พนัสสรเดินหิ้วถุงน้ำเต้าหู้อย่างเอ้อระเหย เวลาเช้าที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเพราะ มันยังคงเช้าไปสำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดิน หากจะต้องตื่นมาในวันหยุด
เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ก็พบกับผู้ชายแปลกหน้ากำลังเปิดประตูขึ้นรถ
มองลอดรั้วเข้าไปก็เจอกับเจ๊หลิน ที่สภาพเพิ่งตื่นนอน ยืนส่งชายคนนั้น และมองตามเขาขับรถออกไปจนลับตา
"ไปไหนมา" กอดอกถามคนที่จะเพิ่งถึงบ้าน
พนัสสรยังไม่ทันจะเดินเข้าบ้านด้วยซ้ำ เพราะหล่อนยังยืนขวางอยู่หน้าประตู จึงโชว์ถุงน้ำเต้าหู้ให้ดู ไม่ได้ตอบออกไปเป็นคำพูด
เจ๊หลินคนกวนประสาทคว้าหมับมาถือไว้เอง
"เห้ย! " คนถูกแย่งร้องออกมาพร้อมใบหน้าไม่พอใจ
"ไปซื้อใหม่สิ" เอ่ยออกมาอย่างไม่ยี่หร่ะ
พนัสสรจึงเลือกเดินผ่านหน้าหล่อนเข้าบ้านไป ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เปิดตู้เย็นหยิบนมช็อคโกแลตมาเปิดและกระดกดื่มด้วยความโมโห
ใครจะบ้าเดินกลับไปซื้ออีกรอบ เพราะออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะในยามเช้า จึงซื้อน้ำเต้าหู้จากหน้าตลาดติดมือมาด้วย
"แกมันไม่มีน้ำใจ แทนที่จะซื้อมาฝาก"
"ใครจะไปคิดว่าคุณนายตื่นสาย จะตื่นเช้า"
"ไอ้นี่หนิ! " ทำท่าจะเขวี้ยงถุงน้ำเต้าหู้มาทางเธอ
"น้ำเต้าหูถุงนั้น ฉันคิดสองหมื่น" พูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งอย่างไม่สะทกสะท้าน เจ๊หลินจึงต้องหยุดมือตัวเอง
"ค่างานเมื่อคืนด้วยอีกหนึ่งหมื่น" พูดจบเท่านั้น ก็ควักสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมา กดโอนเงินจากบัญชีเจ๊หลินมาที่หัวเองสามหมื่น พร้อมส่งให้เจ้าของบัญชีดู หลังจากทำรายการเสร็จเรียบร้อย
"แกนี่มัน เคี่ยว! " พูดจบก็เดินปึงปังขึ้นห้องไป ทิ้งถุงน้ำเต้าหู้ไว้บนโต๊ะ พนัสสรจึงช่วยเทใส่แก้วให้ และวางไว้แทนที่
ก็อุส่าปล้นเงินมาแล้ว ก็บริการเสียหน่อย
ห้าปีที่แล้ว
พนัสสร เดินออกจากห้องนอนตัวเองในยามดึก ตั้งใจจะลงไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม แต่สายตาดันเอาแต่ชำเลืองมองประตูห้องเจ๊หลินที่ปิดสนิท
วันนี้เงียบสงบ ทั้งที่เป็นวันพระ ไม่ได้ยินเสียงที่ชอบแอบฟัง เดินกลับขึ้นมาบนห้องตัวเองอีกครั้งหลังจากเสร็จธุระ
แต่คราวนี้ที่ไม่เหมือนในทีแรก คือ ห้องเจ๊หลินถูกเปิดออกจนเต็มบาน ดังนั้น เธอจึงไม่ลังเลที่จะสอดส่องสายตาเข้าไป
และภาพที่เห็นนั่นยิ่งทำให้คนมองไม่อาจละสายตาได้
ภาพติดเรท โดยมีนักแสดงนำเพียงคนเดียว เธอเห็นเจ๊หลินนอนเปลือยเหยียดกายบนเตียง หัวพิงพนัก พร้อมอ้าขาออก มือหนึ่งบีบขยำเต้านมของตัวเอง อีกมือหนึ่งกำลังลูบคลำของสงวน ใบหน้าดูบิดเบี้ยว เท้าหล่อนยกขึ้นพร้อมกันเพียงนิด นั่นคงมาจากความเกร็ง หล่อนกำลังช่วยตัวเอง
"เข้ามาสิ" เสียงเรียกจากคนด้านใน ทำให้คนแอบดูอยู่แบบโจ่งแจ้งเริ่มรู้สึกตัว กระพริบตาปริบๆ เดินเข้าห้องเจ๊หลินอย่างต้องมนต์ โดยไม่ลืมช่วยปิดประตู
ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ปลายเตียง หลบสายตาคนที่กำลังอ้าซ่าอย่างไม่อาย
"เปิดลิ้นชักหยิบของให้ที" หลับหูหลับตาเดินไปที่ลิ้นชัก เปิดออก เมื่อเห็นชองที่มั่นใจว่าหล่อนต้องการให้ช่วยหยิบ จึงหันกลับไปมองหล่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"นั่นแหละ หยิบมา" อุปกรณ์ช่วยตัวเองมากมายในลิ้นชัก
เริ่มเหงื่อตกกับความสุดของเจ๊หลิน แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำให้คิดหนักคือการเลือของในลิ้นชัก
พนัสสรเลือกหยิบอุปกรณ์ที่น่าจะทำให้เจ๊หลินพอใจ รวมถึงตัวเองก็ด้วยที่อยากจะเห็นหล่อนใช้มัน
ดิลโด้สีแดงใสขนาดใหญ่และยาว พร้อมด้วยระบบออโต้ เพราะเห็นด้ามจับมีฟังค์ชันให้เลือกใช้หลายรูปแบบ เธอสรุปเอาเองจากรูปว่ามันน่าจะให้ความสุขเจ๊หลินได้อย่างเต็มที่
"เจลด้วย" เพียงหันไปหาหล่อนโดยในมือมีดิลโด้อยู่ เจ๊หล่อนก็เริ่มเรียกร้องอย่างอื่น
พนัสสรคว้ามันออกจากลิ้นชักอย่างไว ไม่อยากจะลีลา และส่งให้หล่อน โดยที่ตัวเองก็ไม่คิดขยับกาย เอาแต่ยืนดูการกระทำของเจ๊หลิน
คนบนเตียงบีบเจลหล่อลื่นลงบนปลายดิลโด้พร้อมลูบคลำจนทั่วความยาว สีแดงใสมันเลื่อมขึ้นทันตา
เมื่อเรียบร้อยก็ถอยลงไปพิงหัวเตียงอีกรอบ เธอจดจ่อปลายดิลโด้ จงใจใช้มันเสียดสีโหนกนูนของตนเอง และส่งสายตาเหลือบมองคนที่ยืนอยู่
เห็นท่าทางและสายตาของเด็กสาวที่กำลังจ้องมองเธอหยอกล้อเล่นกับของสงวนตัวเองไม่วางตา ก็ยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
"มองอะไร" ถามพนัสสรด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
คนที่ยืนอยู่เบือนหน้าหนีทันที
"ช่วยหน่อยสิ"
พนัสสรรีบเดินออกจากห้องอย่างไม่ลังเล กลายเป็นว่าความต้องการจะยั่วเด็กสาวกลับไม่เป็นผล โยนอุปกรณ์ในมือทิ้งลงพื้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อสวมใส่เสื้อผ้าดังเดิม และเดินออกจากห้อง ปิดประตูเสียงดังสนั่น จนพนัสสรที่อยู่ห้องข้างๆ สะดุ้ง
เด็กสาวนั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ไร้แสงไฟ เพราะจงใจอยากจะอยู่ในความมืด เหงื่อตก ใจเต้นแรง กำมือแน่น
นั่งอยู่แบบนั้นเกือบชั่วโมง โดยไม่ได้ยินเสียงเจ้าของบ้านกลับเข้าห้องตัวเอง แถมไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าหล่อนอาจจะออกจากบ้าน
ลุกขึ้น เดินออกจากห้องตัวเองบ้าง หยุดยืนอยู่หน้าห้องเจ๊หลินครู่ใหญ่ ความคิดในตอนแรกตั้งใจจะเคาะประตูเข้าหาหล่อน แต่เมื่อคิดอีกแง่ แล้วจะเข้าไปทำอะไร จึงจำต้องถอยหลัง
พลันหางตาเห็นถึงแสงสว่างด้านล่าง จึงก้าวลงบันได
เจ๊หลินกำลังนั่งดื่มเหล้าราคาแพงอยู่บริเวณเคาเตอร์บาร์ ท่ามกลางแสงไฟสลัว
"มาทำไม" เอ่ยถามเด็กสาวด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง โดยไม่หันมามอง
"กินด้วย" บอกแบบนั้น แล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เทเหล้าใส่แก้วเจ๊หลินอย่างไม่ลืมหูลืมตา
"เห้ย! เหล้าแพง" เพราะปริมาณที่พนัสสรรินช่างท่วมท้น
"รวยไม่ใช่เหรอ! ซื้อผู้ชายได้ แค่เหล้าจะซื้อใหม่ไม่ได้หรือไง" สาดน้ำเสียงหาเรื่องใส่ พร้อมจงใจปล่อยขวดเหล้าลงพื้น จนแตกกระจาย
'เพี้ยะ' ใบหน้าพนัสสรหันตามแรงตบพร้อมตวาดใส่สุดเสียง
"กวนตีน เป็นบ้าเหรอ! "
"เจ๊นั่นแหละ! เป็นบ้าเหรอ ถึงต้องทำแบบนั้นให้เห็น"
"หึ! แอบดู แต่พอเจอของจริงกลับไม่กล้า"
เป็นคำตอบที่ทำให้พนัสสรก็ตอบตัวเองไม่ได้ เพราะที่หล่อนพูดนั้นคือเรื่องจริง
จึงทำได้แค่คว้าแก้วเหล้า กระดกดื่มจนหมดแก้วอย่างรวดเร็ว และปล่อยลงพื้นตามขวดเหล้าไป
ตามด้วยการดึงหน้าเจ๊หลินมาบดจูบด้วยความโมโห เพราะใบหน้าและน้ำเสียงเย้ยหยันทำให้ขาดสติและเจ็บใจ
แต่เ**กลับไม่ยินยอม ดันไหล่คนตรงหน้าอย่างสุดแรง ซึ่งพนัสสรก็ไม่ยอมเช่นกัน ไม่ยอมปล่อยมือจากการกอบกุมหน้าหล่อนง่ายๆ
เจ๊หลินจึงปล่อยมือจากไหล่เธอ มือควานไปทั่วเคาท์เตอร์ สัมผัสแก้วเหล้าหลายใบที่วางอยู่ ไม่ลังเลที่จะหยิบ และทุบไปที่ศีรษะพนัสสร จนแก้วแตกกระจาย เลือดไหลทันที
มันเป็นวิธีที่ดี เพราะทำให้เด็กสาวยอมผละออกจากตัวเธอ
พนัสสรใช้มือตัวเองสัมผัสของเหลวที่ไหลอาบแก้ม มองเศษแก้วที่เกลื่อนกระจายอยู่บนพื้น นั่นคงเป็นสาเหตุให้เธอบาดเจ็บ เงยหน้ามองเจ๊หลินด้วยสายตาว่างเปล่า
"เจ็บมั้ย! มึงจะได้มีสติ" ไม่รู้สึกผิดสักนิด แถมยังจงใจด่าด้วย
"อะไร อะไร มึงจะทำอะไร! " เพราะเห็นคนตรงหน้าคว้าแก้วมาไว้ในมือบ้าง จึงเกิดความกลัว แถมใบหน้าจริงจัง ไม่พูดไม่จา กำลังเดินเข้าใกล้เธอเรื่อยๆ
'เพล้ง' แก้วในมือร่วงลงพื้น ด้วยฝีมือการโยนของตนเอง
"มึงออกไปจากบ้านกูเลยนะ! " เริ่มเหลืออด จนต้องเอ่ยปากไล่
พนัสสรจึงกระชากตัวเจ๊หลินลงจากเก้าอี้ พร้อมลากหล่อนขึ้นบ้านอย่างถูลากถูกัง
"ปล่อยกู! อีจี๋" เริ่มออกปากด่าไม่หยุด ไม่ลืมหูลืมตา และต่อเนื่อง
"โอ้ย! " ร่างเจ๊หลินกระแทกพื้นห้องอย่างเต็มแรง
'เพี้ยะ! " แถมยังถูกตบจนหน้าหันด้วยฝ่ามือคนอายุน้อยกว่า
'อึ้ง' เจ๊หลินพูดไม่ออก ได้แต่อึ้ง ไม่คิดว่าจะถูกลูกจ้างตบ ท่าทางพนัสสรยังดูไม่สะทกสะท้าน จนเริ่มกลัว
"ปากมากดีนัก! " แถมยังย้ำอีก
หลังจากที่พนัสสรกล้าจะใช้ประโยคต่อว่าเจ๊หลิน ก็กลายเป็นอื่นด้วยความสมัครใจของทั้งคู่
"อื้อ... แรงๆ " เสียงเจ๊หลินเร่งเร้า
นิ้วกลางกำลังกระแทกเข้าไปในช่องรักของคนที่นั่งชันเข่าอย่างได้ใจ ยิ่งหล่อนเร่งเร้าพนัสสรก็ยิ่งรุกหนัก
"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ! " หล่อนร้องออกมาอย่างไม่อาย
คนอายุน้อยกว่ากำลังควงนิ้วอยู่ข้างใน จนน้ำรักพุ่งออกมา
อุปกรณ์ช่วยทางเพศ ถูกหยิบมาใช้อีกครั้ง และจัดการยัดเข้าไปในช่องรักของเจ๊หลินอย่างไม่รีรอ
"ซี้ด" ร้องออกมาอย่างชอบใจ พร้อมคว้ามือคนที่ถือดิลโด้ และดึงเข้าดึงออก ราวกับช่วยสอนจังหวะให้คนอายุน้อยกว่า
เมื่อพนัสสรเริ่มจะเรียนรู้งาน เธอจึงปล่อยมือ และให้คนอายุน้อยกว่าได้ทำเอง
ซึ่งเด็กวัยนี้ก็เรียนรู้ไว้ จนคนมากประสบการณ์พอใจ
คืนนั้น คือคืนแรก ที่เริ่มมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วยกัน
สำหรับเจ๊หลิน มันคือเรื่องปกติ
แต่สำหรับพนัสสร มันคือการปลดปล่อยอารมณ์ตัวเอง เจ๊เปิดโลก ตั้งแต่แค่เห็นด้วยการแอบดู และดูแบบตรงๆ จนได้ทำเอง ตามจินตนาการ มันคือสมบูรณ์ดั่งใจเด็กสาวแล้ว
ปัจจุบัน
"คืนนี้ไม่รับงานนะ"
"จะไปไหน"
"ธุระ"
"เดี๋ยวนี้ มีธุระกับเค้าด้วย"
"เดี๋ยวนี้ เจ๊ก็พาผู้ชายมานอนวันธรรมดาด้วย"
"ไอ้นี่! "
"แถมอยู่ถึงเช้าอีก"
"มันเรื่องของฉัน"
"ถ้าแกอยากจะเลิกทำงานนี้ก็บอกฉันได้ตลอด ฉันไม่ได้บังคับ" อยู่ๆ ก็พูดเรื่องงาน
"ไม่! ยังอยากทำอยู่" รีบปฏิเสธทันควัน
"เงินฉันก็ให้แกตั้งเยอะ ทำไมยังไม่เลิกอีก"
"เจ๊ไม่ได้เสียอะไรแล้วจะเดือดร้อนทำไม ฉันได้เงิน เจ๊ก็ได้ด้วย"
"ฉันไม่ได้อยากจะหากินกับแกด้วยเรื่องนี้"
"แต่เจ๊ เป็นคนทำให้ฉันต้องทำงานนี้"
พูดแค่นี้ก็เดินออกจากบ้านไป ทิ้งให้เจ๊หลินได้แต่มองตาม
ก่อนจะสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ พนัสสรหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเช็คข้อความ และพิมพ์ตอบกลับไป
'อาย หรือ กมลเนตร' ลูกค้าคนแรกที่หายไปห้าปี เธอกลับมาที่ร้านทำผมอีกครั้ง ด้วยการใช้บริการแบบเคยๆ
และวันนี้ธุระของพนัสสร คือการออกไปเจอหล่อนนอกสถานที่ และในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ยังยิ้มแฉ่ง