แผนกบุคคลชั้นที่ 35
“คุณธนิกา ราชบดินทร์” เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเรียกชื่อผู้เข้าสัมภาษณ์รายต่อไป ทว่าท่ามกลางผู้ที่เข้ามารอสัมภาษณ์ดังกล่าวตอนนี้มีแต่ผู้ชายและมีหญิงสาวหน้าตาสวยคมเหลืออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะหลงลืมชื่อตัวเองไปเสียแล้ว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอพร้อมเอ่ยขึ้น
“คุณธนิกา ราชบดินทร์ใช่ไหมคะ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลกล่าวพร้อมขยับแว่นสายตาของเธอไปมาพร้อมมองหญิงสาววัยสะคราญตรงหน้าด้วยความแปลกใจและนั้นทำให้ดาริการู้สึกตัวขึ้นมาทันท
“เออ...ใช่...ฉันเองคะ.ดา...เอ๊ย...ธนิกา ราชบดินทร์”หญิงสาวพูดติดๆ ขัดๆ
“เชิญคุณธนิกา เข้ารับการสัมภาษณ์ที่ชั้น 79 นะคะ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลกล่าวกับเธอ
“หา! ว่าอะไรนะคะ...ดิฉันต้องไปที่ชั้น 79 เลยเหรอ”แม่สาวน้อยเอ่ยขึ้นด้วยความแปลกประหลาดใจผสมกับความงุนงง
“ใช่คะ..คุณรอสโซ่กำลังรอสัมภาษณ์คุณอยู่ และนี่ค่ะคีย์การ์ดสำหรับขึ้นลิฟต์ไปชั้นดังกล่าว”เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลกล่าวกับเธอพร้อมยื่นบัตรอิเล็กทรอนิคส์
“อ๋อคะ...ขอบคุณ” แม่สาวน้อยกล่าวขอบคุณแบบงงๆ พร้อมยื่นมือรับคีย์การ์ดดังกล่าว ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากแผนกบุคคลเพื่อตรงไปขึ้นลิฟต์ตามคำบอกกล่าวของเจ้าหน้าที่แผนก
“ทำไมที่นี่เวลาสัมภาษณ์งานทำไมดูซับซ้อนจังเลย แปลกจริงเชียว” หญิงสาวบ่นพึมพำ ก่อนจะมองหาลิฟต์ที่จะขึ้นไปชั้นที่ 79 ทว่าลิฟต์แต่ละตัวกลับไม่มีตัวไหนไปชั้น 79 แม้แต่น้อย
“เฮ้ย! อะไรกันทำไมไม่มีลิฟต์ตัวไหนไปชั้นที่ 79 เลย ตกลงตึกนี้มีชั้นนี้หรือเปล่าเนี้ย”ดาริกาบ่นพึมพำพลางยกมือเกาศีรษะของเธอไปมาด้วยความงุนงง พร้อมกับสายตาเหลือบไปเห็นลิฟต์ตัวขวาสุดที่มีดวงไฟสีแดงแต่มีเลขระบุชั้นที่ 79 เอาไว้
“ตัวนี้กระมังไปชั้นที่ 79 เห็นมีอยู่ตัวเดียวนี่หว่า” หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ พร้อมใช่คีย์การ์ดแตะที่ช่องอ่านบัตรพร้อมแสงไฟสีเขียวสว่างขึ้นทันที
เพียงครู่ลิฟต์จากชั้นที่ 79 เลื่อนจากชั้นบนลงมาถึงชั้นที่ 35 ด้วยความรวดเร็วก่อนจะเปิดออกพร้อมร่างของบอดี้การ์ดคนสนิทของมหาเศรษฐีหนุ่มยืนอยู่ภายในนั้น
“เชิญครับคุณธนิกา นายท่านกำลังรอคุณอยู่” พอล บอกกับหญิงสาวพร้อมผายมือให้เธอก้าวเข้ามาในลิฟต์ส่วนตัวนั้นด้วยความสุภาพ
“เออ...ขอ...ขอบคุณคะ” แม่สาวน้อยกล่าวขอบคุณด้วยความรู้สึกแปลกใจระคนสงสัยไปพร้อมๆ กัน
เพียงครู่ลิฟต์ได้ขึ้นมาถึงชั้นที่ 79 พร้อมเปิดออกอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นภายในห้องดังกล่าว เป็นห้องรับแขกสไตล์โมเดริน์สุดหรู ถัดไปเป็นห้องกระจกขนาดใหญ่ซึ่งเป็นห้องประชุมเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยมากมาย
“เชิญทางด้านนี้ครับ” พอลกล่าวกับหญิงสาวพร้อมเดินนำหน้าเธอไป
แม่สาวน้อยตื่นตาตื่นใจกับ สไตล์การตกแต่งที่หรูหราโออ่าจนใบหน้าสวยแหงนมองฝ้าเพดานและห้องต่างๆ รอบข้างไปทั่วบริเวณก่อนจะมาหยุดยืนหน้าห้องทำงานซึ่งเป็นประตูขนาดใหญ่พร้อมบานประตูเปิดออกข้างหนึ่งเพื่อให้หญิงสาวเดินเข้าไปด้านใน
“เชิญด้านในเลยครับ” พอลบอกกับสาวน้อยพร้อมส่งยิ้มให้บางๆ อย่างสุภาพ
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณพร้อมเดินเข้าไปภายในห้องดังกล่าว ก่อนจะต้องตกตะลึงขึ้นมาทันที
“วะ...ว้าว...แม่เจ้า!” ดาริกาอุทานออกมาเบาๆ
เมื่อเห็นสไตล์การตกแต่งห้อง อลังการงานสร้างแต่เต็มไปด้วยความทันสมัย ชุดรับแขกขนาดใหญ่สีขาววางไว้ตรงมุมทั้งสองข้าง ตรงกลางเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ออกแบบดีไซด์เข้าชุดให้ดูเรียบหรูและทุกอย่างในห้องทำงานล้วนเป็นสีขาวทั้งหมด บ่งบอกรสนิยมเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดีว่าชื่นชอบสีขาวบริสุทธิ์เป็นชีวิตจิตใจ
ร่างสูงใหญ่ของบุรุษชาวตะวันตกยืนหันหลังให้กับเธอ ดวงตาสีเขียวมรกตมองร่างงามระหงผ่านกระจกของตัวตึกที่อยู่ตรงหน้าเขา ก่อนจะยิ้มบางๆ เมื่อแม่สาวน้อยกำลังสำรวจห้องทำงานของเขาไปทั่วบริเวณ
อเล็กซ์ค่อยๆ หันกลับมามองเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังยืนสำรวจห้องด้วยความตื่นตาตื่นใจ ชายหนุ่มยืนเอามือสอดเข้ากระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างมองแม่สาวน้อยตรงหน้าอย่างเพลิดเพลิน
ดาริกาหันกลับมามองผู้ชายตัวใหญ่ตรงหน้าเมื่อรู้สึกตัวว่าเขากำลังจ้องเธออยู่ในขณะนี้ ทันทีที่เธอเห็นเขาหญิงสาวเอ่ยออกมาทันที
“คุณ...คุณที่ฉันเดินชนตรงหน้าประตู”
อเล็กซ์ส่งยิ้มให้กับเธอเมื่อได้ยินประโยคแรกที่เธอทักทายเขา
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ ธนิกา ราชบดินทร์” ชายหนุ่มแนะนำตัวพร้อมยื่นมือของเขาสัมผัสกับเธออีกครั้ง
ดาริกา ยื่นมือสัมผัสกับเขาด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ
“สวัสดีค่ะฉันดา..เอิ่ม...ธนิกา ราชบดินทร์” หญิงสาวพูดพร้อมส่งยิ้มหวาน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องใบหน้าพ่อเจ้าประคุณตาแป๋ว
ดวงตาคู่สวยของหญิงสาวตรงหน้าสั่นคลอนหัวใจของอเล็กซ์อย่างยิ่งยวด เขาต้องยอมรับว่าผู้หญิงไทยคนนี้เธอมีดวงตาสวยและหวานมากจริงๆ มองทีไรใจสั่นไหวทุกทีให้ตายสิ
อเล็กซ์สัมผัสมือของหญิงสาวโดยไม่ยอมปล่อยเพราะความลืมตัว จนดาริการู้สึกว่าตกเป็นเป้าสายตาผู้ชายต่างชาติที่ยืนมองหน้าเธอตาไม่กระพริบ หญิงสาวรีบชักมือเรียวกลับทันทีพร้อมเอ่ยขึ้น
“หน้าดิฉันมีอะไรผิดปกติอย่างนั้นเหรอคะ คุณถึงมองตลอดเวลา” แม่สาวน้อยถามออกไปตามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม และนั้นทำให้อเล็กซ์ยิ้มกว้างออกมาทันใดเมื่อถูกถามตรงๆ เช่นนั้น
“เออ...ผมต้องขอโทษที่เสียมารยาทมองคุณแบบนั้น แต่อดไม่ได้ที่จะมองเพราะว่าตาสีน้ำตาลอ่อนของคุณสวยและหวานมากเลยทีเดียว เป็นอะไรที่พิเศษมากเลยจริงๆ” อเล็กซ์กล่าวกับหญิงสาวตรงหน้าตามความรู้สึกของเขาตรงๆ พร้อมสังเกตกิริยาของเธอไปพร้อมๆ กัน
“ไอ้ฝรั่งชีกอ!” ดาริการำพึงอยู่ในใจก่อนจะยิ้มกว้างพร้อมเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณค่ะ.... เออดิฉันพร้อมรับการสัมภาษณ์จากคุณแล้ว เชิญถามมาได้เลย”หญิงสาวตัดบทเอาดื้อๆ
หญิงสาวมองใบหน้าหนุ่มใหญ่ตรงหน้าตาแป๋วไม่หลบสายตาของเขาแม้แต่น้อย นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นๆ ละก็เพียงแค่เขามองก็อายม้วนจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว แต่แม่สาวน้อยตรงหน้ากลับไม่ใช่ซะงั้น