bc

นวดกระชากใจ

book_age4+
3
ติดตาม
1K
อ่าน
love-triangle
เมือง
like
intro-logo
คำนิยม

ชายสองหญิงหนึ่ง สุดท้ายเธอต้องเลือกใครสักคน ไม่ว่าเธอต้องเลือกใคร ต้องมีฝ่ายหนึ่งที่เจ็บ แต่ถึงเป็นเช่นนั้นเธอก็ต้องเลือกใครสักคน เพื่อมาอยู่เคียงข้างเธอ ในวันที่เธอต้องการคนรักเพื่อคลายปมแผลในใจ ให้จางหายในวันที่เธอผ่านความเจ็บปวด

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
รักแรกพบ
ตอนที่1 รักแรกพบ ใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ บรรดาร้านนวดในตัวเมืองเชียงใหม่ต่างคึกคัก เพราะลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต่างเข้ามานวดไม่ขาดสาย ซึ่งร้านกนกพรนวดเพื่อสุขภาพก็ไม่น้อยหน้า ลูกค้าทั้งจีน ฝรั่ง ผลัดเปลื่ยนหมุนเวียนกันมา ทำให้บรรดาหมอนวดทำงานกันพัลวัน แทบไม่มีเวลากินข้าวกันเลย หนึ่งในนั้นคือมิ้นหมอนวดนวดสาวฝีมือดี ผู้ที่สู้งานจนร้านปิด "มิ้นรับลูกค้าหน่อย "เจ๊พรเจ้าของร้านส่งเสียงเรียก "ค่ะ แต่ไม่ใช่คิวหนูนี่"มิ้นหยุดคุยกับเจ๊พร "ไม่ใช่ก็นวดไปเหอะ หมอนวดที่นี่มีแต่คนรวย"เจ๊พรประชดบรรดาหมอนวดที่เกี่ยงกัน เพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน "ค่ะ"มิ้นรับคำแล้วเดินไปหาลูกค้าที่นั่งรอ เมื่อมิ้นเดินไปถึงลูกค้าหนุ่มชาวจีน ก็ยกมือไหวพร้อมกล่าวทักทาย "สวัสดีค่ะ"มิ้นยิ้มให้ลูกค้าชาวจีน "ผมนวดเท้าครับ"หนุ่มจีนพูดเป็นภาษาอังกฤษ "เชิญไปที่เก้าอี้นวดเท้าค่ะ"มิ้นเดินนำหน้าหนุ่มจีน และพามาที่เก้าอี้นวดเท้า หนุ่มจีนนั่งลงและมองหน้ามิ้นพร้อมยิ้มให้ จึงทำให้มิ้นรู้สึกเขิน เพราะหนุ่มจีนคนนี้หล่อหุ่นดีผิวขาวใส มิ้นที่ว่าขาวยังดูหมองไปถนัดตา มิ้นยืนเขินชั่วครู่แต่นึกขึ้นได้ เธอจึงไปเตรียมอุปกรณ์การล้างเท้า ไม่นานนักมิ้นก็มาถึงและจัดการล้างเท้าหนุ่มจีน ในระหว่างล้างเท้าหนุ่มจีนก็ยังจ้องมองมิ้นไม่ละสายตา มิ้นนำผ้าชุบน้ำบิดพอหมาดแล้วนำมาเช็คบริเวณหลังเท้าจนสะอาด ต่อด้วยฝ่าเท้าที่ขาวผ่องของหนุ่มจีน แม้แต่นิ้วเท้าทุกซอกมุมมิ้นเช็ดอย่างถี่ถ้วน หลังจากนั้นมิ้นน้ำผ้าชุบน้ำอีกครั้งแล้วบิดให้พอหมาดเช็ดตั้งแต่ข้อเท้ายันหัวเข่า แล้วสลับไปทำเหมือนทุกอย่างเท้าและขาอีกข้างหนึ่ง เมื่อมิ้นทำความสะอาดเสร็จสิ้น เธอจำน้ำกะละมังน้ำล้างเท้าไปเก็บไว้ แล้วเธอก็เดินมาที่นั่งเดิม มิ้นใช้สองมือนวดหลังเท้าและฝ่าเท้าโดยใช้นิ้วหัวแม่มือ บีบและคลึงจนทั่วเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากนั้นเธอนำน้ำมันบีบใส่มือและชโลมเท้าพร้อมนวดสัมผัสเน้นเส้น หนุ่มจีนรู้สึกดีกับมิ้น เพราะว่าถ้าดึกมากเขามักถูกปฎิเสฐการนวด แต่มิ้นกับกระตือลือล้นไม่มีอิดอ๊อด และบริการให้เขาอย่างดีจนไม่มีที่ติ "ผมขอโทษด้วยนะครับที่มาดึกเกินไป"หนุ่มจีนจู่ๆก็พูดขึ้น "ไม่เป็นไรค่ะ"มิ้นเงยหน้าขึ้นพร้อมยิ้มให้ "คุณคงเหนื่อยมาก แต่ก็ยังนวดให้ผม" "เป็นหน้าที่ค่ะ" ซึ่งในเวลานี้ มิ้นก็ไม่ได้สนใจหนุ่มจีนมากนัก เพราะเธอเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย มิ้นโหมงานมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน จนเกือบถึงวันสงกรานต์ที่จะเริ่มพรุ่งนี้ ในขณะที่เธอเริ่มง่วงนอนก็ได้ยินเสียงหนุ่มจีน "สงกรานต์จัดที่ไหนบ้างครับ" "รอบคูเมืองค่ะ มีทุกทีเลย"มิ้นรีบตอบ มิ้นให้คำตอบสั้นเพราะไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะมิ้นอย่างตั้งใจนวดอย่างเดียว ตอนนี้เธอชโลมน้ำมันบนฝ่ามือ ถือลูบไล้ทั่วบริเวณตั้งแต่ข้อเท้ายันหัวเขา "เอ่อ ขอนวดหนักๆได้ไหมครับ" หนุ่มจีนรู้สึกว่าเบาไปหน่อย "ค่ะ"มิ้นรับคำแล้วออกแรงเพิ่มอึก เธอใช้นิ้วหัวแม่มือรีดเส้นด้านข้างขาและร่องหน้าแข้ง หนุ่มจีนพยักหน้าด้วยความพอใจแล้วก้มดูโทรศัพท์ต่อ ในความคิดของเขาช่วงเวลานี้ อยากมีใครสักคนเดินเคียงข้างเล่นน้ำ ซึ่งเขาเดินทางมาคนเดียวจึงทำให้หนุ่มจีนเหงา แต่หนุ่มจีนก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป แล้วหันมาถามมิ้นต่อ "แล้วบริเวณไหนคนเล่นน้ำเยอะครับ" ในขณะนั้นมิ้นกำลังก้มหน้านวดใช้ไม้จิ้มกดจุดต่างบริเวณฝ่าเท้า เมื่อธอได้ยินลูกค้าถามก็ได้เงยหน้าขึ้นและสายตาทั้งสองได้ประสานกัน อย่างไม่ได้ตั้งใจ มิ้นรู้สึกเขินจึงหลบตาต่ำลง "ถ้าคนไปเยอะก็ประตูท่าแพค่ะ. ที่มีลานกว้างๆจะมีชาวต่างชาติไปเล่นเยอะ เพราะเป็นใจกลางเมืองค่ะ" มิ้นยังนวดเท้าอย่างขมักเขม่น "ดีเลย พรุ่งนี้ผมจะได้ไปเที่ยว"หนุ่มจีนยิ้ม "ค่ะ" "ถ้าเป็นกลางคืนล่ะครับ" "กลางคืนก็มีที่เที่ยวปกติค่ะ เพราะสงกรานต์จะจัดกลางวัน" ในขณะที่มิ้นกำลังคุยกับหนุ่มจีน เจ๊พรแกล้งเดินผ่านแล้วพูดเสียงแผ่วเบา เหมือนลมพัดปลิวเข้าทางใบหู "อย่าชวนลูกค้าคุย"เจ๊พรชำเลืองมองมิ้น แล้วเดินต่อไป และพูดทำนองเดียวกันกับหมอนวดอีกคน ที่กำลังชวนลูกค้าฝรั่งคุย หลังจากนั้นมิ้นก็ตั้งหน้าตั้งตานวดเท้าต่อ โดยสลัไปไปเท้าอีกฝั่งหนึ่ง ส่วนหนุ่มจีนเริ่มรู้สึกง่วง เพราะอ่อนเพลียจากการเดินทางเที่ยวในตัวเมืองทั้งวัน เขาจึงปล่อยกายปล่อยใจให้หลับอย่างสุขใจ ข่วงเวลานวดเท้าหนึ่งชั่วโมง มันแสนนานสำหรับมิ้น แต่หนุ่มจีนกับรู้สึกว่ามันเร็ว เมื่อมิ้นปลุกเขาให้ตื่น หนุ่มจีนรู้สึกงัวเงียอยากนอนต่อ แต่ก็ต้องตัดใจ เขาจึงควักเงินในกระเป๋ายื่นให้มิ้น "ขอบคุณค่ะ"มิ้นยกมือไหว้ "ถ้าผมมานวดอีก จะเลือกนวดกับคุณได้ไหม"หนุ่มจีนติดใจการนวดของมิ้น รู้สึกสบายเท้าและขา เขาเลยอยากนวดกับมิ้นอีกครั้ง "ได้ค่ะ" "คุณชื่ออะไรครับ ถ้ามาจะได้บอกชื่อถูก" "มิ้นค่ะ" "มิ้น"หนุ่มจีนย้ำ "ส่วนผม จางเว่ย"จางเว่ยยิ้มเห็นไรฟัน "ค่ะ ยินดีที่รู้จัก"มิ้นยิ้มตอบ "บ่าย"จางเว่ยโบกมือแล้วเดินออกจากร้าน มิ้นยืนยิ้มชั่วครู่แล้วดูเงินที่มือ เธอคลี่ดูซึ่งเป็นแบงก์ร้อยเงินหยวน มิ้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะเป็นทิปที่เยอะพอสมควร "ยิ้มอะไร"นรีเพื่อนสาวเดินเข้ามาหา มิ้นชูแบงก์ร้อยหยวนให้นรีดู "ถึงว่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทีแรกนึกว่าปิ้งบ่าวจีน" "บ้า"มิ้นอมยิ้ม "ร้านช่องไม่ยอมเก็บ คุยกันอย่างกับไม่ได้เจอกันเป็นปี"เจ๊พรตะโกนลั่นร้าน เพราะไม่มีลูกค้าแล้ว "จร้า เจ๊พร คุยนิดคุยหน่อยก็ไม่ได้"นรีบ่นพึมพำ แล้วรีบเก็บร้านตามคำสั่งเจ๊พร เมื่อทั้งสองสาวและหมอนวดคนอื่นเก็บร้านเสร็จจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนมิ้นกับนรียังไม่กลับ และได้ชวนกันไปกาดหลวง ซึ่งเป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เมื่อทั้งคู่มาถึงกาดหลวง จึงรีบเดินไปร้านเสื้อผ้า ซึ่งมีนับสิบร้าน "มิ้นไปดูเสื้อลายดอกไม้กัน ตรงโน้นน่ะ"นรีรีบเดินนำหน้ามิ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงที่ร้านเสื้อผ้า สองสาวต่างเลือกเสื้อผ้าลายดอกคนละสองตัว เพื่อที่จะใส่ไปเที่ยววันสงกรานต์ที่ใกล้มาถึง "พรุ่งนี้จะใส่ต้อนรับวันสงกรานต์ชะหน่อย"นรีกอดถุงเสื้อผ้าไว้แน่น "ย่ะไม่เห่อเลยนะ"มิ้นทำเสียงประชด "ฉันไม่สวยเหมือนเธอนี่ จะใส่ชุดอะไรก็ดูดีไปหมด ฉันเลยต้องใส่อะไรที่มันสะดุดตา" มิ้นเป็นคนผิวขาวตัวไม่สูงมากนัก ส่วนนรีสูงกว่าผิวจะออกสีแทน ทั้งสองพึ่งมาสนิทกันปีเศษๆ นรีกับมิ้นไปเจอกันที่โรงเรียนสอนนวด พอเรียนจบก็ออกหางานพร้อมกัน และก็ได้ทำงานที่เดียวกัน ทั้งคู่อายุไล่ๆกันประมาณยี่สิบปลายๆ ในขณะที่สองสาวหยอกล้อและแซวกันอยู่นั้น ก็ได้มีชายหนุ่มเข้ามาทัก จากด้านหลังของทั้งสองคน "หวัดดีครับ " สองสาวรีบเงยหน้าขึ้นมอง นรีคุ้นๆแต่มิ้นจำได้เลย เขาคือจางเว่ยลูกค้าคนสุดท้ายของเธอ "จำผมได้ไหม"จางเว่ยยิ้มหวานใส่มิ้น "จำได้ค่ะ" "ใคร"นรีพูดเบาๆข้างหูของมิ้น "ก็ลูกค้าเมื่อกี้ไง ที่เป็นคนจีนนะ"มิ้นพูดเสียงเบาๆใส่นรี "อ๋อ บุพเพสันนิวาสจริงๆ"นรีเย้า "บ้า พูดไปเรื่อย"มิ้นศอกกลับเบาๆใส่ท้องนรี "ผมดีใจจังที่เจอพวกคุณ"จางเว่ยยิ้มตาละห้อย "มาได้ไงถึงกาดหลวง"มิ้นพูดขึ้น "ผมเดินมาเรื่อยๆไม่นึกว่าจะมาถึงทึ่นี่" "ไกลมากนะน่ะจากร้านนวดมาถึงนี่" "ใช่ ผมไม่รู้จะกลับถูกหรือเปล่า"จางเว่ยตีหน้าซื่อ "ไม่เป็นไรเดี๋ยวมิ้นเดินไปส่ง"นรีพูดแทรกขึ้นมา "ฉันจะเดินไปส่งได้ไง โรงแรมเขาอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ ถ้าไกลฉันเดินไปไม่ไหวหรอก"มิ้นหันมาตวาดนรี "แหมล้อเล่น แค่อยากให้เพื่อนมีคู่"นรีหัวเราะ "คู่บ้าคูบอซิ"นรียังเข็ดไม่หายกับรักครั้งที่ผ่านมา จางเว่ยมีสีหน้าสงสัยว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน เพราะอีกคนหัวเราะร่วน ส่วนมิ้นหน้านิ่วคิ้วขมวด "ฉันหิวแล้ว หาอะไรกินกันเหอะ"นรีลูบท้องให้มิ้นดู "แม่คุณดึกดื่นป่านนี้ยังจะกินอีก" "ก็คนมันหิวนี่ "นรีพลางมองจางเว่ยที่ยืนงง "เอ่อนี่เธอ ชวนบ่าวจีนไปด้วยซิ"นรีหันมามองมิ้น "บ้าเหรอ จะชวนไปทำไม" "สงสารแกคงเหงามาคนเดียว เราก็เทคแคร์ลูกค้าหน่อย" "มันนอกเวลางานแล้ว"มิ้นหน้าบึ้งนิดหน่อย "เรื่องมากจริง จะนอกหรือในก็ช่างมัน" นรีพูดจบก็หันไปทางจางเว่ยทันที "พวกเราจะไปหาอะไรกินกัน คุณไปกินกับพวกเราไหม"นรีถาม "ไปครับ"จางเว่ยตอบทันที เพราะเขาก็อยากมีเพื่อนเป็นคนไทย ในช่วงที่มาอยู่ที่นี่ "งั้นตามมา" "เธอจะพาเข้าไปกินอะไร"มิ้นจับแขนนรีแล้วถามทันที "ขนมจีนไง ก็คนจีนต้องกินขนมจีน"นรีหัวเราะร่วนอีกครั้ง "เธอก็รู้ว่าไม่ใช่ เขาจะกินได้ไง" "เอาเหอะน่า ถ้ารักจะจีบสาวไทย ต้องหัดกินอาหารไทย" "พูดไปเรื่อยอีกแล้ว"มิ้นตีเบาๆที่แขนนรี ทั้งสามเดินมาไม่ถึงนาทีก็ถึงร้านขนมจีน ซึ่งมีอยู่หลายร้าน นรีจึงเลือกร้านที่ไม่ค่อยมีคน ถ้าคนเยอะจะแออัดและร้อน เพราะเป็นช่วงเดือนเมษายนซึ่งเข้าหน้าร้อนของประเทศไทย "เชิญนั่งค่ะ เอ๊ะชื่ออะไรบ่าวจีนเนี่ย"นรีเอ่ยขึ้น "จางเว่ย"มิ้นพูดแทรกทันที "เชิญนั่งค่ะจางเว่ย"นรีรีบพูดทันที จางเว่ยนั่งลงแล้วมองไปรอบๆ ซึ่งมีร้านขายขนมจีนหลายเรื่อง พร้อมอาหารการกินหลากหลายชนิด "เอาขนมจีนน้ำยาสามจานค่ะ"นรีตะโกนไปยังแม่ค้า สักพักมิ้นก็ถือน้ำมาสามแก้ว เธอยื่นน้ำให้นรีก่อน "น้ำค่ะ"มิ้นยื่นแก้วน้ำให้จางเว่ย แล้วเธอก็นั่งลงข้างๆ จางเว่ยรู้สึกชอบ ในความเป็นกันเองของสองสาว ที่ทำให้เขาคลายเหงาได้บ้าง โดยเฉพาะมิ้นที่รูปร่างหน้าตาสวยคล้ายสาวจีน เพียงแต่จะมีความคมและหวานกว่า ส่วนนรีเขารู้สึกชอบในความอารมณ์ขัน รูปร่างจะใหญ่กว่ามิ้นหน่อย ผิวสีแทน ส่วนหน้าตาจะคมกว่ามิ้นมาก ในระหว่างที่จางเว่ยกำลังคิดอะไรเพลิน แม่ค้าก็นำขนมจีนมาเสริฟให้ "กินเลยซิคะ"นรีพูดขึ้น จางเว่ยยิ้ม และมองจานขนมจีนที่เป็นเส้นสีขาว จะเหมือนเส้นหมี่บ้านเมืองเขาก็ไม่เชิง "เอาผักใส่ด้วยซิคะ"นรีทำตัวอยา่างให้ดู "ครับ"จางเว่ยหยิบแค่ถั่วงอกนิดหน่อย และเขาชำเลืองตาไปมองจานของนรี ที่มีสารพัดผักเต็มงาน จางเว่ยคนให้เข้ากัน แล้วลองชิมช้อนแรก เมื่อรสชาติขนมจีนสัมผัสลิ้นของเขา จางเว่ยถึงกับอึ้งรสชาติที่แปลก เพราะมีหลายรสในจานเดียว เขาจึงตักกินอีกครั้ง แต่คราวนี้รสเผ็ดเริ่มนำโด่ง เขาจึงรีบกลืนและดื่มน้ำตาม ซึ่งในขณะนั้นมิ้นได้มองเห็น อากัปกิริยาของจางเว่ยเธอจึงหยิบแค่บหมูให้จางเว่ย "กินนี้ก่อนซิค่ะ จะได้คลายเผ็ด"มิ้นอมยิ้ม "ขอบคุณครับ"จางเว่ยรีบกัดกินทันที และรสชาติของแค่บหมูถูกปากเขาอย่างมาก จางเว่ยจึงกินจนเกลี้ยงถุง โดยมีมิ้นหัวเราะนิดๆในความเดียงสาอาหารไทยของจางเว่ย "อร่อยมากเลยครับ มีอีกไหม" "มีซิ"มิ้นยื่นให้อีกถุง "อะไรของมันวะ ชวนมากินขนมจีน ดังติดใจแค่บหมู"นรีพูดขึ้น "ก็มันเผ็ดนี่ คนไม่เคยกิน"มิ้นมองจางเว่ยแล้วอมยิ้ม "อร่อยไหม จางเว่ย"นรีหันหน้ามาถาม "อร่อยซิกินสองถุงเลย"จางเว่ยยิ้ม "ไม่ใช่ ฉันหมายถึงขนมจีน"นรีหัวเราะร่วน "อร่อยแต่เผ็ดมาก กินไม่ได้เลย"จางเว่ยตอบซื่อๆ "ฉันขอโทษด้วยนะ นึกว่าคุณกินได้ วันหลังจะให้มิ้นพากินแบบไม่เผ็ด" นรียื่นหน้าไปมองมิ้น "มันเกี่ยวอะไรกับฉัน เจ้ากี้เจ้าการนักนะเราน่ะ"มิ้นมองค้อน "ถ้างั้นผมไปด้วยเลยนะครับ"จางเว่ยหันหน้ามามองมิ้นอย่างขอร้อง "ค่ะ"มิ้นรับปากไว้ก่อน เพราะจะปฎิเสธก็ใช่ที "ตัวดีอิ่มหรือยัง ทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชัก" "จร้า อิ่มแล้ว บ่นเป็นยายแก่ไปได้" "วันนี้ฉันเลี้ยงเองนะ ได้ทิปเยอะ"หลังจากนั้นมิ้นก็เรียกแม่ค้ามาเก็บเงิน เมื่อมิ้นกำลังจะหยิบเงินในกระเป๋า จางเว่ยรีบห้ามไว้ "ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมจ่ายเอง" "ไม่เป็นไรค่ะ " "อย่าเลย ถ้าคุณจ่ายผมจะรู้สึกไม่ดีครับ"จางเว่ยรีบหยิบเงินในกระเป๋า ยื่นให้แม่ค้าในทันที" "เธอก็เรื่องมาก เขาอยากเลี้ยงก็ให้เขาเลี้ยงไปเหอะ "นรีพูดขึ้น "เหมือนเอาเปรียบเขาน่ะ" "เอาปงเอาเปรียบอะไร อย่าคิดมากเลย ให้เขารีบจ่าย เราจะได้ช้อปต่อกัน" "อือ"มิ้นพยักหน้า เพราะขี้เกียจพูดต่อ เมื่อจางเว่ยจ่ายค่าขนมมจีนและแค่บหมูเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามจึงออกมาเดินดูของกินของใช้ต่อ จนเวลาล่วงเลยเกือบเที่ยงคืน "นี่ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว เรากลับกันเถอะ"มิ้นพูดไปหาวนอนไปด้วย "เที่ยงคืนแล้วเหรอ ฉันลืมไปเลยว่ามีนัดกับเพื่อน ฉันต้องรีบไปแล้วนะ เธอก็ให้จางเว่ยไปส่งก็แล้วกัน" "บ่ายจางเว่ย"นรีพูดจบวิ่งไปทันที "เดี๋ยวก่อนจะไปไหน"มิ้นกวักมือเรียกและตะโกน แต่ไม่ทันกาล นรีวิ่งไปจนลับตาแล้ว จางเว่ยยืนงงและอมยิ้มทันทีที่มิ้นหันมา มิ้นเขินนิดหน่อยที่ต้องอยู่กันสองคน "คุณพักที่ไหนคะ"มิ้นถาม จางเว่ยจึงนำนามบัตรให้ดู ซึ่งเป็นทางเดียวกับห้องเช่าของมิ้น แต่ของมิ้นจะถึงก่อน ถ้าเดินมาจากร้านนวดของมิ้นก็จะไกล แต่ถ้าเดินจากที่กาดหลวงไปก็ไม่ไกลเท่าไร "ไปทางเดียวกัน แต่ฉันถึงก่อน"มิ้นคืนนามบัตรให้จางเว่ย "เราเดินกันไปไหม ผมอยากเดินชมเมืองเชียงใหม่ แต่ถ้าคุณเดินไม่ไหวขึ้นแท็กซี่กลับก็ได้ครับ"จางเว่ยมองหน้าของมิ้น มิ้นครุ่นคิดครู่หนึ่ง เพราะมันก็ไม่ได้ไกลมากแถมมีเพื่อนเดินอีก ไหนจะประหยัดเงิน และได้ตอบแทนค่าขนมจีน "ค่ะ"มิ้นพยักหน้าแล้วเดินนำหน้าจางเว่ย จางเว่ยรีบก้าวเท้าให้ทันมิ้น เพื่อที่จะได้เดินเคียงคู่กัน "เมืองเชียงใหม่สวยมากเลยครับ" จางเว่ยมองไปรอบๆสองข้างทาง ที่มีแต่ชาวต่างชาติเดิน "ค่ะ คนจีนเยอะนะ" "ครับคนจีนชอบคนไทย รักเมืองไทย"จางเว่ยรีบหันหน้ามามองมิ้น แต่ไม่ทันเพราะมิ้นรีบหันหน้าไปอีกฝั่ง เธออมยิ้มนิดๆ "แล้วจะอยู่ในเชียงใหม่กี่วันคะ"มิ้นหันหน้ามาตรงๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นสายตาของจางเว่ย "15วันครับ"จางเว่ยจ้องมองมิ้น ที่ยังไม่ยอมหันหน้ามา "อยู่ในเชียงใหม่15วันเลยเหรอ"มิ้นหันหน้ามาประจันกับสายตาจางเว่ยพอดี "เปล่าแค่5วันแล้วจะไปเที่ยวทะเลต่อครับ"จางเว่ยอมยิ้มนิดๆ มิ้นหันหน้ากลับและเดินต่อไป เธอมองร้านค้าข้างทางที่ขายของที่ระลึก จางเว่ยก็เช่นกันมองมิ้นกับของที่ระลึกสลับกันไป ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเพลินสายตากับสินค้าหลากชนิด ก็ได้มีเด็กชาวดอยมายืนขวางหน้าเพื่อขายสินค้า "พี่ครับช่วยซื้อกำไลหน่อยครับ ผมจะกลับบ้านแล้วยังขายไม่ได้เลย"เด็กดอยมีสีหน้าเศร้าสร้อย มิ้นยิ้มให้เด็กน้อยและมองไปที่จางเว่ย ซึ่งยืนนิ่งชั่วครู่และยิ้มให้เด็กดอย หลังจากนั้นเขาก็จับกำไลเงินมาเลือกดู ส่วนมิ้นได้แค่มองจางเว่ยเลือกกำไร เพราะเธอไม่กล้าซื้อ มิ้นรู้ดีว่ามันแพงเส้นหนึ่งหลักร้อยเชียว "คุณว่าอันไหนสวย"จางเว่ยยื่นกำไลให้มิ้นเลือก มิ้นครุ่นคิดชั่วครู่ เส้นแรกจะใหญ่หน่อย ส่วนอีกเส้นเล็กกว่าพอสมควร ด้วยมิ้นเป็นผู้หญิงเธอจึงชอบเส้นเล็ก "เส้นนี้ค่ะ"มิ้นชี้ไปที่เส้นเล็ก "สองเส้นนี่เท่าไร"จางเว่ยถามเด็กดอย "400ครับ" "แพงไปไหมน้อง"มิ้นเสียงเข้ม "อ้าวพี่คนไทยเหรอ"เด็กดอยมีสีหน้าตกใจ "จ๊ะ ลดได้ไหม" "เต็มที่300ครับ" จางเว่ยมองสองคนคุยกันด้วยความสงสัย เพราะเขาอยากรู้ใจจะขาดด้วยฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง เขาพูดได้แค่ สวัสดีครับและขอบคุณครับ "300บาทค่ะ"มิ้นหันมาบอก "ครับ"ถึงจางเว่ยจะงงแต่ก็จ่ายให่เด็กสามร้อยบาท "ขอบคุณครับ"เด็กดอยยกมือไหว้แล้วรีบวิ่งจากไป ถึงจางเว่ยจะสงสัยมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่อยากจะถามอะไรต่อให้มากความไปกว่านี้ เขาจึงปล่อยผ่านความคาใจ "คุณชอบเส้นนี้ ผมให้คุณ"จางเว่ยยื่นสร้อยเส้นเล็กให้มิ้น "ไม่เป็นไรค่ะ คุณเก็บไว้เถอะค่ะ"มิ้นมีสีหน้าตกใจ "ผมซื้อให้คุณ เพราะคุณมีน้ำใจกับผม ถึงพึ่งรู้จัก" "รับไว้นะครับ ถ้าคุณไม่รับ ผมจะเสียใจมากเลยครับ"จางเว่ยตีหน้าเศร้า มิ้นครุ่นคิด ถ้ารับก็เหมือนเห็นแก่ได้ ถ้าไม่รับก็กลัวจางเว่ยเสียน้ำใจ เธอสองจิตสองใจอยู่พักหนึ่ง "รับไว้นะครับ"จางเว่ยพูดเสียงอ้อน เมื่อจางเว่ยไม่เห็นมิ้นมีท่าทีจะรับ เขาจึงจับมือมิ้น แล้วนำกำไลยัดเข้าไว้ในเมือของเธอ แล้วจางเว่ยก็จับมือของมิ้นให้กำไว้ "ผมถือว่าคุณรับไว้แล้วนะครับ"จางเว่ยยิ้ม มิ้นตีสีหน้าไม่ถูก เมื่อจางเว่ยจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว มิ้นจึงตัดสินใจรับไว้ด้วยความไม่เต็มใจ แต่เธอก็ไม่ได้รังเกียจอะไรแม้น้อย แต่เพราะความเกรงใจต่างหาก "ขอบคุณค่ะ"มิ้นยิ้มแล้วเก็บกำไลใส่กระเป๋า ซึ่งเช่นเดียวกับจางเว่ยก็นำกำไลใส่กระเป๋า แล้วรีบเดินตามมิ้นไปอย่างกระชั้นชิด ไม่ให้คลาดสายตา "พรุ่งนี้คุณทำงานไหม"จางเว่ยถามมิ้น เพราะเห็นมิ้นไม่พูดอะไร "ทำค่ะ" "งั้นพรุ่งนี้ผมจองตัวคุณนะ" "ค่ะ จะมากี่โมงค่ะ ร้านเปิดสิบโมงเช้า" "สิบโมงครับ"จางเว่ยตอบแบบไม่คิดเลย "ค่ะ"มิ้นหันมายิ้ม จางเว่ยรู้สึกมีความสุขที่ได้มีคู่เดินเคียงข้าง ถึงจะไม่ใช่คนรัก แต่ก็ทำให้เขาคลายเหงาไปได้พอสมควร "ถึงที่พักของฉันแล้วค่ะ"มิ้นชี้มือไปที่ห้องเช่าของเธอ ที่เป็นตึกสามชั้น "ครับ"จางเว่ยพยักหน้าแล้วมองมาทางมิ้น "คุณเดินตรงไปอีกหน่อย ก็จะถึงโรงแรมของคุณแล้ว" "ขอบคุณนะครับสำหรับคืนดีดี" จางเว่ยมองหน้ามิ้นไม่กระพริบตา จนมิ้นรู้สึกเขิน "พรุ่งนี้เจอกันนะครับ"จางเว่ยยิ้มหวานให้มิ้นอีกครั้ง "ค่ะบ่าย"มิ้นยิ้มให้พร้อมโบกมือแล้วเดินเข้าไปในห้องเข่า "บ่ายครับ"จางเว่ยโบกมือ และยืนจ้องมองมิ้นเดินเข้าไปในห้องเช่า จนลับตาเขาจึงเดินต่อไป เพื่อไปโรงแรมของเขา ในระหว่างเดินทางกลับ ใบหน้าของมิ้นก็ลอยมาไม่ขาดสาย เขาจึงอมยิ้มอย่างมีความสุข

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook