กัญญาณีนั่งมาในรถยนต์คันหรูประจำตัวของตัวเองโดยมีมิ่งและหมายบอดี้การ์ดคู่ใจเป็นคนขับดูแลตัวเอง วันนี้เธอตั้งใจจะไปดื่มที่ผับเปิดใหม่ ในเมื่อทุกคนมองว่าเธอเหลวแหลก มั่ว ร่าน เธอก็จะทำตามที่คนอื่นว่าให้หมด ทั้งๆ จริงๆ แล้วแม้ว่าเธอจะทำตัวเที่ยวเหลวแหลก แต่ใช่ว่าจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ชายเชยชม เธอยังคงรักษาพรหมจรรย์ของเธอไว้ให้กับชายที่รักอย่างดี
“จอดรถพี่มิ่ง พี่หมาย” เมื่อเจอกับใครบางคนระหว่างนั่งรถอยู่นั้นก็สั่งให้หยุดจอดทันที เมื่อมองเห็นคนจองหองคุ้นเคยและที่สำคัญอยู่ในใจของเธอมาตลอดหลายปีที่ได้รู้จัก
“ครับคุณหนู” มิ่งเอ่ยรับคำพร้อมจอดรถ
“เดินกลับบ้านงั้นเหรอ ไอ้กระจอก วันนี้นุ๊กนิ๊กไม่ไปผับแล้วพี่มิ่ง พี่หมาย นุ๊กนิ๊กมีอะไรสนุกๆ ทำแล้ว แต่พี่ทั้งสองสัญญากับนุ๊กนิ๊กนะว่าจะเก็บมันเป็นความลับ ต้องไม่บอกใคร แม้แต่ป๊า พี่ทั้งสองก็ห้ามบอก” เธอบอกทั้งสองหนุ่ม
มิ่งกับหมายมองหน้ากันแล้วก็หันไปพยักหน้าตอบรับคำของคุณหนูของตัวเองทันที
“ไปบ้านพักส่วนตัวของนุ๊กนิ๊กที่ท้ายปางไม้กันค่ะ แต่เราต้องมีของเล่นไปด้วย พี่ทั้งสองเห็นผู้ชายที่กำลังเดินอยู่บนฟุตบาทไหมคะ?” เธอชี้มือไปทางคนที่เดินบนฟุตบาทโดยไม่คิดจะสนใจสิ่งรอบข้างนอกรถนั่นทันที
“ครับ” หมายเป็นคนเอ่ย
“นุ๊กนิ๊กอยากให้พี่ทั้งสองไปอุ้มเขาไปกับเรา เพราะนุ๊กนิ๊กอยากรู้นักว่าเขาจะทำยังไง ผู้ชายกระจอกคนนี้ทำให้นุ๊กนิ๊กอับอายเหลือเกิน พี่มิ่ง พี่หมายเข้าใจนุ๊กนิ๊กใช่ไหมคะ” เธอเอ่ยอ้อนเสียงเศร้าในท้ายประโยค และมิ่งกับหมายก็รู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ทำให้คุณหนูของตัวเองนั้นอับอายเจ็บช้ำขายหน้ามากแค่ไหนในปางไม้
“ครับ เราสองคนจะจัดการมันให้คุณหนู”
“พี่มิ่งกับพี่หมายใจดีที่สุดเลยค่ะ ลงไปจัดการสิคะ และอย่าให้มันรู้ว่าเป็นเราค่ะ”
“ครับผม” มิ่งเอ่ยแล้วเปิดประตูลงจากรถยนต์ไปเปิดท้ายรถเพื่อหากระสอบป่านที่มีติดท้ายรถ เพราะจำได้วันก่อนได้นำกระสอบป่านใส่ของมาบนท้ายรถของคุณหนูตอนไปบริจาคขนมเด็กๆ กำพร้าที่สถานสงเคราะห์ มิ่งและหมายรู้ดีว่าคุณหนูตัวเองนั้นเป็นคนจิตใจดีแค่ไหน แม้คนอื่นจะว่ายังไง ทั้งสองก็รักและเคารพคุณหนูของตัวเองด้วยรู้จักเนื้อแท้ของกัญญาณีดีว่าเป็นคนจิตใจอ่อนโยนมากแค่ไหน
หมายเองก็เปิดประตูรถลงไปหามิ่ง เมื่อมิ่งได้สิ่งที่สำคัญมาแล้วในการอุ้มลักพาตัวพนักงานกระจอกในปางไม้ของเสี่ยตัวเอง ในเมื่อผู้ชายคนนี้ทำให้คุณหนูตัวเองต้องช้ำ มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ส่วนคนออกคำสั่งได้แต่นั่งยิ้มมองไปด้านหน้าที่ไฟหน้ารถส่องไปทางเหมันต์ เขมจิรา หรือเขม วัย 34 ปี พนักงานบัญชีประจำออฟฟิศของปางไม้ของพ่อตัวเอง เธอยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังเดินเท้ากลับที่พักนั้นกำลังเร่งสาวเท้าเดินเร็วๆ ขึ้นโดยไม่หันมามองด้านหลังที่ไฟส่องไปทางตัวเอง
“ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างคุณหนูนุ๊กนิ๊กจะจัดการคนกระจอกจองหองอย่างนายไม่ได้นายเหมันต์ ไม่รักใช่ไหม เกลียดนักใช่ไหม งั้นก็มาเป็นเชลยของฉันนับแต่นี้เป็นไงล่ะ” เธอพึมพำกับตัวเองแล้วลดกระจกลงเล็กน้อยแล้วสั่งให้มิ่งกับหมายเข้าจู่โจมเป้าหมายตัวเองทันที
“อย่าให้มันรู้ว่าเป็นเรานะพี่มิ่ง พี่หมาย ฉันยังไม่อยากให้คนจองหองอวดดีอย่างมันรู้ตอนนี้ เดี๋ยวจะไม่สนุก”
“ครับคุณหนู” หมายเอ่ยรับคำแล้วมองไปทางเป้าหมายที่เริ่มสาวเท้าเร็วขึ้น มิ่งหมายพากันสาวเท้าเร็วๆ ตามไปติดๆ และรู้ดีว่าตอนนี้เป้าหมายเริ่มรู้ตัวแล้ว พอสาวเท้ามาถึงตัวของเป้าหมายก็เป็นจังหวะที่เป้าหมายจะหันมามองพอดี มิ่งจึงใช้สันมือทุบที่ด้านหลังอีกฝ่ายทันที
ตุ้บ!
ร่างใหญ่ของเหมันต์ร่วงล้มไปกับพื้นพร้อมสติที่ดับวูบ ด้านกัญญาณีมองภาพตรงหน้าแล้วเปิดประตูรถเดินไปหามิ่ง หมายที่กำลังยัดร่างใหญ่ของเหมันต์ใส่กระสอบป่านที่ถือมาด้วย
“มัดมือ มัดเท้า และมัดปาก ปิดตามันด้วยพี่มิ่ง พี่หมาย” เธอสั่ง
“ครับคุณหนู” แล้วมิ่งก็เดินกลับไปที่รถเพื่อหาผ้าและเชือกที่จะมาใช้มัดมือ มัดเท้า ปิดปาก ปิดตาของอีกฝ่ายตามคำสั่งของนายสาวตัวเอง
“สุดท้ายนายก็ไปไหนไม่รอดนายเหมันต์” เธอย่อตัวนั่งแล้วตบหน้าของคนที่หมดสติ ก่อนจะยืดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอันน้อยนิดแล้วเดินกลับไปรอบนรถเหมือนเดิม ในบริเวณนี้ยังเป็นอาณาจักรของเสี่ยบุญเส็ง เป็นเขตของปางไม้ ฉะนั้นทำอะไรจึงสะดวก แค่จะลักพาตัวใครสักคนในเขตพื้นที่ของตัวเองนั้นง่ายมาก
มิ่งและหมายจัดการทำตามคำสั่งของคุณหนูที่เคารพรักของตัวเอง ไม่รู้หรอกว่านายสาวของตัวเองจะพาผู้ชายคนนี้ไปทำไม แต่เมื่อมันคือคำสั่ง บอดี้การ์ดอย่างพวกเขาก็ต้องทำตามคำสั่งไม่ให้ขาด ในสายตาของคนอื่นกัญญาณีอาจเป็นคนนิสัยไม่ดี เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ แต่สำหรับพวกเขาแล้วหญิงสาวใส่ใจครอบครัวของเขา ลูกของพวกเขาได้เรียนโรงเรียนดีๆ เพราะหญิงสาวจัดการออกค่าใช้จ่ายให้ และยังนำเงินส่วนตัวของตัวเองมาเปิดร้านอาหารเพื่อให้ภรรยาของพวกเขามีอาชีพได้ทำ นี่แหละคือกัญญาณีในมุมของพวกเขา ซึ่งต่างจากที่ใครๆ รู้จัก