ตอนที่5พี่ชายที่แสนดี
"พี่ข้าว...สมง่วงนอนจังเลยครับ" ตอนนี้พวกเรากลับมาถึงบ้านแล้ว ปู่ทิดได้มอบหนังสืออีกเล่มให้ฉัน เป็นหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพร มีวิธีเก็บรักษา ส่วนผสมที่นำมาใช้ปริมาณเท่าไร ชนิดไหนที่เอาไว้กิน ต้มหรือ ทาบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ ท่านคงเห็นว่าอยู่กับฉันน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าที่อยู่กับท่าน ฉันรับมาเก็บไว้ในสร้อยคอที่ภูมิยกให้
"พี่ก็ง่วง ก็พวกเรากินกับข้าวหมดทุกอย่างเลย น้องสมหลับเลย ตื่นมาพี่จะสอนน้องอ่านหนังสือ” น้องชายว่านอนสอนง่าย…หนังท้องตึง หนังตาหย่อน…
"จริงด้วย แล้วภูมิไม่กินอะไรเหรอ"
"ไม่ครับ..ถ้ามีคนมาถวายพวกเราก็รับไว้ แต่ไม่ได้กินเหมือนมนุษย์" อ๋อเป็นแบบนี้เอง
"ขอดูหนังสือดีกว่า" ฉันและน้องบอกปู่ทิดว่าจะเอาไปคนละสองเล่มเผื่อพี่ชายด้วยเป็นหกเล่ม รวมของปู่ทิดให้เป็น 7 เล่ม ฉันเลือกเอาหนังสือคู่มือช่างและการทำเกษตรให้พี่ชาย ระหว่างที่เปิดดูไปสองสามหน้า ฉันอ้าปากหาวง่วงนอนสุด ๆ อย่าว่าแต่น้องสนเลย ตอนนี้ร่างกายนี้ก็ง่วงชะมัด สุดท้ายพวกเราสองพี่น้องก็หลับกลางวันไป…แต่หลับไปแค่งีบเดียวได้มั้ง…
"ปัง ปัง ปัง นังข้าว..นังข้าว เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ” นั่นเสียงของอาสายใจนี่ ฉันค่อยๆลุก แม่และพี่ชายก็ไม่อยู่ จะไม่เปิดก็ไม่ได้ ทุบประตูแบบนี้น้องชายก็จะตื่นพอดี
"แอ็ดดด...อาสายใจมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?”
"พวกสูนี่นะทำตัวกินบนเรือนขี้บนหลังคาจริงๆ ออกมาสิ" เมื่อก่อนฉันมองว่าอาสายใจเป็นคนสวยได้ยังไงนะ ดูเธอตอนนี้สิ สีหน้าเหมือนนางยักษ์มากกว่า…
"พูดเบาๆได้ไหมอาสาย น้องสมหลับอยู่"
"เชอะ....ฉันจะทำอาหารตอนเย็นนี้ แกไปตักน้ำมาให้ฉันด้วย...เดี๋ยวนี้" นั่งเด็กเปรตมันกล้าจ้องหน้าสบตานางเมื่อไรกัน สายใจพูดเสียงดุดัน ข่มขู่มันไปด้วย
"หนูหาบน้ำไม่ไหวหรอกอาสาย ทำไมอาสายไม่ไปหาบเอง” ฉันยังคงจ้องหน้าอาสายใจ
"นี่นังเด็กเปรต....หน้าที่ตักน้ำเป็นของพวกแกย่ะ...ฉันมีหน้าที่ทำอาหาร เร็วๆละ ชักช้าจะไม่ได้กินข้าวกันทั้งบ้านนี่แหละ" อาสายใจเดินออกไปแล้ว นี่ถ้าฉันไม่ไปแม่และพี่ชายกลับมา ข้าวจะเหลือถึงครอบครัวพวกเราหรือเปล่านะ
เมื่อวานตอนเย็นพี่ชายไปแบกน้ำมาใส่โอ่งดินไว้จนเต็ม เพื่อที่ตอนเช้าจะได้รีบขึ้นเขากับแม่นี่นา…ฉันถอนหายใจ มองขาตัวเอง เมื่อไรขาจะยาวนะ จะหาบน้ำกับถัง 2 ใบก็ไม่ไหว อย่างน้อยก็มีแกลอนที่เคยช่วยแบกน้ำนี่นา
"ภูมิอยู่กับสมนะ ถ้าน้องตื่นมาไม่เจอฉัน เขาอาจร้องไห้ พี่ไปตักน้ำ ไม่งั้นตอนเย็นแม่และพี่ชายอาจจะไม่ได้กินข้าว"
"ได้ครับพี่ข้าว…แล้วพี่ข้าวจะไหวหรือครับ”
“สบายมากจ้ะ” ฉันไปเอาแกลอนไปสองใบ ใบหนึ่งจุน้ำได้ 5 ลิตร ใส่ตะกร้าไว้ แล้วปรับสายตะกร้าให้สั่น จากนั้นก็แบกตะกร้าขึ้นหลังไปทางบ่อน้ำของหมู่บ้าน ประมาณ 1 กิโลเมตร ฉันจำคำของท่านตาได้ ของประทานที่ได้มาท่านตาบอกว่าห้ามใช้ซี้ซั้ว ก็เลยเลือกที่จะไม่ทำอะไรตอนนี้
ช่วงบ่ายแก่ๆแบบนี้อากาศร้อนเหมือนกัน แต่พอเลยตะวันตกดิน ความหนาวก็มาเยือนทันที
"เอ้า..ข้าวฟ่างวันนี้มาคนเดียวเหรอ พี่ชายหนูไม่ได้มาด้วยเหรอจ๊ะ" เพื่อนบ้านคนนี้คือน้ามะลินั่นเอง
"พี่ชายกับแม่ไปตัดฝืนตั้งแต่เช้าแล้วจ้ะน้า"
"มานี่ น้าตักใส่น้ำให้นะ” มะลิกลัวว่าเด็กเล็กๆจะตกบ่อน้ำก่อนจะได้กลับบ้าน ตัวแค่นี้ถ้าเป็นลูกบ้านอื่น ไปวิ่งเล่นใต้ถุนบ้านหรือไปเรียนหนังสือ แต่ไม่ใช่กับพี่น้องของข้าวฟ่าง
"ขอบคุณจ้ะน้ามะลิ"
"มา น้าจะใส่หลังให้ มายืนใกล้ๆน้า...ค่อยๆเดินนะ” น้ำ 10 ลิตรในแกลอนถูกใส่ลงในตะกร้าแล้วตอนนี้อยู่บนหลังน้อย ๆเรียบร้อย กว่าจะถึงบ้านคงใช้เวลา 30 นาที ถ้ามากับพี่ชายฉันจะแบกแค่แกลอนเดียว
"เร็วๆสิ เดี๋ยวคนอื่นกลับมาแล้วกับข้าวไม่เสร็จ ฉันจะโทษพวกแก ทำเป็นลืมหน้าที่” ความจริงเมื่อเช้ามีน้ำอยู่เต็มโอ่ง แต่พี่สะใภ้เธออาบน้ำให้ลูกคนเล็ก สายใจที่มีหน้าที่ทำอาหาร เห็นว่าน้ำเหลือน้อย จึงไปเคาะประตูห้องนังเด็ก…
ข้าวฟ่างเปิดฝาแกลอน เทน้ำลงในโอ่ง ใบหน้าที่แดงเพราะแดดกับอาการเหนื่อยหอบที่รีบกลับมา ทำให้ใบหน้าน้อย ๆ มีเหงื่อไหลลงมาอาบแก้มแดง ๆ สายใจไม่สนใจใยดี นางมองพวกเขาเป็นขี้ข้าอยู่แล้ว แม่ของมันก็ไม่เคยเรียกว่าพี่สะใภ้………โบราณว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ สายใจได้รับนิสัยการดูถูก เหยียดหยามคนที่ต่ำกว่า ประจบคนที่แต่งตัวมีฐานะดีเหมือนแม่ของนาง
"พี่ข้าว...สมจะไปด้วย " น้องชายเดินมากับภูมิแต่ไม่มีใครเห็นภูมินอกจากพวกเขา
"งั้นก็ดีสิ เอ้า..โครมคราม..เอาไป เปลืองข้าวเปลืองน้ำจริง..ไปสิ้..โอ้ยย " หลังจากที่สายใจโยนแกลอนสองใบให้สม ภูมิก็ดีดก้อนหินไปที่หน้าผากสายใจพอดี ฟังเสียงร้องนางคงจะเจ็บไม่น้อย
"หมาที่ไหนวะ มายิงหนังสติ๊กแถวนี้ แม่จะฟาดก้นให้เลือดออกเลย..พวกแกก็ไปสิ..โอ่ยยย”
ข้าวฟ่างเอาแกลอนใบเดียวให้น้อง คิดว่าจะใส่น้ำแค่ครึ่งแกลอนเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆนี้พวกเขาคงเป็นคนแคระแน่ๆ
"คิ คิ คิ ภูมิเพื่อนรักนายเก่งมาก ใช่ไหมพี่ข้าว" น้องสมดูสะใจมากที่ภูมิดีดก้อนหินใส่หน้าอาสายใจ
"สมควรแล้วแหละ สวยแต่รูป จูบไม่หอม แต่วันหลังไม่ต้องทำแล้วนะภูมิ อดทนไว้ อีกไม่นานเหรอ สมด้วย” เด็กน้อยทั้งสองพยักหน้าให้พี่สาว แล้วหันมายักคิ้วให้กัน คล้ายจะสื่อออกมาทางสายตาว่า พี่ข้าวนี่มันแค่เริ่มต้น....คนไม่ดีต้องโดนสั่งสอน (555น้องสมมีพวกแล้วนะทุกคน)
"ไหวหรือเปล่าน้องสม..ให้พี่ช่วยไหม” เด็กชายสมใส่แกลอนไว้ในย่ามกระสอบ ที่แม่เย็บเป็นย่ามสะพายเวลาไปหาของป่า แต่วันนี้เขาใช้ใส่แกลอนเพื่อแบกน้ำกลับบ้าน
"ไหวครับ" ตัวเล็กแต่ใจใหญ่มาก ด้วยความที่อยากช่วยพี่สาว
"พี่ข้าวความจริงพี่เอามาไว้ในสร้อยพี่ได้นะครับ”
"พี่กลัวคนอื่นจะจับได้ ถ้าเป็นตอนกลางคืนพี่ว่าไม่น่ากังวล แต่ไม่เป็นไรพี่ยังไหวจ้ะ”
"งั้นพรุ่งนี้เช้าๆพวกเราไปหาบน้ำมาด้วยกันนะครับพี่ข้าว"
"พี่จะลองถามพี่ชายและแม่ดูก่อนนะ...แต่สมไม่ต้องห่วง น้องยังเด็ก นอนให้พอ กินให้อิ่ม มีเวลาพี่อยากให้อ่านหนังสือมากกว่า”
"สมจะเชื่อฟังพี่ข้าว" น้องชายแม้จะตัวเล็ก แต่พอโตมา ตอนอายุ11 ปีเขาหน้าตาดีมาก ข้าวฟ่างตั้งใจจะปกป้องน้อง ไม่ให้ใครมาทำอะไรเขา…
รอบที่สาม ทั้งสองเอาเสื้อผ้าไปด้วย เพราะเลยบ่อน้ำไปมีลำธารให้ชาวบ้านมาอาบน้ำซักเสื้อผ้า อีกฝั่งหนึ่งเป็นของผู้ชายจะไม่เห็นกันเพราะมีพุ่มไม้บังไว้ สองพี่น้องอาบน้ำสระผมใกล้ ๆกัน เสร็จแลัวก็มีคนรู้จักตักน้ำใส่แกลอนให้พวกเขา
ข้าวฟ่างเก็บสบู่ลายก้อนละ 1 บาท ที่ใช้อาบน้ำสระผมใส่กล่องไม้ ส่วนผ้าของพวกเขาใช้มะคำดีควายซัก ทุกครั้งที่แม่และพี่ชายเข้าป่าจะเก็บมาด้วย ตอนนี้มีไม่กี่คนที่ใช้กัน เด็กสาวเคยเห็นปู่ย่า อาสายใจและป้าสะใภ้ พวกเขาใช้ผงซักฟอกซักผ้า มีสบู่นกแก้วที่กลิ่นหอมมาก ๆใช้อาบน้ำ มีแชมพูสระผมเป็นซองที่วางขายในร้านขายของชำมาใช้ ส่วนพวกเราไม่เคยได้ใช้ของพวกนั้นเลย แค่ได้ใช้สบู่ลายก็ถือว่าดีมากๆแล้ว
ส่วนแม่จะต้มน้ำใส่ขมิ้นหั่นเป็นแว่น กับฝักแก่ๆของส้มป่อยมาต้มรวมกัน แล้วให้พวกเราใช้สระผม นอกจากกลิ่นหอมสดชื่น มันทำให้ผมนุ่มลื่น แม่จะทำให้เดือนบะครั้ง วันอื่นก็ใช้สบู่ลายสระผม
"น้อง ๆของลูกไปเล่นซนที่ไหนมาชาย” นางขวัญเรือนกลับมาถึงบ้าน ไม่เห็นสองพี่น้องอย่างทุกครั้งทหลังจากที่วางตะกร้าลงแล้ว เอาฟืนแห้งออกมาเรียงไว้ใต้ถุนบ้าน แล้วถามลูกชาย
"เอ๊ะ...นั่นน้องข้าว น้องสมและภูมินี่ครับแม่" ทั้งสามเดินกลับมาด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากเป็นรอบสุดท้ายของการหาบน้ำในวันนี้
"ตายแล้วลูกแม่” ข้าวฟ่างแบกตะกร้ามา เส้นผมที่สระก็ยังไม่แห้ง ไม่ทราบว่าใบหน้าน้อย ๆมีเหงื่อหรือน้ำที่ติดผมมาผสมกัน ส่วนสมแบกย่ามกระสอบมา แก้มแดงระรื่นภูมิหิ้วตะกร้า มีผ้าที่น่าจะซักเสร็จแล้ว
"มาพี่ช่วย" เขาถลาวิ่งไปคว้าตะกร้าของน้องสาวและเอาย่ามจากน้องชายมาถือไว้ เหมือนคนถือชามข้าว ที่ไม่ได้หนักอะไรเลย
"เมื่อวานพี่ตักน้ำไว้เต็มโอ่งทั้งสามใบ ยังไม่พอเหรอน้องข้าว" สมชายหัวคิ้วชนกัน ทำหน้าสงสัย
"อาสายใจมาตามพวกเราให้ไปตักน้ำ ถ้าพวกเราไม่ไป แม่และพี่ชายอาจไม่ได้กินข้าวจ้ะ”
"แม่พาน้องๆกลับเข้าบ้านก่อน ผมจะไปใส่น้ำเอง" เรื่องแบบนี้พวกเขาเจอมาบ่อย อะไรที่หลีกเลี่ยงได้ ก็จะพยายามไม่ต่อความยาว สาวความยืด
"ขอบใจนะภูมิ เข้าบ้านกันเถอะเดี๋ยวค่อยมาตากผ้า" ข้าวรับตะกร้ามาวางไว้
"เหนื่อยหรือเปล่าลูก แล้วหิวข้าวหรือยังจ๊ะ”
มือหยาบของขวัญเรือนลูบแก้มแดง ๆเหมือนลูกตำลึงของลูก ๆ ทั้งพี่ทั้งน้องเข้ามากอดเอวนางไว้ พร้อมสูดดมกลิ่นกายหอมสดชื่นจากตัวร่างบอบบาง แต่แข็งแรงยิ่ง นางเพิ่งแวะมาอาบน้ำที่ลำธารก่อนเข้าบ้าน
"พวกเราไม่เหนื่อยสักนิดจ้ะแม่"
"ใช่ๆ แม่ครับ ปู่ทิดให้พวกเรากินข้าวด้วย ตอนนี้สมและพี่ข้าวยังอิ่มอยู่เลยครับ...แล้วพวกเราก็ไม่เหนื่อยสักนิด"
"น้องสมขี้โกง เอาคำพูดพี่มาใช้ คริ คริ คริ แม่และพี่ชายเหนื่อยกว่าข้าวอีก แค่นี้ข้าวไม่เหนื่อยหรอกจ้ะ”
"เอาแหละๆ แล้วปู่ทิดท่านเป็นยังไงบ้างลูก"
"ท่านหายแล้วจ้ะแม่ แต่ข้าวต้องเอาน้ำไปให้อีกสองครั้ง ปู่ทิดฝากขอบคุณแม่และพี่ชายด้วยนะจ๊ะ” พอดีกับที่พี่ชายเข้ามา เขาก็ทันได้ยินที่น้องสาวเล่าให้แม่ฟัง
"แม่รู้สึกไม่ค่อยดีเลย แต่หนูหวังดีกับท่าน สวรรค์คงเข้าใจพวกเรา"
"แม่จ๋าอย่าคิดมากจ้ะ ท่านตาบอกว่าถ้ามีโอกาสให้ข้าวได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วย"
"น้องข้าวสบายใจเถอะพี่จะปกป้องน้องและทุกคนเอง"
"ไม่ได้จ้ะ ยังมีพ่อสมบัติอีกคน พี่ชายคนเดียวปกป้องพวกเราทุกคนไม่ไหวหรอก” ฉันเฝ้ารอพ่ออยู่ทุกเวลา
"จริงสิ..อีกไม่กี่วันพวกเราจะได้เจอพ่อแล้ว" สมชายยิ้ม เขาหวังว่าสักวันอยากมีบ้านของตัวเอง แม่และน้องๆไม่ต้องมารองมือรองเท้าให้ใคร แต่ความฝันนั้นมันไกลเหลือเกิน
"เอาละ แม่จะไปเอาข้าว ลูกๆรออยู่ที่นี่” ระหว่างรอแม่ไปเอาข้าว สามพี่น้องเข้าไปในห้อง
"นี่พี่มีอะไรให้ดูด้วย” ในย่ามพี่ชายมีกระบอกใส่อาหารที่ทำจากไม้ไผ่ 2 กระบอก แล้วมีมะขามป่าที่แม่แวะเก็บข้างทาง พอเปิดออกมา กลิ่นหอมชวนหิวขึ้นมาทันที
"อื้มมม...หอมจังเลยพี่ชาย" นั่นคือรถด่วนที่ผสมเกลือที่เผาสุกแล้ว ในความทรงจำทหลังจากที่เก็บออกมาจากไม้ไผ่ จะผสมกับเกลือแล้วใส่ในกระบอกไม้ไผ่ที่ตัดมา จากนั้นปิดฝาด้วยใบตอง แล้วนำไปวางบนกองขี้เก้า พอไม้ไผ่เป็นสีดำ ก็จะได้กินรถด่วนหอม หวาน มัน เค็มนิดอๆกินกับข้าวอร่อยที่สุด แม่เคยตำน้ำพริกกับรถด่วน อร่อยมากๆ จิ้มกับผัดกูดที่ลวกแล้ว แค่คิดก็รู้สึกหิวข้าวขึ้นมา
"แล้วกระบอกนั้น…” ฉันสงสัย ทำไมพี่ชายต้องแยกใส่กระบอกด้วย
"แม่จะเอาไปให้ปู่กับย่าครับ"
"ข้าวว่าไม่ต้องหรอกพี่ชาย ปู่กับย่าได้กินกับข้าวดีกว่าพวกเราอีก เก็บไว้กินสำหรับพวกเราเถอะ” ทำไมฉันจะไม่รู้ว่า เป็นพี่ชายที่อยากเอาไปให้ปู่กับย่า ฉันอยากบอกพี่ชายเหลือเกินว่ามันไม่มีประโยชน์เลย อนาคตพวกเขามีส่วนทำให้พี่ชายตายด้วย แล้วน้องสนก็เห็นด้วยกับคำพูดของฉัน
"มาแล้วลูก คุยอะไรกันจ๊ะ”
"สมกับพี่ข้าวไม่อยากเอารถด่วนไปให้ปู่กับย่าครับแม่” เด็กชายสมรีบบอกแม่
"เราอยู่ที่นี่อาศัยใบบุญปู่กับย่า แค่นี้ให้เขาเถอะลูก อีกอย่างพี่ชายลูกตั้งใจจะให้ปู่กับย่าอยู่แล้ว" ทั้งสองคนทำแก้มป่อง แต่ทำให้พี่ชายกับแม่ยิ้มออกมา เพราะความน่ารักน่าเอ็นดูของทั้งคู่ แม้จะทำงานเหนื่อยแค่ไหน พวกเขากลับมาจากทำงานก็หายเหนื่อย…
ความจริงที่สมชายทำแบบนี้ อยากให้ปู่และย่าเอ็นดูเขาและน้องๆสักนิด แต่ทุกครั้งเขาได้รับสายตาหมางเมิน เฉยชา พร้อมคำพูดที่บั่นทอนจิตใจ ในเมื่อทำดีแล้วไม่เคยได้ดี และไม่เคยอยู่ในสายตาปู่กับย่า ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปเขาจะขอทำดีกับคนที่เขารักดีเท่านั้น ใครจะว่าเขาเป็นหลานที่อกตัญญูก็ช่าง