ดินเนอร์
ลาสเวกัส รัฐเนวาดา...
เฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือลาสเวกัสสตริป ถนนสายบันเทิงที่ทอดยาวเกือบสิบกิโลเมตร สว่างไสวด้วยแสงไฟนีออนหลากสีสัน โรงแรมคาสิโนอันหรูหราตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง
ภายในโรงแรมขนาดใหญ่เหล่านั้นมีพื้นที่สำหรับการเสี่ยงโชค ร้านค้า ร้านอาหารที่ราคาตั้งแต่คนทั่วไปเข้าถึงได้จนถึงระดับหรู
ถนนสายนี้ยังมีพื้นที่จัดแสดงดนตรี การแสดงตลก และการแสดงผาดโผน รวมถึงกิจกรรมอีกมากมายที่ดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้มาที่นี่
คือสวรรค์ของนักลงทุน นักเสี่ยงโชคจากทุกมุมโลก และนักท่องเที่ยวทั่วไป มีเม็ดเงินหมุนเวียนมากมายมหาศาล สร้างความร่ำรวยให้กับเจ้าของคาสิโน
หนึ่งในนั้นคือนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ภาณุภัทร เมธากุล เจ้าของ Interstellar tower โรงแรมหรูหราขนาดใหญ่ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ผับบาร์ กิจกรรมผาดโผน และคาสิโนบนเนื้อที่เกือบแปดพันตารางเมตร มีหอคอยไว้ชมวิวเมืองลาสเวกัสที่ไม่เคยหลับใหล
ฮอจอดลงบนดาดฟ้าของตัวอาคารใจกลางลาสเวกัสสตริป ภาณุภัทรก้าวลงจากฮอ เขายื่นมือไปรอรับคนที่กำลังตามลงมา เธอละล้าละลังไม่กล้าจับมือเขา จนชายหนุ่มต้องใช้สายตาข่มขู่ เธอจึงยอมคว้ามือแกร่งเอาไว้แล้วก้าวลงจากฮอ
"คุณคีย์ ลินจะโดนจับมั้ยคะ"
อลินดาเร่งฝีเท้าไปดักหน้าคนที่กำลังเดินไปยังบันไดทางลงตัวอาคาร เธอเข้าอเมริกาด้วยวีซ่าเถื่อน โดยคนของภาณุภัทรจัดการให้ทั้งหมด
เมื่ออยู่ในโลกของเขา ดูเหมือนการเดินทางไปไหนมาไหนในโลกใบนี้ ช่างง่ายไปเสียหมด มันทำให้เธอเห็นอีกมุมหนึ่งในโลกของคนรวยที่มีอิทธิพล เขาเสกทุกอย่างขึ้นมาได้ด้วยเงิน
"มากับฉัน เธอกลัวโดนจับด้วยเหรอ"
"แต่เราทำผิดกฎหมายอยู่นะคะ คุณลากลินเข้าไปเสี่ยงโรคไม่พอ ยังลากลินเข้าไปเสี่ยงคุกอีก"
เขาหัวเราะออกมา ซึ่งก็เพิ่งเห็นเขามีอารมณ์ขันเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
"นี่ ยายเด็กโง่ เธอจะโดนจับตรวจฉี่เพราะไอ้ท่าทีล่อกแล่กเนี่ยแหละ"
"คุณทำเหมือนการทำผิดกฎหมายไม่ใช่เรื่องแปลก ลินไม่ใช่คุณ ที่จะทำหน้ามึนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
"ความเหลื่อมล้ำไงลิน บางสิ่งบางอย่างที่คนจนทำไม่ได้ ปล่อยวางซะ แล้วทำความเข้าใจโลกนี้เสียใหม่ มันไม่ได้สวยงามอย่างที่เธอเห็น"
"....."
"ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปผ่อนคลาย คิดเสียว่าฉันพามาเที่ยวก็แล้วกัน"
"ก่อนพาไปเชือดเหรอคะ"
แววตาเข้มตวัดมอง อลินดาแสร้งเมินไปทางอื่น เพราะจริง ๆ แล้วไม่กล้าสบตากับเขา
"ตามใจ ถ้าไม่ไปก็ยืนอยู่ตรงนี้แหละ"
เขาเดินหนีไปแบบไม่งอนง้อ หญิงสาวต้องรีบสาวเท้าเดินตามเขาไปอย่างยอมจำนน การหนีเขาในเมืองไม่คุ้นเคยไม่ต่างไปจากการฆ่าตัวตาย ซ้ำยังถือวีซ่าผิดกฎหมายอีกด้วย
ภาณุภัทรพาเธอไปยังลิฟท์แล้วกดลงไปยังชั้นที่ต้องการ เดินผ่านโถงกลางห้องพัก มีทางเชื่อมทะลุไปถึงระเบียงชมวิวที่เป็นลานกว้าง เพียงย่างเท้าออกมาข้างนอก แววตาคู่สวยก็ทอประกายตื่นเต้น แสงไฟหลากสีสันยามค่ำคืนสะท้อนเข้ามาในแววตาที่สุกสกาวราวดาวบนฟ้า
เสียงเพลงดังกระหึ่มอยู่รายรอบ ตรงหน้าคือสายน้ำพุขนาดใหญ่กำลังเริงระบำไปตามจังหวะเพลง มันเปลี่ยนเป็นรูปร่างต่าง ๆ ที่แสนตรึงใจ นักท่องเที่ยวมากมายยืนชมความงามพร้อมกับถ่ายรูปบันทึกไว้เป็นความทรงจำ
อลินดายืนนิ่งราวอยู่ในโลกฝัน ดื่มด่ำไปกับความสวยงามแสนตื่นตาตื่นใจตรงหน้า แสงสีทองสาดส่องเป็นฉากหลัง มวลน้ำขนาดใหญ่พวยพุ่งเปล่งประกายสีขาวเข้ากับจังหวะเพลง
เบลลาจิโอ คือชื่อเรียกโรงแรมที่เธอยืนอยู่ เจ้าของน้ำพุเต้นระบำที่โด่งดังบนลาสเวกัสสตริป หลายคนมาที่นี่เพื่อแค่ดูน้ำพุ เขาบอกเธอแบบนั้น
ในช่วงเวลาแห่งความสุข แววตาคู่สวยเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมคร้ามของคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขามีท่าทีผ่อนคลาย คล้ายรอยยิ้มจะทาบทาอยู่บนใบหน้าเคร่งขรึม
มันทำให้หล่อนพอหายใจได้โล่งขึ้น ความอึดอัด ความหวาดกลัวในตัวเขาลดลงไปบ้าง หากแต่ก็ยังไม่ไว้วางใจไปเสียทีเดียว ไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะเจออะไรที่แปลกประหลาดคาดไม่ถึงอีกบ้าง
เขาพาเธอยืนเสพความสุขจากน้ำพุดนตรีแสนตื่นตาตื่นใจอยู่นาน ก่อนจะพาไปขึ้นรถหรูที่มีคนขับมารับถึงหน้าโรงแรม
Interstellar tower โดดเด่นอยู่ทางเหนือของลาสเวกัสสตริป จุดหมายปลายทางที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน นักเสี่ยงโชคจากทั่วโลกล้วนมาพักที่โรงแรมแห่งนี้เพื่อเล่นคาสิโนที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เม็ดเงินมหาศาลหมุนเวียนอยู่ในคาสิโนแห่งนี้
นอกจากสิ่งบันเทิงครบครัน จุดโดดเด่นของที่นี่คือหอคอยสูงเสียดฟ้า เมื่อขึ้นไปอยู่บนนั้นจะมองเห็นลาสเวกัสในมุมกว้าง ที่นี่จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ไม่ใช่สายพนัน บนหอคอยมีร้านอาหารสุดหรูไว้บริการ สำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำบรรยากาศแสนโรแมนติก ท่ามกลางมุมมองแบบพานอรามา บนหอคอยจะหมุนเปลี่ยนมุมทุก ๆ ชั่วโมง เปลี่ยนมุมมองของลาสเวกัสได้ถึง 360 องศา
ตรงโต๊ะอาหารในบรรยากาศแสนโรแมนติก อลินดานั่งมองคนที่นั่งจิบไวน์อยู่ฝั่งตรงกันข้าม สลับกับมองอาหารบนโต๊ะ มันคือความไม่คุ้นชินที่ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน ความอึดอัด ความประหม่า ความกังวล ทำให้เธอไม่ยอมแตะต้องอาหารบนโต๊ะแม้สักคำเดียว
ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะได้มานั่งร่วมโต๊ะกับผู้ชายที่ร่ำรวยมหาศาลเช่นภาณุภัทร ถ้าหากเขาเป็นแค่คนรวยธรรมดาเธออาจจะผ่อนคลายมากกว่านี้
แต่ผู้ชายคนนี้เป็น 'เจ้าพ่อมาเฟีย' ที่หลายคนขนานนามไว้แบบนั้น ซ้ำยังจิตใจโหดเหี้ยมขนาดที่ฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกอะไร
ภาพนั้นยังติดตา วินาทีที่เขาลั่นไกปลิดชีพคนคิดทรยศ มันพานให้เธอกระอักกระอ่วน กินอะไรไม่ลง
ภาณุภัทรนั่งมองคนที่ทำหน้าแปลก ๆ คล้ายกับถูกเขาบังคับให้มานั่งร่วมโต๊ะ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังนั่งดินเนอร์อยู่กับเจ้าของโรงแรมหรูแห่งนี้ มีผู้หญิงมากมายที่อยากได้โอกาสนี้แต่เอื้อมไม่ถึง แต่คนตรงหน้าเขากลับทำเหมือนทุกข์ทรมานเต็มที
เขาเพิ่งเคยพบเจอ คนแปลกประหลาดแบบอลินดา คนที่ทำเหมือนไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้ ผู้หญิงคนแรกที่เขาจับแต่งตัว บังคับให้มาทานมื้อค่ำด้วยกัน
"จะนั่งมองอีกนานมั้ย สรุปเธอจะกินฉันหรือกินอาหารกันแน่"
เสียงนั้นปลุกอลินดาขึ้นมาจากห้วงภวังค์ เธอรีบเบนสายตาไปทางอื่น จากที่เอาแต่มองเขาแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
การที่ถูกทักมาแบบนั้นทำให้มือไม้ที่เงอะงะทำทีเป็นหยิบส้อมหยิบมีด ยื่นไปหั่นสเต็กเนื้อที่ดูน่ากิน ท่ามกลางแววตาเข้มที่จับจ้องมองทุกการกระทำ
เขานั่งซ่อนยิ้ม ยามมองชิ้นเนื้อที่ผ่านเรียวปากสีสวย เธอทำทีเป็นสนใจอาหารขึ้นมาทันที เพื่อกลบเกลื่อนอาการประหม่าจากสายตาแสนมีเสน่ห์ที่จับจ้อง
"อร่อยไหม"
หญิงสาวพยักหน้าเบา ๆ ขณะค่อย ๆ ละเลียดเคี้ยวชิ้นเนื้อที่อยู่ในปาก เห็นแววตาเข้มที่มองมาเหมือนซ่อนเล่ห์ เขาละเลียดไวน์ลงคอแล้ววางแก้วไว้บนโต๊ะ
"อืม...อร่อยก็กินให้หมดจาน เพราะเนื้อเสือจานนี้มันแพงมาก แล้วก็หากินไม่ได้ตามร้านอาหารทั่วไปด้วย"
การที่เขาพูดมาแบบนั้น ทำให้หญิงสาวทิ้งมีดทิ้งส้อมไว้บนจาน สองมือยกขึ้นปิดปาก
"อุ๊บ!"
เธอทำท่าโก่งคอเหมือนจะอาเจียน น้ำตารื้นเพราะอาหารในท้องกำลังตีขึ้น อาการที่ทำให้ภาณุภัทรต้องยกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ อีกฝ่ายวิ่งลนลานมาพร้อมภาชนะในมือ ยื่นไปจดจ่ออยู่ตรงหน้าอลินดา
อลินดาอาเจียนออกมาจนหน้าแดง น้ำตาคลอขัง นั่งหายใจแรง มองคนตรงหน้าด้วยแววตาอาฆาต
"คุณคีย์ คุณแกล้งลินใช่มั้ย!"
โกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง ที่ถูกเขาหลอกให้กินเนื้อเสือ แค่เนื้อวัวธรรมดาเธอยังไม่ชอบกิน มาเจอเนื้อแปลก ๆ แบบนี้มันทำให้ยังกระอักกระอ่วนไม่หาย รู้สึกคาวอยู่ในปากขึ้นมาทันที