“ปราการเรื่องที่ฉันจะเดินทางไปเชียงใหม่มีใครทราบบ้างหรือเปล่า” คุณานนต์ถามออกมาอย่างสงสัย เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนอื่นจะมารู้ตารางงานของเขาดีขนาดนี้
“ก็มีแต่ผู้บริหาร แล้วก็พวกเรานะครับบอส ถามทำไมครับ”
“แล้วทำไมคนที่ส่งของมาถึงรู้ว่าฉันจะไปเชียงใหม่ล่ะ”
“ผมไม่ทราบครับบอส เพราะปกติ พวกเราก็ไม่ได้ปิดบังอะไรอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“นายออกไปเถอะ บอกคนรถเตรียมตัวไปสนามบินตอนสี่โมงเย็นด้วยล่ะ”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
คุณานนต์นั่งมองกาแฟหอมกรุ่นกับขนมหน้าตาน่าทาน แต่เขาไม่กล้ากิน เพราะไม่รู้ว่าใครส่งมา จึงสั่งให้ปราการกับผู้ช่วยเลขากินแทน ถ้าสองคนนั้น กินแล้วไม่มีอาการอะไรข้างเคียงเขาถึงจะแน่ใจว่าไม่มีใครใส่ยาอะไรลงไปในอาหารพวกนี้
“อร่อยมากเลยครับบอส รสนิยมการเลือกของกินดีมากเลยครับ ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันผมคงอ้วนแน่ครับ”
“แล้วนายคิดว่าใครพอจะรู้ตัวไหม”
“เรื่องนี้ต้องสืบครับบอส”
“ได้เวลาไปสนามบินแล้ว ไปกันเถอะ บอกเมษาเข้ามาเอาเอกสารด้วยล่ะ เอาไปส่งตามแผนก ถ้ามีอะไรเร่งด่วนให้โทรหานาย”
“ครับบอส”
ปราการเดินไปสั่งงานเมษาด้านนอก คุณานนต์หยิบเอาการ์ดทั้งสองใบยัดใส่กระเป๋าไปด้วย ก่อนจะหยิบเสื้อสูทขึ้นมาสวมใส่ เมื่อเช็กความเรียบร้อยแล้วจึงลงไปขึ้นรถที่มีคนขับเปิดประตูรออยู่ก่อนแล้ว
กว่าจะเช็กอินเสร็จจนตอนนี้เครื่องแลนด์ดิงที่เชียงใหม่เรียบร้อย เขาไม่ต้องไปรอรับกระเป๋าเพราะมาแค่สองวัน ปราการถือขึ้นเครื่องมาด้วย เดินออกไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ที่เดิมเพื่อตรงไปยังโรงแรมที่พัก เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้วยังมาเจอเรื่องแปลกประหลาดอีก ชายหนุ่มรินเหล้าชนิดหนึ่งใส่แก้ว ก่อนจะสาดมันเข้าปาก ความแสบร้อนของลำคอทำให้เขารู้สึกอุ่นวาบในช่องท้อง
จะกี่ปีเชียงใหม่ตอนกลางคืนก็ยังงดงาม โรงแรมแห่งนี้เขามาพักทุกครั้งที่เดินทางมาทำธุรกิจที่เชียงใหม่ ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเห็นว่าดึกมากแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะล้มตัวลงนอนเพราะพรุ่งนี้เขามีนัดสำคัญ
….....
พิริยฉัตรนั่งเอนหลังอยู่บนที่นอนโดยในมือมีโน้ตบุ๊กวางอยู่บนตัก เธอกำลังค้นหาร้านเพื่อภารกิจของวันพรุ่งนี้ โจทย์คือพรุ่งนี้จะเซอร์ไพรส์เขาด้วยอะไรดีนะ เธอมีเบอร์โทรศัพท์เขากับไอดีไลน์แล้วแต่ยังไม่กล้าส่งอะไรไป ก่อนจะไปเจอร้านถูกใจจึงกดเข้าไปดู เลื่อนหาสิ่งของที่อยากได้กดสั่งให้ไปส่งโรงแรมตอน 9 โมงเช้า พร้อมข้อความที่จะแนบไปกับของขวัญ พิมพ์เสร็จเธอจึงปิดไฟหัวเตียงนอนสีหน้ายิ้มน้อยๆ อย่างซุกซน ‘นอนหลับฝันดีค่ะเทมส์’
9.00 a.m. Chiangmai
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูหน้าห้อง คุณานนต์คิดว่าเป็นเลขาคนสนิทมาเคาะจึงเปิดประตูออกไปดู เห็นเป็นพนักงานโรงแรมยื่นกล่องของขวัญที่แพ็กมาอย่างสวยงามกับกุหลาบสีแดงหนึ่งกล่อง เขารับมาอย่างงงๆ ก่อนจะปิดประตู
เขารีบเปิดการ์ดที่แนบมาด้วย อ่านด้วยใจระทึก ขนาดเขามาต่างจังหวัดเธอยังรู้เหรอว่าเขาพักที่ไหนห้องอะไร หรืองานนี้จะมีหนอนเขาโดนหักหลังอย่างนั้นเหรอ เขาต้องรู้ให้ได้ หรือข้อมูลเขาจะโดนแฮกเกอร์
Mission days 2
Dear Handsome
Good Morning did you sleep well last night?
Well well well … I hope my mission was successful, I am very excited to meet you in person.
So have a lovely day I hope you like your gifts, I took my time choosing them
Bye for now … P.
(ภารกิจวันที่ 2
ถึงคุณสุดหล่อ
สวัสดีตอนเช้าค่ะ เมื่อคืนคุณหลับสบายดีหรือเปล่าคะ?
Well well well! … ฉันหวังว่าภารกิจของฉันจะสำเร็จ ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้เจอคุณ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณ และหวังว่าคุณจะชอบของขวัญที่ฉันส่งไปนะคะ ฉันใช้เวลาเลือกตั้งนาน ไปก่อนหละ พี.)
ชายหนุ่มเปิดกล่องของขวัญออกมา เป็นที่โกนหนวดมีทั้งแบบไฟฟ้าและแบบธรรมดา ยี่ห้อเดียวกับที่เขาใช้เสียด้วย หึ ไม่เลว เขายอมรับในความพยายามของเธอ เอาเป็นว่าเขาจะยอมรับของพวกนี้ไว้ มันต้องมีสักวันที่เขาต้องได้เจอเธอตัวจริง รอให้เขากลับไปกรุงเทพก่อนเถอะ เขาต้องจริงจังกับเรื่องนี้เสียแล้ว และเขาต้องทำแบบลับๆ คนเดียว เพราะไม่แน่ใจว่าเลขาตัวดีจะมีเอี่ยวเรื่องนี้หรือเปล่า เพราะคนที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาก็มีแต่เลขานี้แหละ เพราะครอบครัวไม่มีวันรู้ตารางงานเขาแน่นอน
……
หลังกลับมาจากเชียงใหม่คุณานนต์ยังใช้ชีวิตปกติ คือไปทำงาน เจอเพื่อนบ้างตามประสาหนุ่มโสด และยังคงเป็นปริศนาดำมืดของเขาต่อไปว่าใครที่เพียรส่งของขวัญมาให้
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูก่อนที่ปราการจะถือกล่องของขวัญมาวางลงบนโต๊ะเจ้านายอย่างอารมณ์ดี
“อะไรปราการ” เอ่ยถามออกไปทั้งที่รู้ว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาเริ่มทำใจให้ชินแล้ว เพราะจะว่าไปคนที่ส่งของขวัญมาให้ก็ไม่ได้คุกคามมาก (หมายถึงไม่ได้ข่มขู่หรือใช้ถ้อยคำหยาบคายอะไร ในข้อความจดหมายทุกฉบับมีแต่คำที่ทำให้เขาอดยิ้มไม่ได้ บ่งบอกว่าคนส่งมีนิสัยขี้เล่นและน่าจะเป็นคนร่าเริง เพราะชอบใช้คำหยอกเย้ามาในจดหมาย) ชายหนุ่มหยิบกุหลาบแดงขึ้นมาดู ก่อนจะยกกล่องของขวัญที่ถูกแพ็กอย่างสวยงามขึ้นมา เขาค่อยๆ เปิดมันออกมาเป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีดำหรู ด้านในเป็น Cufflinks (คัฟลิงก์) สีน้ำเงิน ทรงกลม ตรงกลางเป็นรูปดอกไม้
“ลงทุนมากเลยนะครับบอส เหมาะกับบอสมากเลยครับ”
“…” คุณานนต์ไม่พูดอะไร แต่เขาชอบมันมาก ดูได้จากสายตาที่พราวระยับนั่น คนที่อยู่กับคุณานนต์มานานจะรู้ว่าเขากำลังเจอสิ่งที่ถูกใจ
“บอสให้ผมจ้างนักสืบดีไหมครับ เราจะได้รู้ว่าใคร เพราะถ้าเป็นคนธรรมดาคงไม่มีความสามารถซื้อของพวกนี้ได้แน่ครับ ดูของแต่ละอย่างที่ถูกส่งมา เรียกได้ว่ารสนิยมเป็นเลิศมากเลยครับ”
“อืม นายไปจัดการหานักสืบเก่งๆ นะ ค่าจ้างเท่าไหร่ฉันยอมจ่าย”
“ได้ครับบอส”
“ปราการ! นายไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ใช่ไหม เพราะนายเป็นคนที่รู้จักฉันดีที่สุด” คุณานนต์เรียกชื่อลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงกดต่ำ จนอีกฝ่ายสะดุ้ง
“ผมจะไปทำแบบนั้นทำไมล่ะครับบอส” ปราการรีบแก้ตัวเป็นพัลวัล เพราะเขาคงไม่กล้าทิ้งเงินเดือนเรือนแสนที่เจ้านายแสนประเสิร์ฐให้มาแน่นอน ถึงเขาจะต้องหัวหมุนตลอดวันทั้งเรื่องงานและก็เรื่องส่วนตัว แต่ยังไงเขาก็เป็นลูกน้องที่เคารพรักเจ้านายมาก เพราะในประเทศไทยนี้คนที่ได้เงินเดือนเยอะแบบเขาคงมีไม่กี่คน
“นายอาจจะได้ค่าจ้างมา บอกฉันสิใครจ้างนายมา แล้วค่าจ้างเท่าไหร่” คุณานนต์ยังจี้ปราการไม่เลิก
“บอสเชื่อใจผมได้ครับ เรื่องนี้ผมไม่มีส่วนร่วมจริงๆ หรือจะเป็นคุณมะปรางครับ เพราะท่านอยากให้บอสแต่งงาน”
“แม่ฉันไม่ได้รู้ตารางงานของฉัน นายคิดว่าใครจะรู้ว่าฉันพักห้องไหนตอนเราไปเชียงใหม่ ก็มีแต่นายที่รู้” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาตามหลักความเป็นจริง เพราะถึงแม่ของเขาอยากจะให้เขาแต่งงาน ก็ไม่คิดว่าท่านจะทำแบบนี้