หลังจากได้ที่พักซึ่งเป็นกระท่อมไม้ไผ่ติดกับลำธารโดยมีบ้านพักของชาวบ้านอยู่รายรอบ ๆซึ่งบ้านพักอีกหลังห่างกันไม่มากก็เป็นของอีกคน
“ขาดเหลืออะไรบอกได้นะครับ เดี๋ยวผมจะให้ลูกบ้านจัดหามาให้ แล้วนี่…” สายตาเมียงมองอย่างสนใจเห็นรอยบาดแผลที่ถูกปิดไว้
“คะ?” และนึกขึ้นได้จึงยกมือขึ้นไปแตะที่แผลตัวเอง
“อ้อ ก่อนออกจากบ้านเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไรค่ะ” เธอบอกพร้อมรอยยิ้มยืนยันว่าไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย ผู้นำหมู่บ้านยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ
“ครับ หากมีอะไรรีบบอกนะครับ”
“ค่ะ” เธอยิ้มรับ แล้วใช้สายตากวาดมองไปรอบห้องอีกครั้ง ซึ่งในกระท่อมซึ่งมีฟูกกับผ้าห่มและหมอนด้านข้างมีโต๊ะเตี้ย ๆ และตู้ไม้ไม่ใหญ่มากวางอยู่กับถังน้ำขนาดเล็ก ซึ่งเธอคิดว่าเพียงแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ
“ขอโทษนะคะห้องน้ำอยู่ด้านนอกใช่ไหมค่ะ”
“ครับห้องน้ำอยู่ด้านหลังครับต้องเดินอ้อมออกไปครับ”
ญารินมองตามนิ้วที่ชี้ไปตรงหน้าต่างก็เห็นว่ามันอยู่ด้านหลังบ้านพักของเธอ “อ๋อค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ถึงจะเป็นลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ซึ่งอยู่กับสิ่งแวดล้อมและเครื่องอำนายความสะดวกครบครัน อีกทั้งมีคนรับใช้คอยปรนนิบัติ แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้เป็นคุณหนูจ๋าที่หยิบจับอะไรไม่เป็น เพราะทุกอย่างเธออยากเรียนรู้ด้วยตนเอง ยามมีโอกาสเธอจึงตัดสินใจออกค่ายอาสาต่างจังหวัดจนนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ชินกับการใช้ชีวิตแบบชนบทได้เป็นอย่างดี
หากใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไป เธอก็อยู่ได้ ดีเสียอีกจะได้ไม่ต้องรับรู้ความวุ่นวาย ที่เธอไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเจอกับสิ่งใดบ้างเมื่อกลับไป …
“งั้นผมไปก่อนนะครับ มีอะไรก็เรียกใช้ได้นะครับ”
เมื่อผู้นำชุมชนเดินออกไปแล้วญารินก็รีบสำรวจประตูหน้าต่างดูความเรียบร้อย ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกลัวอะไรมากไปกว่าผู้ชายที่พักอยู่อีกหลัง แม้ทั้งเสื้อผ้าของเธอที่ลืมไปแล้ว
ระหว่างที่ออกมายืนรับลมชมธรรมชาติและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาทำให้ใจที่ล่องลอยไร้จุดหมายดึงกลับเข้ามา พร้อมสายตาปรับเปลี่ยนกลับมาปกติ
“อยู่ได้ใช่ไหมครับ”
ญารินชักสีหน้าเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าคล้ายไม่เชื่อ “ทำไมจะอยู่ไม่ได้”
“ก็…”
“ทำมาเป็นรู้ดี” เธอว่าเสียงขุ่น
ใบหน้าที่เคยเรียบไร้รอยยิ้มพาดผ่านกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ญารินกำหมัดแน่นแล้วคลายออกเมื่อคิดว่าไร้ประโยชน์จะต่อปากต่อคำ เธอจึงถามใหม่ “บอกได้หรือยัง ว่าลุงแทนไปไหน”
ตาคมเข้มตะหวัดมองแล้วเอ่ยขึ้น “อยากรู้จริง ๆเหรอ”
“ใช่อยากรู้”
“งั้นสัญญานะ หากรู้แล้ว คุณก็ต้องทำสิ่งตั้งใจไว้ให้สำเร็จ”
ญารินชั่งใจครุ่นคิด ว่าจะเอาไงต่อ ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้า “ได้สัญญา ไม่ว่าคำตอบจะมาในรูปแบบใด ฉันจะทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ”
“ได้ครับถ้าอยากรู้เดี๋ยวผมจะบอกให้”
เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยบอก แล้วเดินตามลงไปด้านล่างซึ่งเป็นลำธารน้ำใสแล้วหยุดอยู่ตรงด้านหลัง โดยเว้นระยะห่างไว้
“ผมมาทำหน้าที่แทนลุงแทน”
เจ้าของดวงตากลมโตหันมาจ้องหน้าอย่างไม่เชื่อหู “คนไม่เคยเจอหน้า และไม่มีใครยืนยันได้ว่าคุณใช่คนที่น่าไว้ใจหรือเปล่าจะให้ฉันเชื่อได้ยังไงว่าที่คุณพูดมามันเรื่องจริง”
“ถ้าผมจะทำร้ายคุณผมทำร้ายไปนานแล้ว” เขายืนยันคำเดิม
“ก็นั่นสิ ฉันก็แปลกใจ ว่าถ้าคุณเป็นอริกับพ่อฉันหรือเป็นคนของคุณพ่อ ฉันคงไม่มายืนคุยอยู่ตรงนี้แน่”
“งั้นก็ยืนยันได้ว่าผมไม่ใช่คนอันตรายสำหรับคุณ”
“ฉันจะเชื่ออย่างนั้นก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันอยากรู้ว่าลุงแทนไปไหนและเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ตอนนี้ผมยังบอกไม่ได้”
“ทำไมถึงบอกไม่ได้”
“ลุงแทนสั่งไว้ รอคุณพร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอก”
“คุณอย่ามาเล่นตุกติก ก็คุณบอกเองว่าให้มาถึงที่หมายแล้วคุณจะบอกเรื่องทุกอย่าง”
“ผมอยากให้คุณอยู่ตรงจุดนี้ให้มั่นใจก่อนว่าคุณจะทำความฝันได้สำเร็จแล้วผมถึงจะบอก”
“คุณผิดคำพูดแล้วนะ แล้วอย่างนี้จะให้ฉันเชื่อคำพูดคุณได้ไง”
“ผมไม่ทำร้ายคุณเหมือนที่ลุงแทนไม่เคยคิดทำร้ายคุณนั่นแหละ”
“คุณกับลุงแทนผิดกัน”
“ก็ให้เวลามันพิสูจน์สิ คุณอยู่ที่นี่อีกหลายเดือนไม่ใช่เหรอ”
“ก็ใช่แต่ฉันรอไม่ได้หรอกนะหากไม่รู้ว่าลุงแทนตอนนี้จะเป็นตายร้ายดียังไง”
“คุณทำหน้าที่ของคุณให้ลุล่วง ลุงแทนก็ดีใจแล้ว”
“คำพูดของคุณ ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีมากไปกว่าการบอกความจริงหรอกนะ”
“เอาเป็นว่าหากคุณต้องการให้ลุงแทนสบายใจ ก็จงทำงานของคุณให้สำเร็จเถอะ”
“ผมจะไปเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาให้นะครับ” เอ่ยจบก็หมุนตัวหันหลังเดินกลับไปทางเดิม
“เอะ…” ญารินอ้าปากจะพูดต่อ แต่ชายหนุ่มไม่อยู่รอฟัง “จะไปก็ไป จะมาก็มา” เธอบ่นกระปอดกระแปดแล้วเดินกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยคำถามมากมายที่ยังไม่ได้คำตอบ
หลังจากที่กระเป๋าถูกวางลงหน้าประตู เธอก็เดินออกมาหา “เดี๋ยว ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” เธอรั้งเขาไว้ด้วยคำถาม
ใบหน้าคมเข้มหันมามอง แล้วเอ่ยตอบ “เรียกผมว่ามินก็ได้ครับ”
“มินเหรอ”
“ครับมิน” เจ้าของชื่อทวนคำตอบให้แล้วหันหลังเดินกลับ “อ้อ… ยาลืมกินยาด้วยล่ะ” เขาหันมาบอกแล้วเดินตรงไปยังที่พักของตัวเองโดยมีสายตาสับสนมองตามหลังไป
แม้อยากโวยวายใส่เขา แต่กลับทำไม่ได้ เพราะมีบางอย่างที่ผู้ชายคนนี้คล้ายกับลุงแทน ซึ่งทำให้เธอรู้สึกสับสนและสรุปไม่ได้ว่าเธอไว้ใจผู้ชายคนนี้ อย่างที่เธอไว้ใจลุงแทนได้หรือไม่…