Chapter 4: แนะนำตัว

1791 คำ
หริณะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงชายสองคนเหมือนทุ่มเถียงกันอยู่ แถมยังมีมือใหญ่ของใครบางคนบีบอกอิ่มของเธอเบา ๆ ครั้งหนึ่งด้วย สาวน้อยเริ่มได้สติ เธอปรือตามองชายหนุ่มหล่อเหลาสองคนที่นั่งบนเตียงข้างกายเธอ สองหนุ่มทะเลาะกันเสียงดังแต่เธอยังจับใจความไม่ได้ว่าพวกเขาโต้เถียงกันเรื่องใด “อือ... ที่นี่ที่ไหนคะ?” สาวน้อยขยี้ตาแล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง สองหนุ่มที่ยังคุยกันไม่จบหันหน้ามามองหริณะเป็นตาเดียวกัน “ตื่นเสียทีแม่คุณ นึกว่าจะหลับทั้งคืนเสียแล้ว” ขาลพูดขึ้นมาทันที ใจน่ะมันชอบอยู่ แต่ปากนี่สิ ดันไวพูดจาประชดประชันไปเสียก่อน “ตื่นแล้วเหรอครับคุณ? หิวไหม? เดี๋ยวผมจะให้ลุงชัยเตรียมอาหารให้” วาฬถามขึ้นมาทันที นี่เป็นจุดที่วาฬคิดว่าเขาได้เปรียบไอ้ขาลมากอยู่ เขาโตพอที่จะแยกแยะความรู้สึกของตัวเอง ไม่เหมือนไอ้ขาลที่ชอบทำตัวเป็นเด็กน้อย แกล้งผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบ “หิวค่ะ... แต่... สรุปที่นี่ที่ไหน? แล้วเกิดอะไรขึ้นกับหนูกันคะ?” หริณะถามแล้วขมวดคิ้วทบทวนเรื่องราวก่อนที่เธอจะหมดสติไป หญิงสาวนิ่งเงียบเพียงครู่เดียวก่อนจะนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วทำตาโต “ผะ... ผะ... ผี... หนูโดนผีเด็กหลอก! กะ...กรี...!” หริณะพูดตะกุกตะกักเตรียมจะกรี๊ดอีกรอบแต่ขาลมือไวเอื้อมมือใหญ่ไปปิดปากเธอเสียก่อน “หยุดเลย วันนี้ผมฟังเสียงกรี๊ดของผู้หญิงมามากพอแล้ว ที่คุณเห็นไม่ใช่ผี นั่นเป็นกุมารที่ผมกับไอ้วาฬเลี้ยงไว้เอง” “ก็ผีอยู่ดีหรือเปล่าคะ? หนูกลัว” หริณะจับมือใหญ่ของชายหนุ่มแล้วดึงออกพร้อมกับพูดเสียงอ่อย มือน้อย ๆ ของเธอยังเกาะกุมมือใหญ่ไม่ยอมปล่อยเหมือนจะหาที่จับเอาไว้เพื่อปลอบใจตัวเองว่ามีคนอยู่เป็นเพื่อน “ไม่เชิงผีครับ ทองกับแก้วเป็นกุมารเทพ พวกเราปลุกเสกเชิญวิญญาณเทพให้มาอยู่ในร่างกุมารเอาไว้ปกปักรักษาอาณาเขตบ้านและไหว้วานงานน่ะครับ” วาฬพยายามอธิบายให้สาวน้อยเข้าใจ อย่างน้อยถ้าเธอรู้ว่าทองกับแก้วไม่ใช่ผีเธออาจหายกลัวได้บ้าง “ทำไมคุณพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติเลยคะ? เกิดมาหนูยังไม่เคยเจอทั้งเทพทั้งผีนั่นแหละ หนูกลัว หนูจะกลับบ้าน” หริณะพูดขึ้นมาแล้วเบ้หน้าคล้ายจะร้องไห้ ขาลที่อยู่ใกล้ตัวสาวน้อยมากกว่าฉวยโอกาสกระหวัดร่างเล็กเข้ามากอดปลอบประโลมให้หน้าน้องซุกกับอกกว้าง จริงอยู่เขาอาจแสดงอาการประชดประชันจิกกัดเธอเพราะเขามีความสุขเวลาได้ต่อล้อต่อเถียงกับเธอ แต่เรื่องฉวยโอกาสกับผู้หญิงแบบแนบเนียนเขาก็ไม่เป็นสองรองใคร “โอ๋ ไม่ต้องกลัวนะ ทำเป็นเด็กขี้แยไปได้ โตป่านนี้แล้ว อายุเท่าไหร่แล้วเรา? เห็นกุมารเทพนิดเดียวก็กลัวแล้ว” ขาลพูดไปลูบหัวน้องไป วาฬได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่ใช่เสือผู้หญิงที่จะหลอกจับหลอกกอดน้องเหมือนไอ้ขาลได้ “ตอนนี้เกือบห้าทุ่มแล้ว คุณสลบไปนานมาก อย่าเพิ่งกลับเลยครับ ตอนคุณมาที่บ้านนี้กับเพื่อนคุณคุณคงเห็นแล้วว่าทางมามันเปลี่ยวมาก พรุ่งนี้เช้าผมจะไปส่งเอง คืนนี้โทรบอกที่บ้านดีกว่าว่าจะค้างบ้านเพื่อน” วาฬเสนอ “แต่... เอมล่ะคะ?” สาวน้อยถามออกไปทั้ง ๆ ที่หัวยังซุกอยู่กับอกของขาลด้วยความกลัว “เออ... เพื่อนคุณกลับไปแล้ว เขาคงไม่คิดว่าคุณหลงทาง คงคิดว่าคุณรอเขาไม่ไหวแล้วกลับก่อน” วาฬตอบ หริณะนิ่วหน้าทันที ก็บอกแล้วว่าถ้ากลับก่อนจะไลน์ไปบอก แต่นี่ไม่ได้ไลน์ไปยัยเอมยังกลับเองไม่เหลียวแลหนูสักนิดเลย ยัยเพื่อนบ้านี่! คนอุตส่าห์ตามมาส่งหาอาจารย์เพราะกลัวเกิดเรื่อง ดันมาทิ้งกันได้ สาวน้อยได้แต่ก่นด่าเพื่อนสาวในใจแล้วตัดสินใจผละตัวออกจากอกหนาของหนุ่มหล่อหน้าตี๋พลางมองหากระเป๋าใบน้อยของเธอที่วาฬนำมาวางไว้ข้างเตียงแล้วกดโทรศัพท์หาแม่ “คุณนายแม่ของหนูขา... หนูจะค้างกับเอมค่ะ พรุ่งนี้หนูกลับนะคะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ขอโทษค่ะแม่ที่โทรบอกช้า ค่ะ... สวัสดีค่ะแม่” สองหนุ่มมองสาวน้อยที่นั่งบนเตียงใหญ่โทรหาแม่แล้วแก้ตัวได้คล่องแคล่วไม่เคอะเขิน พวกเขานึกว่าเธอจะลนลานที่ต้องค้างบ้านชายหนุ่มแปลกหน้าเสียอีก “คุณไม่โวยวายสักหน่อยเหรอที่ต้องค้างบ้านผู้ชายเนี่ย?” ขาลถามขึ้นมา “โวยวายไปทำไมคะ? เสียแรงเปล่า แค่กรี๊ดกลัวผีก็หมดแรงแล้ว พวกคุณไม่ได้ทำอะไรหนูเสียหน่อย แล้วหนูก็หน้าตาธรรมดา ถ้าจะเกิดเรื่องอะไรตอนอาจารย์วาฬทำพิธีให้เอมก็เกิดเรื่องไปแล้ว เอมสวยกว่าหนูตั้งเยอะ” หริณะพูดแล้วยักไหล่ อธิบายเชื่อมโยงเหตุผลจนสองหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วย สาวน้อยพูดถูกทุกอย่าง ผิดก็แต่... ผู้หญิงที่วาฬชอบไม่ใช่เอมิกา วาฬชอบแบบสาวน้อยตรงหน้าที่ดูซื่อ ๆ แต่กลับฉลาดหลักแหลมมากกว่าที่คิดต่างหาก ที่สำคัญมีญาณพิเศษ เห็นผีด้วย แบบนี้เวลาอยู่ด้วยกันจะได้ไม่มีปัญหา... วาฬคิดในใจแล้วยิ้มออกมาน้อย ๆ “ยิ้มทำไมไอ้วาฬ? น้องเขาบอกเขายอมค้างบ้านมึง เขาไม่ได้บอกว่าจะยอมขึ้นเตียงให้มึงเย่อ” ขาลกระซิบถามเพื่อนกึ่งแซว ไอ้วาฬใช่จะไร้เดียงสาเรื่องผู้หญิงแต่ถ้าเทียบกับเขาแล้ว ขาลย่อมโชกโชนเชี่ยวชาญเรื่องสาว ๆ มากกว่าเยอะ “ว่าแต่... คุณผู้หญิงชื่ออะไรครับ ผมจะได้เรียกถูก” วาฬไม่สนใจคำแซวของขาลแต่กลับหันหน้าไปถามหริณะด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ชื่อหริณะค่ะ หะ-ริ-นะ” สาวน้อยตอบเสียงใส พูดชื่อตัวเองซ้ำช้า ๆ แล้วก้าวลงจากเตียง “ชื่อแปลกจัง” ขาลเปรยขึ้นมา “หริณะแปลว่ากระต่าย หนูชื่อเล่นชื่อบันนี่ค่ะ เรียกบันก็ได้ น่ารักไหมล่ะคะ? มีแต่คนบอกว่าพ่อกับแม่ตั้งชื่อลูกน่ารัก หนูชอบมาก” หริณะพูดถึงที่มาของชื่อแล้วหัวเราะน้อย ๆ “น่ารักครับ/น่ารักดิ” วาฬและขาลตอบรับพร้อมกันจนเสียงหัวเราะน้อย ๆ ของหริณะดังขึ้นมาอีกนิดหน่อยเพราะเขินอายที่สองหนุ่มหล่อชมว่าชื่อเธอน่ารัก ยิ่งสาวน้อยหัวเราะจนตาหยีหัวใจของชายหนุ่มทั้งสองก็เต้นตึกตักโครมคราม สองหนุ่มหันหน้ามาสบตากันทันทีรู้ดีว่าต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกเดียวกันเกิดขึ้นในใจเพราะพวกเขาผูกดวงจิตไว้ด้วยกัน ความรู้สึกวาบไหวสั่นหวิวในใจไม่ทราบแน่ว่าเป็นของใคร รู้แต่ว่ามันทำให้ใจพองฟูแทบระเบิด สองเสือตกหลุมรักแม่กระต่ายน้อยเบื้องหน้าไปแล้วอีกนิดหนึ่ง แค่สบตาพบหน้าก็ตกหลุมพรางความรักของเธอไปแล้วรอบหนึ่ง ยิ่งเมื่อเธอบอกชื่อ ยิ้มแย้ม ต่อปากต่อคำกับพวกเขา สองเสือก็ยิ่งอยากได้ตัวเธอมากขึ้นไปอีก “บันนี่หิวข้าวหรือยังครับ? คุณยังไม่ได้ตอบผมเลย” วาฬถามซ้ำอีกรอบ “อืม... ก็หิวอยู่ค่ะ แต่ดึกแล้ว...” “กลัวอ้วนเหรอ?” ขาลถามเสียงออกแซว “เปล่าค่ะ หนูกลัวรบกวนคนอื่น มาค้างบ้านเขาไม่พอ ยังขอกินข้าวเขาอีก” สาวน้อยตอบเสียงอ่อย ถ้าเกิดสองหนุ่มตรงหน้าเธอหน้าตาท่าทางเหมือนโจรป่าเธอคงไม่ผ่อนคลายขนาดนี้ แต่นี่พวกเขาทั้งรูปหล่อและดูท่าทางร่ำรวย พูดจาสุภาพ เธอเป็นลมก็ยังช่วยพามานอนในห้องมันทำให้ความไว้ใจของเธอที่มีต่อสองหนุ่มมันมากเกินปกติอยู่นิดหน่อย “ไม่เป็นไรครับ ถ้าหิวเดี๋ยวผมจะให้ลุงชัยเตรียมอาหารให้” วาฬบอก “มะ... ไม่ดีกว่าค่ะ รบกวนคุณลุงพ่อบ้านเปล่า ๆ มีพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไหมคะ? ยี่ห้ออะไรก็ได้ หนูกินได้หมด” สาวน้อยบอกออกไปด้วยความเกรงใจ “งั้นเดี๋ยวผมพาเดินลงไปที่ห้องครัวนะครับ” วาฬเสนอ “ไม่รบกวนอาจารย์วาฬดีกว่าค่ะ บอกทางไปให้หนูก็ได้หนูไปเองได้” “เหอะ! ไม่มีทาง ที่นี่ถูกสร้างให้ซับซ้อนและวกวน เซ่อ ๆ อย่างคุณแค่เดินไปเข้าห้องน้ำตอนเดินกลับมายังเข้าห้องผิดจะเดินไปถึงห้องครัวได้เหรอ?” ขาลถามเหมือนดูถูกเธออยู่นิดหน่อย หริณะทำหน้าง้ำแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันจริงเหมือนที่เขาพูด “อาจารย์วาฬคะ คุณคนที่ปากร้าย ๆ นี่ใครกันคะ? น้องชายอาจารย์เหรอคะ? หน้าตาไม่เห็นเหมือนกันเลย” สาวน้อยชี้ไปที่ขาลแล้วหันหน้าไปถามวาฬ “คุณก็แสบใช่เล่น ยังมีหน้ามาว่าผมปากร้ายอีก แล้วยกนิ้วมาชี้หน้าคนอื่นได้ยังไง? มารยาทน่ะมีไหม?” ขาลถาม ไม่ได้มีอารมณ์โกรธเจือปนมีแต่อารมณ์สนุกสนานที่ได้ต่อปากต่อคำกับสาวน้อยมากกว่า “นายคนนี้ชื่อขาลครับ เป็นเพื่อนสนิทผม... เรียกได้ว่าเป็นเหมือนพี่น้องก็ว่าได้ บ้านหลังนี้ชื่อบ้านมหาเสกข์ตามต้นตระกูลของผมแต่ความจริงขาลก็มีสิทธิ์ครึ่งหนึ่งในบ้าน ถือว่าเป็นนายเล็กของบ้านนี้” วาฬแนะนำเพื่อนรักอย่างเป็นทางการให้หญิงสาวตัวน้อยได้รู้จัก มิน่าล่ะ ทำตัวอย่างกับเป็นเจ้าของบ้าน น่าหมั่นไส้มาก หริณะได้แต่คิดในใจแล้วแอบเหลือบมองขาลนิดหน่อย “งั้น... อาจารย์วาฬพาหนูไปห้องครัวหน่อยนะคะ หนูหิว” สาวน้อยกระตุกชายเสื้อสูทของหมอเวทรูปหล่อแล้วขอร้องเสียงหวาน เจอแววตากระต่ายน้อยอ้อนเข้าไปวาฬก็แทบจะละลาย รีบเดินนำหน้าพาสาวน้อยตรงไปยังห้องครัวแทบไม่ทัน ขาลเองก็เดินตามหลังสองหนุ่มสาวไปด้วย ตอนนี้แม่กระต่ายน้อยรู้จักทั้งเขาทั้งไอ้วาฬแล้ว ต่อไปนี้ก็เริ่มแข่งกันได้ว่าใครจะได้แม่กระต่ายน้อยไปครอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม