บทที่ 7 ยารักษาพิษ

1703 คำ
จิ่งอี้ซ่อนตัวอยู่ข้างรั้วบ้านเช่าหลังเล็กท้ายตรอกแคบ ไม่นาน ก็เห็นร่างผอมบางของสตรีที่สวมชุดบุรุษโผล่ออกมา เขาติดตามนางไปห่างๆ จนมั่นใจว่านางแอบเข้าไปในเรือนพักของกัวเอินถง ก็กลับไปรายงานให้ท่านชายของตนได้ทราบ “คนของแม่นางกัวนัดพบกับคนท้ายตรอกขอรับ พวกนั้นคือคนของเผ่าเหลียนซาที่เดินทางมาพร้อมกัน แต่แยกกันเป็นสองส่วน ข้าตามนางออกจากเรือนพักทูตต่างแคว้นตั้งแต่ขาไปจนขากลับไม่คลาดสายตาเลยขอรับ” จีหลุนยกยิ้มมุมปาก “ดี ให้คนของเราติดตามให้ดี นางคงจะให้คนพวกนี้ส่งข่าวกลับเผ่าเหลียนซา ข้าอยากรู้ว่าพวกเขาติดต่อกันอย่างไร?” “ขอรับ” จีหลุนรับคำแล้วถอยจากไป บนลานระเบียงกว้างหน้าเรือนนอนของจีหลุนยามหัวค่ำมีเพียงบุรุษองอาจสองคนนั่งร่ำสุรา ลี่เทียนเป่าที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ รินสุราแล้วยกขึ้นจิบ “ภรรยาของเจ้ามีเล่ห์เหลี่ยมมากพอตัวเลยทีเดียว มีทั้งคนติดตาม มีทั้งคนอยู่ข้างนอก อยากรู้จริงๆ ว่าแผนการแต่งงานกับเจ้าเพื่อการใด?” ท่านชายจีถอนหายใจ “ข้าก็ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาถึงตนเอง รู้อยู่ว่าการแต่งงานของข้า ต้องอยู่ภายใต้สายพระเนตรของฮ่องเต้ เจ้าก็รู้ว่าสกุลจีหรือหนึ่งในสี่สกุลที่เหลือ หากว่าปล่อยให้สกุลจีมีอำนาจมากเกินไปก็คงไม่เหมาะ” “แต่น้องชายเจ้าก็แต่งงานกับรองเสนาบดีฝ่ายซ้ายเชียวนะ” “หลี่เจี๋ยน่ะหรือ? เขานับว่าเป็นพระญาติของฮ่องเต้เพราะน้องสาวเป็นพระชายาของชินอ๋อง” กุนซือหนุ่มได้ยินก็ทำตาโต “อ๊ะ? อย่าบอกนะว่าที่น้องสาวของเจ้าแต่งให้กับฟ่านหลี่เจี๋ยเพราะแก้ปัญหาเรื่องความสงสัยของฮ่องเต้” “สมแล้วที่เจ้าเป็นกุนซืออันดับหนึ่ง” “ฟ่านหลี่เจี๋ยรู้เรื่องนี้หรือไม่?” “คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะไม่รู้ แต่ตอนนี้เขากับอิงอิงก็ผูกสมัครรักใคร่กันเป็นอย่างดี มีหลานให้ข้าอุ้มตั้งหลายคน” จีหลุนยิ้มละไมเหมือนคิดถึงหน้าเด็กๆ ที่รุมล้อมเรียกเขาว่าท่านลุง “ตระกูลมักจะต้องเผชิญกับความซับซ้อนทั้งอำนาจและความร่ำรวย” จีหลุนถอนหายใจ มองหน้าสหาย “เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าสมรสพระราชทานจะมาถึงข้าโดยไม่อาจบิดพลิ้วเพราะมีเรื่องบ้านเมืองค้ำอยู่” “แต่ชะตาของเจ้าในเรื่องนี้เป็นไปในทางดี บางทีอาจจะมีจุดที่เจ้ากับนางหาทางออกกันได้” “คงมิใช่ว่าข้ากับนางครองคู่กันอย่างมีความสุขหรอกนะ เห็นๆ อยู่ว่าพี่ชายนางทำร้ายข้าจนเหมือนตายทั้งเป็น สามปีกว่าแล้วที่ข้าไม่อาจตอบรับแม่สื่อคนใดได้ เป็นเพราะเจ้ากัวเยี่ยนสือผู้นั้น” จีหลุนสีหน้าเคียดแค้น แม้เขาจะยังไม่เคยร่วมรักกับสตรีใดแต่ใจก็แอบวาดหวังว่าสักวันตนเองจะได้แต่งงานกับสตรีที่ตนเองรักและมีบุตรกับนางเพื่อสืบสกุล “ใจเย็นๆ เหล่าจี เรื่องของเจ้ายามนี้พอเห็นหนทางแก้ไขแล้ว” จีหลนกำจอกสุราแน่น “ชะตาชีวิตของข้าช่างน่าอนาถ พอเห็นหนทางจะรักษาตัวได้หาย แต่ข้าก็ต้องแต่งงานกับสตรีเจ้าแผนการที่พิการ หากกำจัดนางออกจากสกุลจีไม่ได้เห็นทีความสุขชั่วชีวิตที่ข้าใฝ่ฝันคงไม่มีวันเป็นจริง” “ในเมื่อกระดองเต่าทำนายแล้วว่าเป็นเรื่องดี เราก็ค่อยๆ มองหาช่องทางไปเถิด ข้าว่าคงมีทางออกรอเจ้าอยู่เป็นแน่” แม่ทัพหนุ่มโบกมือไปมา “เรื่องนางเอาไว้ก่อนเถิด ยามนี้ข้าเป็นห่วงว่าคนของห้าเผ่าน่าจะแฝงกายมาอยู่ในเมืองหลวงเต็มไปหมดแล้ว เมืองหลวงยามนี้เต็มไปด้วยคนต่างบ้านต่างเมืองเข้าออก ทั้งคนแคว้นอื่นมาแต่งงานกับคนแคว้นเรา ปะปนจนยากจะแยกแยะให้ชัดเจน” “ค่อยๆ สืบไปก็แล้วกัน อีกไม่นานจิ่งอี้ก็น่าจะหาตัวสายลับของพวกเขาเจอทั้งหมด” “ก่อนวันแต่งงานก็น่าจะสืบหาได้จนครบ” “ท่านกั๋วกงได้กล่าวถึงลางร้ายของเมืองกับเจ้าบ้างหรือไม่?” แม่ทัพหนุ่มส่ายหน้า “ท่านพ่อว่ามีอุปสรรคเล็กน้อย สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือดวงดาวของข้าที่ถูกดาวศัตรูเล็ง ในครานี้ข้าก็คือเป้าหมาย” จีหลุนนั่งจิบสุราและเล่าให้ลี่เทียนเป่าฟังถึงวิชาคำนวณดวงดาวของ สกุลจี “ท่านปู่ของข้าสามารถทำนายชะตาเมืองได้จากดวงดาว วิชานี้ถ่ายทอดเฉพาะบุตรชายคนโตเท่านั้น ข้าเองก็เพิ่งเรียนรู้ได้ไม่นาน ตอนที่เราอยู่ค่ายพยัคฆ์ไฟข้าก็เห็นว่าดวงดาวประจำแคว้นหมิงก็ยังสุกสกาว แต่เพื่อให้มั่นใจจึงกลับมาถามท่านพ่ออีก” “เจ้าดูดวงดาวประจำตัวของตนเองไม่เป็นหรือ?” จีหลุนหน้าเจื่อนลง เสรินสุราลงจอกแล้วยกขึ้นดื่ม “ข้ายังไม่ได้เรียนเชิงลึก จึงดูได้เพียงว่าตนเองจะเป็นอันตรายหรือไม่?” “อ้อ...พูดง่ายๆ ว่า เจ้าเป็นมือใหม่ว่างั้นเถอะ” “ทำนองนั้น” ชายหนุ่มหมุนจอกในมือเล่น “ในเมื่อเจ้าเองก็รู้เรื่องตรามังกรคู่แล้ว ข้าก็จะเล่าอย่างไม่ปิดบัง แต่เดิม ข้าก็ไม่ได้สนใจวิชาคำนวณดวงดาวมาก่อน ฝึกฝนเพียงการต่อสู้ แต่พอ...มีการตามหาตรามังกรคู่ในช่วงนั้น ท่านพ่อของข้าจึงได้เริ่มสอนข้า” ลีเทียนเป่าพยักหน้า เขารู้ว่าวิชาคำนวณดวงดาวนั้นมีข้อจำกัดเพราะต้องใช้เวลาค่ำคืนในการสังเกตและต้องใช้หลายค่ำคืนต่อเนื่องกันจึงจะได้ผลแม่นยำ “ข้ารู้ เจ้าเป็นนักรบ จะให้มาคอยเฝ้าสังเกตดวงดาวทุกค่ำคืนคงเป็นไปได้ ท่านกั๋วกงคงมีเจตนาเพียงให้เจ้าใช้มันในการเอาตัวให้รอดปลอดภัยเท่านั้น” วิชาของจีหลุนดูท้องฟ้าได้แม่นยำในยามค่ำคืน ส่วนวิชาของลีเทียนเป่าจะดูความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน ในการทำนายเหตุการณ์เขามักจะใช้กระดองเต่าที่เพื่อให้คำตอบที่จีหลุนต้องการ ในยามที่จีหลุนอยู่ในสมรภูมิ เขาจะจดจำสิ่งที่ลีเทียนเป่าบอก ก่อนออกรบเพื่อให้ได้เปรียบ ทั้งสองต่างศึกษาตำรากลศึกมาจำนวนมาก ก่อนจะต่อสู้ทุกคราวต้องมีการปรึกษาหารืออย่างละเอียด ...ประมาทเพียงน้อยนิด อาจนำมาซึ่งความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกคืน ก่อนงานสมรสพระราชทาน จิ่งอี้ก็หาตัวคนที่ติดต่อกับกัวเอินถงพบอีกหลายคน ในเมืองหลวงมีคนเผ่าเหลียนซาแฝงกายอยู่พอสมควร “พวกเขาหาซื้อสมุนไพรบรรเทาอาการได้รับพิษขอรับ” “รักษาอาการได้รับพิษ เป็นผู้ใดกัน? ผู้ใดกันได้รับพิษจนต้องมาหาซื้อสมุนไพรถึงในเมืองหลวง” ลี่เทียนเป่าขมวดคิ้ว “แม่นางเหย้าผู้นั้น พยายามไปถามหาท่านหมอหญิงเกาที่โรงหมอเกาหลายหนแล้วขอรับ แต่เห็นว่าท่านหมอหญิงมิได้กลับมาหลายเดือนแล้ว นางก็เลยคว้าน้ำเหลว ท่านชายขอรับ เป็นไปได้หรือไม่ที่กัวเยี่ยนสือถูกพิษ?” คิ้วของ จิ่งอี้ขมวดมุ่น เขาสะกดรอยคนพวกนั้นมาร่วมสิบวัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพยายามสืบหาหมอรักษาพิษและยาสมุนไพรชั้นดี จีหลุนชะงัก “เป็นไปได้อย่างไร? อาวุธของข้าไม่เคยเคลือบพิษสักหน่อย คนผู้นั้นก็แค่ต่อสู้กับข้า แล้วจะไปโดนพิษในยามใด?” “เหล่าจี ท่านหมอหญิงเกาผู้นี้ สมญานามยุทธภพก็คือฮูหยินไร้รอย นางเชี่ยวชาญการวางพิษและรักษาพิษ และยังมีความลับอีกอย่าง ซุบซิบกันว่านางเป็นพระอาจารย์ของหลวนฮองเฮาด้วย” ลี่เทียนเป่ายกมือกอดอก “ดูเหมือนจะมีคนสำคัญในเผ่าเหลียนซาถูกพิษเข้าไปจริงๆ” “เรื่องนี้คงเป็นความลับของเผ่าเหลียนซา ที่นางมาสวามิภักดิ์ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะมาตามหาหมอหญิงเกาผู้นี้ด้วย” ลี่เทียนเป่ามองดูดวงตาแข็งกร้าวของสหาย “คืนเข้าหอ เจ้าก็อย่าเพิ่งใจร้อนจับนางไปสอบสวนเล่า? จะโกรธจะแค้นอย่างไรก็ใจเย็นๆ ถึงอย่างไร นางก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเจ้า” การประชุมในท้องพระโรงก่อนวันแต่งงานไม่กี่วัน ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้จีหลุนย้ายมาทำงานที่กองทัพหลวง กองกำลังเป็นกองทหารที่จัดตั้งขึ้นภายในการสั่งการของฮ่องเต้โดยเฉพาะ มีจำนวนทหารในมือร่วมหนึ่งหมื่นคน ค่ายกองทัพหลวงอยู่ด้านนอกห่างออกไปเพียงห้าลี้ “นับว่ามีความเหมาะสม แคว้นหมิงมีเหตุกบฏมาหลายคราว ในเมืองหลวงมีเพียงมือปราบคอยดูแล กำลังทหารก็มีเพียงที่ดูแลในวังหลวงและกำแพงเมืองทั้งสี่ด้าน หากเกิดปัญหาขึ้นก็ยากจะแก้ไขได้ทันท่วงที” “เหล่าจี เห็นได้ว่าฮ่องเต้ทรงคิดจะให้เจ้าอยู่ในเมืองหลวงอีกนานเชียว” “หวังให้ข้าอยู่หรือกัวเอินถงอยู่กันแน่?” “หลังจากเจ้ากับนางแต่งงานกันแล้วก็คงต้องให้อยู่เมืองหลวงไปอีกสักระยะเพื่อจะได้ติดตามความเคลื่อนไหว เจ้าคิดหรือว่าเบื้องบนจะไม่ตามสืบเรื่องของนาง” จีหลุนนึกถึงเรื่ององครักษ์เงาที่จิ่งอี้บอกว่าเห็นโดยบังเอิญตอนที่ตามแม่นางเหย้าผู้นั้นไปเป็นครั้งที่สอง “หูตาของฮ่องเต้ไม่ใช่ธรรมดา ยากนักที่ผู้ใดจะรอดพ้นไปได้” ***************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม