“คุณตาขา...พอลี่กลับมาแล้ว ลุงเคซื้อตุ๊กตาแพนด้าให้ด้วยค่ะ”
หนูน้อยวิ่งเข้ามาหาผู้เป็นตาในห้องรับแขก โดยไม่สนใจเลยว่าตอนนี้คุณตากำลังมีแขก
รักชาติรีบอ้าแขนรอรับหลานสาวทันที เมื่อเห็นว่ากำลังวิ่งมาหา แล้วก็อุ้มขึ้นมานั่งบนตักตน
“ไปเที่ยวไหนบ้างจ๊ะ กลับมาเย็นเลย” เอ่ยถามหลานสาว
“พอลี่...คุณตามีแขกอยู่ พอลี่มาหาหม่ามี๊มาลูก”
รัตนาเดินเข้ามาเห็นว่ามีบุคคลที่สามนั่งอยู่กับพ่อของตน จึงเรียกลูกสาวมาหาตน
“นั่นสิ พอลี่มาหาลุงเคมา เดี๋ยวเราไปเล่นตุ๊กตากันที่ห้องนั่งเล่นดีกว่านะ” พายุเอ่ยขึ้นอีกคน
พอลนั่งหันหลังให้กับทางเข้า รัตนาเลยไม่รู้ว่าเป็นสามีของตนที่มาเป็นแขกพ่อของตน
“ไม่เอา มี๊เตร่าให้พอลี่อยู่กับคุณตาน๊า...”
หนูน้อยกอดแขนคุณตาไว้แน่น กลัวว่าแม่จะมาเอาตัวเองออกไปข้างนอก
“หึๆ ให้พอลี่อยู่กับพ่อนี่แหละต่อ ลูกก็มานั่งข้างพ่อ ส่วนพ่อเคหมดธุระแล้วก็กลับก่อนเลย วันนี้พ่อกับต่อมีแขก พอดีต้องคุยธุระสำคัญกัน เคไม่ว่าอะไรนะ” รักชาติเอ่ยไล่
พายุมองหน้าพ่อของเพื่อนแล้ว ก็พอจะรู้ว่าสำคัญขนาดไหน ก็ดูจากสีหน้าและการเอ่ยไล่เขาเป็นนัยๆ แบบนี้ เขาคงต้องขอตัวกลับแล้วล่ะ
“ครับคุณพ่อ ต่อ...เรากลับก่อนนะ พอลี่...ลุงเคกลับก่อนนะ พรุ่งนี้ลุงไม่ได้มารับไปเที่ยวนะ พอดีลุงต้องไปเกาหลีสามสี่วัน เดี๋ยวจะซื้อของมาฝากนะคนสวยของลุง”
“ค่า...ลุงเค...พอลี่อยากได้หมีแพนด้าอีกตัว ลุงเคซื้อมาให้อีกนะคะ พอลี่จะรอลุงเคกลับมานะคะ...”
หนูน้อยพอลี่โบกมือบ๊ายบายคุณลุงผู้แสนดีของตน
“จ้า ลุงกลับก่อนนะ ต่อด้วย เรากลับก่อนนะ สวัสดีครับคุณพ่อ”
“จ้า เดินทางปลอดภัยนะเค” รัตนาเอ่ยอวยพรเพื่อนก่อนจะเดินทางพรุ่งนี้
“ขอบคุณนะต่อ ไปล่ะครับคุณพ่อ” พายุยกมือไหว้รักชาติอีกครั้ง
“อืม!...ไปดีมาดีนะพ่อเค”
รักชาติเอ่ยอวยพรพายุ แล้วพายุก็เดินออกจากห้องรับแขกของบ้านไป ส่วนรัตนาก็งงว่าแขกของพ่อเป็นใคร แถมนั่งนิ่งเงียบหันหลังให้อีก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอและลูกด้วย นี่ยังงงอยู่นะ เพื่อให้ความกระจ่างแก่ตัวเอง หญิงสาวจึงเดินไปนั่งข้างกายผู้เป็นพ่อ
เมื่อได้เห็นหน้าของแขกพ่อแล้ว หญิงสาวแทบเป็นลม เมื่อคนที่ไม่เคยคิดจะเจออีก กลับต้องมาเจออีกครั้ง น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลอาบสองแก้มเนียนออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ จนทำให้พอลที่จ้องมองเธอตั้งแต่นั่งลงถึงกับเจ็บปวดตามไปด้วย
“หม่ามี๊ร้องไห้ทาม...มาย...คะ...” หนูน้อยพอลี่เอ่ยถามด้วยความซื่อ
“ฝุ่นเข้าตามี๊จ้า ไม่มีอะไรหรอก มานั่งบนตักมี๊ดีกว่านะ”
หญิงสาวปาดน้ำตาพร้อมกับรับลูกมานั่งกอดด้วยความหวงแหน
“น้องต่อ...พี่คิดถึง...”
พอลเอ่ยออกมาเป็นประโยคแรกที่ได้เจอกับหญิงสาวอีกครั้ง หลังจากผ่านมา 5 ปีแล้วที่ไม่ได้เจอหน้างามของหญิงสาว
“คุณพ่อทำไมเปิดบ้านให้เขาเข้ามาคะ แล้วนี่ธุระอะไรของคุณพ่อที่ว่าเกี่ยวกับต่อและลูกของต่อคะ”
หญิงสาวไม่สนใจคำว่าคิดถึงของชายหนุ่มแม้แต่น้อย
“ลูกคือว่าพอลเขาอยากขอโอกาส พ่อว่าลูกน่าจะให้โอกาสพี่เขานะ อีกอย่างต่อกับพี่เขายังไม่หย่ากันเลย พ่อว่าถึงเวลาที่ลูกควรทำทุกอย่างให้ถูกต้องแล้วนะ”
“น้องต่อ พี่ขอโอกาสให้พี่ได้ดูแลน้องกับลูกเถอะนะ ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้วผู้ชายเลวๆ เหมือนเมื่อห้าปีก่อน จะมีแต่พอลที่รักเดียวใจเดียว”
ชายหนุ่มรีบเอ่ยถึงจุดประสงค์ของตน
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เจ็บ เจ็บมากด้วย เจ็บจนแทบคิดว่าตัวเองจะทนอยู่ต่อไม่ได้ แต่เมื่อคิดว่าสักวันจะต้องได้อยู่กับหญิงสาวที่รัก ชายหนุ่มจึงตั้งใจปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลา 5 ปี และมันก็ดีจริงๆ ด้วย ตลอด 5 ปี ไม่เคยข้องเกี่ยวกับหญิงใดเลย ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครเลย เขาก็แปลกใจตัวเองว่าอดทนกับเรื่องบนเตียงมาได้ยังไงตั้ง 5 ปี
“มี๊เตร่า...รู้จักคุณลุงหน้าหล่อนี้ด้วยเหรอคะ พอลี่ก็คุ้นหน้าคุณลุงเหมือนกัน แต่ยังคิดไม่ออกค่า...”
หนูน้อยพอลี่จ้องมองหน้าของพอลอยู่นานแล้ว แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
“พอลี่รักมี๊ไหมจ๊ะ” รัตนาไม่ตอบ แต่กลับถามลูกสาวแทน
“ร๊าก...ร๊ากม๊าก...ด้วยค่า...” หนูน้อยตอบพร้อมกับกอดผู้เป็นแม่แน่น
“ต่อเอาพอลี่มาให้พ่อ แล้วลูกคุยกับพอลตามลำพังแล้วกันนะ และจะตัดสินใจอะไรก็คิดให้ดีๆ ก่อนนะลูก คิดถึงพอลี่เข้าไว้”
รักชาติอุ้มหลานสาวเดินออกจากห้องไป ตอนนี้ในห้องรับแขกก็เหลือแต่พอลและรัตนาเพียงลำพังเท่านั้น
หญิงสาวรู้ว่าผู้เป็นพ่อหมายถึงอะไร จะทำเพื่อลูกหรือทำเพื่อตัวเองดีกันแน่ แต่ทุกวันนี้พอลี่ก็ไม่เคยถามหาผู้เป็นพ่อเลยสักครั้ง แบบนี้ขออยู่กันสองแม่ลูกดีกว่า เพราะตลอดเวลา 5 ปี เธอก็เลี้ยงลูกของเธอได้ ไม่เห็นจะเหนื่อยยากอะไรเลย
“พี่พอลกลับไปเถอะค่ะ เรื่องของเรามันจบไปตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว ในเมื่อพี่มักมาก ไม่รู้จักพอ ก็สมควรแล้วที่จะอยู่โดยไม่มีต่อ”
หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงเครือ ใช่...ตอนนี้เธอกำลังร้องไห้ เพราะตลอดเวลาที่ห่างกัน ไม่เคยมีวันไหนจะลืมชายหนุ่มได้เลย ยิ่งห่างยิ่งคิดถึง ยิ่งห่างยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน มันจึงยากที่จะตัดใจจากพ่อของลูก
“ไม่!...พี่จะไม่กลับไปตัวคนเดียวเหมือนเมื่อห้าปีก่อนอีกแล้ว พี่จะกลับก็ต่อเมื่อน้องต่อกลับไปกับพี่เท่านั้น น้องต่อไม่รู้หรอกว่าบ้านที่ไม่มีต่อ มันเหงาทรมานเพียงไร บ้านหลังใหญ่แต่ไร้คนที่อยากให้อยู่ ไร้หัวใจของตัวเอง มันเหน็บหนาวเพียงไร พี่ทำทุกอย่าง เลิกเล่น เลิกเที่ยว ตั้งใจทำงานตลอดห้าปี ไม่สนใจหญิงอื่น เพราะผู้ชายคนนี้ต้องการมีเพียงน้องต่อคนเดียว พี่ยังยืนยันคำเดิมเหมือนเมื่อห้าปีที่พี่มาตามต่อกลับบ้าน พี่รักต่อนะ ต่อเป็นทุกอย่าง เป็นลมหายใจของพี่ ทุกวันนี้พี่อยู่ได้ก็เพราะพี่หวังว่าสักวันน้องต่อจะกลับมาอยู่กับพี่”
“อึก!...พี่อย่าพูดเลยค่ะ เราหย่ากันเถอะ ต่อไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่อยากกลับไปเป็นผู้หญิงโง่คนนั้นอีกแล้ว อีกอย่างต่อกลับไปอยู่กับพี่ไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ต่อมีลูกแล้ว” หญิงสาวเอ่ยทั้งน้ำตา
‘เขารักเธอจริงๆ เหรอ หรือว่าเขาต้องการจะเล่นตลกกับเรา’ เอ่ยถามตัวเองในใจ
“พี่ไม่หย่า พี่รู้ว่าต่อมีลูกแล้ว หนูพอลี่น่ารัก พี่จะดูแลให้ดีเหมือนลูกในไส้ของพี่ ขอแค่เพียงให้โอกาส และให้อภัยพี่อีกครั้ง พี่สัญญาจะเป็นพ่อที่ดีให้พอลี่ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นพ่อของเด็ก แต่พี่เต็มใจรับเป็นลูกของพี่เอง”
“แล้วพี่จะทำยังไง พอลี่เป็นตัวแทนความรักของต่อกับพ่อของพอลี่ ต่อจะมั่นใจได้ยังไง หากว่าต่อกับพอลี่ไปอยู่กับพี่ พี่จะเป็นพ่อที่ดีให้พอลี่ได้ไหม ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ลูกของพี่” รัตนาลองถามดู
เจ็บ...เมื่อได้ยินว่าหนูน้อยเป็นตัวแทนความรักของเธอกับพ่อของเด็ก แล้วแบบนี้เขาจะมีโอกาสแทรกตรงกลางได้ไหมหนอ...ไม่รู้หรอกว่าพ่อของเด็กหายไปไหน แต่ในเมื่อหญิงสาวพูดออกมาแบบนี้ แสดงว่าให้โอกาสเขาแล้ว
“พี่จะดูแลให้ดีที่สุด ลูกของต่อก็เหมือนลูกของพี่ พี่รักต่อมากนะ และจะรักลูกของต่อด้วย ขอเพียงให้โอกาสและกลับไปอยู่กับพี่เถอะนะ”
“ต่อจะมั่นใจได้ยังไงว่าเหตุการณ์จะไม่ซ้ำรอยเหมือนเมื่อห้าปีก่อน” เธอรักเขา อยากกลับไปอยู่กับเขา มีหรือจะยอมให้โอกาสหลุดมือไป
“เอาหัวใจพี่เป็นประกัน” เอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น
“ต่อจะให้โอกาสพี่ครั้งนี้ครั้งเดียวพอ หากอนาคตพี่ทำตัวเหมือนเดิมอีก ก็คือจบ ไม่ต้องมาเจอ มาพูดกันอีกเลย”
“ขอบคุณมากๆ ที่ให้โอกาสผู้ชายอย่างพี่ เรากลับบ้านเราวันนี้เลยนะ กลับไปดูว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม พี่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปยุ่งในห้องนอนของเราเลย ตลอดเวลาที่น้องต่อไม่อยู่ พี่ก็ไปนอนห้องรับแขก ไม่กล้าเข้าไปนอนห้องนอนของเราสองคน”
“ค่ะ ขอต่อเก็บของก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องหรอกลูก พ่อให้เด็กเก็บของรอไว้ก่อนแล้ว” รักชาติและพอลี่ที่แอบฟังอยู่หน้าห้องเดินเข้ามา ทุกอย่างนั้นเขาเตรียมพร้อมไว้แล้ว
“คุณพ่อ...” หญิงสาวเอ่ยได้เพียงเท่านั้น
“อย่าตำหนิคุณพ่อเลย พี่เป็นคนบอกคุณพ่อให้เก็บของน้องต่อกับลูกเอง”
พอลเอ่ยพร้อมกับลุกเดินไปรับหนูน้อยพอลี่มาอุ้ม เขารู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้เป็นพิเศษไม่รู้เพราะอะไร รู้แต่ว่าต่อไปนี้เขาจะดูแลหนูน้อยกับแม่ให้ดีที่สุด
พอลี่ก็ยอมให้ชายหนุ่มอุ้มง่ายๆ ซึ่งต่างจากปกติ หากไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย หนูน้อยจะร้องไห้และไม่ให้เข้าใกล้เลย แต่สำหรับพอล พอลี่กลับยอมให้อุ้มง่ายๆ
“คุณลุงหล่อจาง...” หนูน้อยเอ่ยชมคนอุ้ม
รัตนาเห็นลูกสาวยอมให้พ่ออุ้ม น้ำตาของผู้เป็นแม่ก็ไหลออกมาอีกครั้ง เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่พอลี่ได้รับสัมผัสจากพ่อ รักชาติเองก็เช่นกัน รู้สึกไม่ต่างกับลูกสาว เมื่อเห็นพ่อลูกได้อยู่ด้วยกัน น้ำตาก็ไหลตามลูกสาวอีกคน
“เรียกแด๊ดดี้สิจ๊ะพอลี่” ชายหนุ่มบอกหนูน้อยในอ้อมแขน
“คุณลุงไม่ใช่แด๊ดดี้ของพอลี่ ไม่เอาไม่เรียก พอลี่อยากให้ลุงเคเป็นแด๊ดดี้” หนูน้อยร้องปฏิเสธทันควัน
พอลรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงอกซ้าย เมื่อหนูน้อยร้องปฏิเสธว่าตนไม่ใช่พ่อ แต่จะให้ชายอีกคนเป็นพ่อ ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้นะ
รัตนากับรักชาติถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าพอลี่จะปฏิเสธเช่นนี้
“พอลี่จ๊ะ เรียกแด๊ดดี้สิจ๊ะ ลุงเคไม่ใช่แด๊ดดี้ของลูกนะ คนนี้ต่างหากคือแด๊ดดี้ของพอลี่” รัตนาเอ่ย
“ไม่เอา...พอลี่ไม่ให้คนนี้เป็นแด๊ดดี้ จะให้ลุงเคเปน...ฮือๆ”
ยังไงก็ไม่ยอมรับ พร้อมกับดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของคนที่แม่ของตนให้เรียกว่าพ่อ
พอลส่งหนูน้อยให้ผู้เป็นแม่ทันที เมื่อตอนนี้หนูน้อยไม่ชอบเขาแล้วเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว
“ฮือๆ...หม่ามี๊...พอลี่ไม่เอาคนนี้เป็นแด๊ดดี้...จะเอาลุงเค...ฮือๆ” เมื่อมาอยู่ในอ้อมกอดแม่ก็ร้องไห้ใหญ่เลย
“ไม่ร้องนะพอลี่ ไม่เอาคนนี้เป็นแด๊ดดี้ก็ได้จ้า มี๊เตร่าไม่บังคับแล้ว แต่เราจะไปอยู่บ้านกับลุงพอลเขานะลูก เราจะย้ายไป ส่วนคุณตาจะอยู่บ้านหลังนี้”
พอลมองสองแม่ลูกคุยกันด้วยความอิจฉารัตนาที่พอลี่เชื่อฟัง ทีกับเขาตอนแรกยอมให้อุ้ม แต่ตอนนี้รู้สึกหนูน้อยจะเกลียดเขาเสียแล้ว ทำไมพอลี่ไม่ใช่ลูกเขากับเธอนะ