ปภังกรต้องถ่ายแบบร่วมกับนายแบบอีกคน ดีที่นายแบบอีกคนก็ค่อนข้างมืออาชีพเหมือนกัน งานจึงสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี มีบ้างบางครั้งเขาออกจะเบื่อหน่ายกับสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้พอสมควร แต่พออยู่ต่อหน้ากล้องเขาก็จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดี ทำงานได้อย่างมืออาชีพ
“น้องโฟม เป็นยังไงบ้างคะ ถ่ายแบบวันนี้เหนื่อยมากหรือเปล่า” หญิงสาวร่างเพรียวบางคนหนึ่งตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าเขาแล้วถือวิสาสะเช็ดเหงื่อให้โดยที่เขายังไม่ได้อนุญาต ชายหนุ่มจึงได้แต่มองอีกฝ่ายพร้อมกับเก็บซ่อนความไม่พอใจเอาไว้ด้านในแล้วตอบกลับตามมารยาท
“ไม่เหนื่อยเลยครับ วันนี้ถ่ายแบบสนุกมาก...แต่ผมต้องไปถ่ายละครต่อ ขอตัวกลับก่อนนะครับ” เขาลุกขึ้นยืนแล้วไหว้ทุกคนที่มีอายุมากกว่าก่อนจะปลีกตัวออกมาที่ลานจอดรถ
เขาโบกมือทักทายแฟนคลับหลังส่งข้อความหาบอดี้การ์ดให้ขับรถมาจอดไว้ให้ และเขามีทีมรักษาความปลอดภัยทั้งจากนักข่าวรวมถึงแฟนคลับที่เข้าขั้นสตอร์กเกอร์ และเหล่าปาปารัสซี
“โถ่ น่าเสียดายจังเลย นึกว่าจะได้เจอคุณโฟมคนดังนานกว่านี้อีกสักหน่อย”
“อดได้ใกล้ชิดกับคุณโฟมเลย...”
“หล๊อ หล่อเนอะแก ผิวคือสวยมากอะ กูอิจฉา”
ตลอดช่วงบ่ายคล้อยจนถึงค่ำชายหนุ่มต้องใช้เวลาอย่างมากในการแสดงสีหน้าออกมาต่อหน้ากล้องให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุดตามบทพูดที่ทีมงานได้เตรียมไว้ กว่าทั้งกองจะเสร็จงานแล้วได้ทานข้าวกันก็ล่วงเลยมาถึงเวลาทุ่มกว่าแล้ว ทั้งนักแสดงและทีมงานต่างก็พักทานข้าวด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อนก่อนจะแยกย้ายกันกลับ บ้างก็มีน้ำใจอาสาให้เพื่อนร่วมงานติดรถกลับบ้านด้วย
ร่างสูงของดาราชื่อดังเลือกที่จะปลีกตัวออกมาจากผู้คนให้เร็วที่สุดเนื่องจากเขาอยากหนีกลับไปพักผ่อน ทว่าก็ไม่รอดพ้นสายตาของนางเอกที่แสดงคู่กันในเรื่อง เธอส่งยิ้มยั่ว ๆ แต่กลับทำท่าเขินอายก่อนเธอจะเดินตามเขามา
“จะกลับแล้วเหรอคะคุณโฟม พอดีรถของมิ้นอาการไม่ค่อยดีเดี๋ยวต้องส่งไปเข้าศูนย์สักหน่อย คุณโฟมพอจะสะดวกไปส่งมิ้นไหมคะ” เธอยิ้มให้ปภังกรอย่างอ่อนหวาน คำขอของเธอนั้นไม่ต่างจากคำสั่งสักเท่าไรนัก ชายหนุ่มคิดพลางลอบถอนหายใจก่อนจะหันไปตอบเธอด้วยสีหน้าที่ดูลำบากใจ หากเป็นคนอื่นที่เจอนางเอกสาวแสนสวยคงไม่รีรอที่จะเชื้อเชิญขึ้นรถ แต่ไม่ใช่กับเขา
“ขอโทษนะครับ ผมมีธุระคุณมิ้นน่าจะเรียกแท็กซี่ได้นะครับ” เอ่ยจบเขาก็เดินตรงไปที่รถของตนเอง ปล่อยให้นางเอกสาวนิ่งค้างไปทำได้เพียงกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว
ทันทีที่ขึ้นมานั่งบนยานพาหนะคันหรู ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนของนักแสดงหนุ่มก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมไร้ความรู้สึก เขาแสนจะเบื่อหน่ายกับการต้องสวมหน้ากากเพื่อเอาตัวรอดในวงการมายา ทั้งที่ตัวตนที่แท้จริงของเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเปิดเพลงฟังระหว่างขับรถไปยังสถานเริงรมย์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ลับ ๆ ของเขากับเพื่อนสมัยเรียน
นักแสดงหนุ่มสวมหน้ากากอนามัยสีดำและสวมแว่นกันแดด แบรนด์หรูที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อปิดบังใบหน้าของตัวเองให้มากที่สุด แม้ว่านี่จะเป็นสถานที่ลับ ๆ ซึ่งไม่ค่อยมีใครสนใจตัวตนของคนอื่นมากนัก แต่อย่างไรก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน อาจมีผู้ไม่หวังดีแฝงตัวมาทำข่าวให้ชื่อเสียงของเขาเสียหายก็เป็นได้
เรียวขายาวภายใต้กางเกงสีเข้มก้าวตรงเข้าไปภายในสถานบันเทิงที่เมื่อก่อนมักจะมาเป็นประจำ ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นกวาดมองแสงสีวูบวาบชวนแสบตา ทว่าอยู่ท่ามกลางความมืดสลัวที่คุ้นเคยได้ไม่นานก็ไปนั่งยังโต๊ะด้านในสุดตามที่อีกฝ่ายได้นัดเอาไว้เพื่อนสนิท ซึ่งเจ้าตัวก็เอ่ยทักเขาทันที “เป็นไงบ้างไอ้ดาราคนฮอต ไม่เจอกันตั้งนาน”
ชายหนุ่มยิ้มให้เพื่อนของตนที่มีใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้กันพลางแปะมือทักทาย “ไงไอ้ภพ กูมีความสุขดี...แล้วมึงล่ะ”
“สีหน้ามึงดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรเลยนะ ส่วนกูสบายดีทุกอย่างอยู่แล้วไม่ต้องห่วง” ก้องภพที่สังเกตเห็นสีหน้าที่ยิ้มน้อยกว่าปกติของเพื่อนก็ทำให้อดทักขึ้นมาไม่ได้ คนถูกถามยิ้มเยอะขึ้นเล็กน้อยพลางตอบด้วยน้ำเสียงติดเซ็ง “อย่างน้อยก็มีความสุขกว่าทำงานกับครอบครัวนั่นแหละวะ”
“เอาน่ามึง อย่างน้อยถ้าเบื่องานนักแสดงแล้วก็ยังกลับมาทำงานกับครอบครัวได้ไง...ชีวิตพวกเราก็แบบนี้แหละว่ะ” พวกเขาถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ต่างคนต่างก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นดื่มโดยไม่ได้ต่อบทสนทนาอะไรเพราะพวกเขาเข้าใจชีวิตที่เหน็ดเหนื่อยและเต็มไปด้วยแรงกดดันเป็นอย่างดี ดวงตาคมกริบภายใต้กระจกแว่นกันแดดกวาดมองบริเวณโดยรอบ มองผู้คนที่กำลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนานด้วยความอิจฉาที่เขาไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้ เขาพูดคุยกับเพื่อนสนิทอีกสักพักจึงขอตัวกลับเนื่องจากเขามีงานพรุ่งนี้
ชายหนุ่มเดินออกไปที่จอดรถส่วนตัว ร่างสูงย่อตัวเข้าไปนั่งในรถแล้วขับตรงกลับไปยังคอนโดของตนเอง ระหว่างทางก็เปิดเพลงฟังพร้อมกับร้องคลอไปด้วยเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถตอนดึกเงียบเหงาจนเกินไป เขาจอดรถตรงที่จัดไว้ให้เขาโดยเฉพาะ แล้วเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องของตนเอง
มือเรียวแข็งแรงทาบคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปในห้องชุดคอนโดซึ่งยังมีสภาพเป็นแบบเดิมเหมือนที่เพิ่งออกมาเมื่อเช้า เขาตรงไปอาบน้ำแล้วรีบมาส์กหน้าเตรียมเข้านอนในทันที
ชายหนุ่มเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อทบทวนตารางงานของตัวเองในวันถัดไป และดูเหมือนพรุ่งนี้จะมีงานเดินแบบเพียงแค่งานเดียวเท่านั้น แต่เป็นงานอีเวนต์แบบเปิดที่จะมีผู้คนรวมถึงสื่อมวลชนมากมายเข้ามาดู ดังนั้นวันพรุ่งนี้เขาจึงจำต้องออกไปเตรียมตัวที่ห้างแต่เช้า
ปภังกรมองเมินข้อความในโทรศัพท์จากผู้จัดการสาวที่ส่งมาด้วยความเป็นห่วง เขาวางโทรศัพท์ลงได้ไม่นานก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อยล้า