BAD WEDDING - วิวาห์พารัก | 8

2064 คำ
“เดินช้าแบบนี้จะไม่ให้ฉันหงุดหงิดได้ยังไง” ผมพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดและไม่รู้เหมือนกันว่าที่ผมหงุดหงิดมันเป็นเพราะอะไร “หงุดหงิดเพราะหนูเดินช้าหรือหงุดหงิดเพราะอะไรกันแน่” คนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังถามขึ้น นั่นทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาหนักๆ “เธอเดินช้า ฉันเลยหงุดหงิด” ผมตอบกลับแบบแก้ต่างให้ตัวเองเพราะถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าที่ตัวเองหงุดหงิดขนาดนี้เกิดจากอะไร ตั้งแต่เปิดประตูออกจากห้องนอนเห็นเธอนั่งอยู่บนโซฟาด้านนอกทุกอย่างมันดูขัดหูขัดตาผมไปหมด คลับ “เอามือมาไม่งั้นเธอหลงแน่” ผมพูดขึ้นทันทีเมื่อมาถึงเพราะมั่นใจพอสมควรว่าคนต้องเยอะอยู่แล้วและกว่าจะผ่านฝูงชนด้านล่างไปได้ก็คงต้องเบียดเสียดกันเยอะ ผมเลยเลือกที่จะขอมือเธอมาจับไว้ “หลอกแต๊ะอั๋งหรอ” เธอว่าขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าทะเล้นๆแต่ผมกลับไม่ชอบใจ “แล้วแต่นะ ถ้าหลงฉันก็ไม่รู้” ผมพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าจะก้าวขาเข้าไปแต่มือเล็กก็จับแขนของผมไว้ก่อนจะสอดแขนตัวเองเข้ามา “แบบนี้ดีกว่าเยอะ” แน่นอนว่าคนข้างๆผมอย่างไอรินดูตื่นเต้นและตื่นตากับแสงสีในนี้มาก เธอเอาแต่หันมองรอบๆจนไม่สนใจคนที่เดินผ่านไปผ่านไป “ต้องไปชั้นบนหรอ” “ด้านล่างวุ่นวายฉันไม่ชอบ” ก็จริงตามที่ผมบอกเพราะด้านล่างคนมันเยอะ ไปนั่งด้านบนสบายๆดีกว่าไม่ต้องเบียดกับใครและเป็นส่วนตัวอีกด้วย ทันทีเมื่อผมมาถึงโต๊ะมีไอ้พายุ ไอ้คิมหันต์ น้องโมจิและน้องน้ำขิง ขาดก็แต่ไอ้เรย์กับน้องแพร “นี่เพื่อนๆของฉันส่วนข้างๆก็แฟนของมัน คนนี้ชื่อพายุและแฟนของมันชื่อโมจิเป็นรุ่นพี่เธอ” ผมพูดขึ้นพร้อมชี้ไปทางไอ้พายุกับน้องโมจิที่นั่งอยู่ “สวัสดีค่ะ หนูไอรินนะคะ” เธอพูดขึ้นทันที “พี่ชื่อน้ำขิงนะ ส่วนนี่พี่คิมหันต์เป็นเพื่อนพี่ติณณ์” คราวนี้เป็นน้องน้ำขิงพูดที่ขึ้นก่อนที่คนตัวเล็กจะยิ้มรับแบบเห็นฟันเรียงกันทุกซี่ “ไอ้เรย์กับน้องแพรอะ” ผมถามขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้ก็เลยเวลานัดมาแล้ว “ยังไม่มา” ผมพยักหน้าตามคำตอบ “ว่าแต่น้องไอรินใช่เจ้าสาวของพี่ติณณ์ไหม” น้องโมจิถามขึ้นทันที “คนนี้แหละ” ผมตอบกลับไปเพราะเอาเธอมาด้วยแบบนี้ก็แนะนำให้รู้จักไปเลย “แต่งเพราะโดนบังคับนะคะ จริงๆหนูไม่ได้อยากแต่ง” คนตัวเล็กรีบพูดขึ้นทันควันเหมือนกลัวคนอื่นเข้าใจผิด “พี่ก็ว่าอยู่ ดูเราหน้าเด็กๆอายุเท่าไหร่หรอ” คราวนี้เป็นน้องน้ำขิงที่ถามขึ้นและดูเหมือนสาวๆจะคุยกันถูกคอเสียด้วย “หนูอายุสิบแปดค่ะ” คนตัวเล็กตอบกลับไปนั่นทำให้ทุกคนทั้งโต๊ะหันมามองหน้าของผมทันที “สิบแปดเองหรอวะไอ้ติณณ์” เสียงของไอ้เรย์ดังขึ้น ไม่รู้ว่าไอ้เวรนี่มาตอนไหนแต่เสือกพูดซะดังจนเป็นจุดสนใจจนได้ “นี่ไอ้เรย์กับแพรแฟนมัน” ผมพูดขึ้นพร้อมชี้ไปยังไอ้เรย์กับน้องแพรที่กำลังจะนั่งลงบนโซฟาที่ว่าง “สวัสดีตัวเล็กพี่ชื่อแพรนะ” น้องแพรพูดขึ้นพร้อมยกมือทักทาย “สวัสดีค่ะ หนูชื่อไอรินค่ะ” “ชื่อน่ารักเหมือนหน้าตาเลย มานั่งกับพวกพี่ดีกว่า ปล่อยผู้ชายเขานั่งด้วยกัน” น้องแพรพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่ไอรินจะย้ายตัวเองไปนั่งข้างน้องแพร “แบบนี้เปิดตัวอะดิ” ไอ้เรย์ถามผมขึ้นอีกครั้ง “เธอขอตามมาก็เลยให้มา” ผมตอบกลับไปเพราะผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาเธอมาด้วยแต่แรกอยู่แล้ว “แล้วทำไมท่าทางมึงดูหงุดหงิดจังวะ” คราวนี้ไอ้พายุถามผมขึ้นอีกครั้ง “ไม่รู้ สงสัยนอนน้อยเลยหงุดหงิดแปลกๆ” ผมตอบกลับไปเพราะมันก็คงมีสาเหตุเดียว “แล้วนี่พี่ติณณ์กับน้องไอรินจะแต่งตอนไหนคะเนี่ย” น้องน้ำขิงถามทันที “จบเทอมนี้ก็แต่งแล้ว” และตอนนี้ก็เหลือเวลาไม่ถึงสามเดือนแล้ว “พวกมึงเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กูด้วยแล้วกัน” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนหันหน้าไปพวกไอ้พวกเวรสามตัวที่นั่งอยู่ “ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว” ไอ้พายุตอบกลับทันที “โมจิ น้ำขิง แพรก็เป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ยัยนี่หน่อยแล้วกัน เด็กมันไม่มีเพื่อนคบ” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าเธอโตที่เมืองนอก เพื่อนๆก็คงอยู่เมืองนอกหมด “ได้อยู่แล้วว่าแต่ทำไมไม่ให้เพื่อนสนิทเป็นล่ะ” คราวนี้น้องน้ำขิงถามขึ้นต่อ “เพื่อนหนูอยู่เมืองนอกหมดเลยค่ะ หนูพึ่งจะกลับมาต่อมหาลัยที่นี่แต่กลายเป็นว่าโดนจับแต่งงานซะงั้น” คนตัวเล็กตอบกลับไปก่อนที่ผมจะเลิกสนใจเธอแล้วหันมาดื่มกับไอ้พวกนี้ “มึงชอบน้องเขาหรือยังไง มึงมองน้องไม่วางตาเลยนะ” ไอ้คิมหันต์ที่นั่งเงียบอยู่นานก็พูดขึ้น ทำเอาเหล้าในปากของผมแทบพุ่งออกมา “ชอบเหี้ยไร กูไม่ได้ชอบ” ผมรีบปฏิเสธทันที “ถ้าไม่ชอบ ทำไมมึงต้องนั่งมองแบบนี้” คราวนี้ไอ้เรย์พูดขึ้นอีกครั้ง “กูก็มองไปเรื่อย ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ” ผมยังยืนยันคำตอบเดิมโดยการเน้นย้ำขึ้นอีกครั้ง “ไม่ได้ชอบแต่มองตาไม่กะพริบ” ไอ้พายุพูดขึ้นต่อ ทำไมเหมือนพวกมันจ้องจะหาเรื่องให้ผมเลยวะ “กูก็มองไปงั้น” ผมตอบกลับไปอีกครั้ง จริงๆก็มองเธอนั่นแหละ เธอดูแตกต่างจากวันแรกที่ผมเจอ ทั้งท่าทางการแต่งตัวจากเด็กโก๊ะๆแสบๆแต่คืนนี้เธอกลับดูเป็นสาวสวยแอบซ่อนความแซ่บเอาไว้ ตอนแรกที่คิดว่าเธอซื้อชุดชั้นในผิดไซซ์ ตอนนี้ผมคงต้องขอถอนคำพูดเพราะดูเหมือนว่าไซซ์ที่ซื้อมามันดูพอดีกับหน้าอกของเธอ เรียกว่าซ่อนรูปไปหมดทุกอย่าง ยิ่งใส่ชุดรัดรูปแบบนี้มันทำให้ผมเห็นทรวดทรงองค์เอวของเธอ “ไอ้ติณณ์ ไอ้ติณณ์ ไอ้เหี้ยติณณ์” “หะ...ห่ะ” ผมพูดขึ้นอย่างตกใจเพราะแม่งทั้งเรียกและตะโกนขึ้นจนทำตกใจไม่น้อย “คิดเหี้ยไร นั่งทำหน้าหื่นอยู่ได้” ไอ้คิมหันต์พูดขึ้นพร้อมกับส่งแก้วเหล้าให้กับผม “หน้ากูออกขนาดนั้นเลยหรอวะ” ผมถามกลับทันทีเพราะเมื่อกี้ก็แอบคิดอะไรไม่ดีอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าไปคิดถึงเรื่องแบบนั้นได้ยังไง “พี่เรย์ หนูพาน้องลงไปด้านล่างนะ” น้องแพรที่เดินเข้ามาพูดขึ้นพร้อมกับจับมือคนตัวเล็กไว้ “พาน้องลงไปด้านล่างหรืออยากไปเอง” คนรู้ทันอย่างไอ้เรย์ถามขึ้นทันที “ก็พาน้องไปไง ลงไปนะ ขออนุญาตยืมตัวนะพี่ติณณ์” คราวนี้เธอหันมาพูดกับผมก่อนจะจับมือลงไปกันหมดทั้งสี่คน นั่นทำให้ผมสอดส่องสายตามองตามทันทีเพราะด้านล่างคนอย่างเยอะ ผู้ชายก็เยอะ ไอ้พวกนี้ปล่อยไปได้ยังไงวะ “มึงไม่กลัวหรอ ด้านล่างคนโคตรเยอะ” ผมถามขึ้นทันทีเพราะด้านล่างมันเป็นแหล่งรวมฝูงชนที่กำลังจะปล่อยท่าทางปล่อยสเต็ป “กลัวทำไม อยู่ตรงนี้ก็มองเห็น” ไอ้พายุตอบกลับมาพร้อมกับยกแก้วเข้าปากอย่างไม่สนใจอะไร “ทำไมหรือมึงกลัวอะไร” ไอ้เรย์หันมาถามผมทันที “ก็เป็นห่วง ผู้ชายเยอะๆแบบนี้ มึงกล้าปล่อยเมียมึงลงไปได้ยังไง” เพราะไอ้พวกผู้ชายที่มันอยู่ด้านล่าง มันก็หาสาวเพื่อหวังหิ้วกลับกันทั้งนั้น “ห่วงหรือหวงเอาให้แน่ ปกติมาคลับเมียกูลงไปตลอดมึงไม่เห็นจะพูดอะไร” ไอ้คิมหันต์พูดขึ้นพร้อมหันมองหน้าผมอย่างจับผิด “หรือมึงหวงอะไรอยู่ หวงน้องไอรินหรอวะ” คราวนี้ไอ้เรย์พูดขึ้นก่อนที่พวกมันทุกตัวจะมองผม “พูดมาก นู้นเมียมึงผู้ชายมาทักแล้ว” ผมที่มองไปยังด้านล่างก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางน้องแพรก็ไม่รีรอที่จะเอ่ยปากบอกเพื่อนตัวดี ส่วนไอ้เรย์ที่เห็นแบบนั้น ตอนนี้ก็ลุกจากโต๊ะเดินลงบันไดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ฝากด้วยละกัน” นั่นทำให้ไอ้พายุและไอ้คิมหันต์ตะโกนขึ้นตามหลังไปทันที ผมรู้ดีเพราะไม่ว่าใครลงไปก็เอาอยู่ ไอ้พวกนี้มันหวงเมียยิ่งกว่าอะไร “กูลงไปดีกว่า ท่าจะไม่ดี” ไอ้พายุพูดขึ้นก่อนจะตามลงไปซึ่งไอ้คิมหันต์ที่เห็นแบบนั้นก็วิ่งลงตามไปติดๆ ส่วนผมที่เห็นเพื่อนลงไปแล้วก็รีบตามลงไปเช่นกัน “มานี่” ผมพูดขึ้นพร้อมกับจับมือคนตัวเล็กให้ถอยห่างจากไอ้เรย์ให้มากกว่าเดิมเพราะตอนนี้ไอ้ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะไม่จบ “เกิดอะไรขึ้น” ผมถามขึ้นทันที “เขามาจับก้นพี่แพร” คนตัวเล็กตอบกลับมา แน่นอนว่าผมรู้ว่าน้องแพร น้องโมจิ น้องน้ำขิงต่างเอาตัวรอดได้แต่ถ้าเรื่องแบบนี้ยังไงก็สู้แรงผู้ชายไม่ได้ “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ไม่ได้โดนตรงไหนใช่ไหม” ผมถามขึ้นอย่างร้อนรนก่อนจะจับคนตัวเล็กหมุนซ้ายทีขวาที “หนูไม่เป็นไรแต่พี่ติณณ์ไปห้ามเพื่อนหน่อยไหม” คราวนี้คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้ง ผมจึงหันหน้าไปมองไอ้เรย์ที่ตอนนี้กำลังยำตีนใส่ไอ้ผู้ชายคนนั้น “ปล่อยไป มันหาเรื่องเอง” เพราะถ้าผมเป็นไอ้เรย์ผมก็ทำแบบนี้แหละ ไม่สนไม่แคร์ใครหน้าไหนทั้งนั้นเพราะถ้ามันมายุ่งกับของของผม ผมก็จะไม่ปล่อยไว้ “โหดอะ เขาจะตายหรือเปล่าเลือดท่วมแล้ว” เธอพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้ไปยังด้านหน้าที่ตอนนี้ไอ้เรย์ก็ยังไม่หยุดยำตีนจนการ์ดต้องมาลากตัวมันออกมา แน่นอนว่าพวกผมไม่ห้ามอยู่แล้ว “ตายก็เรื่องของมัน วันนี้ต้องกลับแล้วคงไม่มีใครกินต่อ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะลากคนตัวเล็กออกมาเพราะคนอื่นก็คงกลับ ส่วนไอ้เรย์ก็แค่รอชดใช้ค่าเสียหายก็คงกลับตามๆกันและดูท่าคงจะฉุนพอตัว “เพื่อนพี่ติณณ์โหดแบบนี้ทุกคนเลยหรอ” ทันทีเมื่อขึ้นมาบนรถคนตัวเล็กข้างๆผมก็ถามขึ้นอีกครั้ง “ไม่หรอกแต่ไอ้เรย์มันหวงน้องแพรมาก ใครมายุ่งโดนแบบนั้นก็คงไม่แปลก” ผมตอบกลับไป “แต่ก็อดกลัวไม่ได้ เขาเลือดท่วมซะขนาดนั้น” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้งแต่ก็ไม่วายหันมองไปยังหน้าร้าน “กลัวไปทำไม อีกอย่างต่อให้มันโกรธขนาดไหนมันก็ไม่ทำอะไรแฟนมันหรอกเพราะแฟนมันไม่ผิด” เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ถ้าจะผิดก็ผิดที่ไอ้เวรนั่นไม่ใช่ผิดที่น้องแพรที่โดนจับก้น “แล้วพี่ติณณ์เคยโกรธจนเป็นแบบนั้นบ้างหรือเปล่า” “ไม่เคยแต่ถ้ามีคนมาทำแบบนั้นกับเธอ ฉันก็คงไม่ต่างกับไอ้เรย์” ❤️ กรี๊ด พี่ติณณ์ชวนเขินไม่ไหว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม