วันต่อมาชรัณพาปรียาดามาร่วมงานวันเกิดของกฤษณะ หญิงสาวสวมเดรสตัวสวยเปิดไหล่ทั้งสองข้างอวดผิวเนียนใสดูเป็นธรรมชาติซึ่งหาจากสาวๆแถวนี้ไม่ได้เลยสักคน ชรัณยอมรับว่าเธอสวยมากแต่อีกใจก็ไม่อยากจะให้เธอใส่แบบนี้เลยเพราะเขาไม่ชอบสายตาของคนอื่นที่กำลังมองมาที่เธอตาเป็นมัน
“สวัสดีครับคุณชรัณ วันนี้ควงสาวสวยมาด้วยเลยนะครับ” กฤษณะนั้นรู้สึกพึงพอใจสาวสวยข้างกายของนายหัวชรัณเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าชรัณไปหาสาวๆสวยๆแบบนี้มาจากไหน คราวของนีราภาก็ทีหนึ่งแล้ว หญิงสาวยอมตายดีกว่าที่จะต้องตกเป็นของเขา
“สวัสดีครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ ผมมีของขวัญเล็กน้อยๆมาให้ด้วย” ชายหนุ่มยื่นกล่องของขวัญให้เจ้าของวันเกิด ซึ่งฝ่ายนั้นก็ยื่นมือมารับทันที
“ขอบคุณครับความจริงแค่มาร่วมงานผมก็ดีใจแล้ว”
“ต้องมีติดไม้ติดมือมาถูกต้องแล้วครับ ผมเลือกเองเลยนะครับ ตอนเลือกก็อารมณ์ดีมากครับเพราะผมจัดการปัญหาที่คนเลวระยำมันทำกับผมได้อย่างสบายๆ คุณกฤษณะรู้ไหมครับว่าที่ไร่ผมเกิดเรื่อง”
“ก็พอจะได้ยินมาบ้างครับ นายหัวชรัณนี่เก่งจังเลยนะครับจัดการปัญหาได้ตลอด”
“ครับ ผมได้แต่รอให้ไอ้คนเลวๆพวกนั้นมันแพ้ภัยตัวเองอยู่”
“จะไม่แนะนำคนข้างๆให้ผมรู้จักหรอครับ” เจ้าของวันเกิดหน้าตึงแสร้งทำเป็นพูดคุยเรื่องอื่นแทนเพราะรู้ดีว่าคนที่นายหัวชรัณกำลังหมายถึงคือตนนั่นเอง ใครจะบ้าให้คนอื่นมายืนด่าหน้าตาเฉยได้ล่ะ
“นี่คุณปรียาดาครับ เธอเป็นว่าที่แม่เลี้ยงคนใหม่ของไร่ชนินทร์วรางค์ครับ”
“อะ เอ่อ สวัสดีค่ะ” ปรียาดารู้สึกว่าสมองของเธอกำลังสับสนแล้วก็มึนงง หล่อนไม่รู้ว่าทำไมชายหนุ่มถึงแนะนำให้อีกฝ่ายรู้จักเธอในฐานะแม่เลี้ยงคนใหม่ทั้งที่ยังไม่ได้มีการถามไถ่หรือเตี๊ยมอะไรกับเธอเลย เธอเลยทำได้แค่เล่นไปตามน้ำ เรื่องแสดงละครไว้ใจได้เธอจะแสดงให้เนียบเนียนที่สุดเลยคอยดู
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณกฤษณะ พวกเราอยู่ในวงการเดียวกันเดี๋ยวก็คงมีโอกาสได้เจอกันอีกค่ะ ตามงานใช่ไหมคะที่รัก” เธอหันไปถามคนข้างกายน้ำเสียงออดอ้อน
“ใช่ครับ” ชรัณพอจะมองเกมออกว่าเธอกำลังแสดงละครตามบทบาทที่เขาตั้งใจมอบให้เธอ
“คุณปรียาดาสวยเหมือนคุณนีราภาเลยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณปรียาดารู้จักคุณนีราภาไหม”
“…”
“ท่าทางคุณปรียาดาจะยังไม่ได้รู้จักเลยนะครับนายหัวชรัณ ทำไมไม่แนะนำภรรยาเก่าให้ภรรยาคนใหม่ได้รู้จักบ้างล่ะครับหรือว่ามีอะไรปิดบัง” กฤษณะถามออกไปน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ชรัณอยากจะต่อยสั่งสอนอีกฝ่ายสักหมัดแต่ก็ยังไม่ถึงเวลานั้น
“ปรีไม่ซีเรียสเรื่องนี้หรอกค่ะคุณกฤษณะ อดีตของนายหัวไม่ใช่สิ่งที่ปรีจะเอามาตัดสินปัจจุบันของเขา”
“เรื่องนี้มันคือเรื่องในครอบครัวของผม ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องตอบนะครับแล้วอีกอย่างเธอก็เป็นภรรยาของผมคุณไม่ควรใช้สายตาแบบนั้นกับเธอจริงไหมครับ ผมว่า...มันดูไม่มีมารยาท” ชายหนุ่มยกมือแกร่งโอบไหล่บางมาแนบชิดด้วยความหวงแหนอย่างกับจงอางหวงไข่
“ฮ่าๆ ผมแค่หยอกเล่นเองครับอย่าซีเรียสเลยนะครับ”
“ในเมื่อผมให้ของขวัญแล้วผมก็ขอตัวก่อนดีกว่านะครับเพราะลูกชายของผมกำลังรอแม่เขาอยู่ แถมตอนนี้บรรยากาศก็ไม่ดีขอตัวก่อนครับ” ชรัณพาหญิงสาวหมุนตัวเดินออกมาจากงานแทบจะทันที กฤษณะมีแววตาขึงขังไม่สบอารมณ์แบบสุดๆที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติตนซึ่งๆหน้า มีแขกที่มาร่วมงานได้ยินประโยคของนายหัวชรัณไม่น้อย
“ปะ ปล่อยปรีได้แล้วค่ะ”
“วันหลังผมไม่ให้คุณแต่งตัวแบบนี้อีกแล้ว”
“นี่คุณกำลังหึงปรีหรอคะเนี่ยคุณสามี”
“ผมไม่ได้หึงครับเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“แน่ใจหรอคะ เมื่อกี้ยังมีคนขี้ตู่แนะนำปรีว่าปรีเป็นแม่เลี้ยงคนใหม่อยู่เลยน้า” เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวคนตัวโตที่แสร้งทำเป็นเคร่งขรึม
“กะ ก็ผมแค่หวังดีไม่อยากให้ไอ้เ*******ูนั่นมันมาสนใจคุณปรีต่างหาก” ชายหนุ่มไม่กล้าสบตากับอีกฝ่ายเพราะสายตากลมโตนั้นมีแววล้อเลียนเขาอยู่
“แต่ไม่ว่ายังไงก็ขอบคุณนะคะ ปรีก็ไม่ชอบสายตาของเขาเหมือนกันมันเหมือนจะกลืนกินปรีเข้าไปทั้งตัวได้ จะบอกอย่างไงดีละคะถ้าบอกว่าน่าขยะแขยงจะเวอร์ไปไหมคะ”
“ฮ่าๆ ไม่เวอร์ไปหรอกครับ ผมไม่น่าพาคุณมาเลย ไอ้แก่นั่นดูจะสนใจคุณปรีจนน่าหมั่นไส้”
“ช่างเขาเถอะค่ะเขาทำอะไรปรีไม่ได้หรอก”
“ใครจะไปรู้ล่ะครับ ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะครับเพราะผมไม่รู้ว่าในไร่ของผมมีคนของไอ้เ*******ูนั่นแฝงตัวอยู่บ้างหรือเปล่า ยิ่งถ้าไม่ได้มีคนเดียวยิ่งเรื่องใหญ่”
“ค่ะ ปรีจะระวังตัว คุณพูดแบบนี้ปรีเริ่มกลัวแล้วนะคะเนี่ย” จริงอย่างที่เขาว่าเพราะอันตรายมีอยู่รอบตัวแต่จะยิ่งน่ากลัวก็เพราะมีคนคิดไม่ดีจ้องจะทำร้ายเราอยู่ในมุมมืด
“ผมสัญญาครับว่าคุณจะปลอดภัย”
“ปรีเชื่อใจคุณค่ะ”
“ขอบคุณที่เชื่อใจผมครับ” ตลอดทางกลับไร่ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกเพราะชายหนุ่มต้องใช้สมาธิในการขับรถ