ตอนที่ 4
อย่าการละครให้มาก
“ตกลงว่ายังไง ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ในสภาพ...แบบนี้”
ประโยคช่วงท้ายถูกเว้นจังหวะไปอยู่เพียงนิด ก่อนจะดังขึ้นมาใหม่พร้อมกับสายตาที่มองมา แค่ชมพูแพรเห็นยังรู้สึกได้ถึงความกระดากอายไม่น้อย แม้ว่าคนตัวโตจะยังไม่ได้เอ่ยคำพูดใดออกมามากมายก็ตาม ริมฝีปากบางเล็กพยายามจะเปล่งคำแก้ตัวออกไป แต่ก็เหมือนจะยากพอสมควรเพราะไม่รู้จะงัดเอาคำไหนมาแก้ต่างให้สถานการณ์ตรงหน้านี่ดี
“เอ่อ คือ...”
"แต่จะว่าไปเธอเองก็ดูเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ ถ้าไม่เห็นนาฬิกาคงจำไม่ได้ ว่าแต่พวกผู้ชายที่มหาลัยนี่มันจำได้ยังไง หรือจริง ๆ แล้วเธอมีแอคไว้โปรโมตเหรอ ไม่เห็นบอกฉันบ้างเลยล่ะคนกันเองแท้ๆ"
"ไม่ใช่นะ ฉันไม่เคยบอกใครทั้งนั้น" กว่าจะรู้ตัวพลาดหลงกลคนเจ้าเล่ห์เข้าให้แล้ว ก็ตอนที่ริมฝีปากหยักของคนตรงหน้ามันยกยิ้มเหยียดออกมาอย่างเป็นต่อ ตรงกันข้ามกับน้ำเสียงอันถูกปั้นให้ดูใสซื่อที่เปล่งคำออกมา
"อ้าวเหรอ นี่ไม่มีใครรู้หรอกเหรอว่าเธอมีอาชีพเสริมแบบนี้ แสดงว่าความลับงั้นเหรอ ฮึฮึ"
"..."
"แต่ก็นั่นแหละนะ ใครมันจะไปคิดว่าหลังภาพครอบครัวอบอุ่น แสนดี แล้วก็เพียบพร้อมเบื้องหลังกลับเน่าเฟะกว่าที่คิด ใกล้จะล้มละลายยังไม่พอ ลูกสาวยังตกอับถึงขนาดผันตัวมาเป็นเด็กเอ็นอีก นี่เหรอ นางฟ้าที่คนเรียกกัน เหอะ"
จากที่อยู่ในอาการหวาดวิตกและคิดนึกหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้า อารมณ์กรุ่นโกรธก็พลันตีรื้นขึ้นมาแทนที่ แม้จะไม่กล้าแสดงสีหน้าโกรธจัดออกมามากมายอะไร หากแต่ความคุกรุ่นของอารมณ์ก็ยังมากพอจะทำให้ริมฝีปากสีสดเอ่ยเถียงกลับมาได้
"ถ้าคุณไม่รู้อะไรอย่ามาตัดสินคนอื่นหน่อยเลย"
"ปากดีซะด้วย เอ แต่จะว่าไป...เรื่องเบื้องหลังดาวคณะนี่ยังไม่มีใครรู้สินะ แล้วถ้าเกิดว่ามีคนรู้ขึ้นมา..."
แม้จะไม่ได้เอ่ยออกมาจนจบประโยคดี แต่คำนั้นของอคินน์ก็มีอิทธิพลมากพอจะขับให้ใบหน้าสวยกลับมาเต็มไปด้วยความกังวลอีกครั้งหนึ่ง รอยหยักของสมองสมองสั่งให้ทิ้งศักดิ์ศรีที่โดนดูถูกเมื่อครู่แทบทันที พร้อมกับหาทางเอาตัวรอด และที่คิดได้ตอนนี้ก็เห็นจะเป็นสิ่งที่เธอถนัดสุดยามจำเป็นต้องใช้กับบรรดาลูกค้าทั้งหลาย
"งื้ออ คินน์คะ เราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย อย่างน้อยก็คนรู้จักกัน ถือว่าช่วยฉันสักครั้งนะ เรื่องนี้ให้เป็นความลับระหว่างเราสองคนได้ไหมเอ่ย"
น้ำเสียงหวานกว่าปกติไม่ต่างจากดวงตาสวยที่มันขยับกะพริบขึ้นลงเป็นจังหวะค่อนข้างเร็ว ด้วยหวังอยากต้องการจะให้อีกฝ่ายยอมใจอ่อนลงให้ตนบ้าง
ใบหน้าชวนมองเอียงเล็กน้อยเลียนแบบท่าทางของลูกแมวตัวเล็กช่างประจบ ไม่ต่างจากมือเล็กที่ถือวิสาสะเกาะแขนกำยำของอีกคนไปด้วย เพราะเข้าใจว่าอคินน์คงไม่ต่างอะไรกับผู้ชายคนอื่น ที่เจอลูกไม้มารยาหญิงไปนิดหน่อยก็คงจะยอมลงให้
แต่เหมือนตัวของชมพูแพรจะคาดผิดถนัด เมื่อแทนที่อีกฝ่ายจะใจอ่อนให้ตน กลับกลายเป็นว่ามันตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
“หยุดทำท่าทางแบบนั้นได้ไหม ฉันไม่ใช่เสี่ยแก่ตัณหากลับหรือพวกหน้าหม้อแบบที่เธอไปเอ็นฯ มานะ มันน่าขยะแขยง”
ว่าพร้อมกับสะบัดแขนเล็กที่บังอาจมาเกาะแกะแขนของเขาออก แต่กลับใช้สายตามองสำรวจมาตามเรือนร่างของเธออย่างจาบจ้วง
ก่อนริมฝีปากจะยกยิ้มเหยียดอย่างเห็นชัด โดยเฉพาะยามสายตามันจับจ้องไปยังหน้าอกอวบล้นมือที่แค่คาดคะเนน่าจะอยู่ที่คัพซีหรือดีเป็นแน่ ลิ้นสีสดจงใจถูกส่งออกมาไล้เลียตามขอบปากราวกับกระหาย จนตัวของชมพูแพรถึงกับชะงักไปทันที พยายามถอยหลังหนีแต่ก็ติดตรงที่ข้อมือยังถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ ที่หญิงสาวทำได้จึงมีเพียงแค่ยกมือขึ้นปกปิดส่วนถูกจ้องมองเอาไว้ได้เท่าที่ทำได้เท่านั้น
“แหม ทำมาปิด อายทำไม ทีไปโชว์พวกข้างนอกนั่นไม่ยักอาย เอางี้ไหม ถ้าอยากให้ฉันเก็บความเน่าเฟะของเธอกับครอบครัวไว้ ฉันคิดค่าปิดปากเป็นตัวเธอ ลองมาขย่มเอวหวานๆ ให้ฉันสักทีสองที ไม่แน่นะ ถ้าทำให้ฉันพอใจเธออาจได้ทั้งค่าปิดปาก ทั้งค่าขนมติดมือไปก็ได้”
“นี่! ฉันไม่ได้...”
"ชู่ว์ อย่าพูดมาก ฉันไม่ชอบคนพูดมาก"
เสียงที่กำลังจะโต้แย้งในสิ่งที่อีกฝ่ายคิดถูกขัดจังหวะก่อนจะทันได้เอ่ยจบ พร้อมกับร่างเล็กที่ถูกคนเอาแต่ใจกระชากให้เดินไปด้วยกัน โดยที่ไม่ฟังเสียงหรือท่าทีขัดขืนของชมพูแพรเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาคิดและเข้าใจไปแล้วในเวลานี้ก็คือ อีกฝ่ายคงบริการแขกจนกร้านโลกมากประสบการณ์ไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องทะนุถนอมอะไรให้เสียเวลา
"ขอเปิดห้องหน่อย ขอดีที่สุด ด่วนที่สุด"
ปากร้องสั่งออกไปทันทีที่ลากพาเอาตัวของชมพูแพรมาถึงยังบริเวณที่เป็นส่วนของล็อบบี้ ที่มีเอาไว้สำหรับต้อนรับลูกค้าที่ใช้บริการห้องพักของไนต์คลับ แต่เหมือนว่าคำร้องสั่งของเขามันจะถูกตอบกลับเข้ามาด้วยท่าทีลังเลของพนักงานหลังเคาน์เตอร์แทน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่สายตาสบเข้ากับใบหน้าซีดเผือดพยายามจะดิ้นหนีเอาตัวรอดจากการกอบกุมจากมือคู่ใหญ่นั่น
"เอ่อ คุณคะ คือน้องคนนี้ไม่ได้..."
"ผมว่าหน้าที่ของคุณคือเปิดห้องให้ผม ส่วนเรื่องยัยเด็กนี่ผมจัดการเอง อ้อ หรือว่ายัยนี่นัดใครไว้ ไปยกเลิกซะ ผมจ่ายให้สองเท่า ไม่สิ สามเท่าไปเลย ไปจัดการซะสิ"
ธนบัตรหลายใบถูกวางลงตรงส่วนของเคาน์เตอร์เป็นเชิงบีบบังคับให้พนักงานสาวทำตามที่บอกทางอ้อม พร้อมกับคว้าเอาคีย์การ์ดที่ยังกึ่งกล้ากึ่งกึ่งลังเลจะยื่นให้ จากนั้นก็สืบเท้าหายไปจากสายตาคนหน้าเคาน์เตอร์ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยคำใดออกมา
"นี่คุณคะ เบาหน่อยสิ แล้วก็ปล่อยฉันได้แล้ว อย่าเอาแต่ใจนักได้ไหม ฟังคนอื่นบ้าง"
ชมพูแพรร้องออกมาอย่างเหลืออด เมื่อเห็นว่าอีกคนยังเอาแต่ใจอยู่แบบนี้
แต่เหมือนอคินน์จะไม่ได้ฟังด้วยซ้ำถึงได้ออกคำสั่งกลับมาแทน
"มาใช้ปากให้ฉัน"
"จะบ้าเหรอ!"
เสียงแหลมเล็กตอบกลับไปทันที ใบหน้ารูปไข่แดงก่ำบอกถึงความอายที่มีได้ไม่น้อย โดยที่แยกแทบไม่ออกเลยว่า อายนั่นมันมาจากความกระดากอายหรืออารมณ์โกรธมากกว่ากัน
"เร็วสิ อย่าลีลา ก่อนที่ฉันจะใจร้ายปากโป้งขึ้นมา"
ปากพูดไปมือก็ขยับขอบกางเกงปลดกระดุมกางเกงที่มันทำหน้าที่เกี่ยวรัดอยู่ไปด้วย ท่ามกลางสีหน้าของคนจับจ้องที่ซีดลงเรื่อย ๆ อยากจะปฏิเสธออกไปก็เหมือนน้ำท่วมปากพยายามต่อรองออกไปเท่าที่จะทำได้
"คินน์ ให้ฉันทำอย่างอื่นแทนได้ไหม คือถ้าเป็นอย่างอื่นฉันทำให้ทุกอย่างเลย เป็นเบ๊ให้ก็ได้ แต่แบบนี้มันเกินไป"
"เกินไป? มันจะเกินได้ไง มันก็เหมือน ๆ กับที่เธอทำให้คนอื่นนั้นล่ะ อ้อ ถ้าบอกว่าใหญ่เกินไปล่ะก็ไม่เถียง เพราะของฉันมันก็เกินมาตรฐานไปมากอยู่"
"ไม่ใช่แบบนั้น คือ..."
"เร็ว อย่ามาต่อรองมาก แล้วก็ไม่ใช่ว่าฉันพิศวาสอะไรเธอขนาดนั้นหรอกนะ ก็แค่อยากลองดูว่าปากนางฟ้ามันจะนุ่มขนาดไหน ถ้ายิ่งช้า ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเว็บบอร์ดมหาลัยพรุ่งนี้จะมีข่าวใหญ่อะไร"
ชมพูแพรได้แต่เม้มปากแน่นกับคำนั้น ในใจนึกอยากร้องไห้ออกมาดื้อ ๆ กับสิ่งที่กำลังเจอตรงหน้า หากแต่พอเห็นว่าอคินน์เวลานี้เริ่มยกมือถือของตัวเองขึ้นมากด ๆ อะไรบางอย่าง ความมีชนักติดหลังมันก็ทำให้หญิงสาวไม่อาจคงความลังเลเอาไว้ได้อีก
"เอ่อ คือ...ใช้ปากใช่ไหม"
เสียงอ่อนเปล่งคำจำยอมในที่สุดพร้อมกับร่างที่ค่อย ๆ ทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้นอย่างจำยอม
ผมยาวสลวยถูกรวบไปด้านหลังพร้อมกับมือเล็กที่เอื้อมไปรูดตรงขอบกางเกงชั้นในที่ปรากฏให้เห็นของอีกฝ่าย แบบที่เคยเห็นมาจากหนังผู้ใหญ่ที่เคยแอบศึกษา แต่ถึงอย่างนั้นชมพูแพรเองต้องยอมรับ ว่าทฤษฎีกับภาคปฏิบัติมันต่างกันมากมายเหลือเกิน
"เร็วหน่อยได้ไหม เดี๋ยวถ้าฉันมือลั่นขึ้นมานี่จะยุ่งเอานะ" คนถูกขู่มองค้อนอยู่เพียงนิด ก่อนจะทำใจกล้าเอื้อมมือไปจัดการรั้งกางเกงยีนราคาแพงของอีกฝ่ายลงตามคำสั่ง
นาทีแรกที่เห็นอาวุธคู่กายของอีกฝ่ายชมพูแพรนึกอยากอุทานออกมาดัง ๆ นัก กับขนาดที่แค่มองยังรู้เลยว่ามันต้องคับปากเธอแน่ แม้ว่ามันจะยังไม่ตื่นมาเต็มที่ก็ตาม
"จ้องอะไรขนาดนั้น ถึงขนาดนี้ยังจะเล่นบทใสซื่อ? มันเสียเวลาน่า"
คนงามถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะทำใจกล้ายกมือขึ้นสัมผัสกับแท่งลำที่เริ่มสู้มืออย่างจำใจ ความอุ่นร้อนและกลิ่นกายไม่คุ้นชิน ทำเอาเลือดลมสาวแล่นพล่านไปทั่วร่าง จนกล้าพอจะอ้าปากรับเอาความใหญ่โตที่รออยู่ตามคำสั่งนั่น
"อึก อื้ม นุ่มใช้ได้"
นาทีแรกที่เอ็นเนื้อถูกปากเล็กกลืนกิน เสียงครางต่ำของอคินน์พลันดังขึ้นทันที ในใจของชายหนุ่มเวลานี้ยอมรับอย่างไร้ข้อโต้แย้ง ว่าท่าทีไม่ประสาที่สาวเจ้าพยายามแสดงให้เห็นนั้น มันแนบเนียนสมจริงไม่น้อย ทำเอาเขาที่จากเดิมคิดจะแค่แกล้งเล่นขำ ๆ มีอารมณ์ร่วมขึ้นมาจริงๆ
"อมเข้าไปให้หมด อย่าอมแค่หัว การละครเก่งนะเรา ทำเป็นไม่เคย คงทำแบบนี้กับแขกบ่อยๆ เพื่อเรียกทิปหนักๆ ใช่ไหม อืม แต่ว่าแม่งก็เสียวจริงว่ะ ซีดส์"
หัวของชมพูแพรถูกกดให้แนบนาบกับเนินท้องของคนเอาแต่ใจมากขึ้น ส่งให้แท่งเนื้อที่เมื่อครู่หญิงสาวอ้าอมมันเพียงแค่ส่วนหัวบานต้องอ้ารับเอาลำกายที่มันโตคับปากเข้าไปจนหมด
"อ่อค อ่อค"
ความยาวที่เกินพอดีทิ่มเข้าคอหอย เล่นเอาชมพูแพรแทบอ้วกออกมาตรงนั้น แต่กลับไม่สามารถปล่อยปากตามคิดได้ สุดท้ายที่มันจะระบายความอึดอัดคับปากนี่ออกมาได้ เห็นจะเป็นเพียงแค่หยดน้ำใสที่มันเอ่อคลอเบ้าเท่านั้น แน่นอน
โดยที่เธอคงไม่รู้เลยให้การที่คิดว่าช้อนตาขึ้นประท้วงเหมือนกำลังทำอยู่ มันจะยิ่งไปกระตุ้นอารมณ์คนมองลงมามากแค่ไหน
"หน้าโคตรยั่วเย็.xด"
เสียงแผ่วเบาดังพอแค่ให้ตัวเองได้ยิน อย่างไม่อยากจะให้ชมพูแพรรับรู้ ว่าปากเล็ก ๆ ของเธอนั้นมันทำเขาทั้งเสียวและมีอารมณ์มากแค่ไหน มือหนาเลื่อนไปกอบกุมต้นคอระหงเอาไว้กันอีกฝ่ายหลบหลีกหนี ก่อนจะเริ่มเด้งบั้นเอวสอบสวนเข้าออกปากเล็กในจังหวะทั้งรัวและเร็ว ไม่สนว่าความใหญ่โตมันจะทำเอาคนงามทรมานขนาดไหน
ยิ่งใบหน้าแดงสวยและตาใสจ้องเงยมองมายังเขาหมายจะประท้วงเท่าไหร่ ปลายหัวเห็ดบานฉ่ำมันก็ยิ่งเปล่งบวมมากขึ้นเท่านั้น
"อึก อ่อค อ่อค อื้อ"
"อีกนิด ขยับแรงๆ จะแตกแล้ว"
เสียงสำลักแท่งเนื้อดังเคล้ามาให้ได้ยิน แข่งกับเสียงของหน้าขาที่มันถูกตีแรงๆ แรงต้องการประท้วงอยู่หลายที
"อื้อ อออ่อน" (พอก่อน)
"ไม่ จะแตกแล้ว อีกนิดเดียว อย่าหยุดนะ ซีดส์"
แต่ถึงอย่างั้นความเสียวซ่านที่ทันอัดแน่นอยู่ตรงปลายหัวกลับไม่ได้ทำให้อคินน์สนใจเสียงประท้วงนั่น ยังคงตั้งหน้าเด้าเด้งบั้นเอวเข้าออกอย่างเอาแต่ใจ จนกระทั่งน้ำกามอุ่นร้อนมันถูกกระตุ้นออกมาในที่สุด
"อ่าส์ แม่งเอ๊ย เสียวฉิบหาย"
"แค่ก แค่ก นี่! ตั้งใจแกล้งกันใช่ไหม!"
เสียงประท้วงที่ดังผสมกับเสียงไอสำลักดังขึ้นมาทันทีที่ท่อนเอ็นถูกดึงออกจากปาก และเพราะก่อนหน้า ตัวของอคินน์ไม่ยอมถอนมันออกมาตั้งแต่แรก น้ำกามอุ่นร้อนถึงได้ไหลลงเข้าสู่ลำคออย่างเลี่ยงไม่ได้ ในความรู้สึกของชมพูแพรนั้น แม้จะบอกว่ามันค่อนข้างทุลักทุเลและไม่ทันตั้งตัวพอสมควร แต่ว่ารสชาติมันไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น
"..."
ทางด้านของคนที่เพิ่งสุขสมไปนั้นไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาเอาแต่จับจ้องไปยังคนตัวเล็กที่กำลังสำลักน้ำกามของเขานิ่งไม่วางตา
ใบหน้าสวยและดวงตาชุ่มไปด้วยหยดน้ำเวลาที่ตวัดมองค้อนมายังเขานั้น มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด โดยเฉพาะเวลานี้ที่มุมปากสวยของเจ้าตัวเองมันเปรอะไปด้วยน้ำคาวของเขาติดอยู่จางๆ กลับยิ่งทำให้ความตั้งใจเดิมของอคินน์ที่ตั้งใจจะแค่แกล้งอีกฝ่ายเล่น เพราะแค่นึกหมั้นไส้ในความเย่อหยิ่งยามเจ้าตัวอยู่มหาลัยนั้นถูกกลบทิ้ง และแทนที่ด้วยความอยากจับร่างของคนตรงหน้าสำรวจให้มันหนำใจทุกซอกทุกมุมไปเสียอย่างนั้น
เดิมทีจากที่คิดว่า ได้ปลดปล่อยแล้วจะเพียงพอให้ความเป็นชายที่มันตั้งโด่อยู่จะสงบลงได้ แต่มันไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้สักนิด ตอนนี้ทั้งหัวบนหัวล่าง มันมีแต่คำว่าต้องการผู้หญิงคนนี้อยู่เต็มไปหมด
"คุณเสร็จแล้วนี่ งั้นฉันไปก่อนนะ" ชมพูแพรที่เข้าใจว่าตัวเธอคงหมดหน้าที่ลงแล้ว และความลับน่าอายนี่ก็คงจะถูกฝังกลบเอาไว้ตามการรับปากของชายหนุ่ม
ทว่า มันกลับไม่เป็นอย่างควร เมื่อสองขาของคนที่ควรจะปล่อยเธอไป กลับสืบตรงเข้ามาหาเธอ พร้อมกับมือแข็งแรงที่ดึงตัวเธอลากหลุน ๆ ไปทิ้งเอาไว้บนเตียงนอนแทน
"จะ จะทำอะไรอีก ไหนบอกว่าแค่ใช้ปากไง"
คนตัวเล็กที่ถูกโยนลงบนเตียงกว้างร้องถามออกมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก เพียงแค่เห็นสายตาของอคินน์สัญชาตญาณในกาย มันก็ร้องบอกได้ทันทีว่าสถานการณ์นี้มันอันตรายแค่ไหน
"ใครพูดว่าแค่ปาก ไม่เห็นจำได้"
***