ตอนที่ 2
โชคชะตา
แสงแดดที่สาดส่องลอดผ่านบานหน้าต่างกระจกและผ้าม่านสีทึบนั่นตกกระทบเข้ากับใบหน้าคมเข้มของชายผู้ยังคงหลับตาอยู่บนเตียงนั้นพอดี เปลือกตาเรียวยาวขยับยุกยิกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมขึ้นจนเต็มดวง 'แทนคุณ' ยังคงนอนนิ่งอยู่แบบนั้นราวกับกำลังดาวน์โหลดข้อมูลสมอง ก่อนจะพลิกร่างหันไปกอดร่างเย้ายวนที่นอนตะแคงกายอยู่ข้างตัวเขาด้วยความคุ้นชิน
ฉับพลันดวงตาคมของเขาก็มีอันเปิดกว้างออกด้วยความตกใจ ร่างกายกำยำอุดมไปด้วยมัดกล้ามสะดุ้งโหยงออกมาสุดแรงพลางเด้งตัวเองขึ้นมาราวกับเตียงหนานุ่มเป็นของร้อน ความตื่นตระหนกฉายชัดออกมาจากแววตาคู่คมกริบเมื่อกวาดมองไปยังเรือนร่าง 'เมียสาว' ของเขา
"เมื่อคืน มันอะไรกันว่ะ ความฝัน หรือว่า..."
คิดถึงตรงนี้ความตระหนกก็พลันเกิดกับแทนคุณอีกครั้ง ก่อนที่ก้อนความกลัวถูกกลืนลงคออย่างยากลำบาก พร้อมกับคนตัวสูงที่ทำใจกล้าขยับกายเข้าหาสาวพลาสติกเพื่อตอบคำถามความไม่แน่ใจนั่น
"ก็ไม่มีอะไรแปลกไปเลยนี่หว่า เฮ้อ สงสัยช่วงนี้ทำงานหนักไปสินะ"
แทนคุณเอ่ยออกมาพร้อมกับทอดถอนลมหายใจเฮือกใหญ่ เมื่ออลิซซาเบธของเขาไม่ได้แสดงความผิดปกใดออกมานอกเหนือจากการอยู่นิ่งไร้การไหวติงแม้แต่กะพริบตาดั่งตุ๊กตายางทั่วไป ชายหนุ่มวัยย่างเข้าเลขสามส่ายหน้าไปมากับความคิดของตัวเอง ก่อนจะหันไปคว้าผ้าขนหนูผืนโตเดินโทงเทงเข้าห้องน้ำไปแบบไม่อายสายตาใคร
"ตาบ้าเอ๊ย ไม่รู้จักอายเป็นรึไงนะ"
เสียงต่อว่าน้ำเสียงก้ำกึ่งกลั้วขำดังขึ้นอย่างแผ่วเบาราวกับกำลังจะพูดกับตัวเอง ก่อนแสงสว่างจะเรืองรองขึ้นยังมุมหนึ่งตามมาด้วยร่างโปร่งแสงของวิญญาณตนเดิม ที่กำลังยืนหัวเราะคิกคักกับตัวเอง ทุกการกระทำของชายหนุ่มตกอยู่ในสายตาของผีมาตั้งแต่ต้นเพียงแต่เธอเลือกจะไม่ปรากฏตัวให้เขาเห็น หรือยุ่งวุ่นวายอะไรกับว่าที่ร่างใหม่ซึ่งเธอกำลังหมายตาอยู่ เพราะไม่อย่างนั้นชายหนุ่มคงได้ตื่นกลัวจนเรียกได้หมอผีมาขับไล่เธออีกเป็นแน่ และอีกประการหนึ่งคือพละกำลังของเธอไม่ได้แข็งแกร่งเท่ายามราตรีอีกด้วย
"ห้องของคุณคนนี้ก็สวยดีเหมือนกันนะเนี่ย"
สาวน้อยเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างพลางพาร่างโปร่งของตนหายไปตามจุดนั้นจุดนี้ของห้องอย่างนึกสำรวจ ไม่ต่างอะไรเลยกับเด็กน้อยอยากรู้อยากเห็น จนกระทั่งมาหยุดอยู่ต่อหน้าของอลิซซาเบธที่ยังคงนอนนิ่งโป๊เปลือยอยู่เหมือนเคย
"มาดูชัดๆ แบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกเลยว่าสวยเหมือนคนจริงๆ เลยนะ เธอน่ะ"
เธอว่าพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความเจ้าเล่ห์ก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้กับสาวสวยไร้จิตวิญญาณมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าก็จำต้องหยุดไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ทุกอย่างมันผิดความตั้งใจไว้ เมื่อเสียงของชายหนุ่มเจ้าของแม่สาวอลิซซาเบธตัวนี้กำลังเปิดประตูห้องน้ำออกมา
"แม่เจ้า!" ผีสาวร้องลั่นออกมาทันทีพลางเอาฝ่ามือโปร่งแสงของตัวเองปิดยังลูกตาทั้งสองข้างไว้ตามสัญชาตญาณแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม
เรือนร่างเปลือยเปล่าของชายตรงหน้าที่เธอเพิ่งจะสังเกตอย่างชัดเจนก็ตอนนี้ กำลังเคลื่อนไหวไปมาตามวิถีชีวิตยามเช้าของตัวเอง หาได้สนใจสายตาอันไม่ต่างอะไรเลยกับกำลังถูกแทะโลมนี่นัก แผงอกกำยำอันเต็มไปด้วยก้อนกล้ามเนื้อที่มีหยดน้ำเกาะพราว ชวนให้ใจที่ไม่มีเหลือแล้วให้รู้สึกราวกับว่าจะเต้นได้ขึ้นมาอีกครั้ง ยิ่งพอสายตาคู่หวานไล้ไปตามหยดน้ำหนึ่งที่ไหลไปตามร่างกายผ่านกล้ามท้องแข็งแกร่งมา ก่อนจะเลือนหายไปกับพุ่มหญ้าสีดำสนิทใต้ท้องแกร่งของเขา ฉับพลันดวงตาสวยก็เบิกกว้างขึ้นมาอีกอย่างกับผีที่กำลังตื่นตัว เมื่อจับจ้องมองไปยังแท่งกายประจำตัวของเขา
''นี่ขนาดว่ายังไม่ตื่นตัวขึ้นมาเลยนะ ยังจะขนาดนี้ มิน่าเมื่อคืนถึงได้..." คิดถึงตอนนี้ร่างโปร่งใสก็พลันบิดไปมาราวกับเด็กสาวที่กำลังเขินจนม้วนต้วน ยามหวนนึกถึงสัมผัสอันชวนให้หัวใจกลับมาเต้นอีกครั้งแม้นจะเป็นแค่ดวงวิญญาณก็ตาม
แทนคุณผู้ที่ไม่รู้เลยสักนิดยังคงเดินไปเดินมาเพื่อแต่งตัวเตรียมออกไปทำงานดั่งทุกวันโดยมีผีสาวเดินตามในระยะประชิดตัวเลยก็ว่าได้
"ทำไมมันเย็นแปลกๆ ว่ะ" จู่ๆ ชายหนุ่มวัยสามสิบต้นก็พลันออกอาการสะดุ้งออกมาเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงไอเย็นบางอย่างมาปะทะกับต้นคอของเขา นั่นทำผีสาวเริ่มรู้ตัวว่าตนกำลังตามติดอีกฝ่ายเกินไป
"โทษทีค่ะ ลืมตัว" สาวเจ้าอุทานออกมาแม้จะรู้ว่าเขาไม่มีทางได้ยินก่อนจะยืนหัวเราะคิกคักอยู่แบบนั้น มองตามคนตัวโตที่เดินตรงไปหาสาวพลาสติกบนเตียง
อุ้งมือหนาประคองร่างอรชรคล้ายมนุษย์ขึ้นมาอย่างทะนุถนอมก่อนจะหันไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดมาจัดการให้กับ 'เมียสาว' ของตนเหมือนกับทุกวันราวหล่อนมีชีวิตและอยู่ในฐานะภรรยาของเขาจริงๆ
"เดี๋ยวผมไปทำงานก่อนนะครับที่รัก แล้วจะรีบกลับมานะ"
แทนคุณเอ่ยบอกกับสาวไร้จิตวิญญาณที่อยู่ในเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้วด้วยรอยยิ้ม พลางบรรจงพรมจูบลงกับแก้มนวลอย่างแสนรักก่อนจะหมุนกายเดินตรงไปยังบานประตูห้อง โดยมีอลิซซาเบธที่เมื่อครู่นั่งนิ่งไร้จิตใจกำลังโบกไม้โบกมือให้ ความผิดปกตินั่นทำเอาคนที่หันหน้าเข้าหาประตูเกิดอาการชะงักออกมากับความรู้สึกแปลกๆ ทว่าพอหันกลับมามองอีกครั้งกับไม่พบความปกติใดทั้งสิ้น
"ไอ้แทนเอ๊ย ท่าจะบ้าไปแล้วมั้ง" เขาพึมพำออกมาแบบนั้นก่อนจะเดินออกไปทันทีโดยมีผีสาวที่พยายามทำตัวนิ่งไร้พิรุธลุกเดินตามไปอย่างเงียบเชียบ
"คุณจะออกไปข้างนอกเหรอคะ ฉันไปด้วยนะ" เสียงกระตือรือร้นของผีสาวดังขึ้นก่อนจะตัวจะวิ่งตามชายหนุ่มออกไปอย่างไม่ทันคิดอะไร ทว่าทันทีที่ร่างโปร่งใสถูกแสงแดดที่แม้จะยังไม่ได้ร้อนแรงอะไรมากมายทว่านั่นก็ยังทำให้สาวเจ้าทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพลางเริ่มกรีดร้องออกมา
"กรี๊ดด ปวด ปวดแสบปวดร้อนไปหมดแล้ว ฮือ ฮือ" เสียงคร่ำครวญอย่างน่าเวทนาดังขึ้นอยู่แบบนั้นนานนับนาทีก่อนที่ไอหมอกจางๆ จะมาปกคลุมห้อมล้อมเธอไว้แล้วนำพาร่างของเธอกลับเข้าตัวบ้านไป โดยที่เจ้าของบ้านยังไม่รับรู้อะไรเช่นเดิม
"เอ็งนี่มันหาเรื่องดีจริงนะ เป็นผีแบบนี้จะออกไปเจอแสงแดดเหมือนคนทั่วไปได้เยี่ยงไร อยากดับสลายนักรึ!"
เสียงของผู้มีอำนาจสูงสุดในบรรดาสิ่งเหนือธรรมชาติในอาณาเขตบ้านหลังนี้เอ่ยดุผีสาวที่ยังคงนั่งคุดคู้อยู่กับพื้นด้วยความเป็นห่วง ทว่าสาวเจ้าที่ยังคงนั่งลูบไปตามท่อนแขนของตัวอยู่นั่นกับเอ่ยเถียงออกมาราวกับเป็นเด็กอยากเอาชนะแม้จะมีหยดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอออกมาเพราะความทรมานก่อนหน้าก็ตาม
"ก็หนูลืมตัวนี่เจ้าคะ รู้แค่ว่าอยากออกไปข้างนอกบ้าง เพราะนอกจากตรงเดิมที่หนูเคยอยู่ นี่ก็คงจะเป็นบ้านหลังเดียวกระมัง ที่หนูเคยเห็นน่ะ ตัวเองเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ ตายเพราะอะไรก็ไม่รู้ แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้อีก ฮือ ฮือ เกิดเป็นผีความจำเสื่อมนี่มันลำบากชะมัด" ชายชราได้แต่ส่ายหน้าไปมากับคำตัดพ้อนั่นก่อนจะเอ่ยปลอบประโลมเชิงทิ้งปริศนาไว้ให้ก่อนจะเลือนหายไป
"ทุกอย่างมันคือโชคชะตาที่ถูกกำหนด เมื่อถึงเวลาเดี๋ยวเอ็งก็ได้คำตอบเอง"
ผีสาวได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง เธอพยายามขบคิดตามคำพูดของท่านพระภูมิหากแต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร คำตอบก็เหมือนจะยังไม่กระจ่างออกมาอยู่ดี มีเพียงความหดหู่และหนาวเหน็บเท่านั้นที่มันเกาะกุมความรู้สึกของเธอ เหมือนทุกทีเวลาเจ้าตัวกำลังพยายามหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีตของตน