ในช่วงเย็น เอลล่ากำลังวุ่นอยู่กับการซ้อมเดินแบบครั้งสุดท้าย ซึ่งเธอก็ต้องปวดหัวหนักเข้าไปอีก หลังจากที่ต้องมารอเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันถึงครึ่งชั่วโมง แถมยังต้องมาเจอกับ เจนนี่ คู่อริของเธอที่ถูกเชิญมาให้เดินแบบในงานนี้ด้วยเช่นกัน
“เจนนี่ขอเดินชุดฟินนาเล่นะคะ ถ้าไม่ได้ เจนนี่ก็ขอยกเลิกงานนี้ เพราะเจนนี่คิดว่าเจนนี่เหมาะสมกว่านางแบบบางคนค่ะ”
เมื่อเริ่มซ้อม เจนนี่ก็เริ่มมีปัญหาทันที เพราะเธอได้ยินพวกนางแบบคนอื่นๆพากันพูดว่า เอลล่าได้เดินชุดฟินนาเล่ ซึ่งก่อนจะรับงานนี้เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากมาเดิน เพราะมันเป็นงานใหญ่ แถมพี่หมอสุดหล่อที่เธอหมายปองยังมาร่วมงานนี้อีกด้วย แต่พอได้ยินเรื่องที่เอลล่าจะต้องเด่นกว่าเธอ เจนนี่จึงเริ่มโวยวายกับคนที่ดูแลงานนี้ทันที
“หึ สงสัยตอนออกจากบ้าน ลืมส่งกระจกดูตัวเอง ไม่รู้จะมาให้รำคาญหูรำคาญตาทำไม”
พอได้ยินถึงความเรื่องมากของเจนนี่ เอลล่าผู้ไม่เคยยอมใคร ก็เริ่มแผลงฤทธิ์บ้าง โดยเธอเลือกที่จะพูดเหน็บขึ้นลอยๆ ทำเอาพวกนางแบบและเจ้าหน้าที่แถวนั้นต่างพากันหันมามองนางแบบสาวเป็นตาเดียว เพราะเริ่มรู้ถึงเค้าลางไม่ดีเสียแล้ว ทุกคนต่างก็รู้กิติศัพท์ของเอลล่า ว่าเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยหยดย้อยก็จริง แต่คำพูดที่ออกจากปากของนางแบบสาวนั้นแทบเรียกได้ว่าไม่เจ็บก็แสบ ทำเอาเจนนี่ถึงกับเดินเข้ามาหาทันที
“นี่แกว่าใคร”
“เปล๊า ฉันแค่พูดลอยๆ ใครอยากจะรับก็รับไปสิ”
เมื่อเอลล่าพูดจบ เจนนี่ก็หันไปหาเจ้าหน้าที่ของงานทันที
“ถ้าเจนนี่ไม่ได้เดินชุดฟินนาเล่ เจนนี่ก็ไม่เดิน เลือกเอาค่ะว่าจะให้ใครเดิน เจนนี่ไปรอที่ห้องแต่งตัวนะคะ”
เจนนี่กระแทกเสียงใส่เจ้าหน้าที่แล้วเดินกลับไปยังหลังเวทีทันที ทำเอาพวกพนักงานถึงกับกุมขมับ เพราะตอนนี้คงหาใครมาเสียบแทนนางแบบสาวไม่ได้แล้วด้วย
“เอ่อ น้องเอลคะ...”
“ถ้าจะให้เอลยอม บอกเลยว่าไม่ มีสองทางเลือก เอลไม่เดินก็ได้นะคะ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะให้เอลเดิน ต้องเป็นชุดฟินนาเล่เท่านั้นค่ะ”
เอลล่าบอกอกมา ก่อนจะหันหลังหนีทีมงานคนที่กำลังจะพูดทันที
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ พี่จะบอกว่าให้ซ้อมกันไปได้เลย ส่วนนางแบบที่ขาดเดี๋ยวพวกพี่ขอตัวไปจัดการก่อนนะคะ”
เจ้าหน้าที่แจ้งออกมา ก่อนจะเดินออกไปทันที เพราะตอนนี้ปัญหากำลังจะเกิดถ้านางแบบเดินไม่ครบเซ็ต แต่ยังไงงานนี้ ชุดฟินนาเล่ก็ต้องเป็น เอลล่า นางแบบสาวเท่านั้น เพราะทางหน่วยงานที่จัดขอมาเจาะจงโดยเฉพาะ ว่าต้องเชิญหญิงสาวมาเดินแบบในงานนี้ให้ได้ เพราะฉะนั้นปัญหามันจึงอยู่ที่เจนนี่ไปโดยปริยาย
“อะไรนะคะ! ทำไมเจนจะเดินชุดฟินนาเล่ไม่ได้ เจนนี่ไม่ยอม งั้นเจนนี่ก็ไม่เดินค่ะ”
“โธ่น้องเจนนี่คะ ทางเจ้าของงานเขาเจาะจงมาว่าต้องให้น้องเอลเป็นคนเดินค่ะ อืม ถ้าอย่างนั้นพวกพี่คงต้องหานางแบบใหม่เดินแทนน้องเจนนี่แล้ว ยังไงพี่ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้เสียเวลา”
เมื่อเกลี้ยกล่อมนางแบบสาวไม่สำเร็จ ทีมงานเลยคิดที่จะเปลี่ยนตัวน่าจะง่ายกว่า ทำเอาเจนนี่ที่อุตส่าเล่นตัว ถึงกับต้องเริ่มคิดหนัก เพราะเธออยากโชว์ความสวย เซ็กซี่ให้พี่หมอของเธอได้ดู เธอจะยอมแพ้แบบนี้ไม้ได้
“งั้นเจนนี่เดินให้ก็ได้ค่ะ แต่ขอชุดที่ดูโดดเด่นที่สุดเลยนะคะ เจนนี่ไม่ไปซ้อมนะคะ เดี๋ยวรอแต่งตัวในห้องนี้เลย ขอเดี่ยวนะคะ คนอื่นไปแต่งห้องอื่น”
เมื่อทีมงานดูท่าจะไม่ง้อ เจนนี่จึงต้องเป็นฝ่ายยอม แต่ก็ไม่วายเรื่องมาก ขอโน่นขอนี่ตามแบบฉบับ นางแบบจอมเรื่องมากทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้โด่งดังมากมายเท่าไหร่นัก นอกเสียจากเรื่องเสียๆหายๆ เช่นเป็นเมียน้อยบ้าง แย่งแฟนคนอื่นบ้าง นั่นแหละจึงทำให้เธอยังคงมีกระแสในวงการอยู่เรื่อยๆถึงจะเป็นไปในทางลบก็เถอะ
“นี่งานเลี้ยงของพวกหมอจริงเหรอคะ ทำไมต้องใส่ชุดเปิดหน้าเปิดหลังอย่างนี้ด้วย น่าจะใส่ชุดแพทย์ พยาบาล หรือไม่ก็คนไข้อะไรแบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ”
เอลล่าพูดขึ้น หลังใส่ชุดที่ทางทีมงานเตรียมเอาไว้ให้ เธอมองตัวเองในกระจก มันก็ดูดีอยู่หรอก แต่เธอว่ามันดูเซ็กซี่เกินไปเมื่อเทียบกับงานเลี้ยงของพวกคุณหมอทั้งหลาย
“จะบ้าเหรอ! ใครเขาจะทำแบบนั้น นี่งานเลี้ยงสังสรรค์นะย่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เอลพูดเล่นน่า”
“น้องเอลคะ เชิญสแตนบายที่หลังเวทีได้เลยนะคะ”
เสียงเรียกหยุดการสนทนาระหว่างผู้จัดการและนางแบบสาว ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากห้องแต่งตัวเข้าไปรอที่หลังเวที ที่มีพิธีกรกำลังดำเนินงานไปเรื่อยๆ
“โอ๊ย คุณน้องคะ ทำไมไม่บอกพี่ว่าแถวนี้มีผีขอส่วนบุญคะเนี่ย คุณพี่จะได้ลางานไปโบสถ์ อุทิศบุญให้”
เสียงจิมมี่ดังขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาหลังเวทีแล้วเจอเข้ากับเจนนี่ คู่ปรับของเธอและเอลล่าเข้า เลยอดพูดจิกกัดขึ้นมาไม่ได้
“แหม พี่จิมมี่คะ เอลก็นึกว่าโกรธจนกลับหลุมไปแล้วน่ะสิคะ ทำไมถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ได้ก็ไม่รู้ แต่ช่างเถอะคะ งานนี้เอลสำคัญที่สุด”
ทั้งสองสาวแท้สาวเทียมนั้นเข้ากันดีที่สุด เวลาจะจิกกัด หรือด่าใครสักคน ทำเอาเจนนี่ที่นั่งอยู่ถึงกับคันปากขึ้นมาทันที แต่ด้วยตอนนี้งานกำลังจะเริ่ม และเธอยังไม่อยากอารมณ์เสียตอนนี้ เพราะเธอมีแผนที่เด็ดกว่านั้นมาล้างแค้นเอลล่า หญิงสาวจึงได้แต่มองค้อนกลับไป พร้อมกับทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆที่ในใจนั้นร้อนรุ่มราวกับไฟเผา
จากนั้นการเดินแบบก็เริ่มขึ้น เมื่อวันนี้ มีการประมูลเครื่องเพชร และเครื่องประดับตกแต่งต่างๆที่พวกคุณหญิงคุณนาย เมียคุณหมอเล็กคุณหมอใหญ่ พากันเอาเข้าร่วมการประมูล เพื่อเอาเงินไปบริจาคกัน อย่างเนืองแน่น
นางแบบแต่ละคนพากันเดินโชว์ของที่ตนเองได้รับมาอย่างมืออาชีพก่อนจะมาถึงคิวของเอลล่า หญิงสาวเดินเฉิดฉายออกมา จนคนทั้งงานพากันตบมือให้อย่างพออกพอใจ เพราะหญิงสาวนั้นถือว่ากำลังมาแรงและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายทั่วไปเลยก็ว่าได้ แต่พอนางแบบสาวกำลังจะเดินกลับไปยืนเรียงกับพวกนางแบบคนอื่นๆที่เดินออกมาก่อน เจนนี่ได้โอกาส แกล้งเดินหลีกทางแต่ขากลับไปเกี่ยวเอาขาเรียวของเอลล่าจนเธอเดินเซ ก่อนจะก้าวขาลงจากเวทีอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความสูงของเวทีและรองเท้าที่ใส่ นางแบบสาวจึงเซล้มลงไปทันทีที่ขาถึงพื้น ทำเอาคนทั้งงานที่จ้องมองอยู่ถึงกับตกตะลึงก่อนที่เสียงเซ็งแซ่จะดังขึ้น พร้อมๆกับการวิ่งเข้ามาหานางแบบสาวที่พลัดตกเวทีกันแทบจะทันที
“น้องเอล!! เป็นอะไรไหมคะ”
เสียงเจ้าหน้าที่หน้าเวทีที่รีบวิ่งเข้ามาถามขึ้นอย่างตกใจ ที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกลางงานแบบนี้
“เอลไม่เป็นไรแต่ว่าขาเจ็บ โอ๊ย! น่าจะขาแพลงน่ะค่ะ”
นางแบบสาวบอกออกมา พร้อมกับพยายามนั่งให้ได้ท่าที่สุด เพราะตอนนี้เธอทั้งเจ็บขา ทั้งเริ่มอายสายตาคนทั้งงาน และที่สำคัญ เธอรู้ว่าเจนนี่จงใจเดินเข้ามาเกี่ยวขาเธอบนเวที
“เดี๋ยวผมดูให้เอง ขอโทษนะครับ”
อยู่ดีๆก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น เมื่อเขาเดินแหวกวงเจ้าหน้าที่ที่มุงอยู่เข้ามาได้พร้อมกับนั่งลงแล้วจับขาเรียวตรวจดูทันที ทำเอาเอลล่าที่เงยหน้าขึ้นมามองถึงกับต้องตกตะลึง เมื่อคนตรงหน้าคือหมอคนเดียวกันกับที่จับเธอตรวจภายใน
“โอ๊ย!!!”
“อยู่เฉยๆก่อนสิครับ เดี๋ยวผมขอดูก่อน ขาคุณน่าจะเป็นหนักนะ กระดูกภายในอาจจะร้าวด้วย ผมว่าพาคนเจ็บไปโรงพยาบาลดีกว่านะครับ ถ้ายังอยากให้เธอกลับมาเดินได้อีกครั้ง”
นางแบบสาวรีบชักขาหนีทันที โดยลืมไปว่าเธอเจ็บขาอยู่จนต้องร้องออกมาอีกรอบจนได้ ก่อนที่คนทั้งงานจะตกตะลึงออกมาอีกรอบ เมื่อนายแพทย์หนุ่ม ผู้มากความสามารถดันสันนิษฐานอาการออกมาซะหนักหนาสาหัส ถึงขั้นอาจเดินไม่ได้อย่างนั้น ทำเอาพวกเจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหารถกันจ้าละหวั่น ส่วนนายแพทย์หนุ่มนั้นได้แต่แอบยิ้มในใจที่ได้แก้เผ็ดนางแบบสาวบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ยังไงเธอก็ควรไปโรงพยาบาลอยู่ดีเพราะขาของเธอเริ่มบวมขึ้นมาแล้ว
“เดี๋ยวไปโรงพยาบาลนี้นะครับ อยู่ใกล้ด้วย”
เมื่อสิ้นสุดคำพูดของนายแพทย์หนุ่ม เจ้าหน้าที่ในงานก็รีบมาอุ้มนางแบบสาวออกไปขึ้นรถที่เตรียมเอาไว้ทันที เพราะตอนนี้ในงานเริ่มวุ่นวายแล้ว และยังไงงานยังคงต้องดำเนินต่อไปอีก เพราะนี่พึ่งเริ่มงาน
“สำออย ชิส์!”
เจนนี่แอบเบะปากแล้วพูดออกมาในใจ ที่เห็นใครต่อใครต่างเข้ามาประคบประหงมเอลล่า รวมทั้งพี่หมอสุดหล่อของเธอด้วยอีกคน ที่ดันวิ่งเข้ามาดูอาการให้กับคู่อริของเธอ จนเธอแทบอยากกระโดดลงไปกระชากตัวเอาออกมาจากวงล้อมนั้น แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเธอยังต้องยืนเฉิดฉายอยู่บนเวทีต่อ