“แกเขยิบเข้ามา จะได้มองเห็นพี่โฟมชัด ๆ” เสียงพูดคุยจอแจของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งดังเข้ามาใกล้ ๆ ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทำเลใจกลางเมืองหลวง ห้างนี้เป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่น ร้านอาหาร และความบันเทิงอีกมากมาย จึงเป็นสถานที่ที่คนในเมืองหลวงมักจะมาเดินเล่นและนัดเจอกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งวันนี้ดาราชายชื่อดังก็กำลังจะขึ้นเดินแบบบนเวที ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างก็หลั่งไหลเข้ามารอชมชายหนุ่มคนนี้จนพื้นที่เต็มแทบทุกชั้นของห้าง
หญิงสาวใบหน้ากลมนัยน์ตาหวานในลุคเดรสสีมิ้นต์ยาวครึ่งเข่า สวมกั๊กไหมพรมสีขาวเพื่อตัดกับผ้าที่ใช้พันหัวดูน่ารัก ก็รีบมาจองที่นั่งตั้งแต่ห้างเปิดเพื่อรอคอยการมาถึงของดาราหนุ่มคนนี้เช่นเดียวกัน แม้เธอจะได้ที่นั่งหน้าสุดติดขอบเวทีซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน ทว่าก็ยังต้องชะเง้อคอมองเนื่องจากมีสื่อมวลชนมาบดบังการมองเห็นไปจนเกือบหมด คนตัวเล็กที่กำลังพยายามมองหาปภังกรดาราในดวงใจ อริสา หรือเอ๋ยเธอรู้จักกับดาราหนุ่มคนดังของทุกคนมานานตั้งแต่จำความได้ แต่ทว่าแท้จริงเธอก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้คุยกับเขาแบบส่วนตัวแล้วก็ไม่มีวินาทีไหนเลยที่เขาจะหันมาสนใจเธอ
“อยู่ไหนนะ...อะ นั่นไง!” เอ๋ยรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายวิดีโอคนที่เธอชื่นชอบมาเป็นเวลายาวนานโดยไม่รีรอเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นบนเวที
ร่างสูงสง่านั้นดูเปล่งประกายโดดเด่นผิดกับที่เคยเจอกันเมื่อนานมาแล้วจนเธอไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย ตั้งแต่ใบหน้าหล่อเหลาดั่งประติมากรรมชั้นสูงที่พระเจ้าสรรค์สร้างขึ้น เรื่อยมาจนถึงรูปร่างสูงโปร่งรับกับช่วงขาเรียวยาวของเขา ซึ่งเข้ากันได้ดีกับเสื้อผ้าแฟชั่นที่เขากำลังสวมใส่ นิ้วเรียวสวยทั้งกดชัตเตอร์เก็บภาพและวิดีโอเอาไว้มากมายโดยไม่กลัวว่าหน่วยความจำในโทรศัพท์จะเต็ม ท่ามกลางเสียงหวีดร้องที่ดังกระหึ่มของสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลาย
เมื่อดาราชื่อดังของประเทศเดินกลับเข้าหลังเวทีไปแล้วเอ๋ยจึงยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ ไม่นึกเลยว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ตอนนี้เขาเป็นคนดังไปเสียแล้ว อย่างน้อยแค่ได้เห็นว่าอีกฝ่ายมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่เธอก็ดีใจมากแล้ว อริสายิ้มออกมาอย่างปลื้มใจกับความสำเร็จของเขา
ร่างบอบบางลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อไปเดินเที่ยวเล่นต่อ ไหน ๆ ก็มาห้างสรรพสินค้าใหญ่ทั้งทีคงต้องไปหาอะไรกินสักหน่อยเพื่อไม่ให้หิวก่อนกลับบ้าน ระหว่างทางเธอได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับออเดอร์ลูกค้าอยู่จึงไม่ได้มองทางสักเท่าไรนัก และเพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับโทรศัพท์หญิงสาวจึงได้ชนเข้ากับอะไรบางอย่าง อริสาตกใจไม่น้อย เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองคนที่ชนเข้าให้อย่างจังแล้วกำลังจะเอ่ยขอโทษ แต่เธอกลับต้องมีอาการประหม่าเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาที่ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา
เขาคือดาราชื่อดังขวัญใจสาว ๆ นั่นเอง...
“ข...ขอโทษค่ะ” หญิงสาวรีบละล่ำละลักขอโทษพลันก้มลงเก็บสิ่งของที่ตกจากกระเป๋าตัวเองเพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ แต่คงไม่ทันแล้วเพราะในตอนนี้ร่างสูงสง่ากำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาเย็นเยียบไร้ซึ่งความรู้สึก จนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่ใช่ผู้ชายคนเดียวกับที่เธอเคยรู้จักหรือเปล่า... หรือว่าเขาจะจำเธอไม่ได้กันนะ?
“คุณโฟมเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เดินยังไงของเธอ...ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะ ถ้าคุณโฟมได้รับบาดเจ็บจะทำยังไง” ผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของดาราหนุ่มรีบเข้ามาจับแขนอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง ทว่าเจ้าตัวกลับถอยห่างไม่ยอมให้สัมผัส อริสาที่ถูกผู้จัดการสาวคนนั้นต่อว่าได้แต่ก้มหน้าก้มตาขอโทษเพราะเธอทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์แบบนี้เอาเสียเลย
“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ...” เธอเอ่ยออกมาอีกครั้ง
“ไปเถอะครับ อย่าไปสนใจเลย” เจ้าของเสียงก้มลงหยิบของบางอย่างใส่กระเป๋าเสื้อสูทแล้วเดินจากไปพร้อมกับบอดี้การ์ดและแฟนคลับมากมายที่ยังคงรุมล้อมโดยที่อริสาเองก็ถูกคนมากมายเหล่านั้นเดินชนจนเกือบล้ม เธอได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างซึ่งหายลับไปกับฝูงชนด้วยแววตาเศร้าสร้อย
พี่คงจะลืมเอ๋ยไปแล้วสินะ...ถึงได้ทำเหมือนเราไม่เคยรู้จักกันแบบนี้
แต่ก็คงไม่แปลกเพราะช่วงเวลาเหล่านั้นมันผ่านมานานมากแล้ว มันกลายมาเป็นความทรงจำสีจาง ๆ ที่ยังติดอยู่ในใจของเธอจนถึงทุกวันนี้
“กลับมาแล้วค่ะ”