“ขอโทษนะครับคุณหนูผมจำเป็นต้องทำตามคำสั่ง” คนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นท่าทางเขาดูใจดีจนไม่น่าเชื่อว่าจะทำเรื่องลักพาตัวคนแบบนี้ได้ ดังนั้นหลิวรุ่ยหลินจึงมองสำรวจเขาด้วยความแปลกใจ
“ใครสั่ง? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ บอกให้ปล่อยไง! ปล่อย!” เธอพยายามดิ้นหนีขณะที่พวกเขากำลังพยายามใช้ผ้ามัดข้อมือสองข้างของเธอไว้ ก่อนจะใช้เทปปิดปากไม่ให้เธอร้องเสียงดัง
หลิวรุ่ยหลินพยายามดิ้นรนขัดขืนด้วยความหวาดกลัว ในใจคิดไปต่าง ๆ นานาแล้วว่าตนเองคงได้ตายสมใจแล้ว ช่างปะไรถ้าจะเป็นแบบนั้นบางทีเธออาจจะได้พบพ่อแม่ของตัวเองเร็วขึ้น หญิงสาวพิงศีรษะกับกระจกรถมองท้องฟ้ามืดมิดของวันนี้ทั้งน้ำตาที่รินอาบด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจกับสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่รถที่แล่นมาได้ระยะหนึ่งก็พาเธอออกมายังนอกเมืองและตรงเข้าไปยังคฤหาสน์หรูที่มีคนเฝ้าประตูมากมาย ความหรูหราร่ำรวยของคนที่สั่งให้จับตัวเธอมาทำให้หลิวรุ่ยหลินคิดได้ว่าอาจเป็นฝีมือของใครบางคนที่เธอรู้จัก
‘หรือว่านี่จะเป็นฝีมือของคุณชายซ่งกัน’
หลิวรุ่ยหลินถูกนำตัวเข้าไปยังห้องโถงกว้างใหญ่ของคฤหาสน์หลังนี้ ขณะที่กำลังมีใครบางคนนั่งยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่มรอเธออยู่อย่างใจเย็นราวกับว่าเป็นนายพรานที่รอล่าเหยื่อ
“ไม่เจอกันานเลยนะเป็นไงได้เงินฉันไปใช้เดือนนึงที่ผ่านมาคงเสพสุขเพลินเลยสินะ” ซ่งเหว่ยหนานพูดขึ้นพลางกลิ้งน้ำสีอำพันในแก้วเล่นไปมาอย่างไม่รีบร้อนก่อนจะยกมันขึ้นดื่มอีกครั้ง
ขณะที่หลิวรุ่ยหลินถูกคนเหล่านั้นพาตัวมาตรงหน้าเขาและปลดปล่อยเธอจากพันธนาการ ก่อนที่พวกเขาจะล่าถอยออกไปกันจนหมด ทั้งห้องกว้างนี้จึงเหลือเพียงเธอและเขาที่เผชิญหน้ากันตามลำพัง
“นาย...” เธอมองเขาด้วยความหวาดกลัว คิดไว้อยู่แล้วว่าคนรวยระดับนี้คงไม่ยอมเสียเงินเป็นแสนง่ายๆ แต่ก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะกล้าลักพาตัวกันแบบนี้
“ปล่อยฉันไปนะฉันจะแจ้งความนายไม่มีสิทธิ์มาลักพาตัวกันแบบนี้” เธอทำใจดีสู้เสือแม้จะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะข่มขู่คนตรงหน้า เพราะถ้าเขากลัวกฎหมายเขาคงไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่แรก ซ่งเหว่ยหนานรวยออกขนาดนั้นเธอเองก็คงเป็นเพียงแค่มดปลวกในสายตาเขา
“เหอะแจ้งความ เธอนี่มันไม่รู้เลยสินะว่ากำลังพูดอยู่กับใคร ถ้าเธอมีปัญญาทำอะไรแบบนั้นเธอคงไม่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้” เขากล่าวอย่างถือดี คิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้ยังโง่ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ
“เธอกล้ามากที่ร่วมมือกับสองคนนั้นมาหลอกฉัน ผู้หญิงแบบเธอมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้ เธอมันก็แค่ผู้หญิงหิวเงินทั่วไปสินะ ฉันล่ะผิดหวังจริงๆ ที่เคยมองว่าเธอสูงส่งกว่านั้น”
“สุดท้ายก็แค่ผู้หญิงที่เอาตัวเข้าแลกเพื่อเงิน เงินสิบล้านของฉันฉันไม่ยอมเสียมันให้เธอเพื่อคืนเดียวหรอก”
ซ่งเหว่ยหนานเอ่ยออกมาด้วยสายตาที่จ้องมองกันราวกับว่าอยากจะกลืนกินทั้งแค้นใจและทั้งปรารถนาบางอย่างจากเธอ
สิ่งที่หญิงสาวได้ยินกลับทำให้เธอต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเสียยิ่งกว่าท่าทางหน้ากลัวและคุกคามกันของชายตรงหน้า หลิวรุ่ยหลินเพิ่งได้รู้ความจริงในวันนั้นว่าตนเองถูกเพื่อนรักหลอกลวงและหักหลังไปทุกเรื่อง เธอได้เงินเพียงหนึ่งแสนเพื่อไปรักษาพ่อตัวเอง แต่เงินอีกเกือบสิบล้านนั้นกลับไม่เคยได้จับต้อง
หวงอี่หลินกับเกาเทียนเจี๋ยหลอกเธออีกแล้วทั้งยังใช้ประโยชน์ที่ได้จากเรือนร่างของเธอจนคุ้มยิ่งกว่าคุ้มขณะที่เธอเองเป็นผู้เสียทุกอย่างกลับได้เพียงเศษเงินจากคนเหล่านั้น ป่านนี้พวกมันคงเอาเงินก้อนใหญ่นั่นไปเสวยสุขกันถึงไหนต่อไหนแล้วยิ่งคิดก็ยิ่งให้นึกเจ็บใจแถมยังมาทิ้งปัญหาใหญ่อย่างซ่งเหว่ยหนานเอาไว้ให้เธออีก
ซ่งเหว่ยหนานมองเธอด้วยความรู้สึกเกลียดชังแต่ก็กลับคิดถึงแต่เรื่องในวันนั้น ที่จริงเขาคิดถึงเธอมาโดยตลอด ยอมรับว่าหลิวรุ่ยหลินเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง สัมผัสของเธอยังติดตรึงใจเขา ทั้งเขายังเป็นผู้พรากพรหมจรรย์ของเธอยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกคาใจมาโดยตลอดว่าเหตุใดผู้หญิงที่ดูหิวเงินคนนี้กลับยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง
แก้วเหล้าในมือถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดก่อนที่เขาจะลากเธอขึ้นเตียงด้วยความแค้นและคิดจะบดขยี้เธอให้แหลกลาญอีกครั้ง เขาเริ่มรู้สึกสนุกที่เห็นดวงตากวางน้อยตรงหน้ากำลังสั่นระริกคล้ายเปลวเทียนที่วูบไหวด้วยความหวาดกลัวที่พยายามหลบซ่อนแบบนั้น
เขาเดินเข้าไปหาเธอและยกมือขึ้นใช้หลังมือลูบแก้มเนียนอย่างเบามือด้วยสายตาที่จดจ้องเธอราวกับเป็นเหยื่ออันโอชะ สัมผัสของเขาทำให้เธอสะดุ้งและพยายามถอยหนีโดยทันที เธอไม่กล้าสบตาเขาในระยะประชิดแต่เพราะไม่อาจหนีไปไหนได้สุดท้ายก็ถูกกักไว้ภายใต้วงแขนแกร่งของอีกฝ่ายอย่างจนมุม รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของเธอก็ชนเข้ากับผนังห้องอย่างจังขณะที่มีซ่งเหว่ยหนานดักเธออยู่ด้านหน้าในระยะเพียงหนึ่งช่วงแขน
ลมหายใจอุ่นร้อนของเขารินรดลงที่ข้างแก้มของเธอจนรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่ลามขึ้นใบหน้า ก่อนที่เขาจะใช้ปลายนิ้วเรียวสัมผัสลงมาที่ปลายคางมนของเธอแล้วเชยมันขึ้นมาเพื่อรับจูบ ทำเอาหญิงสาวตะลึงงันไปชั่วขณะด้วยความตกใจ แต่เพราะสัมผัสอ่อนโยนของเขาที่ทำด้วยความนุ่มนวลนั้นจึงทำให้เธอเผลอใจยอมโอนอ่อนตามไปแต่โดยดี
ยอมรับว่าซ่งเหว่ยหนานนั้นทรงเสน่ห์ เขาคงไม่ต่างจากปีศาจหรือซาตานที่ร้ายกาจเพราะรูปโฉมที่มีไว้ล่อหลอกเหยื่อมนุษย์เล็กๆ เช่นเธอให้ใหลหลง มัวเมาไปกับความทรงเสน่ห์นั้นจนขาดสติไปโดยง่าย เพียงเพราะสัมผัสอ่อนโยนราวกับต้องการถนอมกัน ท่าทีคราวแรกที่เหมือนคุกคามเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อและใช้วิธีค่อยๆ ชักนำเธอให้คล้อยตามมากกว่าจะบังคับกัน
ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาสัมผัสลงมาบนริมฝีปากอวบอิ่มของเธออย่างแผ่วเบาก่อนที่จะขบมันเล็กน้อยจนเธอเผลอเผยอปากออกให้เขารุกล้ำเข้าไปโดยง่าย เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดฉกชิงลมหายใจของคนไม่ประสาอย่างช่ำชองจนทำให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบอันร้อนแรง ช่วงชิงลมหายใจจากโพรงปากอ่อนนุ่มไม่ประสานั้นจนหลิวรุ่ยหลินแทบจะหายใจตามไม่ทัน เสียงลมหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างจากเธอพร้อมกับความรุนแรงที่เริ่มมีมากขึ้นและบดขยี้ลงมาจนกายเธอร้อนผ่าวราวขี้ผึ้งถูกลนไฟ
อาจเพราะความเหงาที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจจึงทำให้เธอตกหลุมพรางของเขาโดยง่าย หรือบางทีเพราะส่วนหนึ่งหลิวรุ่ยหลินไม่ได้โทษเขาตั้งแต่แรกจึงไม่ได้โกรธเกลียดเขามากพอหรือคิดจะผลักไสสัมผัสนี้ หลิวรุ่ยหลินเคลิ้มไปกับความอ่อนโยนนั้นราวว่ามันสามารถช่วยเข้าไปเติมเต็มความรู้สึกในหัวใจของเธอตอนนี้ที่มันกำลังเว้าแหว่งอยู่ เพียงแต่เพราะถ้อยคำร้ายกาจก่อนหน้านั้นยังคงตามหลอกหลอนจึงทำให้เธอได้สติและไม่ยอมตกเป็นของเขาอีกครั้ง
เธอไม่มีวันยอมเป็นโสเภณีข้ามคืนของเขาให้เขาต้องดูถูกอีกแน่นอน หลิวรุ่ยหลินออกแรงผลักคนตรงหน้าออกสุดแรงเกิดเมื่อได้สติก่อนจะตั้งหลักวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าคนแบบซ่งเหว่ยหนาน ชายหนุ่มเซถลาเพียงเล็กน้อยก่อนจะรีบหันกลับไปคว้าจับเธอเอาไว้
สุดท้ายซ่งเหว่ยหนานก็คว้าข้อมือบางของคนตรงหน้าไว้ได้หลังจากที่เธอได้สติและพยายามดิ้นหนีเขาอย่างไร้ประโยชน์อีกครั้ง ข้อมือบางสองข้างถูกมือหนาของเขารวบมันไว้แน่นและกดเข้าพิงกับผนังจนเธอไม่อาจขัดขืน กายแกร่งของเขาแนบเข้ามาใกล้ชิดจนเราทั้งสองต่างบดเบียดกันและกันอยู่บนกำแพง
ด้วยท่าทางที่อยู่ในอันตรายนี้ทำให้หลิวรุ่ยหลินพยายามดิ้นหนีและขัดขืนสุดกำลังอย่างไม่ยอมแม้รู้ดีว่ามันจะไร้ประโยชน์แค่ไหนก็ตาม
“ปล่อยนะ ฮึก..ปล่อยฉัน..อื้อ....”
ยิ่งเธอพยายามดิ้นหนีเขาก็กลับยิ่งรู้สึกต้องการเธอมากขึ้น ซ่งเหว่ยหนานบดจูบลงไปอย่างร้อนแรงกว่าเดิมจนเธอเริ่มอ่อนแรงและโอนอ่อนตามเขาอีกครั้ง ริมฝีปากร้ายกาจนั้นชักนำเธอด้วยการจูบที่ดูเหมือนว่าจะทำให้เธอชื่นชอบและโอนอ่อนต่อเขาได้โดยง่าย
เขารวบข้อมือเธอไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวก่อนจะเชยคางมนของเธอขึ้นมาเพื่อสบตากัน
เธอยังสวยและยังดูอ่อนต่อโลกเสมอเหมือนครั้งแรกที่เขาเคยได้สัมผัส แม้ครั้งนั้นสติเขาจะไม่เต็มร้อยเพราะถูกยาปลุกเซ็กส์นั่นแต่ก็ยังสามารถจดจำความสวยงามของเธอได้ทุกส่วน หลิวรุ่ยหลินตัวสั่นราวลูกนกต้องฝนยามเมื่อถูกเขาไล่ต้อนและสัมผัสไปทั่วกาย
เสื้อผ้าของเธอถูกเขาถอดออกโดยง่ายในชั่วพริบตาไม่ต่างจากเสื้อผ้าของเขาที่ถูกปลดออกไปจากร่างอย่างรวดเร็วทั้งที่เขายังคร่อมทับอยู่บนกายเธอ หญิงสาวพยายามจะดิ้นหนีแต่กลับถูกเขากักตัวเอาไว้ใต้ร่างจนไม่อาจขยับ
เธอกำลังสับสนอย่างหนัก แม้ในใจจะต่อต้านแต่ซ่งเหว่ยหนานกลับต้อนเธอให้รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ความรู้สึกสายหนึ่งบอกเธอว่าอย่างไรก็ไม่ยินยอมที่จะมีอะไรกับเขาอีก แต่ร่างกายเธอตอนนี้กลับตอบรับทุกสัมผัสของเขาอย่างเย้ายวน
เรียวขาขาวของเธอถูกเขาช้อนไว้ด้วยวงแขนแกร่งยามที่เขาแทรกกายยัดเยียดตัวตนใหญ่โตเข้าไปในช่องทางที่ยังคับแน่นเหมือนคราวแรกที่ร่วมรักกัน
"ไม่ ไม่ ไม่เอา อย่านะ ปล่อยฉัน" เธอพยายามปฏิเสธและดิ้นหนีทั้งน้ำตาที่เริ่มไหลอาบลงมาบนใบหน้าแต่ก็ไม่อาจสู้แรงคนที่อยู่บนกายได้ สุดท้ายตัวตนที่แข็งขืนนั้นก็ถูกเขากดมันแทรกลงไปในช่องทางรักที่ชุ่มชื้นของเธอได้โดยง่าย เพียงรวดเดียวความอบอุ่นเบื้องล่างที่โอบรัดเขาไว้จากเธอนั้นมันทำให้ซ่งเหว่ยหนานแทบคลั่ง
"อื้อฮึก..."
หญิงสาวนิ่วหน้าและกรีดร้องออกมาเสียงสั่นทันทีที่ช่องทางรักถูกรุกล้ำ ก่อนจะหอบหายใจถี่ราวว่ากำลังได้รับความทรมานรวดร้าวอย่างหนักที่ถูกเขาบดเบียดตัวตนเข้าออกอย่างเนิบช้า ทว่ากลับหนักแน่นทุกสัมผัสจนยอดอกงามของเธอสะท้านไหว ทุกครั้งที่กายเราหลอมรวมกันเป็นหนึ่งและตัวตนของเขากระแทกเข้าไปจนลึกสุดด้านในจนร่างกายเธอได้แต่สั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม
ขณะที่เรียวปากคู่สวยนั้นพยายามกัดริมฝีปากตนเองเพื่อกลั้นเสียงเอาไว้จนแน่นด้วยความรู้สึกอับอาย แต่สุดท้ายทุกครั้งก็เผลอร้องครางออกมาเพราะรู้สึกมากไปจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่ เรียวขาขาวของเธอถูกเขาจับอ้าออกกว้างมากขึ้นเพื่อให้เขาสามารถยัดเยียดตัวตนใหญ่โตเข้าไปได้ลึกและถนัดถนี่มากกว่าเดิม
"อื้อ..อ่ะ เจ็บฮึก มันใหญ่ไป อ่ะ เอามันออกไป อื้อ..."
"ชู่วววอย่าเกร็ง อ่าห์ ~ ~ ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็ดีขึ้นเชื่อใจฉันนะ " เขาจูบปลอบเธออีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าเธอยังเครียดเกร็งเกินไปเพราะต้องการให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลง
หลิวรุ่ยหลินทำได้เพียงเชื่อฟังและร้องครวญครางออกมาราวสัตว์เล็กๆ ที่บาดเจ็บจากทุกการกระทำที่รุนแรงมากขึ้นนั้นของนายพรานใจร้ายที่วางบ่วงล่อหลอกจนเธอไม่อาจดิ้นหนี ปลายนิ้วเรียวสวยจิกทึ้งผ้าปูจนยับย่นเพื่อระบายอารมณ์ที่พวยพุ่งขึ้นไปทุกขณะยามที่เขาเคลื่อนไหวอยู่บนกายเธอไม่หยุดอย่างพ่ายแพ้ หยาดน้ำตารินไหลลงมาทางหางตาไม่ขาดสายทุกครั้งที่ตัวตนที่แข็งขืนนั้นรุกล้ำเข้าไปในร่างกายเธอ
มันทำให้หลิวรุ่ยหลินรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าไร้ราคาและกลายเป็นเพียงเครื่องมือระบายความใคร่ให้เศรษฐีอย่างเขา แต่เธอจะโทษใครได้หากทั้งหมดไม่ใช่เพราะตัวเธอเองที่ไว้ใจคนง่ายมาตั้งแต่ต้น
ซ่งเหว่ยหนานเหยียดรอยยิ้มร้ายกาจของผู้ได้รับชัยชนะเมื่อสามารถทำให้เธอร้องครางใต้ร่างของเขาได้อีกครั้ง กลิ่นกายเธอหอมกรุ่นจนทำเขาลุ่มหลงมัวเมาไปชั่วขณะท่าทางไม่ประสาของเธอและดูอ่อนต่อโลกนั้นยิ่งเร้าอารมณ์ให้เขาอยากบดขยี้เธอให้จมเตียง น้ำเสียงหวานที่ครางเครือไปด้วยแรงอารมณ์นั้น ส่งให้เขาเร่งจังหวะมากขึ้นตามความต้องการของร่างกายที่กำลังเพิ่มสูงอย่างรุนแรง
เสียงหยาบโลนน่าอับอายดังก้องขึ้นเป็นจังหวะไม่ต่างจากเสียงหอบหายใจของเขาและเธอที่ดังขึ้นสลับกับเสียงครางเครืออย่างทรมานและสุขสมของทั้งคู่ ยามที่คลื่นอารมณ์แห่งความต้องการนั้นพวยพุ่งราวระรอกคลื่นซาดซัด มันก็รุนแรงบ้าคลั่งไม่ต่างจากทะเลมีพายุ สุดท้ายหลิวรุ่ยหลินก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการที่ถูกเสนอและยัดเยียดให้
เธอหวีดร้องออกมาเสียงดังในจังหวะสุดท้ายพร้อมน้ำตาที่รินอาบลงมาทางหางตาไม่ขาดสายยามเมื่อความอุ่นร้อนจากคนบนร่างฉีดพ่นเข้าไปในร่างกายของเธอ
หญิงสาวหมดสติไปด้วยความเหนื่อยอ่อนที่ไม่อาจฝืนทน หลังจากถูกเขาเคี่ยวกรำมาเนิ่นนานจนอ่อนแรง
ซ่งเหว่ยหนานถอนตัวตนออกมาก่อนจะนอนมองคนที่หลับไปแล้วใต้ร่างอย่างพอใจ เขาก้มลงไปจุมพิตหน้าผากชื้นเหงื่อของอีกฝ่ายอย่างอิ่มเอม หลังทุกอย่างจบลงเขาจึงพบเพียงความสวยงามเบื้องหน้า เขาทอดมองเธออย่างหลงใหลโดยไม่รู้ตัว หลิวรุ่ยหลินสวยไปทั้งตัวจนเขาไม่อาจตัดใจได้จริง ๆ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้เขาเฝ้าคิดถึงเพียงเธอมาโดยตลอดจนไม่สามารถมีใครมาทดแทนเธอได้ ทั้งที่เขาไม่เคยติดใจผู้หญิงคนไหน แต่กับหลิวรุ่ยหลินคนนี้ไม่เหมือนกันเพราะเธอไม่เหมือนใครที่ผ่านมาเลยสักคน
เธอหลับไปแล้วเพราะความอ่อนเพลียขณะที่เขายังตระกองกอดเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง เดิมทีเขาต้องการบดขยี้เธออย่างไม่ปราณี เหยียดหยามและทรมานเธอทำให้เธอเสียใจอย่างที่สุดเพื่อแก้แค้นที่เธอทำให้เขาเสียหน้า แต่สุดท้ายไม่รู้เพราะอะไรเขาจึงอ่อนโยนกว่าที่ควรเป็น
หลิวรุ่ยหลินคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่ หากเธอไม่ใช่คนที่ตั้งใจมาหลอกเขาคงดีไม่น้อย เพราะชีวิตของซ่งเหว่ยหนานเกลียดที่สุดคือการถูกหลอก ดังนั้นเขาจึงไม่เคยอภัยให้คนที่กล้าหลอกเขาไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร
TBC.