ทางด้านเค้กหลังจากตัดสินใจกลับบ้านที่พัทยาเพื่อมาพักใจก็เอาแต่เก็บตัวอยู่กับครอบครัวไม่ออกไปไหน ถึงเธอจะไม่ได้บอกพ่อกับแม่ว่าไปเจออะไรมาแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็รู้สึกได้ว่าลูกสาวคงเจอเรื่องไม่สบายใจมาแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร พยายามทำกิจกรรมครอบครัวกับลูกเพื่อให้เธอคลายความเศร้าแล้วมันก็ได้ผลเพราะสามวันที่เค้กมาอยู่ที่บ้านเธอก็เริ่มกลับมามีรอยยิ้มขึ้นเหมือนเดิม
“เค้ก เอากาแฟไปส่งให้ลูกค้าที่หาดจอมเทียนได้มั้ยลูก”
คชาพ่อของเค้กเอ่ยบอกลูกสาวด้วยรอยยิ้ม เพราะร้านกาแฟเขาอยู่ห่างจากหาดประมาณสามกิโลจึงวานให้ลูกสาวไปส่งกาแฟให้ลูกค้า
“ได้ค่ะพ่อ พอดีเลยตั้งแต่มาหนูยังไม่ได้ไปเดินเล่นริมทะเลสักที วันนี้ขออู้งานไปเดินเล่นหน่อยนะคะ”
เค้กพูดกับพ่อด้วยรอยยิ้มถึงจิตใจเธอยังบอบช้ำกับเรื่องที่เจอมาแต่พอได้มาอยู่กับครอบครัวก็ทำให้เธอดีขึ้นมากเลยทีเดียว
“ได้อยู่แล้ว ลูกออกไปสูดอากาศบ้างก็ดีเหมือนกัน อ่ะ นี่กาแฟและเบอร์ของลูกค้า”
เค้กรับของจากพ่อตัวเองแล้วเดินขึ้นรถเก๋งคู่ใจขับออกไปทันที หลังจากส่งกาแฟให้ลูกค้าเสร็จเค้กก็เดินมานั่งเล่นที่ใต้ต้นไม้ริมทะเลรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อยเมื่อได้มาสูดอากาศธรรมชาติแบบนี้
“คุณตื่นมาจะตกใจมั้ยนะที่ไม่เห็นฉัน ขอโทษนะคะแต่ฉันอายจนไม่กล้ารอให้คุณตื่นจริงๆ”
เค้กพูดขึ้นเมื่ออยู่ๆ ก็นึกถึงรามินขึ้นมา เธอยอมรับเลยว่านอกจากพ่อแม่ของเธอก็เป็นเขาที่เธออยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจและปลอดภัยมากที่สุด แต่ที่เธอต้องหนีเขามาเพราะรู้สึกอายที่ตัวเองไปชวนเขานอนด้วยทั้งๆ ที่ไม่รู้จักชื่อกันเลยด้วยซ้ำ เธอกลัวว่าเขาจะมองเธอว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายจ้องจะจับเขา เธอจึงหนีออกมาแบบนี้
“ขอโทษนะคะหนู แถวนี้มีร้านกาแฟแนะนำมั้ยคะ”
เค้กเงยหน้ามองทันทีเมื่อได้ยินเสียงคนพูดกับเธอก็เห็นเป็นหญิงวัยกลางคนแต่หน้าตาสะสวยมากเลยทีเดียวกำลังส่งยิ้มหวานมาให้เธอ เค้กจึงลุกขึ้นยืนแล้วตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
“มีหลายร้านเลยค่ะคุณน้า คุณน้าชอบแบบไหนคะ จะมีเป็นคาเฟ่เล็กๆ แล้วก็มีแบบสั่งแล้วให้มาส่งที่หาดค่ะ”
เค้กเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“น้าอยากนั่งคาเฟ่จ้ะ หนูสะดวกพาน้าไปได้มั้ยจ้ะ”
“ได้ค่ะ งั้นไปคาเฟ่ใกล้ๆ ดีกว่านะคะ เดินไปอีกนิดเดียวก็ถึงค่ะ”
พูดจบเค้กก็เดินนำหน้าไปทันที
“น้าชื่อมะนาวนะจ้ะ หนูชื่ออะไรหรอ”
มะนาวแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้ม หลังจากไปเช็คร้านกาแฟสาขาที่ตัวเมืองชลบุรีเสร็จก็เลยถือโอกาสมาสำรวจดูร้านกาแฟแถวๆ ทะเลเพราะตั้งใจจะเปิดอีกสาขาที่นี่ มะนาวรู้สึกถูกชะตากับเค้กตั้งแต่ได้พูดคุยกับเธอ แถมยังชอบนิสัยอ่อนน้อมของเธออีก จึงชวนเธอคุยระหว่างเดินไปคาเฟ่
“หนูชื่อเค้กค่ะคุณน้า”
เค้กหันไปตอบมะนาวด้วยรอยยิ้ม
“ชื่อเค้ก แสดงว่าที่บ้านต้องเปิดร้านเค้กไม่ก็เปิดคาเฟ่แน่ๆ”
“คุณน้าเดาถูกเลยค่ะ บ้านหนูเปิดร้านกาแฟแต่ไม่ใช่ร้านที่หนูจะพาคุณน้าไปนะคะ เพราะร้านหนูอยู่ไกลจากที่นี่ค่ะ”
เค้กพูดกับมะนาวด้วยรอยยิ้ม รู้สึกถูกชะตากับหญิงวัยกลางคนคนนี้ไม่น้อย ยิ่งมะนาวส่งยิ้มให้เค้กเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“เมื่อกี๊น้าเห็นหนูท่าทางดูไม่ค่อยสบายใจ มีเรื่องเครียดหรอจ้ะ ขอโทษนะจ้ะที่เผลอถามเรื่องส่วนตัวไป หนูไม่ต้องตอบน้าก็ได้นะ”
มะนาวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม จนเค้กนั้นยิ้มตามแล้วตอบเธอไปตามตรง
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จริงๆ หนูก็มีเรื่องเครียดค่ะ แต่มันเป็นเรื่องไร้สาระซะมากกว่า คือหนูเพิ่งอกหักมาค่ะคุณน้าก็เลยหนีมาพักใจที่บ้าน”
เค้กตอบมะนาวไปตามตรงแต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดมาก
“หืม แสดงว่าหนูไม่ได้อยู่ที่นี่หรอจ้ะ”
มะนาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ใช่ค่ะ จริงๆ หนูกำลังเรียนอยู่ที่มหาลัยxxxในกรุงเทพค่ะ”
“อุ๊ย บังเอิญมาก ลูกชายน้าก็เพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งที่นั่นเลย หนูเค้กสนใจลูกชายน้ามั้ย หล่อมากน๊าจะบอกให้แถมนิสัยดี ถึงจะขี้เล่นขี้กวนไปหน่อยแต่รับรองถ้าได้อยู่ด้วยหนูเค้กต้องมีแต่รอยยิ้มแน่นอน อิอิ”
มะนาวพูดอวยลูกชายตัวเองให้เค้กฟังอย่างอารมณ์ดีจนเค้กได้แต่หัวเราะตาม
“แหม คุณน้าชงเข้มมากเลยนะคะ หนูอยู่ปีสามแล้วนะคะ อีกอย่างหนูไม่ค่อยชอบคนที่อายุน้อยกว่าค่ะคุณน้า กลัวคนอื่นจะว่าเค้าได้แฟนแก่ ฮ่าๆ”
“ฮ่าๆ แต่ลูกชายน้าตัวโตเกินวัยนะจะบอกให้ ทั้งสูง ทั้งหุ่นล่ำ บอกเลยว่าหนูต้องชอบแน่ๆ ว่าแล้วก็เอารูปให้ดูดีกว่า”
ขณะที่มะนาวกำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปลูกชายตัวเองให้เค้กดูก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีลูกน้องวิ่งมาหาเธอก่อน
“คุณมะนาวครับ แย่แล้วครับ”
“เกิดอะไรขึ้นหรอ”
มะนาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นท่าทีร้อนรนของลูกน้องตัวเอง
“ผู้จัดการร้านที่สาขากรุงเทพโทรมาบอกว่าไฟไหม้ร้านครับ”
“ว่าไงนะ หนูเค้กวันนี้น้าคงไม่ได้ไปคาเฟ่แล้วล่ะ ไว้วันหลังถ้าเจอกันอีกเดี๋ยวน้าจะพาไปเจอลูกชายน้านะจ้ะ”
มะนาวรีบพูดกับเค้กแต่ก็ยังส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
“ได้เลยค่ะคุณน้า”
“รับปากน้าแล้วนะ น้าไปก่อนนะจ้ะ”
“สวัสดีค่ะคุณน้า”
เมื่อคุยกับเค้กเสร็จมะนาวก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปขึ้นรถด้วยท่าทางร้อนรนทันที เมื่อรถออกมาได้สักพักแล้วก็ถึงกับกุมขมับเมื่อเผลอลืมทำอะไรบางอย่างไป
“โอ๊ยย ทำไมไม่ขอเบอร์หนูเค้กไว้ล่ะเนี่ย เฮ้ออ อุตส่าห์เจอว่าที่ลูกสะใภ้ที่ถูกใจถ้าตาหนูได้เจอหนูเค้กต้องชอบหนูเค้กแน่ๆ”
มะนาวพูดขึ้นพร้อมกับหน้าเสียดาย เธอรู้สึกชอบเค้กและถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอเพราะทั้งกิริยาท่าทาง การพูดจากับผู้ใหญ่บ่งบอกว่าเธอเป็นคนที่มีความถ่อมเนื้อถ่อมตัวมาก ถ้าตาหนูเธอได้เจอกับเค้กก็ต้องรู้สึกเช่นเดียวกันกับเธอแน่นอน มะนาวจึงได้แต่คิดหลังจากเคลียร์งานที่ร้านเสร็จเธอก็จะมาตามหาเค้กแน่นอน เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าเธอเรียนที่เดียวกันกับลูกชายตัวเอง ทางด้านเค้กเมื่อเห็นมะนาวขึ้นรถไปแล้วก็ตัดสินใจกลับบ้านทันทีเค้กใช้เวลาอยู่กับครอบครัวจนถึงกำหนดวันที่เธอต้องกลับกรุงเทพ พอมาถึงกรุงเทพเธอก็ย้ายออกจากหอเดิมทันทีแล้วไปเช่าหอใหม่อยู่ เพราะนิชาบอกว่าเรนนั้นยังพยายามมาถามหาที่อยู่บ้านเธอจากนิชาอยู่เพราะตั้งแต่คบกันเรนไม่เคยไปบ้านเธอเขารู้แค่ว่าเธออยู่พัทยาแต่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหน เมื่อไม่รู้ที่อยู่เรนจึงพยายามมาถามกับนิชาแต่นิชาก็ยังไม่ยอมบอก
“ยัยเค้ก ฉันว่าแกไปเรียนพรุ่งนี้พี่เรนมาดักเจอแกแน่ คนอะไรขนาดทำเลวไว้ขนาดนี้ยังกล้าจะมาเจอแกอีก”
นิชาพูดขึ้นขณะจัดห้องช่วยเค้ก เพราะดูท่าเรนคงยังไม่ยอมจบกับเพื่อนของเธอแน่นอน
“ช่างเค้าเถอะ ฉันหนีแบบนี้ไม่ได้ตลอดหรอกเสียการเรียนพอดี ถ้าเจอเค้าก็มีแต่เดินหน้าชนกับปัญหาแค่นั้นล่ะ”
เค้กพูดตอบนิชาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แกโอเคแล้วใช่มั้ย ช่วงนี้ฉันมานอนเป็นเพื่อนแกดีกว่า อยู่คนเดียวเดี๋ยวจะคิดฟุ้งซ่าน”
“ขอบใจนะแก งืออ รักแกที่สุดเลย”
เค้กโผเข้ากอดนิชาทันทีเมื่อพูดจบนิชาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเพราะตั้งแต่รู้จักกันมานิชาก็ไม่เคยทิ้งเธอเลยสักครั้ง เช้าวันต่อมาเค้กกับนิชาก็มาเรียนตามปกติโชคดีที่ช่วงเช้าเธอยังไม่เจอเรนจึงไปเรียนอย่างสบายใจช่วงนี้หลังจากเลิกเรียนเธอก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหนเพราะยังไม่อยากให้เรนรู้ที่อยู่ของเธอ จนผ่านไปหลายวันเค้กก็ยังทำตัวหมือนเดิมเรียนเสร็จก็รีบกลับหอพักโดยที่ไม่เจอเรนเพราะปีสี่นั้นไปทำกิจกรรมต่างจังหวัดพอดี จึงทำให้เธอสบายใจขึ้นที่ไม่ต้องระแวงว่าจะเจอเรน ทางด้านรามินก็ยังพยายามตามหาเค้กอยู่ตลอดแต่ก็ยังไม่เจอสักที จนตอนนี้รามินเริ่มนิ่งขรึมไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน
“ไอ้มิน กูว่ามึงถอดใจเถอะว่ะ มึงตามหาผู้หญิงคนนั้นมาหลายวันแล้วนะเว้ยย”
เวย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเมื่อเห็นเพื่อนรักตัวเองเริ่มไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน
“ไม่ ยังไงกูก็จะหาเธอให้เจอ”
รามินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นยังไงเขาก็จะหาเธอให้เจอ
“กูละยอมมึงจริงๆ สาวๆ มาตามจีบเป็นร้อยไม่ชอบแต่ดันมาชอบคนที่เค้าหนีไป”
เวย์พูดขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของรามิน
“อย่าว่าแต่มึงยอมกูก็งงกับตัวเองว่าทำไมถึงได้ชอบเค้ามากขนาดนี้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รู้จักชื่อด้วยซ้ำ หรือว่าเธอไม่ใช่คนว่ะไอ้เวย์”
“ไอ้สัส อย่าพูดเป็นเล่นกูขนลุก”
เวย์พูดขึ้นพร้อมกับเอามือลูบแขนตัวเอง เพราะถ้าเธอคนนั้นไม่ใช่คนอย่างที่รามินพูดแสดงว่าเพื่อนของเขานั้นก็ต้องนอนกับผีล่ะสิ
“แม่ง คิดแล้วปวดหัว มึงไปรอที่โรงอาหารเลยกูไปหากาแฟกินแป๊บ”
พูดจบรามินก็ลุกขึ้นเดินไปทันทีเพราะเป็นช่วงเวลาพักเที่ยงพอดี รามินจึงตัดสินใจเดินไปที่ร้านกาแฟในมหาลัยเพราะอยากหาอะไรดื่มให้สดชื่น
“ยัยเค้ก ฉันไม่อยู่ด้วยอย่าลืมทำรายงานนะจ้ะ”
นิชาตะโกนบอกเค้กที่กำลังจะขึ้นรถเพราะวันนี้พวกเธอเรียนครึ่งวันแล้วนิชาต้องกลับบ้านไปทำธุระกับครอบครัวของเธอ
“รู้แล้วจ้า ฝากความคิดถึงไปหาพ่อกับแม่ด้วยนะ บ๊ายบาย”
ขณะที่รามินกำลังจะเดินเข้าร้านกาแฟก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงหวานที่คุ้นหูดังขึ้นไกลๆ เขาจึงรีบหันไปมองตามเสียงนั้นทันที ปากหนายิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจเพราะเขาเจอเธอแล้ว
“เจอสักที”
รามินพูดขึ้นแล้วรีบวิ่งไปหาเค้กทันทีแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเธอนั้นขับรถไปแล้ว
“แม่ง อีกนิดเดียวเอง ตามหาตั้งนานที่แท้ก็อยู่ใกล้แค่ปลายจมูกเอง หึ”
รามินกระตุกยิ้มทันทีแล้วหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงกดโทรหาโจ้ทันที
(ครับนาย)
“พี่โจ้เลิกตามถ่ายรูปแล้วตามหาเจ้าของทะเบียนรถคันนี้ให้ผมหน่อย”
(นายเจอเธอแล้วหรอครับ)
“เจอแล้ว อย่าเพิ่งถามมาก เดี๋ยวส่งเลขทะเบียนรถให้ ขอด่วนนะพี่”
พูดจบรามินก็พิมพ์เลขทะเบียนรถของเค้กส่งให้โจ้ทันที โชคดีที่เขาความจำดีเพราะรู้ว่ายังไงก็ตามเธอไม่ทันจึงจำเลขทะเบียนรถเธอไว้ เมื่อส่งข้อมูลให้โจ้เสร็จรามินก็เดินไปซื้อกาแฟแล้วไปหาเวย์ที่โรงอาหารอย่างอารมณ์ดีทันที