ตอนที่6ความในใจของพี่ชาย

1741 คำ
ตอนที่6ความในใจของพี่ชาย หลังจากกินข้าวกับรถด่วนมื้อที่แสนอร่อยแล้ว ตอนนี้ยังไม่มืด ทั้ง 5 คนอยู่ในห้อง กำลังคุยกันถึงเรื่องที่ไปบ้านปู่ทิดวันนี้ "พี่ชาย สองเล่มนี้เป็นของพี่ ถ้าไม่เข้าใจคำไหนพี่ถามข้าวได้นะจ๊ะ เอ่อ..ปู่ทิดเป็นคนให้พวกเรามา ของน้องสมก็มีด้วย" ข้าวฟ่างเอาหนังสือให้พี่ชาย สมชายดีใจมาก นี่เป็นหนังสือที่เขาอยากได้มาก แล้วน้องสาวอ่านหนังสือได้เมื่อไรกันเล่า เขาที่ไปนอนกับสืบเพื่อที่จะให้สืบสอนอ่านหนังสือแล้วจะมาสอนน้องๆ นี่ยังไม่ทันสอนเธอเลย "พี่ชายไม่ต้องสงสัยหรอก เหมือนท่านตาจะให้ข้าวเขียนและอ่านหนังสือได้ด้วยแหละ” ตั้งแต่นั่งสมาธิมาฉันรู้สึกว่าเวลาทำอะไรจะเข้าหัวและจดจำได้ทันที นี่เป็นผลจากการนั่งสมาธิหรือเปล่านะ "สมก็เขียนชื่อได้แล้วนะพี่ชาย" คนตัวเล็กก็อยากอวดพี่ชายและแม่ "เก่งจังเลยลูกแม่ รอพ่อกลับมา แม่จะขอให้พ่อช่วยพูดให้ปู่กับย่าให้ลูกๆได้ไปโรงเรียน” ขวัญเรือนลูบหัวลูกชายอย่างรักใคร่ พวกเขาเป็นเด็กดีกันทุกคน ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เจอพ่อตัวเอง แต่ลูกๆไม่เคยน้อยใจพ่อเลย "แล้วน้องข้าวไปได้สร้อยมาจากไหนเหรอ" พี่ชายช่างสังเกตจริงๆ แต่ฉันก็ตั้งใจจะบอกพวกเขาอยู่แล้ว "แม่จ๋า พี่ชาย ภูมิเป็นคนให้ข้าว สร้อยเส้นนี้เก็บของได้ทุกอย่างเลย ทุกคนดูนะจ๊ะ” ข้าวฟ่างเอาหนังสือที่ปู่ทิดให้ ออกมาให้ทุกคน ตามด้วยหนังสือเรียนขั้นพื้นฐาน แม่และพี่ชายตกใจกับสิ่งที่เห็น สร้อยเส้นเล็กนิดเดียว ทำไมเก็บของได้ด้วย "เวลาจะใช้งานก็ง่ายมากจ้ะ แค่ข้าวใช้ใจสื่อถึงสร้อยเส้นนี้ก็เก็บของเข้าออกได้แล้ว ในนั้นมีพื้นที่มากมาย" ทุกคนต่างอึ้งกับสิ่งที่เธอบอก "น้องข้าวห้ามถอดสร้อยนะ แล้วดูแลดีๆ ขอบใจภูมิด้วย” สิ่งที่เหลือเชื่อตรงหน้านี้ สมชายกลับเป็นห่วงน้องสาวขึ้นมา "พี่ชายไม่ต้องห่วงครับ สร้อยเส้นนั้นจะหลุดไม่ได้เลยนอกจากว่า คนที่จะเป็นเนื้อคู่พี่ข้าวถึงจะถอดสร้อยได้ครับ" ทุกคนตกใจกับสิ่งที่ได้ยินอีกแล้ว เรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นกับข้าวฟ่างหลายเรื่อง คนเป็นแม่เริ่มรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาว "โอ้ยย...แม่จ๋า พี่ชายอย่าทำหน้าแบบนั้นสิจ้ะ ไม่ต้องเป็นห่วงข้าวหรอก มีภูมิอยู่ข้างๆ...นี่ต่อไปตอนเย็นข้าวจะสอนหนังสือให้ทุกคนเลย แม่ขวัญด้วยนะจ๊ะ” ข้าวฟ่างเปลี่ยนเรื่องเพราะดูสีหน้าแม่และพี่ชายเป็นห่วงจริงจัง "จริงสิแม่ ปู่ทิดให้หนังสือเล่มนี้ ข้าวชอบมาก เอ๊ะ...เงิน” ฉันตั้งใจจะเปิดหนังสือให้แม่และพี่ชายดู แต่มีเงิน 300 บาทหล่นจากหนังสือเล่มนี้ เอ..หรือว่าปู่ทิดลืมไว้ "เงินตั้ง 300 บาทพรุ่งนี้ลูกไปคืนให้ท่านเถอะ" ขวัญเรือนสอนลูกตลอดว่าไม่ควรเอาของคนอื่นมาเป็นของเรา นอกจากว่าเขายินยอมให้ด้วยความเต็มใจ "ปู่ทิดอาจอยากให้พี่ข้าวก็ได้นะครับ" ภูมิรู้ว่าปู่ทิดตั้งใจใส่เงินไว้ ถ้าให้ตรงๆ พี่ข้าวไม่รับ “ไม่ได้หรอกภูมิ ให้ข้าวเอาไปให้ท่านก่อน ถ้าไม่ใช่ก็คงเป็นของลูกหลานปู่ทิดลืมไว้” เขาเองก็สงสัยว่าเงินตั้งสามร้อยจะมาอยู่ในหนังสือได้อย่างไร หรือปู่ทิดอาจลืมไว้ก็ได้ "ได้จ้ะแม่ พี่ชาย งั้นพรุ่งนี้ข้าวจะนำไปคืนปู่ทิด” หรือปู่ทิดตั้งใจใส่ไว้ให้นะ นี่เป็นข้อสงสัยแต่ไม่ได้พูดออกมา "เอ..หรือหลานชายของปู่ทิดเขาลืมไว้นะพี่ข้าว" น้องสมพูดขึ้นบ้าง “น้องสม นี่เป็นหนังสือของปู่ทิด นั่นที่น้องถือเป็นหนังสือของหลานชายท่าน แล้วจะเป็นไปได้อย่างไร พี่เชื่อว่าปู่ทิดลืมไว้ หรือตั้งใจให้พวกเรา” “นั่นสิครับพี่ข้าว สมขอเปิดดูว่ามีอะไรในหนังสือสมหรือเปล่าน้าา" ทุกคนอมยิ้มให้กับเด็กชายสมเขาเป็นคนตัวเล็ก แต่สร้างเสียงหัวเราะให้ครอบครัวทุกครั้ง "พี่ขอบใจน้องข้าวมากนะ หนังสือสองเล่มนี้มีประโยชน์จริงๆ" หลังจากนั้นทั้งสามคนสนใจหนังสือที่ได้มา ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็มืดแล้ว ขวัญเรือนให้ลูก ๆเก็บหนังสือ เอาผ้าห่มลงมาปูสำหรับนอนคืนนี้ ความเปลี่ยนแปลงของบุตรสาว ขวัญเรือนหวังว่าจะมีเรื่องดี ๆเกิดขึ้นกับลูก ๆ และครอบครัว นางไม่เคยเสียใจเลยที่ได้แต่งงานกับพ่อของลูก การที่เขาไปทำงานที่ไกล ๆก็เพื่อนางและลูกิๆ เพราะงานรับจ้างในหมู่บ้านได้ค่าแรงน้อยมาก ถึงแม้นางจะได้รับการปฏิบัติจากพ่อแม่และน้องสาวสามีไม่ดีเท่าไรนัก แต่นางจะอดทนเพื่อลูกและสามี "พี่ชายจะไปแบกน้ำเหรอจ๊ะ” เวลานี้น่าจะตี 4 ของวันใหม่แล้ว "อืม...ข้าวหลับเถอะ พี่จะไปคนเดียว" "ให้เข้าไปด้วยนะพี่ชาย นะ แล้วกลางวันข้าวจะหาเวลาหลับ" เมื่อวานหลังจากที่ทุกคนนอนหลับด้วยความเพลีย ฉันลุกขึ้นนั่งส่งมือซ้ายไปวางบนตัวแม่ พี่ชาย และน้องชาย เหมือนจะได้ผลด้วย ทุกคนหลับสนิทจากนั้นฉันก็นั่งสมาธิต่ออีก 1 ชั่วโมงแล้วหลับ อย่างน้อยคนที่รักมีสุขภาพดีก็เบาใจไปเปราะหนึ่ง "ได้..ค่อยๆลุกนะ” สมชายแพ้ให้กับความขี้อ้อนของน้องสาว…ตอนนี้ทั้งสองออกจากบ้าน อุปกรณ์ที่เอาไปด้วย มีแกลอน 5ใบ ถังน้ำ อีก 4 ใบ ใส่ในลงสร้อย แล้วถือไปคนละคู่ สมชายใช้ไม้เกี๊ยะจุดไฟ ให้แสงสว่างนำทางไปยังลำธาร "พี่ชายกี่วันพี่จะผ่าฟืนเสร็จ” "น่าจะสี่วัน มีอะไรหรือเปล่า" "ถ้าเสร็จแล้ว ข้าวว่าจะขอยืมเกวียนลุงสมานมาขนฟืนจ้ะ พี่กับแม่ไม่ต้องไปหลายรอบไม่ดีหรือ” ถ้าไม่ทำแบบนั้นคงใช้เวลานานและคนที่เหนื่อยคือแม่และพี่ชาย “ไม่ต้องถึงกับใช้เกวียนหรอกน้องข้าว ลุงเขาใช้รับจ้างขนของให้คนอื่น พวกเราขอยืมรถลากจากลุงเขาก็พอ แล้ววันนั้นพี่จะวางกับดักไก่ไว้ ถ้าได้เราแบ่งให้ลุงสมานเป็นค่าตอบแทน” "เอาอย่างนั้นก็ได้จ้ะ แต่วันนั้นข้าวต้องไปด้วย พี่จะได้ขนมารอบเดียว ที่เหลือข้าวจะใส่ไว้ที่นี่" เด็กสาวชี้ไปที่สร้อย "ได้ แต่คงเป็นเวลาเย็นๆ นะ" ด้วยความเป็นห่วงน้องสาว เขาไม่อยากให้ใครสงสัยว่าทำไมขนฟืนเสร็จเร็ว สองพี่น้องใส่น้ำในโอ่งทุกใบ แล้วยังเก็บไว้ในแกลอนอีก เวลานี้น่าจะตี 5 กว่าแล้ว อาสายใจยังไม่ลุกขึ้นมาทำกับข้าวเลย ถ้าเป็นหน้าที่แม่คงตื่นมาทำนานแล้ว สมชายรู้ว่า กว่าจะได้กินข้าวช้าก็สาว เข้าป่าก็สาย เขาไม่แน่ใจว่าอาสายใจจงใจทำแบบนี้หรือเปล่า ทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อก่อน ปู่กับย่าเลี้ยงหมู 3 ตัวด้วย เขาและน้องสาวมีหน้าที่หาอาหารให้หมู เมื่อหมูน้อยโตมา อาสายใจเอาไปขายเพราะ ลูกๆของอาสายใจต้องไปกินนอนที่โรงเรียน ทุกวันนี้ นาที่ทำแต่ละปี ได้ข้าวน้อย จึงไม่มีข้าวสารให้ลูก ๆอาสายใจ…ทุกอย่างที่พวกเขาทำมา นอกจากจะไม่ได้แตะแล้ว ถูกใช้งานอยากกับทาส ถ้าเลือกได้เขาอยากอยู่กับพ่อ แม่และน้องๆ ความจริงผู้ชายในบ้านมีลุงใหญ่ อาเขย แต่ไม่มีใครลงมาทำงานช่วยเขาหาฟืนเลย ทุกเช้าลุงใหญ่และอาเขยจะออกไปทำงาน ตอนเย็นก็กลับมา บางครั้งเขาก็อยากรู้ว่าลุงใหญ่และอาเขยทำงานอะไรนะ… สาเหตุที่ข้าวมีราคาแพง เพราะหมู่บ้านแม่ทะมีลักษณะภูมิศาสตร์เป็นภูเขา ทำให้ที่นี่ไม่มีนาข้าว ชาวบ้านแต่ละคนมีที่ดินเป็นของตัวเอง เอาไว้ทำไร่ข้าว เดือนธันวาคมนี้ก็จะเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว สมชายอยากให้พ่อกลับมาเกี่ยวข้าวด้วย เพราะถึงเวลาคนที่ทำมีแค่แม่กับเขาทำงานหนักว่าทุกคน "สองพี่น้องไปไหนกันมา" ขวัญเรือนไม่เคยหลับสนิทแบบนี้มาก่อน แล้วอาการปวดไหล่ ปวดคอปวดแขนหายไปไหนหมดนะ มารู้สึกตัวอีกทีใกล้จะสว่างแล้ว "พวกเราไปตักน้ำมาจ้ะแม่" "แม่ครับ..อาสายใจยังไม่ตื่นมาทำกับข้าวเลย" "งั้นแม่จะไปก่อไฟไว้ก่อน พวกเจ้าอยู่ในบ้านก่อน เสร็จแล้วแม่จะเอาข้าวมากินด้วยกัน วันนี้ไปสายหน่อยไม่เป็นไรจ้ะชาย” นางรู้ว่าลูกชายอยากไปเช้าๆ ยิ่งสายแดดยิ่งแรง…แต่ทำอย่างไรได้เล่า ถ้าขึ้นเขาตอนนี้จะมีกล้วยน้ำว้าสุกระหว่างทางให้กิน แต่นางจะให้ลูกชายอดข้าวสองมื้อ นางไม่ยอมแน่ เพราะวันนี้ต้องผ่าฝืนทั้งวัน อีก 4 วัน น่าจะเสร็จหลังจากนั้นก็ถึงเวลาเกี่ยวข้าวแล้ว ข้าวฟ่างกลับมาจากตักน้ำกับพี่ชาย เริ่มมีแสงสว่างลอดผ่านเข้ามาในห้อง มือน้อย ๆเปิดหนังสือที่ปู่ทิดให้ มีสมุนไพรทั้งที่เคยเห็นและไม่เคยเห็นมาก่อน บางอย่างเอามากินได้ด้วย มีพี่ชายก็นั่งดูหนังสือข้าง ๆ ไม่นานเด็กน้อยก็เผลอหลับไปอีกรอบ… สองพี่น้องตื่นมาอีกทีก็ไม่เห็นแม่และพี่ชายแล้ว แต่เห็นชามข้าววางอยู่ข้างๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม