“ข้าคือ ชิน-อ๋อง” เขาเน้นคำว่าตนเองคือใคร มีตำแหน่งใหญ่เพียงใดหากแต่คำพูดของเขาหาทำให้หาได้นางสลดลงเลยแม้แต่น้อย
“นี่ท่าน ข้าบอกอะไรให้นะ ท่านลงไปชั้นล่าง หน้าประตูหอหมื่นบุปผา ทางตรอกหน้ามีหมออยู่ ท่านควรไปตรวจดูนะ ว่าสติวิปลาสหรือเปล่าและตอนนี้ก็หลบไป” นางตวาดใส่ทั้งยังชี้แนะให้เขาไปตรวจหัวสมองของเขาเสีย ใครหนอช่างบ้าโกหกได้คำโต
“ข้าไม่ได้วิปลาส ข้าคือ ชินอ๋อง ของแคว้นเฉิงหนาน”
“คนรวยนี่ก็แปลกดีเนอะ นิยมชมชอบการแสดงงิ้ว.และเอามาคิดเองว่าตนเองเป็นโน่นเป็นนี่ ฉากต่อไปไม่เป็นฮ่องเต้เลยเล่า”
“เจ้าจะมากไปแล้วนะ” เขาระเบิดโทสะสาวเท้าก้าวเท้าเข้ามาหานางที่ยังอยู่บนเตียง ส่วนนางรียยืนขึ้นควักด้ามมีดที่ซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อออกมาชูห้องกันตัว
“ถ้าไม่อยากตายก็เข้ามา ข้าจะแทงให้ทะลุเลย”
“มีดแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก นางสิงห์น้อย” เขาไม่พูดเปล่ารีบพุ่งตรงไปรวบขานางให้ล้มลงบนเตียงดังตึงและจังหวะที่ตนเป็นต่อ เขาขึ้นค่อมจับนางนอนคว่ำหน้า จับมือนางไขว้หลังโดยไม่ลืมปัดมีดออกจากมือนาง เขาทำกับนางในเวลารวดเร็ว และเขาก็โน้มกายลงไปกระซิบข้างหู
“ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก ทีนี้ข้าคงต้องช่วยเจ้าแล้วนะ หลิน-โคว่-เอ๋อ” เขาพูดพร้อมใช้มือค่อยๆ เลื่อนไปที่ขานาง ค่อยๆ ถลกกระโปรงของนางให้สูงขึ้น
“อย่า! อย่านะ ไอ้สารเลว ไอ้สวะชาติชั่ว!"
“ใครๆ ก็บอกว่าข้าเลว ด่าไปให้หนำใจเจ้า ข้าหาสะทกสะท้านไม่”
“อย่า... อย่านะ ข้าขอร้อง” นางเริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว ในชีวิตไม่เคยเจอชายใดที่เลวเช่นนี้ นางเคยปกป้องตัวเองได้ ใช่แล้วเพราะนางอยู่บนเตียงและพื้นมันนิ่ม ทำให้นางต่อสู้เขาไม่ได้ ส่วนเขาเมื่อถลกกระโปรงจนสูงถึงเอว เห็นกางเกงชั้นในซึ่งเก่ามาก ๆ จึงคิดสนุกเอ่ยวาจาเย้ยหยัยนางอีก
“เจ้าจนขนาดกางเกงชั้นในยังเก่าขนาดนี้เลยหรือไง” คำพูดของเขากระตุ้นต่อมโทสะผสมกับความกระดากอายของนางขึ้นจนถึงขีดสุด นางดิ้นไปมา หน้าแดงเถือก ยังดีที่นางนอนคว่ำหน้าทำให้เขาไม่เห็นว่าหน้านางแดงจัดเพียงใด
“มันเรื่องของข้า!” นางยังคงดิ้นไปมาหมายจะหลุดพ้นจากพันธนาการนี้
ส่วนฉีเทียนเหล่ยถลกกางเกงแค่เพียงบั้นท้ายลงมาเล็กน้อยเท่านั้น เขาหันมองด้านขวาและพลิกสำรวจไม่มี พลิกบั้นท้ายด้านซ้าย รูปรอยสักสีแดงลายดอกเหมยปรากฏเต็มสองตาเขา
ตอนนี้เขาหาได้สนใจในรอยสักไม่ สิ่งที่ได้เห็นก็ได้เห็นแล้ว ข้อสันนิษฐานเป็นจริง เพราะเขาเองได้รับรายงานแล้วว่านางคณิกาไม่มีใครมีรอยสักแม้แต่คนเดียว จนเขาจับเถ้าแก่เนี๊ยมาสอบถามอีกครั้งจนได้ความ ตอนนี้เขาสนใจสะโพกอันขาวเนียน หากนางอวบกว่านี้ล่ะก็ เพียงความคิดแวบหนึ่งทำให้เขาค่อยๆ ก้มหน้าลงหวังจุมพิตบั้นท้ายที่ขาวเนียน แต่เขาต้องหยุดความคิดและการกระทำเพราะนางได้แหงนหน้าและตะโกนขึ้นดับพลังความคิดด้านชั่วนั้นเสีย
“ดูพอหรือยัง ไอ้สวะ!” เขายกคิ้วและยิ้มมุมปากพลางเอ่ยตอบกลับไป
“ดูพอแล้ว แต่อยากดูมากกว่านี้หากเจ้ายินดี” นางได้ฟังก็ดิ้นแรงอีกครั้ง ส่วนเขาก็ลุกจากตัวนางเพื่อให้อิสรภาพหวังให้นางได้หายใจได้ทั่วปอดเสียที