ตอนที่ 10

1556 คำ
ติณณภพใช้เวลาขับรถไม่ถึงสามสิบนาทีก็กลับมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ เมื่อนำรถเข้ามาจอดในโรงรถแล้ว ชายหนุ่มเข้ามายังห้องโถงที่ยังมีแสงอ่อนจากโคมไฟดวงเล็กที่แขวนอยู่บนเพดาน แต่แล้วพอเห็นบิดากำลังนั่งอยู่บนโซฟาเหมือนกำลังรอเขา ตาคมหรี่มองหน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือก่อนจะเงยหน้ามองบิดาอีกครั้งและยังไม่ทันได้พูดอะไร ท่านก็ตวัดคำถามห้วนขึ้นมาใส่เสียก่อน “ทำไมแกเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้?” เมื่อกี้ตอนคุยงานเสร็จ เอ่ยชวนลูกชายกลับด้วยกัน แต่ติณณภพกลับปฏิเสธ ซึ่งไม่บอกก็รู้ว่าเพราะอะไร “คุณพ่อยังไม่หลับหรือครับ นี่มันตีหนึ่งแล้วนะ” ติณณภพเลี่ยงตอบคำถามแต่เป็นฝ่ายถามบิดาแทน จากนั้นเดินเข้ามาหย่อนตัวบนโซฟาสีครีมด้วยสีหน้าขรึม ตั้งแต่จำความได้เขาถูกตีกรอบอยู่ภายใต้ความต้องการของพ่อมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล แม้แต่ความรักเขาก็ไม่มีสิทธิ์เลือกตามใจตัวเอง ตั้งแต่รัญนราบอกเลิกเขาในวันนั้น เขาไม่อยากรักใครอีกเลยถึงเขาจะหมั้นหมายกับผู้หญิงที่บิดาเลือกให้ แต่นั่นก็เป็นเพียงหน้าที่หนึ่งซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ “แกคงไม่ลืมนะว่ามีคู่หมั้นแล้ว ทำอะไรนึกถึงหัวใจหนูแพรวด้วย พ่อไม่อยากมีปัญหากับท่านธีระ” น้ำเสียงของบิดาบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างมาก “คุณพ่อสบายใจได้ครับ ผมรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่” ติณณภพกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย ขณะที่คนเป็นพ่อกลับถอนหายใจออกมาหนักๆ “ดี!” ยงยุทธตวัดตาค้อนลูกชายคนเดียวก่อนผุดลุกออกไป ทิ้งให้คนที่นั่งอยู่ในห้องโถงหลับตาลงอย่างอ่อนล้าทั้งกายและใจ ….. คอนโดหรูย่านสุขุมวิท แม้ราคาคอนโดแพงลิบลิ่ว แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพระดับลักซูรี่ ทุกคนก็พร้อมจะจ่ายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดย่านนี้ล้วนแต่เป็นคนดังและเศรษฐี รวมไปถึงมนัญญา คุณหมอศัลยแพทย์สมอง โดยอาศัยอยู่ที่นี่พร้อมแฟนสาว “ทำอะไรกินเอ่ยหอมเชียว” มนัญญาเข้ามากอดเจ้าของร่างเล็กที่ยืนทำกับข้าวอยู่ในครัว แม้จะเหน็ดเหนื่อยกับงานขนาดไหน แต่เมื่อกลับมาถึงคอนโด พอเห็นหญิงสาวในอ้อมแขนแล้วรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง “มิกกี้ผัดสปาเก็ตตี้ค่ะพี่มิน” มิรันตีคลี่ยิ้มก่อนเอี้ยวคอเงยขึ้นมองคนที่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล จากนั้นจัดการปิดแก๊สแล้วหันมาทางคุณหมอสาว เมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่ส่งมาทางใบหน้าสวยคม เธออดที่จะเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบอีกฝ่ายไม่ได้ ก่อนจะค่อยๆ ผละออกพร้อมเอ่ยถาม “พี่มินจะไปอาบน้ำก่อนไหมคะ มิกกี้จะได้เตรียมน้ำอุ่นให้” ถามแล้วเตรียมจะออกไป ทว่ามือแกร่งที่โอบรอบเอวเธอกลับรั้งเธอแนบแน่นกว่าเดิม พร้อมกันนั้นปลายจมูกของคุณหมอสาวก็ซุกไซ้อยู่บนแก้มนวลของเธออย่างหยอกเย้า ชวนให้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจยิ่งนัก มนัญญาเคยบอกกับเธอว่าชอบหอมใบหน้าเธอที่สุด เพราะมันทั้งหอมทั้งนุ่มหอมเท่าไรก็ไม่เคยพอ “กินก่อนค่อยอาบน้ำนะ” คุณหมอสาวกระซิบผ่านใบหูเล็กก่อนจะกัดเล่นแผ่วเบา เมื่อลมหายใจอุ่นๆ สัมผัสรินรดหลังหู ทำเอามิรันตีขนลุกซู่! รุ่นพี่สาวมักจะแกล้งเธออยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ชอบนะ “ได้ค่ะพี่มิน” มิรันตีกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใสโดยไม่ทันความคิดของแฟนสาว ก่อนจะกรีดร้องเสียงหลงเมื่อถูกโอบอุ้มขึ้นมาจากวงแขนแกร่ง “ว้าย! พี่มินจะทำอะไรคะ?” มิรันตีรีบโอบคอระหงเมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่าย ช้อนมองเจ้าของดวงหน้าคมด้วยความสงสัย “ก็ไหนว่าจะกินข้าวไม่ใช่เหรอ มิกกี้จะได้ไปจัดโต๊ะให้ไงคะ ปล่อยมิกกี้ลงก่อนค่ะ” “พี่ไม่ได้บอกว่าอยากกินข้าวนี่ พี่อยากกินมิกกี้ต่างหาก” รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนมุมปากสวย ไม่รอช้ามนัญญาก้าวย่างเข้าไปในห้องน้ำอย่างใจต้องการ… รุ่งเช้าของวันต่อมาที่หน้าโรงพยาบาลซึ่งพลุกพล่านไปด้วยคนไข้และเจ้าหน้าที่ ทันทีที่รถเก๋งเข้ามาจอด มนัญญาหันมายิ้มให้คนขับรถคนสวย ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายอย่างเย้าหยอก “ขอบใจที่มาส่งพี่นะ เย็นนี้ไม่ต้องมารับแล้ว มิกกี้กลับไปรอที่คอนโดได้เลย” “ค่ะพี่มิน เจอกันตอนเย็นนะคะ” หญิงสาวใบหน้าเรียวเล็กรับคำ รอเมื่อแฟนสาวลงไปแล้ว มิรันตีมองตามเรือนร่างระหงในชุดทะมัดทะแมงแล้วคลี่ยิ้มออกมาด้วยอารมณ์เปี่ยมสุข ทำให้อดหวนนึกถึงจุดเริ่มต้นที่เจอกับคุณหมอสาวไม่ได้ ตอนนั้นสมัยที่เรียนจบใหม่ๆ เธอจำได้ว่าระหว่างที่กำลังข้ามถนนเพื่อจะไปยื่นเรซูเม่ที่บริษัทสแปร์ยนต์ แต่เพราะความเร่งรีบจึงไม่ทันระวังเกือบโดนรถซีดานสีขาวชนเข้า สิ้นเสียงล้อรถดังเอี๊ยด! ก็มีเสียงห้วนจากคนในรถดังตามทันทีที่รถเบรกกะทันหัน ‘น้องเดินระวังหน่อยสิ ถ้าพี่เบรกไม่ทันจะทำยังไง?’ เสียงนั้นแม้จะเป็นเสียงผู้หญิงพูด แต่มันก็ห้าวหาญไม่ต่างจากผู้ชาย เธอรีบเงยหน้าหันไปขอโทษอีกฝ่ายด้วยความตื่นตระหนก ‘ขอโทษจริงๆ ค่ะ’ อาจเป็นเพราะวิ่งหางานมาทั้งอาทิตย์แล้วยังไม่มีบริษัทไหนเรียกตัวเลย เธอเลยเดินเหม่อลอยเหมือนคนไร้ชีวิต ขณะที่คนที่นั่งอยู่ในรถเองก็มองเธอราวกับพินิจพิเคราะห์ ‘ไม่เป็นไร แล้วนี่จะไปไหนเหรอ?’ เขายังอุตส่าห์ถามเธอราวกับเป็นห่วง นั่นเป็นครั้งแรกที่มิรันตีรู้สึกดีไม่น้อย เพราะนอกจากยายที่จากไปแล้วไม่เคยมีใครแสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยเธอเลย ‘กำลังจะไปสมัครงานที่บริษัทข้างหน้านี้ค่ะ’ เธอเอ่ยบอกก่อนจะระบายยิ้ม โดยไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มของเธอนั้นได้ตรึงใจคู่สนทนาไปแล้ว ‘ขึ้นรถสิ เดี๋ยวพี่ไปส่งพอดีพี่รู้จักกับเจ้าของบริษัทน่ะ’ มนัญญาเลิกหน้าให้เจ้าของร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มให้ขึ้นมาในรถ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเสนอช่วย มิรันตีก็ยินดีรับความปรารถนาดีนั้นไว้อย่างเต็มใจ ปกติไม่เคยไว้ใจใครเลย ยิ่งเพิ่งเจอกันครั้งแรกด้วยแล้วเธอยิ่งไม่ไว้ใจ แต่ตอนนั้นอะไรดลใจให้เธอรีบขึ้นไปตามคำเชื้อเชิญของเขาก็ไม่รู้ กระทั่งทุกวันนี้ย่างเข้าสี่ปีแล้วที่พวกเธอรู้จักและคบหาดูใจกัน การมีเขาเข้ามาในชีวิตช่างเป็นเรื่องโชคดีของเธอเหลือเกิน และการที่เธอได้เข้ามาทำงานในบริษัทสแปร์ยนต์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะมนัญญาช่วย ฝั่งโรงพยาบาลในขณะนี้ คนที่มิรันตีกำลังนึกถึงอยู่ก็วุ่นอยู่กับการเยี่ยมผู้ป่วยใน ตามห้องพักฟื้นพร้อมกับพยาบาลที่คอยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มนัญญาเป็นหมอศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศรีษะ คอ และเต้านม ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้มาเจ็ดปีแล้ว และด้วยประสบการณ์และความสามารถเก่งกาจในด้านการศัลยกรรมผ่าตัดแล้วจึงไม่มีใครไม่รู้จักคุณหมอสาว “คนไข้เมื่อวันก่อน ยังไม่เข้ารับการรักษาเหรอน้องเบล?” มนัญญาหันมาถามพยาบาลที่กำลังเดินตามหลังภายหลังพากันออกจากห้องผู้ป่วยที่เพิ่งตรวจเสร็จ “ยังเลยค่ะหมอมิน เห็นญาติบอกว่ายังไม่พร้อมค่ะ” หลังได้ยินคำตอบของพยาบาลสาวหัวคิ้วของมนัญญาเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะรับแฟ้มประวัติผู้ป่วยในมาจากพยาบาลสาว “งั้นเบลช่วยโทรไปหาญาติคนไข้หน่อยนะว่าให้พาคนไข้มาที่โรงพยาบาลก่อน เพราะดูจากอาการแล้วเด็กหนุ่มคนนั้นควรต้องนอนพักที่โรงพยาบาลมากกว่านอนอยู่ที่บ้าน” มนัญญาลงความเห็นด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ค่ะคุณหมอ” ผู้ช่วยสาวรับคำก่อนจะไปติดต่อฝ่ายบริการให้จัดการตามที่คุณหมอสาวสั่ง เมื่อพยาบาลสาวออกไปแล้ว มนัญญาหยิบแฟ้มผู้ป่วยที่ถูกกล่าวถึงเมื่อสักครู่ออกมาดูอีกครั้งอย่างใช้ความคิด ที่นี่มีความพรั่งพร้อมในด้านเครื่องมือที่ทันสมัย และได้มาตรฐานสากล ซึ่งเธอเชื่อว่าถ้าเด็กหนุ่มคนนี้มารับการรักษาที่นี่ อาจหายจากโรคที่เป็นอยู่ก็ได้ โรคบางโรคถ้ารักษาที่นี่ก็จะดีกว่า เพราะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล ทว่าค่าใช้จ่ายก็แพงลิบลิ่วเอาการ เข้าใจแล้วว่าทำไมคนไข้ที่ตรวจพบโรคบางคนก็หนีไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ เพราะสู้กับค่ารักษาไม่ไหว กรณีของคนไข้เมื่อหลายวันก่อนก็คงจะเป็นอย่างที่ว่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม