เมามายที่ 3
ตีเหล็กตอนร้อน
ดวงตากลมโตช้อนมองเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ที่ด้วยความตกใจที่จู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นกลางป่า ริมฝีปากของนางอ้าค้าง กำลังจะหวีดร้องขอความช่วยเหลือ ทว่าเมื่อดวงตาเหลือบลงต่ำ เห็นว่าเรือนกายช่วงล่างของเขาเปลือยเปล่า เอ็นอุ่นใหญ่ยาวชี้โด่จนปลายหัวหยักบานออกก็ทำให้นางถึงกับหุบปากลงก่อนจะลอบกลืนน้ำลายลงคอ
ให้ตายเถอะ!
ทั้งใหญ่! ทั้งยาว! อะไรจะขนาดนั้น!
นางแหงนหน้ามองใบหน้าคมคร้ามหนวดเครารุงรัง ผมหยักศกยาวประบ่าอย่างคนไม่ใส่ใจรูปลักษณ์ร่างกาย ในความทรงจำของนางชายผู้นี้มีนามว่า ‘จางเจียหาว’ เป็นช่างตีเหล็กชื่อดังในแคว้นฮุยผิง ฝีมือการตีเหล็กของเขานั้นเยี่ยมยอดเรียกได้ว่าอยู่ในระดับปรมาจารย์หาใครเทียบได้ยาก
ทุกวันจะมีจอมยุทธ์ ทหาร ข้าราชการแวะเวียนไปที่โรงตีเหล็กของเขาเพื่อขอให้ช่วยตีดาบ ตีหอก ตีโล่ ตีลูกธนู และอาวุธอื่นๆ ให้ ซึ่งเจียหาวจะรับงานหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาในช่วงเวลานั้นๆ ว่าดีหรือร้าย
จางเจียหาวขึ้นชื่อเรื่องไม่สนใจโลก ไม่สนใจว่าใครจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เขาหลงใหลเพียงเปลวไฟและเหล็กร้อนที่เขาบรรจงสรรค์สร้างขึ้นมาประหนึ่งปฏิมากรรมชั้นเลิศ
และแน่นอนว่าชายผู้นี้คงไม่รู้จักนาง ‘หลิวซือเย่’ คุณหนูตกอับที่แสนน่ารังเกียจ ผู้คนในวงสังคมชั้นสูงต่างเบือนหน้าหนีไม่คิดคบค้าสมาคม
“ข้าคิดว่าแม่นางกำลังต้องการความช่วยเหลือ”
เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆ ยิ่งเขาได้พิศมองนางไม้สาวอย่างเต็มตา ก็ยิ่งประจักษ์ว่าความงามของนางนั้นราวกับศิลปะหายาก
ใบหน้ารูปไข่รับกับปลายจมูกโด่งเชิดรั้น ดวงตากลมโตสุกสกาวราวดั่งประดับแสงดวงดาวพร่างพรายอยู่ในนั้น ริมฝีปากอวบอิ่มระเรื่อแดง นวลแก้มสุกปลั่งดั่งผิวเด็กทารกบริสุทธิ์
เขาผู้ชื่นชอบศิลปะที่สมบูรณ์แบบถึงกับรู้สึกถลำไปกับความงามแสนเย้ายวนชายของหญิงผู้นี้
“อืม...”
ความคิดสะดุดกึกเมื่อจู่ๆ หญิงงามก็เอื้อมมือมากอบกุมแท่งทวนชี้ชันของเขา ดวงตากลมโตหรี่ลงน้อยๆ ราวกับแม่เสือสาวกำลังจ้องจะตะครุบเหยื่อ
“ใช่แล้ว ข้ากำลังต้องการความช่วยเหลือ”
ความร่านร้อนในกายยังคงบีบรัด นางยังใคร่กระสันและต้องการการเติมเต็มจนแทบจะบ้า ดังนั้นเมื่อมีชายหนุ่มกำยำผ่านเข้ามา มีหรือที่นางจะไม่คว้าเอาไว้เพื่อปลดปล่อยความใคร่ให้มอดไหม้
หญิงสาวขยับกายนั่งทับลงบนส้นเท้า ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนลมหายใจร้อนเป่ารดเอ็นอุ่นที่นางกอบกุมเอาไว้จนล้นมือ นางรู้สึกได้ว่าเขากำลังตื่นเต้นจนเผลอกลืนน้ำลายลงคอ
“อืม...”
ช่างตีเหล็กถึงกับส่งเสียงครางแผ่วในลำคอ เพียงลมร้อนจากลมหายใจเป่ารดเขาก็ถึงกับหายใจติดขัด เอ็นอุ่นขยับกระดกสู้มือ แล้วโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัวนางไม้สาวแสนสวยก็แลบลิ้นออกมาตวัดเลียที่ปลายหัวหยักจนเขาถึงกับนิ่วหน้าหอบหายใจแรง
“ข้ากำลังหิวเลยเจ้าค่ะ”
ซือเย่ยิ้มกว้างช้อนเปลือกตามองเขาอย่างยวนเย้า ก่อนจะตวัดลิ้นรัวระรัวแล้วอ้าปากอมท่อนเนื้อเข้าไปจนเกือบมิดลำ เอียงใบหน้าน้อยๆ ให้ปลายหัวหยักสีชมพูครูดไปกับกระพุ้งแก้มนุ่มนิ่ม ในขณะที่ลิ้นร้อนตวัดเลียแล้วดูดแรงๆ ด้วยริมฝีปาก
มือเล็กๆ ถอกร่นช่วงโคนที่ไม่อาจอมได้หมดก่อนจะคลึงเคล้าเจ้าสองก้อนกลมไปมา
“อาห์”
คนหน้าเข้มกัดฟันกรอด ลีลาการใช้ปากและลิ้นของหญิงสาวผู้นี้นั้นเจนจัดอย่างที่เขาไม่เคยได้สัมผัสกับหญิงนางใดมาก่อน คณิกาแห่งหอเหม่ยซิงที่ว่าเจนจัดขึ้นชื่อในเรื่องการบำเรอชาย ก็ยังไม่สามารถใช้ลิ้นและปากได้อย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้
จ๊วบ!
หลิวซือเย่ดูดแรงจนกระพุ้งแก้มตอบ ดูดรัดจนเอ็นอุ่นร้อนผ่าว แล้วขยับถอยอมแค่เพียงส่วนหัวหยักแล้วรูดด้วยริมฝีปากขึ้นลงแรงๆ ด้วยจังหวะกระชั้น ก่อนจะอมเข้าไปจนมิดลำ ทำสลับไปมาอยู่อย่างนั้นจนคนตัวโตเริ่มกระสับกระส่าย
มือหนาสากกอบกุบศีรษะของนางไว้ ทำให้ผ้าโผกผมสีตุ่นหลุดร่วงลงบนผืนหญ้า ปล่อยให้เส้นผมดำขลับสยายระไปตามลำคอและไหล่บอบบาง
นางช่างงดงาม!
งดงามและเร่าร้อนจนเขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป!
“มะ...แม่นาง ข้าไม่ไหวแล้ว”
เขาดึงเอ็นอุ่นออกจากริมฝีปากของนางอย่างรวดเร็ว สายน้ำสีขาวพวยพุ่งลงบนยอดหญ้าเขียวขจี เปลี่ยนหญ้าบริเวณนั้นให้กลายเป็นสีขาวขุ่น
ซือเย่ช้อนเปลือกตาขึ้นมองเขาราวกับกำลังท้าทาย นางหยักยิ้มน้อยๆ ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากช้าๆ และนั่นทำให้ช่างตีเหล็กถึงกับหมดสิ้นความอดทนอดกลั้น เขารวบร่างบางให้ยืนขึ้น กอดรัดแล้วบดจูบอย่างรุกเร้ารุนแรง
“อื้อ”
จูบหวามทำให้หัวใจของหญิงสาวหวิวโหวงราวกับโลกทั้งใบโดนเขย่า เป็นจูบที่ดุดันบดขยี้เรียวปากอิ่มจนเห่อร้อน สองแขนแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามกอดรัดร่างบอบบางแนบแน่น จนทรวงอกคู่สวยทั้งสองแนบชิดไปกับแผงอกแกร่ง
มือหนาสากกระด้างเพราะจับค้อนตีเหล็กมานานนับสิบปีลามไล้ไปตามนวลเนื้อ ราวกับถูกเสียดสีด้วยกระดาษทราย รู้สึกระคายผิวจนนวลเนื้อแดงระเรื่อ กระนั้นกลับหวิวโหวงหัวใจไปกับความดิบเถื่อนที่แสนหยาบโลนนี้
เพียงเลิกกระโปรงสีตุ่นซ่อมซ่อขึ้นก็พบความอุ่นนุ่มอวบอัดของสะโพกผาย เขาล้วงลึกสอดนิ้วเข้าไปในรูแคบชื้นแฉะอย่างไม่รอช้า ก่อนจะชักเข้าชักออกแรงๆ จนน้ำเสียวไหลอาบง่ามขา
“อะ...อื้อ สะ...เสียวจัง”
ร่างบางเกร็งกระตุกกอดก่ายร่างหนาเอาไว้แน่น นิ้วของเขาแข็งแกร่งและรัวกระชั้นด้วยจังหวะที่แสนหน่วงเหนี่ยว เพียงไม่นานนางก็ปลดปล่อยสายน้ำใสแห่งความซ่านเสียวออกมาจนเปียกไปทั้งง่ามหา
“อะ...อื้อ ขะ...ข้าจะเสร็จแล้วเจ้าค่ะ อื้อ อื้อ”
แช่งแคบชื้นตอดรัดนิ้วแข็งกระด้างของช่างตีเหล็ก ความอุ่นนุ่มทำให้เขาโน้มใบหน้าลงบดจูบริมฝีปากอิ่มราวกับหิวกระหาย จากนั้นจึงดันร่างบางให้ถอยจนแผ่นหลังเบียดชิดต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะรวบขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นเกี่ยวเอวสอบ แล้วจับเอ็นอุ่นแทงเข้าไปในรูสวาทโดยที่ซือเย่ยังไม่ทันตั้งตัว
สวบ!
“อื้อ! จะ...เจ็บ!”
หลิวซือเย่นิ่วหน้าจนน้ำตาเล็ด ความใหญ่ยาวคับแน่นเบียดเสียดเข้าไปในร่องสวาทที่ยังไม่เคยถูกชายใดล่วงล้ำมาก่อนนอกจากนิ้วและเห็ดที่เพิ่งหักคารู
“นะ...นี่เจ้ายัง...”
จางเจียหาวถึงกับนิ่งอึ้งเมื่อถูกช่องแคบบีบรัดแน่นจนแทบทนไม่ไหว ไม่คิดเลยว่าหญิงสาวที่ใช้ลิ้นบำเรอกามได้อย่างช่ำชองจะยังไม่เคยผ่านมือชายใด
“จะ....เจ็บ”
หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตา ให้ตายเถอะ! นางลืมไปเสียสนิทว่าร่างนี้ยังเป็นสาวพรหมจรรย์ นางจะเอาประสบกามในชีวิตของชาติก่อนมาผสมรวมกับชีวิตใหม่ในชาตินี้ไม่ได้
“ข้าขอโทษแม่นาง ข้าจะอ่อนโยนกับเจ้ามากกว่านี้”
คนตัวโตที่ท่าทางแข็งกระด้าง พยายามปลอบประโลมหญิงสาวด้วยท่าทางเงอะเงิ่น ด้วยไม่เคยหลับนอนกับหญิงบริสุทธิ์มาก่อน