จันทร์เจ้าหวาดระแวงไปหมด หวาดกลัวไปหมดว่าดิฐาจะเข้ามาหาตัวเอง เธอมองซ้ายมองขวาตลอดเวลาที่ทำงานทั้งๆ ที่รุ่นพี่บอกว่าอาทิตย์นี้ดิฐากลับไปเคลียร์งานสำคัญที่กรุงเทพฯ จะไม่กลับมา แต่เธอก็กลัวอยู่ดีว่ามันจะเป็นแบบวันนั้นอีก วันที่เขาบุกเข้ามาในห้องข่มเหงเธออย่างป่าเถื่อนจนเธอล้มป่วยเป็นไข้นอนซมสามวันไม่ได้ออกจากห้องมาทำงาน
วันนี้ก็เหนื่อยเหมือนเดิมหลังจากฟื้นไข้กลับมาทำงานได้ปกติ จริงๆ งานของเธอมีนิดเดียว แต่เธออาสาช่วยงานคนนั้นคนนี้เลยเหนื่อย แต่ก็มีความสุขดี เพราะตลอดชีวิตของเธอมันไม่เคยไม่เหนื่อย เธอลำบากตลอดตั้งแต่เล็กจนโต ชีวิตเต็มไปด้วยขวากหนาม ถึงมันจะเต็มไปด้วยหนามไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและบัดซบเพียงไร เธอก็ไม่เคยย่อท้อ เพราะชีวิตต้องสู้ หากเธอท้อและยอมแพ้ พ่อกับแม่ที่อยู่ด้านหลังจะเป็นยังไง และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอขยันและตั้งใจเรียนมาตลอด ไม่ใช่แค่เพราะรักษาทุนการศึกษา แต่อยากคว้าเกียรตินิยมมาให้ท่านทั้งสองภูมิใจในตัวเธอด้วย จากที่ปกติเป็นความภาคภูมิใจของท่านทั้งสองอยู่แล้ว
“จันทร์เจ้าไปกินข้าวด้วยกันไหม วันนี้พี่สมชายเลี้ยงข้าว” รุ่นพี่วิศวะที่อยู่ประจำโครงการเอ่ยชวนเธอ
“คือจันทร์เจ้าติดแก้วิจัยคงไปด้วยไม่ได้ค่ะ” เธอเสียดาย แต่ไปไม่ได้จริงๆ เพราะนัดอาจารย์ว่าจะส่งฉบับแก้ไขให้เย็นนี้
“อือ...งั้นครั้งหน้าแล้วกัน พวกพี่ไปก่อนนะ”
“ค่ะพี่ ทานเผื่อจันทร์เจ้าด้วยนะคะ”
เธอบอกรุ่นพี่และทุกคนก็ยิ้ม พยักหน้าพากันเดินออกจากห้องทำงาน ส่วนเธอก็เก็บกระเป๋าปิดไฟในห้องทำงาน
“หวังว่าผู้ชายเลวๆ คนนั้นจะไม่กลับมาที่ไซต์งานอีกจนกว่าเราจะฝึกงานจบนะจันทร์เจ้า”
เธอพึมพำกับตัวเองแล้วเดินออกจากห้องทำงานกลับห้องพักของตัวเอง
ความเหนื่อยทำให้เธออ่อนเพลียหลับไปสนิทหลังจากส่งงานให้อาจารย์ตรวจทันเวลาที่นัดไว้ จันทร์เจ้าไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีผู้บุกรุกเข้ามาในห้องพักของตัวเอง และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากดิฐาที่เพิ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาถึงไซต์งาน พอมาถึงเขาก็เดินหลบซ่อนแอบคนงานที่ตั้งวงดื่มเหล้ากันมาหาจันทร์เจ้า และเหมือนเดิมประตูล็อกแน่นหนายังไง เขาก็สะเดาะกุญแจออกได้เหมือนเดิม แสงจากไฟด้านนอกส่องเข้ามาทำให้เห็นจันทร์เจ้านอนหลับสนิทบนฟูกนอน เขาจึงล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสแล็คออกมาดูเวลา เพราะดูนาฬิกาที่ข้อมือไม่ชัด
“สามทุ่มเองทำไมหลับแล้วล่ะ ช่างแม่งหลับกูก็จะจะเอา หิวเป็นบ้า!”
เขาพึมพำกับตัวเองแล้วปิดประตูห้องเบามือที่สุดแล้วก็จัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองออกด้วยความรำคาญและร้อนรุ่มร่างกายกำยำ เมื่อปลดเปลื้องชุดที่แสนจะน่ารำคาญของตัวเองออกทิ้งก็ก้าวเดินเร็วๆ ไปโถมตัวคร่อมทับร่างน้อยที่นอนหลับสนิทบนฟูกนอนพร้อมทิ้งน้ำหนักตัวไปที่จันทร์เจ้าหมด จนเธอที่หลับสนิทอยู่รู้สึกอึดอัดขยับพลิกตัวไม่สะดวกจนต้องฝืนความง่วงตื่นขึ้นมาในความมืด รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย จันทร์เจ้าก็ไม่อาจนอนนิ่งเฉยได้ต่อไปอีก
อือ!
เธอดิ้นสุดแรงเกิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อคนที่บุกรุกเข้ามานั้นตัวใหญ่ แรงเยอะ เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้ สาวน้อยวัย 20 ปี ชีวิตของเธอไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยขวากหนาม เจ็บจนชาชินกับชีวิตบัดซบของตัวเอง แต่สาวน้อยก็ไม่เคยยอมแพ้
“อย่าทำเป็นเล่นตัวหน่อยเลย เราไม่ได้จะเอากันครั้งแรกสักหน่อย หรือลืมไปแล้วว่าที่ฟูกนอนนี้เราเร่าร้อนกันแค่ไหน” เสียงทุ้มห้าวของดิฐาดังขึ้นพร้อมกับกระชากคนที่ดิ้นไปหลบอยู่มุมห้องแคบๆ เข้ามากอดรัดแน่น
“อือ...แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีก ครั้งแรกแกลืมไปแล้วเหรอว่าแกข่มขืนฉัน” เธอดิ้นต่อต้านในวงแขนแข็งแรง
“หึหึ...ข่มขืนเหรอ? ครางเสียวดังลั่นห้องขนาดนั้น เราควรทำกันอีกรอบ เธอจะได้รู้ว่าครั้งที่แล้วข่มขืนหรือสมยอมกันแน่” แล้วเขาก็บีบคางเล็กของเธอให้แหงนเงยขึ้นหาตัวเองแล้วโน้มลงมากระแทกจูบปากของคนพยศในวงแขนทันที
“อะ...อื้อ” เธอครางอู้อี้พร้อมดิ้นขัดขืนและพยายามบิดหน้าหนี แต่ก็ถูกมือใหญ่จับล็อกคางไว้
“อ่า...อื้ม” ดิฐาขบเม้มริมฝีปากเธอให้เปิดปากรับเรียวลิ้นอุ่นร้อนตัวเอง และเมื่อได้ดั่งใจก็ไม่รอช้าจะดุนดันปลายลิ้นเข้าไปไล่ต้อนลิ้นเล็กของเจ้าหล่อนที่ตอนนี้หยุดดิ้นรนต่อต้านแล้ว หล่อนกำลังอ่อนระทวยในวงแขนของเขา
“หึหึ...แค่จูบก็อ่อนระทวยแล้ว” เขาผละออกมาเอ่ยเย้ยหยันแล้วกลับไปจูบปากหวานละมุนของหล่อนอีกครั้ง และครั้งนี้ก็อุ้มเธอพาเดินไปยังฟูกนอนที่เคยมีคืนเร่าร้อนด้วยกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และเขาก็ยอมรับว่าติดใจแม่คนตัวน้อยนี้แล้ว พรหมจรรย์ของเธอมันหอมหวาน จนเขารู้สึกหวงแหน
“อ่า...ยะ...อย่านะไอ้เลว แกจะ...อะ...อื้อ” ปากที่ได้อิสระยังพูดไม่ทันจบ คนที่คร่อมทับเหนือร่างตอนนี้ก็บดจูบปิดปากเธออีกครั้ง ทุกอย่างมันรวดเร็วเหมือนวันนั้น วันที่เขาบุกเข้ามาหาครั้งแรกไม่มีผิด
“ก็กูจะเอา” ดิฐาตอบห้วนสวนกลับแล้วสาดซัดอารมณ์หวามสวาทตัวเองโถมฟาดฟัดเข้าหาคนตัวเล็กใต้ร่างทันที กลิ่นกายหอมหวนของจันทร์เจ้ายั่วยวนและติดตรึงจนเขาต้องรีบเคลียร์งานกลับมาหาหล่อนนี่แหละ
“อ่า...กะ...แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไอ้ชั่ว!” ถึงแม้จะมีแรงน้อยนิด แต่เธอก็จะดิ้นต่อต้านจนกว่าจะไม่ไหว จะไม่ยอมปล่อยให้เกิดเรื่องแบบวันนั้นอีกแล้ว จะต้องไม่มีทางเกิดขึ้นอีก
“แตกหลายน้ำยังไม่ใช่ลูกผู้ชายอีกเหรอ คืนนี้แหละกูจะเอามึงให้ขาถ่าง แล้วมาดูสิพรุ่งนี้เช้ามึงจะยังกล้าพูดว่ากูไม่ใช่ ‘ลูกผู้ชาย’ อยู่ไหม แควก!” แล้วชุดนอนตัวยาวของเธอก็ถูกกระชากฉีกขาดผ่ากลางตัวด้วยน้ำมือคนถ่อย
“แกมันชั่ว! แกมันละ...อะ...อื้อ” แล้วคำว่า ‘เลว’ ก็กลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อปากหนาทาบทับปิดกลืนเสียงของเธอพร้อมกับชุดนอนตัวยาวที่ถูกฉีกผ่ากลางถูกเขาดึงถอดกระชากทิ้งไปอย่างไร้ทิศทางในความมืด
“อ่า...หวานเป็นบ้า” เขาถอนจูบออกมาเอ่ยรดใบหน้างามแล้วก้มลงไปจูบแอ่งชีพจรของเธอ สองมือหนาก็กักข้อมือเล็กไว้ข้างลำตัวเพื่อไม่ให้จันทร์เจ้าใช้มันมาผลักไสตัวเองออกห่าง
“ยะ...หยุด! พอได้แล้ว เลิกทำแบบนี้กับฉันสักที ถ้าแกหิวแกก็ไปที่อื่นไม่ใช่มาทำกับฉันแบบนี้” เธอตะโกนบอกเขาเต็มเสียง
“หึหึ...ก็อยากไปเอาอยู่หรอก แต่เรื่องอะไรจะโง่ไปเอาผู้หญิงที่ผ่านมาเป็นร้อยล่ะ สู้เอามึงที่เพิ่งมีผัวครั้งแรกที่เป็นกูและครั้งที่สองก็จะเป็นกูอีกไม่ดีกว่าเหรอ สะอาด ปลอดโรคด้วย”
คำหยาบและน่าเกลียดหลุดลอดออกมาจากชายที่มีใบหน้าราวเทพบุตรอย่างดิฐา ใครจะเชื่อว่ามันเป็นคำพูดของหนุ่มหล่อในฝันของสาวๆ ประจำปีอย่างนายดิฐา กำเนิดกุล แต่มันก็เป็นไปแล้ว และจันทร์เจ้าก็ได้รู้จักธาตุแท้ที่ซ่อนภายใต้ภาพผู้ดีของดิฐาอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้เลยทีเดียว
“แกมันเลวเกินมนุษย์”
หึหึ
“ฉันก็ไม่เคยบอกว่าตัวฉันเป็นคนดีนี่ เธอคิดไปเองรึเปล่าว่าฉันเป็นคนดี ถึงชื่อเล่นฉันจะชื่อ ‘ดี’ แต่ใช่จะ ‘ดี’ สักหน่อย จริงๆ ก็มี ‘ดี’ แต่ความ ‘ดี’ ของฉัน ฉันเก็บไว้ใช้กับคนในครอบครัวเท่านั้น และก็ไม่ใช่มึงด้วยจันทร์เจ้า” พูดจบเขาก็ซุกไซ้ปลายจมูกถูไถขูดเคราสากไปกับซอกคอระหงที่บิดส่ายหนี ตวัดปลายลิ้นลากเลียลำคอระหงมาถึงโคนหูกัดงับเม้มปลุกเร่าอารมณ์ดิบในตัวของจันทร์เจ้าโดยไม่สนใจว่าเจ้าหล่อนจะยังดิ้นพยศต่อต้านตน
“ปล่อยฉันนะ อะ...อื้อ”
มือก็ถูกจับล็อกไว้ข้างลำตัวแม้พยายามบิดข้อมือให้หลุดจากอุ้งมือของดิฐาแล้ว แต่มันก็ไม่ยอมหลุด ที่ทำได้ตอนนี้คือพูดเท่านั้น แต่เหมือนว่าจะเหมือนเดิมอีกแล้ว ร่างกายของเธอมันอ่อนไหวและไวต่อสัมผัสหยาบโลนป่าเถื่อนของดิฐาเหลือเกิน
“อะ...อื้อ”
หึหึ
ดิฐายกยิ้มในความมืดขณะที่ขบเม้มติ่งหูของจันทร์เจ้าแล้วผละออกมาซุกหน้าที่กลางหว่างอกอวบ จับมือทั้งสองที่ตนเองกักล็อกไว้ข้างลำตัวบังคับมาคล้องคอหนาตัวเองพร้อมตวัดลิ้นลากเลียร่องอกอวบนุ่มนิ่มและดูดเม้มกลืนกินยอดถันที่ชูชันแข็งตึงของหญิงสาว
“อะ...อุ๊ย!”
เธอแทบอยากกัดลิ้นตัวเองที่หลุดเสียงครางเสียวออกมา แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อดิฐาขำเย้ยเธอออกมา
“หึหึ...เห็นไหมล่ะว่าตอนนี้ร่างกายน้อยๆ ของมึงน่ะต้องการกูแค่ไหนจันทร์เจ้า เสียวก็ร้องออกมาและอย่าพยายามขัดขืนเลย เพราะขัดขืนให้ตาย คืนนี้มึงก็ต้องเป็นเมียกูอีกครั้ง...หึหึ” จบความท่อนเนื้ออวบใหญ่ที่พร้อมจะกระแทกเด้าเบียดเสียดสีในร่างน้อยก็กดแนบแทรกกลางหว่างขาเรียวเล็กของจันทร์เจ้าจ้วงดำหายเข้าไปในร่างคับแน่นจนสุดโคนเนื้อ
“อะ...ออกไป!” เธอพยายามบิดเอวส่ายหนี แต่เหมือนเป็นการบิดเอวตอบสนองมากกว่า
“อ่า...แน่นดีเป็นบ้า ชูว์...ออกไปเหรอ อะ...อื้อ” เขาทำตรงกันข้ามโดยการกระแทกตัวลึกกว่าเดิมทั้งๆ ที่สุดโคนเนื้อแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกว่าลึกพอ
“อะ...อื้อ” จันทร์เจ้าร้องครางและรู้สึกอึดอัดกลางลำตัว ทำได้แค่เพียงบิดเอวเล็กส่ายไปมา
หึหึ
ดิฐาขำเย้ยคนปากกับร่างกายไม่สอดคล้องกันพร้อมเริ่มขับเคลื่อนไหวจังหวะท่อนเนื้อใหญ่ยาวตัวเองเสียดสีเร่าร้อนเข้าออกภายในกายสาว สองมือน้อยที่บังคับให้คล้องลำคอหนาเขาก็ให้อิสระปล่อยเธอตามสะดวก ในตอนแรกคิดว่าจะผลักเขาออก แต่ที่ไหนได้ เจ้าหล่อนกลับจิกเล็บกับลำคอหนาของเขาระบายความเสียวซ่านกลางกาย
“อะ...อื้อ แก...แกมันละ...เลว อะ...ซี้ด”
“ฉันเลวได้ยิ่งกว่านี้อีกถ้าเธอดื้อ โอว์...ตอดรัดดีเหลือเกิน ซี้ด...ชูว์” สองแขนแข็งแรงตวัดกอดร่างน้อยที่บิดเร่าครางเสียวบนฟูกนอนบางๆ ยกขึ้นหาตัวเองจนสองเต้าบดเบียดแทบกลืนกินเป็นเนื้อเดียวกับตัวเขา ส่วนเอวสอบก็เคลื่อนไหวหนักหน่วงเร่าร้อนและอ่อนโยนสลับกัน
“อะ...อื้อ ไม่ไหวแล้ว อะ...ร้อน ไม่ไหวแล้ว อ่า...ได้โปรด ยะ...หยุด” ทั้งๆ ที่ความจริงไม่ได้ต้องการให้คนโอหังหยุดแม้แต่น้อย เธอต้องการให้เขาเคลื่อนไหวซอยถี่ขึ้นกว่าที่ทำต่างหากล่ะ
“อ่า...เหรอ หยุดแบบนี้ไหม โอว์...เสียว แน่น อ่า...”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
ดิฐารู้ว่าหล่อนต้องการตรงข้ามเสมอ ก็เด็กชอบพูดสวนทางกับร่างกายตลอด ตอนนี้ร่างน้อยในวงแขนแอ่นโยกไหวตอบสนองทุกครั้งที่เขากระแทกตัวลึกผ่านมดลูกของหล่อน ดิฐาใช้แขนอีกข้างมาจับเรียวขาเล็กยกขึ้นเกี่ยวเอวหนาตัวเอง อีกแขนยังคงตระกองกอดรัดร่างน้อยแน่นที่กระเด็นกระดอนเคลื่อนไหวตามแรงกระแทกเสียวของตนเอง
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
จันทร์เจ้าตกสู่ห้วงราคะอีกครั้งโดยดิฐาเป็นผู้ควบคุมและชักนำให้ติดบ่วง ส่วนเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์หนุ่มนั้นก็หลงลืมเหมือนครั้งแรกที่ได้แหวกว่ายในกายสาวน้อยบริสุทธิ์ในอ้อมกอดอีกครั้ง ความหอมหวานรัญจวนใจของจันทร์เจ้าทำให้เขาลืมสิ่งสำคัญเหมือนทุกครั้ง เขาแทบไม่ได้คิดถึงถุงยางอนามัยเลยเวลาอยู่กับหญิงสาวที่กำลังร้องครางและแอ่นเด้งเงอะงะตอบสนองตนเองในอ้อมกอดตอนนี้