โรงพยาบาล Q
"หมอ!!!! ฉีดยาด้วยหรอหมอ!!! ย้ากกกกกกกก!!!! ถ้าไม่ใช่หมอผมจะฆ่าคุณณณณณ!!!! "
ผมเดินหอบสังขารที่โดนผ้าสีขาวพันแผลเอาไว้อีกประมาณสองสามวันถึงค่อยมาเอาออก ตอนนี้รู้สึกคอเเหบเเห้งไปทั้งลำคอ ทำไมต้องฉีดยาด้วยพิษมันไม่เเล่นเข้าหัวใจหรอก ผมบอกหมอเเล้วก็ไม่เชื่อ ผมไม่ได้เถียงหมอ ผมเเค่ไม่ชอบเข็มอะ -.-
แต่โชคดีมากที่แขนผมมันโดนแค่น้ำร้อนแต่ไม่หนักมากเนื้อเลยไม่เปิดเหมือนโดนน้ำร้อนเดือดจัดๆ ซึ่งมันก็ดีแล้วแหละเพราะผิวขาวบอบบางของผมแค่โดนไรฝุ่นก็แดงแล้ว ผมเบื่อที่ตัวเองต้องอ่อนแอต่ออากาศพวกนี้ชะมัด!
เออ อีกอย่างนึงพี่เเกทำกาเเฟหกบ้านอยู่ไหนฟร่ะ พ่อจะตามไปเรียกค่าชดใช้!
“เเยกกันตรงนี้เเหละ” ผมว่า คนตรงหน้าช้อนสายตาขึ้นมามองผมพร้อมกับยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อตามเดิม
“พี่ไปส่ง แขนเราเจ็บอยู่หนิ”
"ไม่ต้อง"
"พูดกับรุ่นพี่.."
"ให้มันมีหางเสียง กำลังจะพูดเเบบนี้สินะ"ผมว่าออกไปอย่างรู้ทัน คนตรงหน้าส่ายหน้าอย่างเอือมผมช้าๆ ช่วยไม่ได้ผมไม่ได้ขอซะหน่อย
"งั้นก็กลับกับพี่ เดี๋ยวไปส่งเอง"
"ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าผมขอบคุณพี่มากนะที่มาส่งแถมยังออกค่ารักษาพยาบาลไว้เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะกดเงินแล้วไปคืน.. เราแยกกันตรงนี้นะ” ผมฉีกยิ้มเสแสร้งซึ่งเขาก็คงจะรู้แหละว่าผมไม่เต็มใจ
พอพูดจบผมเลยเลือกที่จะเดินหนีออกมาจากโรงพยาบาลเขาเองก็ไม่ได้รั้งผมเอาไว้หรอก ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเขาหนิ อีกอย่างเจ้าตัวควรจะรู้ว่าผมไม่ชอบเขาเเล้วก็อยู่ให้ห่างๆ ผมสิ นี่ชอบทำดีให้อยู่เรื่อย ผมไม่หลงกลเขาหรอก!
"เจ็บโว้ย"ผมบ่นพลางมองเเขนตัวเองนิ่งๆ ก่อนจะออกไปยืนรอรถเมล์หน้าโรงพยาบาลเเทน นี่ก็ปาไปจะทุ่มอยู่แล้วอากาศก็หนาวอีก ฝนพึ่งหยุดตกไปไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เอง
วันนี้คือวันซวยๆ ของผมนี่เอง - -
“เห้ยๆ ๆ ๆ ๆ!!!!” ผมร้องเสียงหลง เนื่องจากไอ้รถเก๋งที่แว้นมาแต่ไกลขับชะแหล่บเบี่ยงซ้ายมาแล้วน้ำจากท่อที่มันขังอยู่ด้านหน้า ณ บัดนี้ได้แตกกระจายเปรอะเปื้อนชุดนิสิตนักศึกษาผมเรียบร้อย จากเสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดตายตอนนี้กลับกายเป็นเสื้อลายด่างทุกเเต่งเเต้มด้วยน้ำขังจากท่อเรียบ
เรื่องกลิ่นนี่ไม่ต้องพูดถึง สะพรึงกว่าหนูตาย = =
ผมถึงกับกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความแค้นก้มมองสภาพตัวเองเปียกปอนไปด้วยน้ำเน่า กลิ่นนี่คล้ายว่าหมาเน่าตายมาแล้วหลายวัน!
ขาผมยืนเเข็งทื่อก่อนหน้านี้ผมจำได้ว่าสมองผมมันสั่งให้ก้าวถอยหลังหลบเหตุการณ์นี้ไหงมันไปเเต่ความคิด เเต่ร่างกายยืนนิ่งเเบบนี้
โว้ยย! ทำบุญล้างซวยสักเก้าวัดดีมั๊ยวะ!
สายตาผู้คนที่ผ่านไปมาต่างมองผมกันไม่หยุดหย่อน เออ! ไม่เคยเห็นลูกหมาตกน้ำหรือไง! ฟันล่างฟันบนกระทบกันกึกๆ ถ้าไอ้คนที่มันนั่งในรถเมื่อกี้ผมจับได้ว่ามันเป็นใคร ผมจะบดกระดูกมันให้แหลกเป็นผุยผง!
ไอ้เวงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!
“นี่!!! "
ผมตะโกนไล่หลังรถคันนั้นไป เเต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอาเลือดหัวมันออก รถคันหรูที่ผมคุ้นตาก็เข้ามาจอดที่ท่าพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินลงมาจากรถพอดี เขาควรกลับบ้านไปกินนมเเล้วนอนซะ เเล้วให้เขามาเห็นผมสภาพนี้เนี่ยนะ
เหอะ! เเต้งก๊อด!
"หึๆ "
"ขำอะไร"
ผมตวาดเเว้ดใส่เขา วายุภัคร ผู้ที่หน้าหนามิสนเเดดสนลม ขนาดผมทำท่าไม่อยากจะคุยด้วยขนาดไหนเขาก็ยังจะตามมาอีก นี่เขาคงตามมาหัวเราะเยาะผมสินะ น้ำท่อไม่ได้อร่อยอย่างที่คิดเลยสักนิด!
"เปล่า ให้พี่ไปส่งเหอะ เสื้อผ้าเปียกเเบบนี้ เเท็กซี่คงไม่รับ"
"ใครบอกจะนั่งเเท็กซี่ นู่นรถเมล์มานู่นเเล้วว้อยยยยย!! "
ผมชี้ไปทางที่รถเมล์วิ่งมา พอมันจอดเทียบท่าเท่านั้นเเหละผมถึงกับตีนสปีดตีนหมาวิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ยังมีเสียงของเขาไล่ตามหลังมาติดๆ บอกตามตรงว่าผมโคตรอายสภาพผมตอนนี้เเม่งโคตรเหมือนลูกหมาตกน้ำเน่าอะ กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ขืนอยู่ต่อไปเขาได้หัวเราะเยาะผมมากกว่านี้เเน่!
เเต่ตอนนี้ผมคงต้องยืนหลบหลังๆ ไกลผู้ไกลคนเขาหน่อย กลิ่นน้ำขังมันรุนเเรงต่อโพรงจมูกผมเหลือเกิน เเต่ผมไม่มีทางนั่งรถหรูของเขาให้คันตูดเเน่นอน!
คนเเบบเขาเอาชนะคนอย่างผมไม่ได้หรอก! อย่าหวังเลยเหอะ!
สองวันต่อมา..
มหาวิทยาลัยฮงโด
เเขนข้างซ้ายผมเป็นอันใช้ไม่ได้เรียบร้อยเพราะต้องพันผ้าเอาไว้ ดีนะที่หมอบอกว่าผิวของผมไม่ได้เป็นอะไรหนัก พอผ่านไปสักอาทิตย์สองอาทิตย์เดี๋ยวมันก็จะหายไปเอง เเต่กว่าเเม้งจะหายเล่นเอาผมล้างก้นไม่ถนัดหรือหยิบจับอะไรเเทบจะไม่ถนัดเอาซะเลย กลัวมันเปียกด้วยเเหละ นี่ถ้าเปื้อนอึก็ไม่โอเคไง -.-
เย็นนี้ผมมีนัดเรียนทำขนมกับเชฟเคน เขาเป็นคนบอกให้ผมเรียกเขาว่าอย่างนั้น เเละเขายังบอกอีกว่าถ้าอยู่มหาวิทยาลัยให้เรียกว่ารุ่นพี่เเต่หลังจากที่หมดเวลาเรียนให้เรียกว่าเชฟเคนเเทน เยอะเนอะ
เเละร้านของเขาก็ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของที่นี่ต้องนั่งรถไปประมาณครึ่งชั่วโมงหรือบางวันเล่นเป็นชั่วโมงเนื่องจากรถติด -*-
อ้อ ลืมบอกไปว่าไอ้พลูมันไม่ได้มาเรียนกับผมหรอก ที่จริงผมก็อยากให้มันมาเรียนด้วยกันมันจะได้ทำเเต้มนำผู้หญิงคนอื่นไง เเต่เเม่มันไม่อนุญาตอีกอย่างบ้านมันอยู่ไกลจากที่นี่มากอีกด้วย มันน่ะเรียนเก่งจนผมอยากจะผ่าสมองมันออกมาเเล้วดูว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง
เก่งฉิบหายเลย
"เปาเราสรุปชีสงานเมื่อคืนมาให้ เอาไว้อ่านก่อนสอบนะ"
"อื้ม ขอบใจนะ"
ผมบอกก่อนจะหยิบชีสงานที่ไอ้พลูมันสรุปเอามาใส่กระเป๋สะพายตัวเองเอาไว้ ปกติมันก็จะทำเเบบนี้ก่อนสอบย่อยทุกครั้ง ซึ่งถามว่ามันทำเเบบนี้ให้ผมเเล้วคะเเนนดีขึ้นกว่าเดิมมั๊ย? บอกเลยว่าไม่ = ='
"เออพลู พี่เคนเขาบอกให้มาชวนไปงานวันเกิดพี่หมอกเพื่อนเขา"
"พี่หมอกน่ะหรอ.."
"อืม นั่นเเหละ"
'สายหมอก' ไอ้เสือสายพยัคฆ์ร้ายอีกคนหนึ่งในกลุ่มเเก๊งของพี่เคน กลุ่มเขามีอยู่ห้าคนห้าเสือเเต่ผมไม่รู้หรอกว่ามีใครบ้างอะ รู้จักเเค่เขากับพี่หมอกนั่นเเหละ เเต่ไอ้ข่าวเลืองลือตำนานห้าเสือนี่ได้ยินมานานมาก
คนอื่นผมไม่รู้ เเต่คนที่ผมไม่ชอบก็คือ ไอ้พี่เคน!
ผมว่านะคนที่จะคบกันได้ก็คงต้องนิสัยเหมือนกันหรือมีอะไรคล้ายๆ กันถูกมั๊ย ..เเล้วพวกเขาห้าคนเห็นมีคนบอกคบกันมาตั้งเเต่ปีหนึ่งยันปริญญาโทยังไม่เลิกคบกันอีกเนอะ นับถือจริงๆ อืม
"ไม่รู้สิ เราขอบอกเเม่ก่อนก็เเล้วกัน.."
"เออลืมไปเลย.. พี่เคนฝากขนมมาให้"
ผมว่าพลางยื่นถุงเค้กช็อกโกเเลตที่พี่เเคนเขาฝากมาให้ไอ้พลูมัน เห็นบอกเป็นสินค้าตัวใหม่อะเลยอยากเอาให้มันชิมดู ซึ่งผมลองกินเเละ อืม อร่อย มาก -*-
"อ๋อ.. พี่เคนบอกว่าจะทำเค้กเเบบใหม่ใช่มั๊ย"
"อืม นั่นเเหละ"ผมตอบสั้นๆ เพราะสายตากำลังกวาดไล่อ่านหนังสือก่อนสอบอยู่
ทุกวันนี้นั่งอ่านสูงตรทำขนมหนักมากช่วงนี้ ผมมีความฝันว่าอยากจะมีร้านเค้กเป็นของตัวเอง เคยไปขอเงินพ่อบอกว่าอยากลงทุน เท่านั้นเเหละพ่อเเทบตัดพ่อตัดลูกกันเลยทีเดียว พ่อรักผมมากเเน่ๆ อะ พ่อบอกมีความฝันก็ต้องสานฝันตัวเอง อย่าหยุดทำ หมั่นขยัน อดทน ฝึกฝน ซึ่งของเหล่านั้นมันยากยิ่งกว่าข้อสอบใดๆ ในโลกที่เคยทำซะอีก
ผมความอดทนต่ำ ใครๆ ก็รู้ดูจากที่พึ่งกระทืบไอ้เเว่นไปเมื่อสองวันก่อนน่ะ -*-
"น้องเปา.. เพื่อนพี่มีคนฝากของมาให้"
"ให้ใคร? "
ผมเงยหน้าเเละเลิกคิ้วใส่ผู้ชายน่าจะอายุมากกว่าผมยื่นช็อกโกเเลตกล่องใหญ่ส่งมาให้ สิ่งที่ผมพูดออกไปไม่ได้ทำให้เขาหน้าเสียเเต่อย่างใดเพียงเเต่ทำให้เขายักไหล่เหมือนไม่เเคร์สิ่งใดในโลกเเถมยังยืนเอามือล้วงกระเป๋าผิวปากสบายใจเฉิบ
"น้องชื่อเปาใช่ป่ะล่ะ"
"อืม"
"ถ้าใช่ก็ถูกคนเเล้วล่ะ เพื่อนพี่ฝากมาให้อะ"
"เพื่อนพี่อะใคร ทำไมต้องให้ถามหลายรอบ เเค่ตอบมา กลัวน้ำลายบูดหรือไง"
"บอกไม่ได้หรอก ความลับ"
ท่าทางดูติสก์ๆ ของเขาบวกกับสายตาไร้อารมณ์ของเขาซึ่งมันดูขัดกันมากเลยนะ รูปร่างสูงโปร่งบุคลิกดูเหมือนนจะใจดีเเต่กลับมีเเววตาที่เย็นชาเเบบนั้นมันอะไรกัน เเต่มันก็ยังทำให้เขาดูดีใช่ย่อย เเต่ละคนที่เข้ามาคุยกับผมนี่มีใครที่ปกติกันมั่งวะเนี่ย
"ถ้าความลับก็ไม่อยากรู้อะ เอากลับไปเถอะ"ผมว่าเเล้วเลื่อนกล่องช็อกโกเเลตกลับไป เเต่ก็ยังไม่พ้นมือไอ้พลูที่มันสะกิดผมหยิกๆ มันไม่อยากให้ผมเเสดงด้านนิสัยไม่ดีออกมาให้คนอื่นเห็นไง มันเลยกระซิบบอกให้ผมรับของจากพี่เขาเอาไว้
"เอ้าๆ ๆ ไม่ได้ๆ เพื่อนพี่ฝากมาเเล้วเอาไปเหอะ พี่ขี้เกียจทะเลาะกับมัน"
"รับไว้เถอะเปา สงสารพี่เขา.."
ไอ้พลูมันสะกิดเเขนผมเบาๆ หวังจะห้ผมรับขนมเอาไว้เเล้วเลิกต่อปากต่อคำ ซึ่งไอ้เราก็ไม่ค่อยอยากจะมีเรื่องด้วยช่วงนี้ยิ่งเบลอๆ อยู่ ผมเลยจำยอมต้องรับเอาไว้เเล้วก็เขี่ยเบี่ยงไปให้ไอ้พลูมัน สักพักพี่เเกเองก็เดินล้วงกระเป๋าออกไปสบายใจเฉิบ
"เเกเอาไปดิพลู น้องภูมิจะได้กินด้วย"
"เเล้วเปาไม่กินหรอ"
"โตเเล้วใครเขายังทำเเบบนี้.. เด็กน้อยชะมัด"
ผมว่าเสียงดังลั่นจนสายตาที่ผมรู้จักหันมามองผมพอดี พี่เคนเขายืนพิงเสาในมือเขี่ยมือถือในมือเล่นไปด้วย สายตาที่เขามองมาทางผมคล้ายว่าจะไม่สบอารมณ์เหมือนอย่างเคย ตอนสอนก็โคตรดุไม่เหมือนตอนที่หม้อสาวเลยสักนิด ถ้าไม่ติดว่าสอนฟรี อั่งเปาคนนี้ไม่เกลือกตัวเข้าไปหรอก
ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่พี่เคนเขาจะเดินเข้ามาพูดเเทรกเเบบนี้ ที่ผมหมายถึงมันก็คือโตเเล้วเขาเเมนๆ กันเเล้วปะวะ ไม่มาทำตัวขี้อายเเหล่ว
หมดยุคทุ่งลาเวนเดอร์เเล้วครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทุ่ง GOLD FLOWER ครับผม
"ถ้าไม่อยากกินก็เอาไปทิ้งซะสิครับ"
"ว่าไงนะ"ผมเลิกคิ้วถามเขาด้วยความสงสัยปนความหมันไส้ มีสิทธิ์อะไรจู่ๆ เดินมาพูดจาสุนัขไม่รับประทานเเถมยังหยิบกล่องช็อกโกเเลตในมือผมไปทิ้งในถังขยะอีก เเล้วราคามันก็ดูไม่น่าจะถูกอีกด้วย อย่างน้อยคนที่ซื้อให้ผมเขาจะได้รู้ว่าผมรับมันมาเเล้ว เเต่เขานี่อะไรวะ ผมอุตส่าห์รับเอาไว้ เเล้วเขาเป็นใครมาทำเเบบนี้
"เป็นบ้าอะไรถึงเอาของคนอื่นเขาไปทิ้งเเบบนั้น! "
"เปาใจเย็น.."
"คนที่เขาฝากมาให้เรา เขาคงไม่อยากให้เเล้วล่ะ.."
"พูดบ้าอะไรของพี่ สมองเสื่อมเลอะ! อยากเป็นศัตรูกันใช่ปะวะ! หรือต่างคนต่างอยู่มันจะตาย! "
"เปาเราบอกให้ใจเย็นไง"ไอ้พลูมันรั้งเเขนผมเอาไว้ บอกตามตรงว่าผมเกลียดสายตาเหยียดๆ ของเขาที่มองมาตอนนี้ฉิบหาย ทำอย่างกับตัวเองเป็นคนให้ไอ้ช็อกโกเเลตนี่ผมมาอย่างงั้นน่ะ ถึงทำเป็นรู้ดีไปซะหมด
"เเต่นั่นมันของเราเขาทิ้งเเบบนั้นไม่ได้นะเว่ย"
"ช่างมันเถอะ อย่ามีเรื่องเลยนะ"
"จะบอกอะไรให้นะ คนที่ไม่รู้ค่าของสิ่งของที่คนอื่นตั้งใจให้ เขาก็ไม่ควรได้รับมันหรอก เด็กน้อย"
หน็อย! ยั่วโมโหเเต่เช้าเลยนะเชฟเคน!!!
"ไม่เย็นเเล้วโว้ย! "
ซ่า!!!
ไม่ทันเเล้วครับตอนนี้มือผมมันลั่นหยิบเเก้วน้ำเเดงบนโต๊ะที่น้ำเเข็งมันเริ่มละลายบ้างเเล้วสาดใส่หน้าเขาเต็มๆ เเละผมเองก็ไม่กลัวเขาด้วย ผมถึงได้ยืนกรานอยู่ตรงนี้ เเละต่อให้เป็นลูกบริหารที่นี่ผมก็ไม่กลัวถ้ามาทำนิสัยเเบบนี้ใส่
จะใหญ่มาจากไหนเขาก็ไม่มีสิทธิ์เอาของของผมไปทิ้งเเบบนี้ หน้าด้านที่สุด! ผมควรจะเกลียดคนเเบบเขาต่อไปสินะ ให้ตายก็ไม่มีทางญาติดีด้วยเด็ดขาด!
"พอดีว่าผมอยากจะทิ้งน้ำ เเละผมตาไม่ดีเห็นพี่เป็นถังขยะ ผมก็เลยทิ้งผิดที่ไปหน่อย ..ขอโทษจากใจจริง! "ผมว่าพลางขยับเเว่นตัวเองเล็กน้อย
ประโยคหลังผมพูดเน้นคำเเละสายตาที่เย้ยหยันเขากลับไป ผมหันไปมองกล่องช็อกโกเเลตที่นอนหงายท้องอย่างเดียวดายในถังขยะสลับกับมองหน้าเขาท่ามกลางเสียงฮือฮาของคนในโรงอาหารนี้ด้วย
"อั่งเปา! "
"ครับ! เรียกผมทำไมครับ! "
"ไอ้เด็กเเสบ จะลองดีกับพี่งั้นหรอ"
"ผมไม่ได้ลองดี เเต่พี่ต่างหากที่ล้ำเส้นมาในส่วนของผม ของนั่นมีคนฝากมาให้ผม พี่ไม่มีสิทธิ์เเตะต้องมันด้วยซ้ำถ้าผมไม่อนุญาต! "
"เหอะ ตลกชะมัด"
"ตลกบ้าอะไรล่ะ ที่นี่ไม่มีคณะสามช่าโว้ย! "ผมเริ่มจะโวยวายเหมือนคนเสียสติ ยิ่งเห็นท่าทีที่นิ่งเรียบเเต่เเฝงความร้ายกาจไว้เเบบนั้น ผมก็ยิ่งโมโหอยากจะเอามือตะกายหน้าให้เเหกไปข้าง เเต่เขากลับเเสยะยิ้มออกมา สายตาของคนทั้งโรงอาหารจับจ้องไปที่เขาเป็นตาเดียว
"พี่เปียกหมดเเล้ว เราก็เช็ดสิครับ.."
"เป็นบ้าอะไร.."
ผมลดโทนเสียงลงเล็กน้อย คนตรงหน้าเขาเปลี่ยนจากสายตาที่เกรี้ยวกราดเมื่อกี้กลายเป็นเซ็กซี่เเทน มือหนาไล้ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาที่เปียกไปด้วยน้ำเเดงจากผมเองที่เป็นคนทำ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆ ได้เป็นอย่างดี เเละผมเองก็ตะลึงในหุ่นของเขาไม่ต่างจากคนพวกนั้น เขาหุ่นดีเหมือนนายเเบบ กล้ามหน้าท้องลอนสวยงาม น่าจับต้อง
เชี่ย! คิดอะไรอยู่วะกู!
"กรี๊ด! พี่เคนโคตรหล่อเลยอะเเกรรรร ฉันรักเค้า ฉันจะเเต่งงานกับเขาาาา"
"เอิ่ม.."
ผมอ้าปากค้างสายตามองไปที่เหล่านักศึกษาหญิงมุงดูกันเป็นตาเดียวในมือกดชัดเตอร์ถ่ายเขารัวๆ ผมล่ะเชื่อว่ามโนของคนเรามันเลยเถิดได้ถึงป่านนี้ บร๊ะเจ้า!
"เปาอย่าให้พี่เขาถอดนานกว่านี้ได้ไหม เราหวง.."
ว่าเเล้วเชียวว่าประโยคสุดซึ้งจะต้องออกมาจากเพื่อนสุดที่รักของผม ให้ตาย! เมื่อกี้ผมยังโวยวายหวังว่าเขาจะหน้าเเตกบ้างเเต่ผมจะต้องเป็นคนเข้าไปเช็ดเสื้อให้เขาเเล้วหน้าเเตกเองหรือไง ไม่มีทางซะหรอก อยากโชว์ของนักก็โชว์ไปสิ เเก้กางเกงด้วยยิ่งดี เหอะ!
"โชว์ไปสิครับ รปภ.มาจับคนบ้าที! "
"อั่งเปา เราจะโกรธเเล้วนะ! "
"เวรฉิบ! "
ผมสบถออกมาเบาๆ หลังจากที่ไอ้พลูมันทั้งสะกิดเเล้วหยิกผมยิกๆ ผมเลยจำใจต้องหยิบเสื้อกันหนาวของผมเข้าไปปิดช่วงอกเขาเอาไว้ จนเสียงโห่ดับฝันพวกเธอมันดังขึ้น โวย! อยากดูก็ไปขอเขาเอาสิโว้ย! ยัยพวกบ้าพวกนี้
จังหวะที่ผมจะชักมือออกคนตัวสูงกลับกระชากเข้าหาตัวไม่ให้ผมไปไหน เขายังใช้สายตาสำรวจตัวเองอย่างพิจารณา อย่าคิดว่าเป็นคนมีบุญคุณเเล้วจะทำอะไรก็ได้นะ ในเวลาเรียนผมนับถือเขาเป็นอาจารย์ที่เคารพ เเต่นอกสถานที่เวลานอกเเบบนี้ล่ะก็..
เรา เป็น ศัตรู กัน!!!!!
"คิดจะทำบ้าอะไรหะ เเผนตื้นๆ ทำอะไรผมไม่ได้หรอก.."
"คิดดูสิ ถ้าพี่จูบเรา เปาเองก็อาจจะทะเลาะกับก้านพลูได้.. เผลอๆ เอฟซีพี่จะถล่มเราเอานะ"
"พี่รู้ว่าไอ้พลูมันชอบ เเต่ก็ยังเฉยเนี่ยนะ"
"พี่ไม่เคยให้ความหวังใครทั้งนั้น"
"เเล้วไอ้พลูล่ะ ยังมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่ปะวะ"
"พี่ก็คือพี่ ไว้เรารู้จักดีกว่านี้จะดีกว่า.. มันมีอีกหลายอย่างที่เด็กน้อยเเบบเรายังไม่รู้"
"ที่ผมรู้ก็คือความเหี้ยของผู้ชายเเบบพี่ โคตรทุเรศ! "
"อยากมองเเบบไหนก็ตามใจ.."
ผมไม่ได้สนใจประโยคอื่นมีเเค่ไม่กี่พยางค์เท่านั้นที่ผมใส่ใจ เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเเต่เเฝงไปด้วยควันดำในอากาศ เขาคิดอะไรอยู่กันเเน่ตอนนี้
ผมล่ะเดาไม่ออก จะมาไม้ไหนกันเเน่ เเต่สิ่งที่ผมได้กลับมาจากเขาคือการนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่ผมพูดออกมา
เขายกยิ้มมุมปากมันใกล้ผมจนลมหายใจเราปะทะกัน จนผมสัมผัสได้ถึงริมฝีปากของเขาที่มันเฉียดใกล้ริมฝีปากผม
"ถ้าพี่จูบผม ...พี่จะต้องเกลียดตัวเองไปตลอดชีวิต"
"ทำไมพี่จะต้องเกลียดตัวเอง"เขาว่า ริมฝีปากเฉียดผมไปมาจนรู้สึกขนลุกชูชันเเต่ด้วยความที่ผมตัวเล็กกว่าผมไม่อาจสู้เเรงเขาได้เลย
"เพราะผมเกลียดพี่.. การที่ได้จูบกับคนที่เกลียดตัวเอง น่าสรรเสริญอย่างงั้นหรอ? "