กัญญาณี ไชยแสงราชพฤกษ์ หรือคุณหนูนุ๊กนิ๊ก วัย 26 ปี ลูกสาวคนเล็กของเสี่ยบุญเส็ง เจ้าของปางไม้ผู้ร่ำรวยที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี เธอมีพี่สาวที่อายุห่างจากเธอสองปีคือกัญญาพร หรือน้ำอิง เธอและพี่สาวนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว กัญญาพรเปรียบดังนางฟ้าของคนงานในปางไม้และในออฟฟิศ ส่วนเธอกัญญาณีเปรียบดั่งนางมารร้ายประจำปางไม้ไชยแสงราชพฤกษ์แห่งนี้
แต่เธอก็ไม่ได้แคร์ เพราะเธอจะเป็นของเธอแบบนี้ ใครจะเกลียดจะชังเธอไม่สนใจ เธอคือกัญญาณีลูกสาวที่พ่อชังนักชังหนา เพราะท่านโทษเธอตั้งแต่เด็กว่าเป็นเพราะเธอที่ทำให้แม่ต้องตายทันทีที่คลอดเด็กอย่างเธอออกมา แน่นอนเมื่อท่านไม่เห็นเธอเป็นลูกที่ดี เธอก็จะเป็นลูกที่เลวให้ดู และก็ทำได้ดีมาตลอด ตั้งแต่ตามจีบผู้ชาย คนงานในปางไม้ทุกคนเธอไล่จีบมาหมดแล้วและประเคนเงินทองให้จนร่ำรวยไปหลายคนแล้ว
นอกจากรวยและสวย อย่างอื่นเธอก็ไม่มีอะไรดี เธอเกลียดที่ใครๆ ก็ชื่นชมพี่สาวของเธอ ใครๆ ก็ยกย่องกัญญาพร และยิ่งไปกว่านั้นพ่อก็ชื่นชมแต่พี่สาว แต่พอกับเธอ ท่านไม่เคยพูดจาเพราะๆ หรือชื่นชมเลยสักครั้ง จำได้เมื่อครั้งสมัยเด็ก เธอเคยสอบได้ที่หนึ่งของชั้น ท่านไม่มีแม้แต่ความยินดีให้ แต่พอพี่สาวสอบได้อันดับสองของชั้น ท่านกลับมีของขวัญให้และให้กำลังใจพี่สาวว่าปีหน้าต้องได้ที่หนึ่ง สองมาตรฐานก็พ่อของเธอ
“แกจะแต่งตัวไปแรดที่ไหนอีกยัยนุ๊กนิ๊ก” เสียงแหบแห้งร้องตะโกนถามเมื่อเห็นเธอที่แต่งตัวสั้นเสมอหูเปิดร่องอกเดินพ้นบันไดบ้านลงมา
“ป๊าถามเพราะห่วงนุ๊กนิ๊กหรืออายที่มีลูกอย่างหนูคะ” เธอถามกลับทันที แม้จะบอกตัวเองว่าชินแล้วกับคำถามดูถูกจากท่านแบบนี้ แต่ก็รู้สึกเจ็บทุกครั้งที่ได้ยินมัน
“นังลูกเลวสำส่อน! จะไปไหนก็ไปเลยไป ถ้าเป็นคนดีไม่ได้ก็ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน” มือเหี่ยวย่นชี้มือไล่ลูกสาวคนเล็กออกไปให้พ้นหน้าตัวเองทันทีเมื่อเจอคำถามกลับของกัญญาณี
“แล้วทำไมป๊าไม่เอาขี้เถ้ายัดปากนุ๊กนิ๊กให้ตายตามแม่ไปล่ะคะ ถ้าหนูเลวขนาดนั้น”
“นังลูกเลว! เผียะ!” พูดจบท่านก็เดินมาตวัดมือเหี่ยวย่นใส่หน้าเนียนใสของลูกสาวคนเล็กทันที
โอ๊ย!
เธอตกใจและเจ็บเหลือจะกล่าวออกมาเมื่อโดนพ่อตบหน้า ตั้งแต่เล็กจนโตท่านไม่เคยตบเธอเลยสักครั้ง แม้แต่ตีก็ไม่เคยตี แต่วันนี้ทำไมท่านถึงทำแบบนี้ ไม่รักเธอเธอรู้ แต่ทำไมต้องตบหน้าเธอด้วย
“ป๊าไม่เคยตบหน้านุ๊กนิ๊ก แต่วันนี้ป๊าตบหน้าหนู หนูรู้ป๊าเกลียดหนูและเสียใจที่มีลูกแบบหนู”
เธอกัดฟันข่มความเจ็บปวดใจตอบกลับท่านไปเสียงสั่นเครือพร้อมยกมือขึ้นปาดป้ายเช็ดน้ำตาใสๆ ที่ไหลอาบสองแก้มนวลที่แต่งแต้มสวยงามออกมาจากห้องก่อนหน้านี้
เสี่ยบุญเส็งพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดของลูกสาวคนเล็ก เขาไม่ได้เกลียดหญิงสาวอย่างที่คิด แต่ที่ตบเพราะอยากตบเรียกสติกัญญาณีให้มีสติบ้าง ให้ทำตัวแบบกัญญาพรบ้าง ไม่ใช่วันๆ เอาแต่เที่ยวแรด ร่านตามผู้ชายแบบนี้ มันไร้ค่าและทำให้เขาอับอายผู้คนในจังหวัด
“ป๊า...” ท่านยกมือข้างที่ตบยื่นไปหมายจะจับแก้มนวลที่แดงช้ำจากน้ำมือตัวเอง แต่ก็ถูกมือเล็กปัดทิ้ง
“ไม่ต้องมาแสดงความเป็นห่วงนุ๊กนิ๊กหรอกค่ะ เพราะยังไงป๊าก็ไม่ได้ยินดีจะมีนุ๊กนิ๊กในชีวิตอยู่แล้ว ใช่สิ นุ๊กนิ๊กไม่ใช่พี่น้ำอิงเลยไม่ดีสักอย่าง และป๊าก็เชื่อแต่คำพูดคนอื่น ไม่เคยถามหนูสักคำว่าจริงๆ แล้วหนูเป็นแบบที่เขาพูดไหม ป๊าก็เอาแต่ว่าหนูแรด หนูร่าน ป๊าเชื่อคนอื่นไปแล้ว หนูไปล่ะค่ะ เสียเวลามามากพอแล้ว และอย่าแสดงท่าทางเป็นห่วงหนูแบบนี้อีก มันไม่เนียนค่ะป๊า”
เธอเช็ดน้ำตาตัวเองออกจากแก้มแรงๆ สองสามครั้งแล้วก็เชิดหน้าเดินออกไปจากบ้านทันที ส่วนเสี่ยบุญเส็งก็ได้แต่กำมือแน่นแล้วร้องเรียกบอดี้การ์ดส่วนตัวของกัญญาณีที่ตัวเองสั่งให้ดูแลลูกสาวคนเล็กเป็นพิเศษ แม้กัญญาณีจะมองไม่เห็นความรักของพ่อคนนี้ แต่เขาก็จะทำหน้าที่พ่ออยู่เบื้องหลังเธอไม่เปลี่ยน
“ไอ้มิ่ง ไอ้หมาย”
“ครับเสี่ย” สองหนุ่มรีบวิ่งออกมาหาเจ้านายใหญ่ตัวเองทันที
“ตามคุณหนูนุ๊กนิ๊กไป อย่าให้ใครมาทำอะไรลูกกูได้ และถ้าคุณหนูสั่งอะไรพวกมึงก็ทำตามที่คุณหนูสั่ง อย่าได้ลีลาเข้าใจไหม” เสียงแหบห้าวเอ่ยสั่งคนของตัวเองพร้อมมองไปทางคนตัวเล็กที่เดินจากไปก่อนหน้านี้
“ครับเสี่ย” สองหนุ่มเอ่ยขานรับคำพร้อมกันพร้อมโค้งคำนับแล้วเดินกึ่งวิ่งตามคุณหนูของตัวเองไปทันที ด้วยรู้ดีว่าสองพ่อลูกไม่ค่อยถูกกัน แต่พวกมันสองคนรู้ว่าเสี่ยบุญเส็งนั้นรักและห่วงลูกคนเล็กมากแค่ไหน