป็นวันของคามิลนะ...มาร์เชื่อ" เจ้าของใบหน้าเรียวสวยยิ้มเอ่ยบอกชายที่นอนอยู่ด้วยรอยยิ้มใจดีอบอุ่น ทว่าแววตากลับมีความรู้สึกบางอย่างที่ฉายออกมาผ่านสายตาคู่นั้น...
สถานะของทั้งสอง ไม่ใช่แฟน แต่ก็...ไม่ใช่เพื่อน