“เล็กกำลังจะกลับมานะ...พร้อมกับแหม่ม...”
พร้อมพงศ์เอ่ยกับใหญ่และลีลา ในระหว่างวัน... กิจการโรงแรมและรีสอร์ต ถึงแม้ไม่มีการขยับขยายอย่างใหญ่โตมากไปกว่านี้ แต่ทุกอย่างมีสัดส่วนของมัน ไม่มากเกินไป ไม่น้อยจนดูเหมือนไม่ได้พัฒนา
พร้อมพงศ์คิดเอาไว้แล้วว่า ต้องการให้ลูกชายทั้งสองกลับมาสานต่องานทั้งหมด เขาต้องการจะเกษียณตัวเองจากงาน
ชีวิตมีการเริ่มต้นใหม่เสมอ ในวัยห้าสิบเศษของเขา จะว่าไปมันก็คือการเริ่มต้นอีกครั้งนั่นเอง
“เล็กมีแฟนแล้วเหรอครับเนี่ย”
ใหญ่ตื่นเต้น เพราะเท่าที่รู้ เล็กค่อนข้างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะจีบหญิงเป็นด้วยซ้ำ เล็กทำงานด้วยเรียนไปด้วยระหว่างอยู่เมืองนอก ชีวิตดูเหมือนจะเอาจริงกับงานสถาปนิกที่เขาหลงใหล
“มีมาสักพักแล้ว เป็นตัวจริงเสียงจริง”
“คงงั้นแหละครับป๊ะป๋า เจ้าเล็กไม่ได้เจ้าชู้เหมือนป๊ะป๋านี่ครับ ถ้ามันจะมีแฟน ก็คงตัดสินใจแล้วละว่าเป็นตัวจริง”
“แล้วกัน เรื่องอะไรมาว่าป๊ะป๋าล่ะ”
พร้อมพงศ์หัวเราะ เหลือบมองไปทางลีลาที่ก้าวเข้ามาสมทบทีหลังด้วยสายตาประกายวาว
“แกเองก็เถอะใหญ่ รีบจัดการให้หนูลีลาซะที ป๊ะป๋าอยากมีหลานอุ้มแล้ว”
“โธ่ ป๊ะป๋า มาถามอะไรผม ถามนางเองว่าทำไมถึงไม่อยากแต่ง ผมน่ะอยากวันละหลาย ๆ รอบ”
“อยากอะไร พูดจาน่าเกลียด”
ลีลาตีแขนใหญ่ แต่ตาของเธอสิ หันมาทางพร้อมพงศ์ มีประกายซ่อนปรารถนาบางอย่างเอาไว้...ไม่มิดชิด
“ก็อยากแต่งงานไง” ใหญ่พูดกลั้วเสียงหัวเราะ ก่อนหันมาถามผู้เป็นพ่อ “เจ้าเล็กจะมาวันไหนครับป๊ะป๋า”
“อาทิตย์หน้า”
ก่อนลูกชายคนสุดท้องจะมาถึงแค่ 3 วันเท่านั้น กลับมีข่าวร้ายเกิดขึ้น...
ใหญ่ซิ่งบิกไบค์แหกโค้ง ความเร็วเกิน 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะสวมเครื่องป้องกันดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถปกป้องร่างกายเอาไว้ได้
ใหญ่เสียชีวิตคาที่ ณ จุดเกิดเหตุ
หัวใจของพร้อมพงศ์เหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ ลูกก็คือชีวิตนั่นแหละ ใครไม่เจอเข้ากับตัวเอง ไหนเลยจะเข้าใจถึงความรู้สึกอันแท้จริง
แต่เมื่อได้เห็น...ลีลากอดร่างไร้วิญญาณของใหญ่ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจตาย พร้อมพงศ์ก็ต้องสะกดกลั้นความอ่อนแอในใจ
ลีลายังไม่เคยรู้จักความสูญเสีย ใหญ่คือคนรักคนแรกของเธอ ไม่แปลกหรอกที่เธอจะใจสลาย
มันคือช่วงเวลาแห่งความหม่นหมองเศร้าสร้อยโดยแท้
เล็กเดินทางมาก่อนกำหนดเพื่อร่วมฌาปนกิจศพของพี่ชาย เขามาพร้อมกับแหม่มร่างสูงเพรียว ชื่อ แคลร์
ทุกคนต่างอยู่ในอารมณ์ไม่แตกต่าง
มันคือความสูญเสียที่ไม่สามารถพรรณนาได้ด้วยภาษาปกติ มีเพียงอย่างเดียว...กาลเวลาเท่านั้นจึงจะสามารถเยียวยา
เช้า...ของอีกหลายวันต่อมา
พร้อมพงศ์ชะงักหยุด เมื่อเห็นลีลาแต่งตัวเรียบร้อย เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“หนูลีลา...”
หญิงสาวยกมือไหว้
“ได้เวลาที่หนูต้องไปจากที่นี่แล้วละค่ะ”
คราวนี้คนที่อยู่ในอาการใจหายก็คือพร้อมพงศ์ “หนูลีลา ป๊ะป๋าเข้าใจความรู้สึกของหนูนะ แต่...ป๊ะป๋าไม่อยากให้หนูไป”
“หนู...”
ความรู้สึกของลีลาอ่อนไหวเหลือเกิน
ทั้ง ๆ ที่เพิ่งอยู่บ้านนี้ไม่นาน แต่กลับผูกพันเสียยิ่งกว่าบ้านของตัวเองเสียด้วยซ้ำ
พร้อมพงศ์ตัดสินใจครั้งสำคัญ และเป็นการตัดสินใจที่เปิดเผยที่สุด เขาก้าวเข้าไปหาเธอ รวบร่างนั้นเข้าสู่อ้อมกอด
ลีลาแทบไม่มีการต่อต้านหรือขัดขืน นั่นเป็นเพราะมันคือห้วงเวลาที่เธออยากจะแนบใบหน้ากับแผงอกแข็งแรงของใครสักคน และคนคนนั้นก็คือพร้อมพงศ์
“ป๊ะป๋าคะ...”
น้ำเสียงของหญิงสาวสะท้านสั่นเครือ
มือแข็งแรงลูบเส้นผมของหญิงสาว ปลอบโยนอย่างอบอุ่นอ่อนโยน
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ป๊ะป๋าไม่ยอมให้หนูจากที่นี่ไปอย่างเด็ดขาด”
“แต่หนู... หนูไม่รู้จะอยู่ในฐานะอะไร อีกอย่าง... ป๊ะป๋าขา หนูคิดถึงคุณใหญ่ใจแทบขาด”
“ไม่ว่าหนูหรือป๊ะป๋าก็รู้สึกไม่ต่างกัน แต่อย่าจมอยู่กับความเศร้าให้มันนานเกินไป ใหญ่ไปดีแล้ว เราต่างหากจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”
“ป๊ะป๋าขา... หนู...”
น้ำตาพรั่งพรูออกมาพร้อมกับความรู้สึกอ่อนไหวของเธอ
“โอ๋ ๆ อยากร้องก็ร้องออกมาให้หมดเถอะจ้ะหนูลีลา แต่หลังจากนี้ หนูจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างร่าเริงเบิกบาน ป๊ะป๋าจะให้หนูทุกอย่างที่หนูต้องการ”
“ป๊ะป๋าให้ชีวิตใหม่หนูได้จริง ๆ เหรอคะ”
“ได้สิ ได้ ป๊ะป๋าให้หนูได้”
ไม่แน่ใจว่า คำพูดในห้วงอารมณ์ของลีลาเวลานี้หมายถึงอะไร
ที่แน่ ๆ เธอรู้สึกดีเหลือเกิน กับการได้อยู่ในอ้อมกอดอันแข็งแรงอบอุ่นของป๊ะป๋าพร้อมพงศ์
นับว่าการยับยั้งของพร้อมพงศ์ประสบความสำเร็จ เพราะในที่สุดแล้ว สามารถทำให้ลีลาเลิกล้มความตั้งใจที่จะออกไปจากบ้านวิษณุขจร
ที่นี่เธอจะอยู่ในฐานะอะไรก็ได้ เพราะฐานะอย่างพร้อมพงศ์ สามารถให้ทุกอย่างได้อย่างที่เธอต้องการจะได้
อย่าว่าแต่ทรัพย์สินเงินทองนอกกายเลย แม้กระทั่ง...ความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว!