หลังจากที่กราบทูลขอสมรสพระราชทานกับจีหลุนได้สำเร็จ กัวเอินถงก็ขอให้แคว้นหมิงส่งทหารเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยในดินแดนเซี่ยงซาวาน หมิงฮ่องเต้ทรงพอพระทัยยิ่ง การสู้รบที่ยืดเยื้อยาวนานที่ผ่านมา ทัพแคว้นหมิงไม่อาจจะลุกล้ำเข้าไปในดินแดนเซี่ยงซาวานได้ เป็นเพราะที่ตั้งถูกบดบังเอาไว้ด้วยเนินทรายหลายพันลูก
บัดนี้มีผู้ยินดีจะเปิดเผยเส้นทางเข้าเซี่ยงซาวานเพื่อให้ทหารแคว้นหมิงเข้าไปรักษาความสงบ ช่างน่ายินดีนัก
“เจิ้นให้สัญญาว่าทหารของแคว้นหมิงจะไม่สร้างความลำบากให้กับชนทั้งห้าเผ่า ขอเพียงมอบบรรณาการอย่างครบถ้วนทุกปี พวกเจ้าจะได้อยู่อย่างสันติ”
“ขอบพระทัย เพคะ”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าไปพักผ่อนเถิด อีกสิบห้าวันพิธีแต่งงานระหว่างเจ้ากับแม่ทัพจีต้องเรียบร้อยอย่างแน่นอน ระหว่างนี้เจิ้นจะสั่งการไปยังกองทัพพยัคฆ์ไฟให้เตรียมคนเอาไว้”
เมื่อกลับเข้าไปยังที่พัก กัวเอินถงล้มตัวลงนอน นางรู้สึกอ่อนล้าไปทั้งกายทั้งใจ ความวุ่นวายในห้าชนเผ่าแต่เดิมเหมือนจะเป็นเพียงความขัดแย้งเล็กๆ แต่บัดนี้รอยร้าวยากเกินจะสมาน
นางกับผู้ติดตามรอนแรมมายังเมืองหลวงแคว้นหมิงด้วยความเร่งรีบ นอกจากพักม้าแล้วก็ไม่กล้าแวะนอนค้างอ้างแรมตามโรงเตี๊ยม ด้วยเกรงว่าเผ่า ฝูซาจะส่งคนตามมาไล่ล่า
กระทั่งมองเห็นประตูเมือง ความเครียดที่มีอยู่พลันทะลายลงกว่าครึ่ง บัดนี้แผนแรกของนางผ่านไปด้วยดี เหย้าหลีมองเห็นกัวเอินถงยกมือขึ้นก่ายหน้าผากก็ถอนหายใจ
“คุณหนูเจ้าคะ ทำใจให้สบายเถิด ตั้งแต่เราออกเดินทางจนมาถึงที่นี่ ข้ายังไม่เห็นคุณหนูหลับสนิทเลยสักคืนนะเจ้าคะ”
“อืม...วันนี้ข้ารู้สึกเพลียจริงๆ เห็นทีคงต้องนอนพักให้มากสักหน่อย เขาเอาพวกเรามาขังไว้ที่นี่แล้ว คงไม่มีคนมารบกวนแล้วกระมัง?”
“เหย้าหลี หยวนจู้ พวกเจ้าก็ไปอาบน้ำพักผ่อนเถิด ที่นี่เวรยามเข้มงวดยิ่ง พวกเราคงจะหลับกันได้อย่างสบายใจ”
“เจ้าค่ะ”
ผ่านไปสามวัน จีหลุนก็ไปร่วมประชุมที่ท้องพระโรงอีกคราหนึ่ง คราวนี้ฮ่องเต้ทรงสอบถามถึงสถานการณ์ชายแดน เขาจึงได้กราบทูลทุกอย่างไปตามจริง ฮ่องเต้ทรงมีพระพักตร์เคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย
“ครั้งนี้ เจ้ายินยอมแต่งงานกับธิดาของผู้นำห้าเผ่า ทำให้เราได้โอกาสส่งคนเข้าไปในเซี่ยงซาวาน นับว่าเป็นเรื่องดียิ่ง ของมีค่าที่นางนำมาถวายเจิ้น ล้วนเป็นสิ่งของที่ฮองเฮายืนยันว่าเป็นสมบัติล้ำค่า”
“ฝ่าบาท นี่คงมิใช่แผนของห้าเผ่าที่จะหลอกให้กองทัพของเราเข้าไปดินแดนของพวกเขาหรอกนะพะยะค่ะ”
ฮ่องเต้ทรงนิ่งไปเล็กน้อย “ตราสัญลักษณ์พระจันทร์ทองนั่นเป็นของจริง ในเมื่อนางได้รับมอบหมายให้ถือตรามายืนยันกับเจิ้น เจิ้นเชื่อว่าผู้นำห้าเผ่าอาจจะต้องการให้แคว้นหมิงเข้าไปจัดการบางเรื่องให้ เอาไว้เจ้าแต่งงานเสร็จเสียก่อน เรื่องนี้ค่อยหารือกันอีกครั้งก็แล้วกัน”
สายพระเนตรของฮ่องเต้คล้ายจะทอดไปยังชินอ๋องพระอนุชาที่ควบคุมกองทัพทั้งหมด จีหลุนที่เหลือบขึ้นเห็นพอดี พลันนึกขึ้นได้ว่าเรื่องนี้คงผ่านการหารือระหว่างฮ่องเต้กับชินอ๋องเรียบร้อยแล้ว
มาร่วมประชุมครั้งนี้ ขุนนางทั้งราชสำนักล้วนส่งสายตาเห็นอกเห็นใจมาที่แม่ทัพหนุ่มรูปงามกันทั่วหน้า
พอกลับออกจากท้องพระโรง รองเสนาบดีฟ่านผู้เป็นน้องเขยก็มาชวนเขาไปยังจวนสกุลฟ่านเพื่อเยี่ยมน้องสาวและหลานๆ บัดนี้เขากลายเป็นท่านลุงของหลานทั้งสาม ชายหนุ่มจึงตอบตกลง
จิ่งอี้องครักษ์ของจีหลุนได้รับมอบหมายให้ส่งคนไปจับตามองความเคลื่อนไหวของกัวเอินถง ยืนรออยู่ข้างรถม้า ในตอนที่จีหลุนกับลี่เทียนเป่าออกมาจากจวนสกุลฟ่านเขาก็ไปกระซิบรายงาน
“ข้าคิดไว้แล้วเชียว นางต้องมีภารกิจสำคัญ มิได้คิดจะมาสวามิภักดิ์โดยสุจริตแน่”
“เหล่าจี บางทีภายในห้าเผ่าอาจจะเกิดความแตกแยกแล้วก็ได้ เจ้าจำเมื่อสามปีก่อนได้หรือไม่? ตอนที่เราเจอคนในร้านเหล้าหน้าด่าน พวกเขาพูดเรื่องที่หัวหน้าเผ่าเหลียนซาประลองกับหัวหน้าเผ่าฝูซา”
“เผ่าฝูซาทำอาชีพล่าสัตว์ โหดเหี้ยมและรบแบบไม่ตายไม่เลิก อันที่จริงก็สมควรจะได้เป็นผู้นำของห้าเผ่า ไม่รู้เหตุใดหัวหน้าเผ่าเหลียนซาจึงกลายเป็นผู้นำเสียได้?”
“ต้องมีลับลมคมในอย่างแน่นอน น่าเสียดาย ดินแดนเซี่ยงซาวานไม่อาจจะเดินทางเข้าออกได้ตามใจ” ลี่เทียนเป่าระบายลมหายใจ “นี่เป็นเพียงสถานที่เดียวที่ข้ายังไม่เคยเหยียบย่างเข้าไป”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เหล่าลี่ อีกไม่นานเราต้องได้เข้าไปแน่ เจ้าไม่ได้ยินหรือว่ากัวเอินถงขอกำลังทหารเข้าไปรักษาความสงบในห้าแคว้น”
กุนซือหนุ่มนิ่วหน้า “เห็นทีเรื่องนี้คงจะซับซ้อนมากกว่าที่เราคาด ข้าไม่เชื่อว่าผู้นำห้าเผ่าจะคิดชักศึกเข้าบ้านด้วยการเปิดทางให้กองทัพแคว้นหมิง”
“ข้าก็คิดเหมือนเจ้า แต่ยังขบไม่แตกว่ามีปัญหาใดกัน? ท่าทางของกัวเอินถงก็มิใช่สตรีอ่อนแอที่ดูโง่งมเลยสักนิด ตามที่ข้าได้พูดคุยกับ เจ้ากรมกลาโหมชิง กัวเอินถงผู้นี้ เดินทางผ่านด่านชายแดนด้วยหนังสือเดินทางปลอม นางเดินทางด้วยการอำพรางตัวตน และเพิ่งมาแสดงตัวที่ประตูทางเข้าเมืองหลวง นางย่อมมีศัตรูที่ต้องหลบหนี ไม่แน่ว่าการออกจากเซี่ยงซาวานของนาง อาจเป็นการหลบหนีมา”
“หากฟังตามที่เจ้าเล่า แสดงว่าเกิดปัญหาระหว่างห้าเผ่าจริง แต่อย่างไรการยืมกองกำลังจากภายนอกก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอยู่ดี นี่มันเป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านชัดๆ” ลี่เทียนเป่าใช้นิ้วเคาะหน้าผากเบาๆ
แม่ทัพหนุ่มเอนหลังพิงผนังรถม้า “นี่ล่ะ ที่ข้าระแวงในตัวนาง กัวเอินถงผู้นี้ลึกลับซับซ้อนยิ่ง ดูเหมือนนางและบิดา เจาะจงอยากจะเข้ามาในสกุลจีของข้า อาจจะมีสิ่งที่ต้องการอยู่เป็นแน่”
ลี่เทียนเป่าเด้งตัวขึ้นนั่งตัวตรง “จริงด้วย สกุลจีของเขาขึ้นชื่อด้านความลึกลับซับซ้อนอยู่เช่นกัน เจ้าเคยได้ยินถ้อยคำซุบซิบนินทาภายนอกหรือไม่?”
“ก็...ก็เคยได้ยินมาบ้าง” น้ำเสียงของจีหลุนไม่ค่อยมั่นคงนัก
“ตอนที่ข้าเข้าไปในเมืองฉู่จิ้ง ได้ยินนักเล่านิทานพูดถึงสกุลจีเอาไว้ว่ามีของวิเศษและวิชาที่แปลกประหลาดอยู่มาก บางทีคนสกุลกัวอาจจะต้องการของบางอย่างที่สกุลจีมี”
จีหลุนนิ่งไปครู่ “เหล่าลี่ ข้าบอกเจ้าตามตรง สิ่งมีค่าที่คนส่วนน้อยรู้กันคือตรามังกรคู่ หากเจ้าหมายถึงสิ่งนี้ ข้าก็เสียใจด้วย บัดนี้มันถูกทำลายลงแล้ว”
ลี่เทียนเป่าทำตาโต เขาเคยสงสัยเรื่องนี้มานานว่าเป็นเพียงตำนานหรือเรื่องจริง ที่แท้เรื่องนี้ก็มีมูล และหลายปีก่อนนั้นข่าวว่าฮ่องเต้ทรงบีบบังคับสกุลจีให้นำตรานี้ออกมาก็เป็นเรื่องจริง
“ตรา...ตรามังกรคู่ ที่สามารถใช้แทนพระลัญกรของฮ่องเต้นั่นหรือ?”
หากว่าสกุลจีคิดจะใช้มันในการก่อกบฏก็มีโอกาสทำได้ เพียงแต่ฝูกั๋วกงมิได้สนใจในเรื่องนี้ บิดาของจีหลุนแต่งงานกับสตรีเพียงหนึ่งเดียวและมีบุตรธิดาสามคน เป็นเพียงขุนนางธรรมดาในราชสำนัก ไม่เข้าพรรคเข้าพวกกับผู้ใด เรื่องเหล่านี้ลี่เทียนเป่ารู้กระจ่างแจ้ง
“ใช่ มันถูกทำลายไปแล้วด้วยฝีมือของน้องเขยและน้องสาวของข้า ฮ่องเต้ทรงทราบดี บัดนี้ละลายเป็นผุยผงอยู่ใต้เจดีย์วัดหยกสวรรค์ไปแล้ว”
กุนซือหนุ่มอ่านสีหน้าและแววตาของสหายก็รู้ว่าจีหลุนพูดความจริง
“ถ้าอย่างนั้น นางอาจจะต้องการตำแหน่งแม่ทัพของเจ้าเพื่อช่วยคุ้มครองบิดาและพี่ชายของนางเรืองอำนาจ ยืมเจ้าเพื่อกำจัดผู้นำแคว้นฝูซา”
จีหลุนยกมือขึ้นตบบ่าสหายเบาๆ “ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าว่าเริ่มเข้าเค้า”
พอลงจากรถม้าเข้าไปถึงเรือนนอน จีหลุนก็ให้ลี่เทียนเป่านำเอากระดองเต่าของเขาออกมาทำนายอีกครา
“เป็นเจ้าที่บอกข้าว่าการเข้าเมืองหลวงมาครั้งนี้คือความโชคดี หากเจ้าทำนายว่าการแต่งงานกับกัวเอินถงคือความโชคดี ถ้าอย่างนั้น ข้าอยากรู้ว่าสิ่งที่เราสองคิดเป็นความจริงหรือไม่?”
“ไหนเจ้าบอกว่าจะไม่เชื่อถือการทำนายด้วยกระดองเต่าของข้าแล้ว?”
“พูดมากน่า เหล่าลี่ ตอนนี้มีเพียงกระดองเต่าของเจ้าที่จะใช้ทำนายได้ จะเอาออกมาดีๆ หรือจะให้ข้าตบกระดองเต่าของเจ้าให้แตก”
ลี่เทียนเป่ารีบยกมือเตรียมดันร่างของจีหลุนที่จะเคลื่อนเข้ามาใกล้
“อย่าๆ ข้าเอาออกมาแล้ว เดี๋ยวข้าทำนายให้เจ้าเอง”
*******************